Share

เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง
เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง
Auteur: หมอนบนโซฟา

1. ตอนจบที่ค้างคาใจ (1)

last update Dernière mise à jour: 2025-12-03 22:06:13

เสียงโห่ร้องตะโกนก่นด่านักโทษก่อกบฏดังขึ้นแซ่ซ้อง ชาวบ้านหลายพันชีวิตในเมืองหลวงแคว้นต้าเฉวียนแห่แหนกันมาดูการลงทัณฑ์กบฏที่คิดคดต่อบ้านเมือง คบคิดกับคนแคว้นเจี้ยนหนานหวังล้มล้างราชบัลลังก์

“ลงโทษให้หนัก จะได้ไม่มีผู้ใดกล้าอีก”

“จริงดังว่า สมควรประหารเก้าชั่วโคตรทุกคนเสียด้วยซ้ำ ฝ่าบาทช่างมีเมตตายิ่งนัก”

คำกล่าวโทษเหล่านั้นมิได้ดังเข้าหูของหลิวฟ่านซีเลยสักนิด

สตรีที่เคยงดงามดั่งดอกฟ้าบัดนี้ไร้ซึ่งสง่า ใบหน้าซูบตอบเต็มไปด้วยฝุ่นผงและโลหิตเปรอะเปื้อน ร่างกายผ่ายผอมถูกมัดไว้กับเสาไม้ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานประหาร จะว่าโดดเดี่ยวก็เอ่ยได้ไม่เต็มปาก ในลานประหารแห่งนี้มีกบฏอีกนับยี่สิบคนที่กำลังรอรับคำตัดสินจากเจ้าแผ่นดิน องค์ฮ่องเต้จางกงหลัวเค่อ

ดวงตาเศร้าหมองเหม่อมองไปทั่ว กระทั่งสะดุดเข้ากับครอบครัวสกุลหลิว ทั้งท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ชายทั้งสองต่างมารอส่งนางในวาระสุดท้ายของชีวิต

“ท่านแม่ เหตุใดซูบผอมนักเล่าเจ้าคะ ฮึก” เสียงแหบพึมพำกับตนเอง ภาพตรงหน้าตอกย้ำให้หลิวฟ่านซีกลายเป็นลูกอกตัญญูที่ทำให้บิดามารดาผิดหวัง ทำให้สกุลหลิวต้องเสื่อมเสียเพียงเพราะความโง่เขลาของนาง

“หลิวฟ่านซี มีความผิดโทษฐานลอบส่งข้อมูลราชการให้กบฏ แต่สอบสวนจนทราบว่าไร้ซึ่งเจตนา มิได้คิดคดต่อบ้านเมือง ฝ่าบาทจึงเมตตาพระราชทานสุราพิษ” เสียงประกาศคำตัดสินโทษดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

ครอบครัวสกุลหลิวแม้จะเตรียมใจมาบ้างแล้ว ก็ยังมิอาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ไข่มุกล้ำค่าที่เฝ้าทะนุถนอมบัดนี้ต้องถูกพรากไปไกลแสนไกล ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกผิดและเจ็บช้ำที่บิดามารดามิอาจสอนสั่งบุตรให้ดี พี่ชายมิอาจดูแลปกป้องน้องสาวเอาไว้ได้

“ลงทัณฑ์ตามคำตัดสิน!!!”

สิ้นเสียงนั้น ถาดกลมใบหนึ่งก็ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าของคุณหนูสกุลหลิว บนนั้นมีเพียงจอกสุราจอกเดียว ทว่าสายตาเศร้าหมองมิได้มองของเหล่านั้นเลยสักนิด หลิวฟ่านซีเงยหน้ามองเอกบุรุษในชุดขุนนางที่นำของเหล่านั้นมาวาง

ชายผู้นั้นมิใช่ใครอื่น แต่เป็นโจวเทียนฉี บุรุษที่ฟ่านซีรักจนหมดหัวใจ

“ดื่มให้หมดเถิด มิต้องห่วงบิดามารดาของเจ้า สกุลหลิวและสกุลโจวผูกสัมพันธ์กันมานาน อย่างไรเสียก็ไม่ทิ้งขว้างกัน เจ้าจงรับผิดในสิ่งที่ก่อเถิด”

“ฉีเกอ ท่านเคยคิดจะรักข้าหรือไม่...สักเสี้ยวหนึ่งในใจท่าน” เสียงแหบแห้งเอ่ยถาม ด้วยสายตาอ้อนวอน ขอให้อีกฝ่ายพูดในสิ่งที่นางอยากฟังสักครั้ง 

“...ข้าเคยคิดว่าสักวันต้องรักเจ้าให้ได้ เคยคิดว่าอย่างไรเราสองก็ต้องตบแต่งตามสัญญาระหว่างตระกูล แต่เรื่องของใจ มิอาจบังคับกันได้จริงๆ”

เถียนลี่มี่ เป็นเพราะนางใช่หรือไม่” สายตาเว้าวอนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโกรธแค้นเมื่อเหลือบไปเห็นศัตรูหัวใจที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน

นางผิดที่เลือกทางไม่ถูก โง่เขลาที่อยากกีดกันสตรีผู้นั้นออกไป จนปล่อยให้ตนเองเข้าไปพัวพันเป็นหมากให้พวกกบฏ

ความผิดของนางมีเพียงเท่านี้...ผิดที่โง่เขลา

“มิเกี่ยวข้องกับมี่เอ๋อร์ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังไม่สำนึกอีกหรือไร”

“สำนึกสิ่งใดหรือ ฮึก ที่ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มิใช่เพราะข้าต้องการให้นางออกจากชีวิตท่านหรือ ข้าผิดหรือไรที่เกลียดสตรีที่แย่งคู่หมั้นของข้า เราสองหมั้นหมายกันแล้ว ท่านเคยเอ่ยต่อข้าว่าจะดีกับข้า จะดูแลข้าชั่วชีวิต แต่พอเถียนลี่มี่เข้ามา ท่านก็เปลี่ยนไป” น้ำสีใสไหลพรากจากหน่วยตา ความอัดอั้นตันใจพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย

เหตุใดมิมีผู้ใดเข้าใจนางบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นใครกันแน่ที่เจ็บปวดที่สุด

“...”

“สตรีนางนั้นทำให้ข้าต้องถูกชาวบ้านหัวเราะเยาะ กลายเป็นสตรีหน้าไม่อายตามหึงหวงท่าน ถูกท่านตำหนิ ต่อว่า ทั้งยังเอ่ยขอถอนหมั้นครั้งแล้วครั้งเล่า...เช่นนี้ฉีเกอยังจะเอ่ยว่านางไม่เกี่ยวข้องได้อีกหรือ”

โจวเทียนฉีไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา เพียงส่ายหน้าราวกับเอือมระอาหนักหนา ขุนนางหนุ่มลุกออกจากลานประหารไป หลิวฟ่านซีจึงได้แต่มองตามด้วยสายตาที่เจ็บปวด ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นฝังลึก เมื่อหันไปสบเข้ากับสายตาเสแสร้งแกล้งทำเหมือนโศกเศร้าของเถียนลี่มี่

“เถียนลี่มี่ ข้าขอให้เจ้าจงพบเจอสิ่งเดียวกับข้า ทุกข์อย่างที่ข้าทุกข์ เจ็บอย่างที่เจ้าทำข้าเจ็บ ถึงตอนนั้นข้าจะอโหสิกรรมให้” ว่าเพียงเท่านั้น มือบางที่เพิ่งถูกปลดพันธนาการก็คว้าเอาสุราพิษกระดกเข้าปากจนหมดจอก เพียงไม่นานนักทุกอย่างก็มืดดับลง

ชื่อของหลิวฟ่านซีกลายเป็นผุยผง มิมีผู้ใดจดจำได้อีก

กบฏจางกงเต๋อหัวถูกกวาดล้างจนสิ้น เหล่าขุนนางที่มีผลงานต่างได้รับปูนบำเหน็จตามความดีความชอบที่กระทำ รวมไปถึงโจวเทียนฉีที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นขุนนางขั้นสอง ดำรงตำแหน่งสูงสุดในสำนักผู้ตรวจการ ทั้งยังได้รับพระราชทานสมรสกับสตรีในดวงใจอย่างเถียนลี่มี่ ไม่นานนักคู่บุญคู่วาสนาก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายตัวน้อย

สามีดี ภรรยาดี บุตรดี ชีวิตนี้คงมิหวังสิ่งใดอีก

จบบริบูรณ์

ปัง!!! ฝ่ามือบางกระทบลงบนโต๊ะด้วยความอึดอัดใจ

“อะไรของแกวะ จบแบบนี้ฉันไม่โอเค!”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   17. ตัวแทน (4)

    คนถูกตกเป็นเป้าสายตามิได้สนใจเลยสักนิด ยามนี้ฟ่านซีเห็นเพียงเป้าที่อยู่เบื้องหน้า ปากเล็กเป่าลมออกจนสุดก่อนจะสุดลมหายใจเข้าเต็มปลอดและ...ปล่อยศรออกไปฟิ้ว~ปัก!“...” เสียงรอบข้างเงียบสนิท ก่อนที่จะได้ยินเสียงเฮดังลั่น เมื่อศรธนูปักลงบนกลางเป้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ผู้แข่งขันที่อยู่เบื้องหน้าของฟ่านซี บัดนี้แตกกระจายกันไปทั่วทุกทิศทางเพื่อล่าสัตว์ใหญ่มาใช้ในการสักการะเทพเจ้าคนทั้งลานพิธีต่างปรบมือให้กับความสามารถของคุณหนูสกุลหลิว น้อยคนนักที่จะสามารถยิงลงกลางเป้าได้ ยิ่งเป็นสตรียิ่งไม่มีผู้ใดเคยทำได้ ขนาดจวิ้นอ๋องของแคว้นยังยอมปรบมือให้ สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ดุร้าย ฉายชัดว่าสนใจในตัวหลิวฟ่านซีมากขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าการกระทำนั้นตกอยู่ในสายตาของจางกงเหลียนป๋อ เป้ยเล่อของแคว้น ที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างมารดา สายตาของจางกงเหลียนป๋อเต็มไปด้วยความเวทนาต่อหลิวฟ่านซี ดูท่าชีวิตของคุณหนูหลิวคงหนีไม่พ้นตกไปเป็นอนุในจวนอ๋องเสียแล้ว“เฮ้อ~ นึกว่าจะถูกโบยซะแล้ว” ร่างเล็กทรุดลงบนแท่นยิงด้วยอาการแข้งขาอ่อนแรง พี่ชายทั้งสองจึงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของน้องสาว แต่บุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะวิ่งออกมาด้ว

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   16. ตัวแทน (3)

    หลิวฟ่านซีเดินวนไปเวียนมาอยู่หลังลานพิธี เพื่อรอเวลา ยอมรับว่านางค่อนข้างตื่นเต้นและกังวล จริงอยู่ว่านางเคยยืนอยู่บนการแข่งขันระดับโลก ตอนนั้นถ้าพลาดก็แค่เสียใจ แต่ครั้งนี้ถ้าพลาดอาจถึงขั้นเสียชีวิต ฮื้อ~ “มองเป้าให้ดี อย่าให้ว่อกแว่ก อย่าให้พลาดเด็ดขาด เจ้าเคยซ้อมอยู่ที่เรือนทุกเช้า”“จริงอย่างพี่ใหญ่ว่า ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่เจ้าก็ทำได้ดียิ่งนัก” ทั้งไห่คุนและจ้งเหลียนต่างก็มาให้กำลังใจน้องสาวอยู่หลังลานพิธี“มันจะเหมือนกันได้อย่างไรเล่า ถะ ถ้าข้ายิงพลาด ฝ่าบาทจะไม่สั่งตัดหัวข้าหรือ”“ไม่หรอก องครักษ์ที่เคยยิงพลาดก็เพียงแค่ถูกโบยและโดนปลด”“พี่รอง! ข้าใจเสียยิ่งกว่าเดิม” ฟ่านซีโอดครวญ นึกอยากตบปากตนเองนักที่พูดออกไปว่าช่วงนี้กำลังฝึกยิงธนู“เอาล่ะๆ ไม่ต้องกังวลไป ฝ่าบาทมิใช่คนใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนั้น ตอนนี้ประกาศผู้ชนะการบรรเลงดนตรีแล้ว เจ้าต้องออกไปแล้ว” เสียงประกาศว่าผู้ชนะในการแข่งบรรเลงดนตรีวันนี้เป็นเถียนลี่มี่ แต่ฟ่านซีไม่ได้สนใจเลยสักนิด ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นเต้นรัวเพราะกลัวว่าจะทำพลาดไม่ต่างกับเหล่าขุนนางและผู้คนในลานพิธี บัดนี้ไม่มีผู้ใดสนใจผู้ชนะในการแข่งขันบรรเลงดนตรีแม้แ

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   15. ตัวแทน (2)

    “ผู้ชนะมาแล้วสินะ” หลิวฟ่านซีพึมพำอย่างหน่ายๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรบทนางเอกก็ต้องเด่น ยังไงการแข่งขันครั้งนี้เถียนลี่มี่ก็ต้องเป็นผู้ชนะ ขณะที่ฟังการเป่าตี้จื่อ (ขลุ่ยผิว) ของแม่นางเอก ก็อดที่จะหันไปมองโจวเทียนฉีไม่ได้ ทว่าสิ่งที่น่าแปลกคืออีกฝ่ายมองนางอยู่ก่อนแล้วช่วงที่ผ่านมา แม้ฟ่านซีจะเอ่ยว่าไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับตัวละครหลักของเรื่อง แต่กลับมีหลายครั้งที่พบกันโดยบังเอิญ และโจวเทียนฉีก็ยังพูดกระทบนางเรื่องเดิมว่านางกำลังจะทำให้สกุลหลิวเดือดร้อน ครั้งหนึ่งเขายังเคยเดินตามมาส่งนางกับจูหลิงกลับเรือน นับวันชักทำตัวแปลกขึ้นทุกที“มองทำไม เดี๋ยวก็จิ้มตาบอด” หลิวฟ่านซีอดเบะปากรำคาญมิได้ สุดท้ายนางต้องเป็นฝ่ายละสายตาออกมา เพราะอีกคนจ้องหน้านางไม่เลิก อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยไป ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง“การแข่งขันสิ้นสุดลง-” ขุนนางหนุ่มกำลังจะประกาศสิ้นสุดการแข่งขันชะงักนิ่ง เมื่อไท่กงกง ขันทีคนสนิทของฝ่าบาทเดินมากระซิบข้างหู“เอ่อ ฝ่าบาททรงตรัสถามถึงคุณหนูสกุลหลิว ปีก่อนคุณหนูหลิวเป็นผู้ชนะการบรรเลงผีผา ปีนี้จะเข้าร่วมการแข่งหรือไม่”“ห๊ะ!” หลิวฟ่านซีที่กำลังอ้าปากกินขนมถึงกับค้างเมื

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   14. ตัวแทน (1)

    เสียงบรรเลงดนตรีดังขับกล่อมผู้คนในลานพิธี ท่ามกลางต้นไม้สูงลิ่วบนเนินเขาเหยี่ยนเฟิง ในช่วงสารทฤดูเช่นนี้ ราชสำนักแคว้นต้าเฉวียนมีพิธีการสำคัญคือการสักการะเทพเจ้าตามความเชื่อของเหล่าบรรพบุรุษผู้ล่วงลับเชื่อกันว่าทั้งผืนดิน ผืนป่า ผืนน้ำ และผืนฟ้า ล้วนมีองค์เทพคอยปกปักดูแล ในทุกปีจึงมีการจัดพิธีสักการะ เซ่นไหว้ ขอให้แคว้นต้าเฉวียนสุขสงบร่มเย็น ไร้ซึ่งภัยพิบัติต่างๆ ประชาชนอยู่ดีมีสุข“พี่ใหญ่ พี่เค่อไม่มาด้วยหรือ”“อะฮึ่ม! มะ ไม่มา” ไห่คุนกระแอมกลบเกลื่อน สายตาเฉียบคมวันนั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเจ้าตัวมิอยากเปิดเผยตัวตน แม้จะสงสัยว่าเหตุใดซีซีจดจำอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็จำต้องเก็บความสงสัยนั่นไว้ มิเช่นนั้นอาจทำให้ความแตกได้“แย่จริง ช่วงนี้ข้าไปที่ค่ายก็ไม่ค่อยเจอเขา หรือเขาไปทำงานที่อื่นแล้ว”“ท่านน้าเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กของซิงอีดังแทรกบทสนทนาของผู้ใหญ่ ทำเอาคนทั้งกระโจมตกใจกับคำพูดคำจาของเด็กอายุเพียงสี่หนาว ดีที่เป็นกระโจมของสกุลหลิวเอง จึงมีเพียงครอบครัวของพี่ใหญ่ พี่รอง และหลิวฟ่านซีเท่านั้น“ซิงเอ๋อร์ พูดเช่นนั้นกับท่านน้ามิได้นะ”“เปลี่ยนเป้าหมาย คำนี้เป็นบิดาเจ้าท

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   13. เรื่องน่าสงสัย (2)

    “แปลกใจอันใดเจ้าคะ” เสียงหวานว่าพลางยื่นมือไปรับจอกสุราที่อีกฝ่ายยื่นมาให้“เจ้าปฏิบัติตัวไม่เหมือนคุณหนูในห้องหอ พยายามหนีห่างจากโจวเทียนฉี และที่สำคัญที่สุด เจ้าทำเหมือนว่าไม่รู้จักข้า เหมือนเราไม่เคยพบกันมาก่อน”“...อึก ทะ ท่านสงสัยมากมายนัก” ฟังคำพูดของบุรุษตรงหน้าแล้วได้แต่ยกสุราขึ้นดื่ม เฉตาไปมองทางอื่น แม้ดวงหน้างามจะเรียบเฉยแต่ในหัวคิดให้วุ่นว่าควรตอบกลับไปเช่นไรดี แกล้งบ้าไปเลยดีหรือไม่“ว่าอย่างไร หืม”“ก็...ข้าฝันเจ้าค่ะ”“ฝันหรือ”“ใช่เจ้าค่ะ! ข้าฝันถึงท่านปู่ ในฝันท่านปู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มาบอกกับข้าว่าทะเลาะกับท่านปู่ของโจวเทียนฉี เรื่องที่ท่านปู่โจวดันไปเกี้ยวเทพเซียนคนงามที่ท่านปู่ของข้าหมายตาไว้ เลยเข้าฝัน มาบอกให้ข้าเลิกยุ่งกับโจวเทียนฉี สัญญาหมั้นอะไรพวกนั้นยกเลิกให้หมด”“...” บุรุษตรงหน้าถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่านางจะยกเรื่องพวกนี้มาเป็นเหตุผลได้“จริงๆ นะพี่เค่อ หลังจากข้าตื่นมาก็บอกท่านพ่อให้เลิกพูดเรื่องที่จะให้ข้าหมั้นหมายกับโจวเทียนฉี พอไม่ต้องหมั้น ข้าเลยใช้ชีวิตอย่างที่ข้าต้องการไง”“หึ พูดจาฉลาดนักนะ แล้วเรื่องที่เจ้าไม่รู้จักข้าเล่า จะว่าอย่างไร”“เอ่อ เร

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   12. เรื่องน่าสงสัย (1)

    เหตุการณ์เผชิญหน้ากันของสองบุรุษ แม้โจวเทียนฉีจะเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ เมื่อเทียบกับจวิ้นอ๋อง แต่อีกฝ่ายก็ยกสายตาของชาวบ้านมาอ้าง เอาแต่พูดว่าหากจวิ้นอ๋องพาหลิวฟ่านซีไปด้วยอาจมีคำครหาว่าไม่ให้เกียรติชายาที่มาด้วยกันซึ่งจางกงเต๋อหัวถือเรื่องนี้เป็นที่สุด แคว้นต้าเฉวียนปกครองโดยราชวงศ์จางกง บัดนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดเรื่องการสืบทายาท แม้ว่าองค์ฮ่องเต้จางกงหลัวเค่อจะยังมีพระชนม์มายุเพียงยี่สิบแปดหนาว กระนั้นเหล่าขุนนางและราชวงศ์ก็ยังกังวล เนื่องด้วยองค์กษัตริย์ยังมิมีพระโอรสธิดาแม้เพียงองค์เดียวนั่นหมายความว่าพระเชษฐาอีกสองพระองค์ยังคงมีสิทธิ ในการครองราชสมบัติต่อจากองค์ฮ่องเต้อยู่ คนแรกคงหนีไม่พ้นจางกงเต๋อหัว จวิ้นอ๋องที่มีกำลังทหารและอำนาจอยู่ไม่น้อย ส่วนคนที่สองคือจางกงเหลียนป๋อ ที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งเป้ยเล่อ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยบริหารงานราชการหลายส่วน แต่ดีที่เป้ยเล่อผู้นี้เป็นเพียงโอรสจากสนมขั้นผิน จึงไม่มีขุนนางหรือสกุลเดิมคอยสนับสนุนดังนั้นจึงไม่แปลกที่จวิ้นอ๋องจะเกรงสายตาชาวบ้าน เพราะลำพังชื่อเสียงในตอนนี้ก็เป็นคนโฉดอำมหิตอยู่แล้ว“เอ่อ โอ๊ยๆ อยู่ๆ ก็ปวดหนัก อยากเข

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status