แชร์

2. ตอนจบที่ค้างคาใจ (2)

ผู้เขียน: หมอนบนโซฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 22:06:19

ปัง!!! ฝ่ามือบางกระทบลงบนโต๊ะด้วยความอึดอัดใจ

“อะไรของแกวะ จบแบบนี้ฉันไม่โอเค!” ซีซีที่พึ่งอ่านนิยายจบ ถึงขั้นต่อสายตรงถึงนักเขียนเจ้าของเรื่องวาสนานำพาทันที

“บ่นอะไรของแกเนี่ย”

“หลิวฟ่านซี แกให้จบแค่นั้นจริงดิ จบด้วยความแค้นแบบนั้นมันค้างนะโว้ย! นี่ฉันโดนโค้ชด่ามา ยังจะมาหงุดหงิดกับนิยายอีก ฮื้อ~ ฉันจะเอาปุ๊กปิ๊กไปยิงหัวแก” ซีซีล้มตัวลงนอนบนเตียง กรอกเสียงบ่นลงโทรศัพท์ พลางเตะขาไปมาด้วยความไม่พอใจ

อันที่จริงถ้าสนใจตัวหลักของเรื่อง ก็ถือว่าจบได้สวยงามไม่น้อย แต่ตัวละครที่ติดอยู่ในหัวของซีซีดันเป็นนางร้ายที่โง่เง่าอย่างหลิวฟ่านซี สำหรับซีซีแล้วมองว่าไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นัก ที่อยู่ๆ ก็ถูกแย่งความรักไป ฮื่อ~

“นี่ถึงขั้นจะเอาธนูหน้าโง่นั่นมายิงฉันเลยเหรอ หึ ที่แกเดือดร้อนอยู่นี่เพราะนึกถึงชีวิตรักตัวเองหรือเปล่าหะ ฮ่าๆ”

“อย่ามาว่าปุ๊กปิ๊กของฉันนะ” สายตาเหลือบมองเจ้าปุ๊กปิ๊ก ธนูคู่ใจที่มีลูกศรหัวเป็ดวางไว้ข้างกัน ออกจะน่ารัก เพื่อนเธอนี่ตาถั่วจริงๆ

“ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง ยังเจ็บใจอยู่ล่ะสิ ถึงได้อินกับหลิวฟ่านซีขนาดนั้น”

“ฮื่อ ก็ใช่น่ะสิ แต่ฉันไม่ได้โง่ถึงขั้นนั้นนะ” เสียงหัวเราะจากปลายสายทำให้หญิงสาวหน้ามุ่ย จะเถียงก็เถียงไม่ได้ เพราะเธอเองก็ถูกคนคุยเทไปหารุ่นน้องนักกีฬาที่เข้ามาใหม่เหมือนกัน

“จ้าๆ คำก็โง่ สองคำก็โง่ แต่จะเป็นจะตายเพราะตอนจบไม่ได้ดั่งใจ”

“ฉัน-”

“พอๆ เลิกเถียงแล้วรีบนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นไปซ้อมเช้าไม่ใช่หรือไง แม่นักกีฬาทีมชาติ”

“ฉันจะนอนไม่หลับก็เพราะนิยายแกเนี่ยแหละ ขัดใจโว้ย!...แต่ก็ขอบใจนะที่ลงให้อ่าน แกทำได้ดีมาก” เสียงคนโวยวายแผ่วลงในตอนท้าย

“อื้อ ขอบใจ เอาเป็นว่ารอเล่มพิเศษละกัน แกต้องชอบแน่”

“เล่มพิเศษอะไร สปอยหน่อยดิ”

“รู้แค่ว่าเป็นเรื่องน้องฟ่านซีของแกก็พอ ไปลุ้นเนื้อหาเอาเอง” เสียงร่าเริงตอบกลับจากปลายสายยิ่งทำให้คนฟังตื่นเต้น

“เดี๋ยวดิ บอกหน่อย นิดหนึ่ง นะ น๊า~”

“ไม่ได้ ไปนอนได้แล้ว นี่มันจะตีสามแล้วนะ แกต้องตื่นตีห้าไม่ใช่หรือไง แค่นี้ๆ บาย~”

“เดี๋ยวก่อน-” ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

ซีซีได้แต่ถอนหายใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากเพื่อนสาว แต่พอนึกถึงเรื่องที่เพื่อนบอกก็พอจะทำให้ยิ้มได้บ้าง เล่มพิเศษที่เป็นเรื่องราวของหลิวฟ่านซีงั้นเหรอ ทนรอแทบไม่ไหวแล้ว เรื่องราวจะเป็นยังไงกันนะ

“โอ๊ย~ ปวดหัวจังวะ” คงเพราะซ้อมหนัก ไหนจะไม่ได้พักผ่อนอีก ร่างกายคงเริ่มต่อต้านแล้ว ซีซีเลยตัดสินใจวางโทรศัพท์ รีบอาบน้ำแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้าห่มไม่นานนัก หญิงสาวก็เข้าสู่ห้วงนิทราไป

แต่ดูเหมือนว่าจะหลับไม่สนิท ซีซีฝันเห็นตนเองได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคจีนโบราณ เรื่องราวเกิดขึ้นมากมายหลายอย่างจนจดจำได้ไม่หมด

“หาว~” ร่างบางชูสองมือขึ้นบิดขี้เกียจอย่างที่เคยทำทุกครั้งก่อนตื่นนอน พอนึกถึงความฝันก็อดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้ ติดนิยายงอมแงมถึงขั้นเก็บไปฝันเลยเหรอเนี่ย

“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นหรือยังเจ้าคะ”

“หืม ใครมาเรียก- เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย” พอได้ยินเสียงเรียกดังแว่วมา หญิงสาวก็ตื่นเต็มตา มองไปรอบข้างจึงรู้ว่าตนเองไม่ได้นอนอยู่ในหอพัก แต่กลับเป็นเรือนไม้ที่ภายในห้องตกแต่งหรูหรา เตียงที่นอนอยู่ก็ไม่ใช่ผ้าปูลายน้องเป็ดสีเหลืองอย่างที่ควรจะเป็น

นะ นี่มันอะไรกัน หรือว่ายังไม่ตื่นจากฝัน!?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   17. ตัวแทน (4)

    คนถูกตกเป็นเป้าสายตามิได้สนใจเลยสักนิด ยามนี้ฟ่านซีเห็นเพียงเป้าที่อยู่เบื้องหน้า ปากเล็กเป่าลมออกจนสุดก่อนจะสุดลมหายใจเข้าเต็มปลอดและ...ปล่อยศรออกไปฟิ้ว~ปัก!“...” เสียงรอบข้างเงียบสนิท ก่อนที่จะได้ยินเสียงเฮดังลั่น เมื่อศรธนูปักลงบนกลางเป้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ผู้แข่งขันที่อยู่เบื้องหน้าของฟ่านซี บัดนี้แตกกระจายกันไปทั่วทุกทิศทางเพื่อล่าสัตว์ใหญ่มาใช้ในการสักการะเทพเจ้าคนทั้งลานพิธีต่างปรบมือให้กับความสามารถของคุณหนูสกุลหลิว น้อยคนนักที่จะสามารถยิงลงกลางเป้าได้ ยิ่งเป็นสตรียิ่งไม่มีผู้ใดเคยทำได้ ขนาดจวิ้นอ๋องของแคว้นยังยอมปรบมือให้ สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ดุร้าย ฉายชัดว่าสนใจในตัวหลิวฟ่านซีมากขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าการกระทำนั้นตกอยู่ในสายตาของจางกงเหลียนป๋อ เป้ยเล่อของแคว้น ที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างมารดา สายตาของจางกงเหลียนป๋อเต็มไปด้วยความเวทนาต่อหลิวฟ่านซี ดูท่าชีวิตของคุณหนูหลิวคงหนีไม่พ้นตกไปเป็นอนุในจวนอ๋องเสียแล้ว“เฮ้อ~ นึกว่าจะถูกโบยซะแล้ว” ร่างเล็กทรุดลงบนแท่นยิงด้วยอาการแข้งขาอ่อนแรง พี่ชายทั้งสองจึงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของน้องสาว แต่บุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะวิ่งออกมาด้ว

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   16. ตัวแทน (3)

    หลิวฟ่านซีเดินวนไปเวียนมาอยู่หลังลานพิธี เพื่อรอเวลา ยอมรับว่านางค่อนข้างตื่นเต้นและกังวล จริงอยู่ว่านางเคยยืนอยู่บนการแข่งขันระดับโลก ตอนนั้นถ้าพลาดก็แค่เสียใจ แต่ครั้งนี้ถ้าพลาดอาจถึงขั้นเสียชีวิต ฮื้อ~ “มองเป้าให้ดี อย่าให้ว่อกแว่ก อย่าให้พลาดเด็ดขาด เจ้าเคยซ้อมอยู่ที่เรือนทุกเช้า”“จริงอย่างพี่ใหญ่ว่า ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่เจ้าก็ทำได้ดียิ่งนัก” ทั้งไห่คุนและจ้งเหลียนต่างก็มาให้กำลังใจน้องสาวอยู่หลังลานพิธี“มันจะเหมือนกันได้อย่างไรเล่า ถะ ถ้าข้ายิงพลาด ฝ่าบาทจะไม่สั่งตัดหัวข้าหรือ”“ไม่หรอก องครักษ์ที่เคยยิงพลาดก็เพียงแค่ถูกโบยและโดนปลด”“พี่รอง! ข้าใจเสียยิ่งกว่าเดิม” ฟ่านซีโอดครวญ นึกอยากตบปากตนเองนักที่พูดออกไปว่าช่วงนี้กำลังฝึกยิงธนู“เอาล่ะๆ ไม่ต้องกังวลไป ฝ่าบาทมิใช่คนใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนั้น ตอนนี้ประกาศผู้ชนะการบรรเลงดนตรีแล้ว เจ้าต้องออกไปแล้ว” เสียงประกาศว่าผู้ชนะในการแข่งบรรเลงดนตรีวันนี้เป็นเถียนลี่มี่ แต่ฟ่านซีไม่ได้สนใจเลยสักนิด ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นเต้นรัวเพราะกลัวว่าจะทำพลาดไม่ต่างกับเหล่าขุนนางและผู้คนในลานพิธี บัดนี้ไม่มีผู้ใดสนใจผู้ชนะในการแข่งขันบรรเลงดนตรีแม้แ

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   15. ตัวแทน (2)

    “ผู้ชนะมาแล้วสินะ” หลิวฟ่านซีพึมพำอย่างหน่ายๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรบทนางเอกก็ต้องเด่น ยังไงการแข่งขันครั้งนี้เถียนลี่มี่ก็ต้องเป็นผู้ชนะ ขณะที่ฟังการเป่าตี้จื่อ (ขลุ่ยผิว) ของแม่นางเอก ก็อดที่จะหันไปมองโจวเทียนฉีไม่ได้ ทว่าสิ่งที่น่าแปลกคืออีกฝ่ายมองนางอยู่ก่อนแล้วช่วงที่ผ่านมา แม้ฟ่านซีจะเอ่ยว่าไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับตัวละครหลักของเรื่อง แต่กลับมีหลายครั้งที่พบกันโดยบังเอิญ และโจวเทียนฉีก็ยังพูดกระทบนางเรื่องเดิมว่านางกำลังจะทำให้สกุลหลิวเดือดร้อน ครั้งหนึ่งเขายังเคยเดินตามมาส่งนางกับจูหลิงกลับเรือน นับวันชักทำตัวแปลกขึ้นทุกที“มองทำไม เดี๋ยวก็จิ้มตาบอด” หลิวฟ่านซีอดเบะปากรำคาญมิได้ สุดท้ายนางต้องเป็นฝ่ายละสายตาออกมา เพราะอีกคนจ้องหน้านางไม่เลิก อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยไป ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง“การแข่งขันสิ้นสุดลง-” ขุนนางหนุ่มกำลังจะประกาศสิ้นสุดการแข่งขันชะงักนิ่ง เมื่อไท่กงกง ขันทีคนสนิทของฝ่าบาทเดินมากระซิบข้างหู“เอ่อ ฝ่าบาททรงตรัสถามถึงคุณหนูสกุลหลิว ปีก่อนคุณหนูหลิวเป็นผู้ชนะการบรรเลงผีผา ปีนี้จะเข้าร่วมการแข่งหรือไม่”“ห๊ะ!” หลิวฟ่านซีที่กำลังอ้าปากกินขนมถึงกับค้างเมื

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   14. ตัวแทน (1)

    เสียงบรรเลงดนตรีดังขับกล่อมผู้คนในลานพิธี ท่ามกลางต้นไม้สูงลิ่วบนเนินเขาเหยี่ยนเฟิง ในช่วงสารทฤดูเช่นนี้ ราชสำนักแคว้นต้าเฉวียนมีพิธีการสำคัญคือการสักการะเทพเจ้าตามความเชื่อของเหล่าบรรพบุรุษผู้ล่วงลับเชื่อกันว่าทั้งผืนดิน ผืนป่า ผืนน้ำ และผืนฟ้า ล้วนมีองค์เทพคอยปกปักดูแล ในทุกปีจึงมีการจัดพิธีสักการะ เซ่นไหว้ ขอให้แคว้นต้าเฉวียนสุขสงบร่มเย็น ไร้ซึ่งภัยพิบัติต่างๆ ประชาชนอยู่ดีมีสุข“พี่ใหญ่ พี่เค่อไม่มาด้วยหรือ”“อะฮึ่ม! มะ ไม่มา” ไห่คุนกระแอมกลบเกลื่อน สายตาเฉียบคมวันนั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเจ้าตัวมิอยากเปิดเผยตัวตน แม้จะสงสัยว่าเหตุใดซีซีจดจำอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็จำต้องเก็บความสงสัยนั่นไว้ มิเช่นนั้นอาจทำให้ความแตกได้“แย่จริง ช่วงนี้ข้าไปที่ค่ายก็ไม่ค่อยเจอเขา หรือเขาไปทำงานที่อื่นแล้ว”“ท่านน้าเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กของซิงอีดังแทรกบทสนทนาของผู้ใหญ่ ทำเอาคนทั้งกระโจมตกใจกับคำพูดคำจาของเด็กอายุเพียงสี่หนาว ดีที่เป็นกระโจมของสกุลหลิวเอง จึงมีเพียงครอบครัวของพี่ใหญ่ พี่รอง และหลิวฟ่านซีเท่านั้น“ซิงเอ๋อร์ พูดเช่นนั้นกับท่านน้ามิได้นะ”“เปลี่ยนเป้าหมาย คำนี้เป็นบิดาเจ้าท

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   13. เรื่องน่าสงสัย (2)

    “แปลกใจอันใดเจ้าคะ” เสียงหวานว่าพลางยื่นมือไปรับจอกสุราที่อีกฝ่ายยื่นมาให้“เจ้าปฏิบัติตัวไม่เหมือนคุณหนูในห้องหอ พยายามหนีห่างจากโจวเทียนฉี และที่สำคัญที่สุด เจ้าทำเหมือนว่าไม่รู้จักข้า เหมือนเราไม่เคยพบกันมาก่อน”“...อึก ทะ ท่านสงสัยมากมายนัก” ฟังคำพูดของบุรุษตรงหน้าแล้วได้แต่ยกสุราขึ้นดื่ม เฉตาไปมองทางอื่น แม้ดวงหน้างามจะเรียบเฉยแต่ในหัวคิดให้วุ่นว่าควรตอบกลับไปเช่นไรดี แกล้งบ้าไปเลยดีหรือไม่“ว่าอย่างไร หืม”“ก็...ข้าฝันเจ้าค่ะ”“ฝันหรือ”“ใช่เจ้าค่ะ! ข้าฝันถึงท่านปู่ ในฝันท่านปู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มาบอกกับข้าว่าทะเลาะกับท่านปู่ของโจวเทียนฉี เรื่องที่ท่านปู่โจวดันไปเกี้ยวเทพเซียนคนงามที่ท่านปู่ของข้าหมายตาไว้ เลยเข้าฝัน มาบอกให้ข้าเลิกยุ่งกับโจวเทียนฉี สัญญาหมั้นอะไรพวกนั้นยกเลิกให้หมด”“...” บุรุษตรงหน้าถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่านางจะยกเรื่องพวกนี้มาเป็นเหตุผลได้“จริงๆ นะพี่เค่อ หลังจากข้าตื่นมาก็บอกท่านพ่อให้เลิกพูดเรื่องที่จะให้ข้าหมั้นหมายกับโจวเทียนฉี พอไม่ต้องหมั้น ข้าเลยใช้ชีวิตอย่างที่ข้าต้องการไง”“หึ พูดจาฉลาดนักนะ แล้วเรื่องที่เจ้าไม่รู้จักข้าเล่า จะว่าอย่างไร”“เอ่อ เร

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   12. เรื่องน่าสงสัย (1)

    เหตุการณ์เผชิญหน้ากันของสองบุรุษ แม้โจวเทียนฉีจะเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ เมื่อเทียบกับจวิ้นอ๋อง แต่อีกฝ่ายก็ยกสายตาของชาวบ้านมาอ้าง เอาแต่พูดว่าหากจวิ้นอ๋องพาหลิวฟ่านซีไปด้วยอาจมีคำครหาว่าไม่ให้เกียรติชายาที่มาด้วยกันซึ่งจางกงเต๋อหัวถือเรื่องนี้เป็นที่สุด แคว้นต้าเฉวียนปกครองโดยราชวงศ์จางกง บัดนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดเรื่องการสืบทายาท แม้ว่าองค์ฮ่องเต้จางกงหลัวเค่อจะยังมีพระชนม์มายุเพียงยี่สิบแปดหนาว กระนั้นเหล่าขุนนางและราชวงศ์ก็ยังกังวล เนื่องด้วยองค์กษัตริย์ยังมิมีพระโอรสธิดาแม้เพียงองค์เดียวนั่นหมายความว่าพระเชษฐาอีกสองพระองค์ยังคงมีสิทธิ ในการครองราชสมบัติต่อจากองค์ฮ่องเต้อยู่ คนแรกคงหนีไม่พ้นจางกงเต๋อหัว จวิ้นอ๋องที่มีกำลังทหารและอำนาจอยู่ไม่น้อย ส่วนคนที่สองคือจางกงเหลียนป๋อ ที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งเป้ยเล่อ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยบริหารงานราชการหลายส่วน แต่ดีที่เป้ยเล่อผู้นี้เป็นเพียงโอรสจากสนมขั้นผิน จึงไม่มีขุนนางหรือสกุลเดิมคอยสนับสนุนดังนั้นจึงไม่แปลกที่จวิ้นอ๋องจะเกรงสายตาชาวบ้าน เพราะลำพังชื่อเสียงในตอนนี้ก็เป็นคนโฉดอำมหิตอยู่แล้ว“เอ่อ โอ๊ยๆ อยู่ๆ ก็ปวดหนัก อยากเข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status