Share

ของขวัญ

last update Huling Na-update: 2025-12-24 13:15:55

“เห้ย เปิดดิ กูอยากรู้ว่ายัยนั่นให้ไรมึง” คิมเร่งซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยรวมทั้งภูวดล

“คงไม่ใช่อะไรพิลึกๆ หรอกนะ” กราฟว่าทำหน้าขยาด ใจเริ่มกลัวแทนเพื่อน หลี่ตามองยังของในมือเธียร

เธียรถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลงมือเปิดกล่องออกด้วยความตื่นเต้น ลุ้นในใจลึกๆ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏแก่สายตา ตั๋วคอนเสิร์ตนักร้องชื่อของดังต่างประเทศนอนแอ้งแม้งอยู่ภายใน บัตรราคาเกือบครึ่งแสนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไม่น่าเชื่อ

“เห้ย กูว้าวมาก” กราฟเป็นคนแรกที่พูด เขาปรี่เดินมาแย่งกระดาษแข็งๆ จากมือเจ้าของไปชูให้เห็นชัดๆ ให้ทุกคนดู

“ยัยนั่นรู้ได้ไงว่ามึงชอบนักร้องคนนี้” แทนหันไปถามเธียรที่ตอนนี้นั่งนิ่ง สงสัยมันช็อกไปแล้วมั้ง

“เออนั่นดิ แม่งเจ๋งวะ กูนั่งรอกดบัตรตั้งแต่ตีห้ายังไม่ได้เลย แต่ยัยนั่นดันประเคนบัตรหน้าเวทีโซนวีไอพีให้แกได้สบายๆ มาเป็นของขวัญ นี่กูประเมินยัยนั่นต่ำไปสินะ” ซีว่าซึ่งนั่นก็ทำให้ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“ว่าแต่ แฟนมึงพอจะมีตั๋วอีกสักใบไหมวะภู” กราฟปรี่เดินมาเกาะแขนภูวดล ส่งสายตาออดอ้อนเพื่อนจนอีกฝ่ายขนลุก

“นั่นดิ กูขอด้วยคน” แทนขอบ้าง เขาเองก็อยากไปดูคอนเสิร์ตนักร้องคนนี้เหมือนกัน แต่ดันลืมวันที่ต้องกดบัตรซะงั้น

ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง

“ขอเองดิ” ภูวดลบอกปัดไม่สบอารมณ์ เรื่องอะไรที่เขาต้องแบกหน้าไปขอร้องยัยนั่น

ส่วนเธียรนั่งมองกล่องที่ยังมีการ์ดใบเล็กๆ ติดมาด้วย เขาไล่สายตาอ่านข้อความด้วยลายมือหวัดๆ ที่บ่งบอกถึงความตั้งใจของเจ้าตัว

(หวังว่าจะชอบของขวัญของลูกหว้าชิ้นนี้นะคะ) ลงชื่อ ลูกหว้า

ภูวดลรอเวลาเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางกำลังเดินกลับมาในงาน เขาจ้องมองเธอตลอดแต่อีกฝ่ายกลับเมินหน้าหนี ไม่ยอมสบตา แถมยังมีเพื่อนหล่อนเดินตามแจ ผู้ชายอย่างเขาชักหงุดหงิดใจ มีนกับเขาไม่ได้สนิทกันเท่าเธียร หมอนี่เป็นแค่นักร้องในวงดนตรีสมัยมหาลัยที่เธียรเป็นหัวหน้า เคยพูดคุยด้วยนิดหน่อยยามเพื่อนเขาลากมันมาสังสรรค์ด้วยเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนถือตัว แต่เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนพูดไม่เก่ง แถมยังสนใจผู้หญิงคนเดียวกันอีกต่างหาก เลยรู้สึกเขม่นกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหากวนใจอะไรเพราะปริมเคยบอกเขาว่าคิดกับมันแค่เพื่อน

“ปริม พี่ขอคุยด้วยหน่อย” เมื่อปริมไม่ยอมมองเขาจึงเดินตรงเข้าไปหาเพื่อขอคุยกับคนตัวเล็ก ทว่าเธอกับเมินหน้าหนีไปคุยกับมีนแทน เขาชักฉุนหมอนี่มากกว่าเดิม

“กินนี่สิมีน อร่อยดีนะ” หล่อนจิ้มลูกพับชิ้นเล็กจ่อปากเพื่อนชาย แสร้งไม่สนใครบางคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง

มีนได้แต่มองยอมอ้าปากแต่โดยดี แน่ล่ะอยู่ๆ คนที่เขาแอบชอบป้อนผลไม้ให้นี่ ถึงจะรู้ลึกๆ ว่าปริมกับผู้ชายคนนั้นมีใจต่อกันก็เถอะ

“ปริม”

“พี่ภูกลับเถอะค่ะ ป่านนี้ว่าที่เจ้าสาวรอแย่แล้ว ปล่อยให้เธอรอนานๆ ไม่ดีนะคะ” เธอยืนกรานไม่ยอมคุยแถมยังไล่เขากลับ ทั้งๆ ที่ในใจรู้สึกชนะและสะใจผู้หญิงอีกคน อย่างน้อยผู้ชายก็เป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาไม่ใช่วิ่งตามอย่างแม่นั่นทำ ปริมลอบยิ้มในใจ

“ถ้าอย่างนั้นถึงบ้านพี่โทร.หานะครับ” ภูวดลถอดใจ รู้สึกผิดต่อหญิงสาวจึงเป็นฝ่ายล่าถอยแม้ในใจอยากจะดึงเธอเข้ามากอดแล้วบอกว่าเธอนั่นแหละคือคนที่เขารักและคิดจะแต่งงานด้วย แต่ที่เขาต้องแต่งกับยัยนั่นมันเป็นเพราะอุบัติเหตุ เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ภูก็ทำได้แค่คิด แล้วถอนหายใจแรงๆ พร้อมกับเดินจาก

“เห้ยไอ้ภู เดี๋ยวก่อน”

“ไรวะ”

“กูฝากขอบใจลูกหว้าด้วย” เธียรชูตั๋วคอนเสิร์ตขึ้น ภูวดลพยักหน้ารับทว่าสายตายังคงมองมายังร่างเล็ก ที่ตอนนี้หัวเราะคิกคักกับมีน มือหนากำหมัดแน่นก่อนเดินจากด้วยใจที่ปวดหนึบปนโกรธถึงใครบางคนที่ทำร้ายความรู้สึกเขาวันนี้

ปัง

เสียงปิดประตูรถบ่งบอกอารมณ์ฉุนเฉียวคนนั่งข้างคนขับได้เป็นอย่างดี ทว่าคนขับกลับไม่มีแววตื่นตกใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงเมา

ลูกหว้าเหลือบมองคนร่างสูงที่ทิ้งตัวนั่งข้างๆ เอนหลังกับเบาะ ยกมือก่ายหน้าผากอย่างคนหมดแรง

“ดื่มเยอะเหรอคะ” หล่อนถามขณะเหยียบคันเร่งไปตามท้องถนน เบี่ยงหลบรถคันที่สวนเลนมาด้วยความชำนาญ เมื่อถึงถนนสายหลัก ถนนเริ่มโล่ง มือเล็กควานหาทิชชูเปียกยื่นให้คนข้างๆ

“……” เขาเงียบไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมาดูว่าที่เจ้าสาวที่พยายามชวนคุย จนกระทั่งรู้สึกอะไรเย็นๆ แตะที่หน้าผากส่วนที่โผล่พ้นจากมือนั่นแหละ ดวงตาคมกริบถึงยอมลืมตาขึ้นมา ทิชชูเปียกสีขาวบริสุทธิ์ถูกแปะบนใบหน้าด้วยความเป็นห่วงจากหล่อน แต่ทำไมในใจเขาถึงไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการดูแลเอาใจใส่ของคนข้างๆ ออกจะรำคาญเจ้าหล่อนด้วยซ้ำไป แต่ภูวดลทำอะไรมากไม่ได้นอกจากคำว่า อดทน และ อดทน

“พรุ่งนี้พี่ว่างไหมคะ ลูกหว้านัดช่างวัดตัวที่ร้านยัยเฟย์ไว้ค่ะ” ร้านที่ว่าเป็นร้านเพื่อนเธอเอง ไม่อย่างนั้นเวลาสำหรับหนึ่งเดือนคงไม่เพียงพอต่อการตัดชุดเจ้าสาวเป็นแน่ แต่ด้วยฐานะเพื่อนเจ้าของร้านและอำนาจเงินของตระกูลอัศววัฒน์โยธินจึงได้สิทธิพิเศษ ด้วยงบไม่จำกัดระดมช่างเก่งๆ เข้ามาช่วยออกแบบและเย็บตัดชุดด้วยระยะเวลาที่แสนสั้น

“ให้เวลาหนึ่งชั่วโมง” เสียงตอบราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ จริงๆ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขา แต่ภูวดลคร้านจะต้องติดแจอยู่กับยัยนี่จึงแบ่งเศษเวลาให้หล่อน อย่างน้อยเขาก็ไม่โดนมารดาต่อว่าที่ไม่สนใจเจ้าสาว

“จะพอหรือคะ เราต้องเลือกการ์ด ของชำร่วย” โชคดีที่เธอตกลงเลือกรูปแบบธีมงานกับออแกไนเซอร์ไว้แล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ทันแน่ถ้าเจ้าบ่าวเธอยังเฉยเมย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งๆ ที่มันงานแต่งตัวเอง ชนัญชิดาได้แต่เหยียดยิ้มบางๆ ด้วยความขมขื่น

“ให้ได้แค่นั้น จะไปไม่ไปก็ตามใจ ส่วนที่พูดมาเธอจัดการเองแล้วกัน” เขาตัดบท หันหน้าหนีไปมองนอกกระจกเพื่อเป็นการยุติสนทนากับอีกฝ่าย หญิงสาวจึงได้แค่มองเสี้ยวหน้าเขาเท่านั้น

งานแต่งที่เขาไม่เต็มใจ เจ้าสาวไม่ใช่คนที่เขาเลือก จะจัดงานยังไงก็เหมือนๆ กันแหละ

“เอางั้นก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงที่พยายามข่มความน้อยใจไว้ใจมิดตอบคนข้างกาย ความขมปร่าแล่นเข้าเกาะกุมจิตใจลูกหว้าอย่างจัง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าภูวดลไม่ได้รักหล่อน เขามีใจให้ใครอีกคน แต่ชนัญชิดาเชื่อเหลือเกินว่าแต่งงานแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ภูวดลอาจจะหันมามองเธอบ้าง ความใกล้ชิดต้องชนะใจอีกฝ่ายได้สักวัน

เธอมั่นใจว่าจะทำให้เขารักหล่อนให้ได้

เธอเชื่ออย่างนั้น

คนหลังพวงมาลัยได้แต่ปลอบใจตัวเอง พยายามคิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ลืมความรู้สึกที่เจ็บเสียดโพรงอกเมื่อครู่ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ใช้สมาธิจดจ่อกับเส้นถนนตรงหน้าไม่ให้ใจว่อกแว่กคิดถึงสายตาของภูวดลที่มองผู้หญิงคนนั้น

เพราะรักมากจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวและหัวใจอีกฝ่าย แม้จะสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่อีกครึ่งที่เหลือก็เล่นเอาเธอสาหัสเอาการ

ลูกหว้า เธอต้องทำได้ ภารกิจพิชิตใจภูวดลเริ่ม

เมื่อต่างฝ่ายต่างจมดิ่งกับความคิดตัวเอง ความเงียบจึงเคลื่อนเข้าครอบงำบรรยากาศภายในรถ แม้ภูวดลหลับตานิ่งทว่าไม่ได้หลับอย่างที่หญิงสาวเข้าใจ เขากำลังคิดทบทวน พยายามหาทางออกสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และที่นึกถึงตลอดเวลาก็คงไม่พ้นใบหน้าของหญิงสาวผู้ที่กุมหัวใจเขาไว้ทั้งดวง ปริม ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไร

รถหรูวิ่งด้วยความเร็วคงที่ค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อถึงที่หมาย หล่อนเลี้ยวเข้าบ้านบวรวัฒน์กิจซึ่งมีคนคอยเปิดเมื่อเธอบีบแตรไปเมื่อครู่

“ถึงบ้านแล้วค่ะ พี่ภู ตื่นเถอะ”

“อืม ไม่ชวนเข้าบ้านนะดึกแล้ว ขอบใจ” เขาพูดเสียงห้วนติดความเย็นชา เปิดประตูพรวดแล้วก้าวลงจากรถโดยไม่สนอีกฝ่ายจะทำสีหน้าแบบไหน ไม่แม้จะหันมามองเธอด้วยซ้ำ

“ฝันดีนะคะ” บอกอีกคนที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้านเสียงเบาหวิวคล้ายพึมพำกับตัวเองมากกว่า สายตายังคงจดจ้องแผ่นหลังที่กำลังหายลับเมื่อเขาเดินผ่านกรอบประตู หล่อนถอนหายใจเบาๆ ก่อนตัดสินใจกลับบ้านแต่โดยดีทั้งๆ ที่ในใจหมายมาดจะขอเข้าไปคุยกับเขาสักหน่อย แต่กลับโดนไล่ทั้งๆ ที่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ เอาเถอะ ไล่เธอไปได้แค่ตอนนี้แหละ อีกหน่อยเธอกับภูวดลก็คงได้อยู่ด้วยกันอีกนาน

เพียงแค่คิดก็ทำให้หล่อนยิ้มได้ในที่สุด

################################################################################################

ลูกสาวสวยขนาดนี้ผู้ยังไม่สนใจ ต้องสวยขนาดไหนถึงจะมัดใจผู้ได้คะ

นางเอกสายดัน ดันทุรัง เจอผู้สายเย็นชาจะเป็นไงน้า

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เหนื่อยที่จะร้าย   หน้าโดนไรมา

    "อย่าให้น้องสาวฉันรู้เรื่องนี้ เจ แกคอยรับคุณลูกหว้ากลับบ้าน บอกว่าฉันมีเรื่องด่วน ส่วนที่เหลือตามฉันมา" ลูกน้องสามคนรับคำสั่งนายเดินตามชินดนัยออกนอกร้านเมื่อเคลียร์บิลเสร็จ ส่วนเจได้แต่ยืนนิ่งรอคุณหนูที่เดิม ไม่นานร่างเพรียวในสุดเดรสสั้นพอดีเข่าก็เดินนวยนาดตรงเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกใจ เจเข้าใจได้ทันทีว่าด้วยเรื่องอะไร"อ้าว พี่ชายฉันละคะ" ถามพลางเมียงมองหา ทว่าไร้เงาคนที่ถามถึง ลูกน้องสามคนก็หายตัวไปด้วย"คุณชินติดธุระด่วนครับ เลยฝากให้ผมไปส่งแทน" เขาไม่ได้บอกเรื่องจริงทั้งหมดแก่คนตรงหน้า ถ้ารู้ว่าสามีตัวเองมาทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นเธอคงเสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาคุณหนูสนใจผู้ชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือภูวดลคิดแล้วก็ได้แต่สงสาร ทั้งสวย ทั้งรวย มีผัวทั้งทีแต่โดนนอกใจซะงั้น"อ้อ พี่เขาจ่ายตังค์หรือยัง""เรียบร้อยแล้วครับ" "ค่ะ งั้นกลับเถอะ เอ๊ะ ว่าแต่พวกคุณทานอิ่มกันแล้วเหรอ" เจ้านายได้กิน ลูกน้องก็ต้องได้กิน ดังนั้นโต๊ะข้างๆ เมื่อครู่นั้นจึงเต็มไปด้วยกลุ่มผู้ชายชุดดำแบบอดี้การ์ด เรียกสายตาบรรดาสาวๆ ในร้านได้ดี แน่ละ สี่คนนี้มีแต่คนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น แถมหุ่นยังล่ำบึกอีกต่างหาก ไม่แปลกที่จะเป็

  • เหนื่อยที่จะร้าย   พี่ชาย

    เตือนภัย "ฮัลโหลพี่ชาย ว่างไหมคะ" อารมณ์ดิ่งทีไรเป็นอันต้องโทรหาพี่ชายคนโตเมื่อนั้น หลังจากเล่นกับเจ้าชาช่าจนเหนื่อยเธอก็ขึ้นมายังบนห้อง"คะ น้องลูกหว้า ตอนนี้พี่กำลังจะเข้าประชุมค่ะ" ชายหนุ่มมองเข็มปัดซึ่งในอีกห้านาทีข้างหน้าเขาจะต้องนั่งอยู่หัวโต๊ะประชุมแล้ว ทว่าสายของน้องสาวทำให้เขายังต้องนั่งอยู่ที่เดิม"อย่างงั้นหรอกหรือคะ งั้นพี่ทำงานเถอะค่ะ ลูกหว้าแค่โทรมาคุยด้วย คิดถึงพี่ชายใหญ่นะคะ" หล่อนพยายามควบคุมน้ำเสียงสั่นๆ ให้เป็นปกติที่สุด ซึ่งมันทำได้ยากเหหลือเกิน"มีไรหรือเปล่าคะ น้ำเสียงไม่ค่อยดีเลย ให้พี่ไปหาไหม พี่จะสั่งเลขาเลื่อนประชุมเดี๋ยวนี้" แค่ได้ยินน้ำเสียง พี่ชายคนโตก็รู้ทันทีว่าน้องสาวอยู่ในห้วงอารมณ์แบบไหน เลี้ยงมาเองกับมือขนาดนี้มีหรือจะพลาด“หนูไม่เป็นอะไรสักหน่อย ไม่ต้องมานะคะ เสียการเสียงานหมด" หล่อนรีบห้ามคนปลายสายทันที เธอแค่อยากคุยกับพี่ชายให้หายเหงาก็แค่นั้นเอง "เอางั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวประชุมเสร็จพี่จะไปรับไปดินเนอร์นะคะ คิดถึงน้องน้อยจะแย่แล้ว" ตั้งแต่แต่งงานออกไปชินดนัยก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าค่าตาน้องสาว ไม่เขาที่ยุ่งเรื่องงานเกินไปก็เป็นชนัญชิดาเองที่ไม่มีเวลามาเ

  • เหนื่อยที่จะร้าย   ชาช่า

    เมื่อขึ้นมาบนห้อง หล่อนก็เปิดโทรศัพท์ เข้าไอจีส่องความเคลื่อนไหวอีกฝั่ง แล้วภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำเอาใจหล่อนชาวาบ ยัยปริมลงรูปดินเนอร์สุดหรู แม้จะไม่เห็นว่าคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็นใคร แต่เธอจำได้ดีแม้เห็นแค่แขน ข้อมือแข็งแกร่ง เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกพับไว้ที่ข้อศอก อวดนาฬิกาเรือนละเจ็ดหลักที่คุ้นตาภูวดล เขาปฏิเสธทานข้าวกับเธอเพราะจะไปดินเนอร์บนโรงแรมกับยัยนั่น!!!ชนัญชิดากำโทรศัพท์แน่น ปามันทิ้งบนที่นอนด้วยความโกรธเกลียดอีกฝ่าย แล้วความคิดบางอย่างวูบเข้ามาทำให้หล่อนตั้งสติ เผยรอยยิ้มน้อยๆ ไว้ที่มุมปาก ในเมื่อเธอทำอะไรเขาไม่ได้ อย่างน้อยภูวดลคงไม่ปฏิเสธคุณนายภาริณีซึ่งเป็นแม่ตัวเองแน่ตระกูลบวรวัฒน์กิจ"ตายจริง นี่พวกลูกๆ ยังไม่เตรียมตัวไปฮันนีมูนกันหรือจ๊ะ แล้วเมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานสักทีล่ะ ไม่ได้ๆ ใช้ไม่ได้เลย แต่งกันมาตั้งเดือนแล้วมัวทำอะไรกันอยู่ เดี๋ยวแม่จัดการเอง" ภาริณีตกใจเมื่อรู้ว่าลูกชายกับลูกสะใภ้ยังไม่วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันสักที โดยไม่ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจของอีกคน"ช่วงนี้พี่ภูทำงานหนักค่ะ หนูว่าไปตอนนี้คงไม่สะดวก เอาไว้พี่ภูว่างค่อยไปก็ยังไม่สา

  • เหนื่อยที่จะร้าย   คู่ชีวิต

    ชีวิตคู่ชีวิตหลังแต่งงานคู่อื่นอาจจะรักกันหวานชื่น ดื่มด่ำความสุขความหอมหวานเฉกเช่นคู่ข้าวใหม่ปลามันทั่วไป ทว่าเรื่องแบบนั้นไม่เกิดขึ้นกับชีวิตหล่อนเลย ไม่แม้แต่จะใกล้เคียงสักนิด เพราะไม่มีคืนไหนเธอกับเขาจะร่วมหลับนอนกันสักครั้ง แต่ชนัญชิดาไม่เคยท้อ ยังคงเดินหน้าต่ออย่างมีความหวังลึกๆ ลูกไม้แผนการอันใดล้วนถูกงัดนำมาใช้หมดแต่…….ไม่เคยได้ผล ลูกหว้าลงทุนใส่ชุดนอนบางๆ ก็แล้ว ยั่วยวนก็แล้วไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะหลงใหลหรือต้องการชื่นชมหล่อนสักนิด เขามักจะเอาความเหนื่อยมาอ้างหรือใช้สายตาไล่เธอทางอ้อม แม้กระทั่งหนีไปนอนอีกห้องปล่อยให้เธอครอบครองห้องนอนใหญ่แต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่คืนแรกชนัญชิดาไม่ยอมแพ้ ยังคงหาโอกาสเข้าหาสามี แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือวาจาร้อนแรง คำพูดแดกดันภรรยายามที่หล่อนแอบเข้าไปนอนรอให้ห้อง สุดท้ายจบด้วยการโดนเขาลากเธอออกห้องอยู่ร่ำไปวันนี้ก็เช่นเคย ด้วยหวังว่าวันหนึ่งสิ่งที่เธอพยายามยั่วยวนสามีจะสัมฤทธิผลเสียดี ชนัญชิดาไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายจะไม่สนใจของสวยๆ งามๆ แบบเธอ หล่อนสวมชุดนอนลูกไม้ซีทรูสีชมพูอ่อน แหวกอกลึกเห็นเนินอกอวบดูวาบหวิว พร้อมกับพรมน้ำหอมบางๆ คลุมทับด้วยชุดคล

  • เหนื่อยที่จะร้าย   หนี คืนเข้าหอ

    “กูว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ” ซีหรี่ตามองคู่บ่าวสาวที่กำลังไหว้ต้อนรับแขกในงาน ใบหน้าเจ้าสาวนั้นยิ้มแย้มด้วยความปรีดา ทว่าเจ้าบ่าวนั้นกับหน้าอมทุกข์ประหนึ่งถูกบังคับเข้าพิธีเอ๊ะหรือว่ามันถูกบังคับจริงๆ“กูว่าใช่ แม่มันออกจะปลื้มลูกสะใภ้ขนาดนั้น งานนี้สงสัยขัดใจแม่ไม่ได้” แทนปรายตาไปมองคุณนายภาริณี แม่เจ้าบ่าวที่นั่งหน้าบานกำลังพูดคุยอยู่กับแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดี เพื่อนทุกคนจึงหันไปมองตาม“วันนี้น้องปริมมางานไหมวะ” ซีหันไปถามเธียรซึ่งสนิทกับคนที่ถามถึง“ไม่รู้ดิ กูถามปริมก็ไม่ยอมตอบ โทร.ไปเมื่อเช้าก็ไม่รับสาย” เขารู้สึกสงสารน้องรหัสสาวสวยคนนี้อยู่ไม่น้อย พูดแล้วก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ“เห้ย คงไม่ได้คิดสั้นไปแล้วนะ”“พูดอะไรของมึงไอ้เชี้ยกราฟ” วัฒน์ตบหัวเพื่อนปรามเบาๆ“ปากหมานะมึงแต่งงานภายในร้านพรีเวดดิ้งที่ผนังเป็นกระจกใส คนภายนอกสามารถมองทะลุข้างในได้ชัดแจ๋ว ชุดสีขาวฟูฟ่องบนหุ่นหันโชว์คนเดินผ่านไปมาบ่งบอกว่านี่คือร้านที่บริการเกี่ยวกับงานแต่ง ชุดเจ้าสาวที่ตัดเย็บอย่างประณีตมีตั้งแต่ชุดไทยไปยันชุดกระโปรงสีขาวพองฟูเหมือนขนมถ้วยแขวนเรียงรายบนตู้โชว์ ภายในร้านมีคู่บ่าวสาวประปราย ก

  • เหนื่อยที่จะร้าย   งานแต่งที่เธอไม่ต้องการ

    งานแต่งที่เธอไม่ต้องการ ภายในร้านพรีเวดดิ้งที่ผนังเป็นกระจกใส คนภายนอกสามารถมองทะลุข้างในได้ชัดแจ๋ว ชุดสีขาวฟูฟ่องบนหุ่นหันโชว์คนเดินผ่านไปมาบ่งบอกว่านี่คือร้านที่บริการเกี่ยวกับงานแต่ง ชุดเจ้าสาวที่ตัดเย็บอย่างประณีตมีตั้งแต่ชุดไทยไปยันชุดกระโปรงสีขาวพองฟูเหมือนขนมถ้วยแขวนเรียงรายบนตู้โชว์ ภายในร้านมีคู่บ่าวสาวประปราย กลางห้องรับแขกมีคู่บ่าวสาวนั่งอยู่บนโซฟาหรูพร้อมพนักงานที่พร้อมจะอธิบายและแนะนำแพ็คเก็จ “พี่ภูว่าแบบไหนสวยคะ” เธอยื่นแบบของชำร่วยให้อีกฝ่ายดูเพื่อการตัดสินใจ เขานั่งนิ่งตัวแข็งเป็นหุ่นยนต์จนลูกหว้านึกอายพนักงานของร้าน เธอเป็นเพื่อนเจ้าของที่นี่ก็จริง แต่ยัยนั่นติดธุระข้างนอก คนที่บริการตนตอนนี้จึงเป็นผู้จัดการสาวซึ่งดูท่าทางน่าจะแก่กว่าเธอสักสี่ห้าปีได้“เอาไรก็เลือกๆ ไปเถอะ จะได้รีบกลับ” น้ำเสียงนิ่งเรียบบอกปัดๆ ไม่แม้แต่จะชายตาแลสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่ดึงดูดเขาได้ดีที่สุดคือมือถือที่กำลังพิมพ์ตอบโต้กับใครอีกคน ผู้ที่กุมหัวใจของไว้ทั้งดวง ถ้าเลือกได้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาในร้านพรีเวดดิ้งนี้ก็อยากให้เป็นเธอ ไม่ใช่ลูกหว้า!!!“เห้ย โทษทีมาสาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status