ในช่วงเดือนพฤษภาคมเมื่อสิบปีก่อน ถ้ำสวรรค์กลายเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับเธอและเขา ความลับที่แสนตราตรึงถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่น การนัดหมายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยไม่มีใครรู้
เวลาเกือบเดือนที่แอบคบหากันฉันท์คนรัก มันเป็นเวลาแห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
“อ่า...” เธอกับเขากอดจูบกันอย่างดื่มด่ำ แม้ไม่เคยก้าวข้ามขอบเขตที่วางไว้ แต่หัวใจก็สั่นไหว โอนอ่อนผ่อนตามแรงปรารถนาจนแทบหยุดไม่ได้ทุกครั้ง
“ขวัญจ๋า...ที่รักของเค้า” สองร่างกอดจูบนัวเนียเคล้าคลออยู่กลางสระนางฟ้า ขณะแสงจันทร์อาบคลุมไปทั่วบริเวณ แสงสีทองจากตะเกียงเจ้าพายุส่องให้เห็นความสวยงามของถ้ำสวรรค์ที่ถูกสรรค์สร้างอย่างตระกรานตาจากธรรมาติ
“คุณภู” น้ำเสียงออดอ้อนครวญครางเรียกหาเขา กระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ของเขาให้กระเจิงกระจายไปทั่วร่าง กายแกร่งกอดรัดรึงรัน ลำร้อนภายใต้กางเกงขายาวดิ้นเดือด แข็งคัด เจ็บหน่วงเหมือนจะระเบิด
“เค้าไม่ไหวแล้วขวัญ...ซี๊ดส์อ่าห์...ไม่ไหว” เสียงกระเส่ากระสันบ่งบอกถึงอารมณ์สุดต้านทาน ก่อนความสุขจะฉีดพล่านออกมาไม่ยั้ง “โอววว...”
“อือ...อือ...” เธอจูบแลกลิ้นกับเขาอย่างเมามันส์ ขณะนิ้วแกร่งกดคลึงปุ่มกระสันกลางร่องสาวถี่ยิบแล้วแทงสอดเข้าช่องสวาท ขับเคลื่อนลำนิ้วตอดไล้สำรวจตรวจตรา บำเรอความสุขซ่านอย่างชำนาญ
“โอยคุณภู อูยยย ขวัญไม่ไหวแล้วค่ะ” หัวใจของเธอซ่านสยิวไปพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยไฟราคะ แรงสัมผัสจากคนรักทำให้เธอต้านไม่ไหว กรีดเสียงหวานใสออกมายามถึงจุดสุดยอด “อ๊า...อ๊าส์”
“อยากสอดใส่” เขากระซิบเสียงพร่า ใบหน้าเข้มเต็มแน่นไปด้วยอารมณ์กระสัน สายตาออดอ้อนร่ำร้องการปลดปล่อยตามสัญชาติญาณ
“ไม่ได้นะคะ ยังไม่ได้ เอาไว้เราโตกว่านี้นะคะ อดทนไว้ก่อนนะคนดี” เธอรู้สึกเห็นใจเขานะ แต่ทำได้แค่ปลอบใจ มันยังเร็วเกินไปที่เธอกับเขาจะร่วมรักกันอย่างลึกซึ้ง เพียงแค่การกอดจูบเล้าโลมและการร่วมรักแบบภายนอก มันก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการแสดงความรักที่มีต่อกัน ในวัยแรกแย้มแบบนี้
“ก็ได้ เค้าจะอดใจรอ” ว่าแล้วก็ระดมจูบจนทั่วใบหน้าสวย ประกบริมฝีปากบดจูบอย่างดูดดื่ม สวมกอดกายนุ่มเอาไว้ในอก นัวเนียคลอเคล้า ส่งผ่านความรักให้แก่กันด้วยหัวใจที่ลุ่มหลงและซื่อสัตย์
“จะสองทุ่มแล้ว เรากลับกันดีกว่าค่ะ”
“อืม อยากอยู่นี่ทั้งคืน”
“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวคนที่บ้านเป็นห่วง”
“ถ้าเราหมั้นกันจะดีมั้ยนะ”
เธอตกใจนิดหน่อยที่เขาคิดถึงขั้นนั้น ทั้งที่เพิ่งจะคบหากันได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น แต่ในความตกใจมันก็มีความสุขซ่อนอยู่ ดีใจที่เขาคิดจะจริงจัง
“แต่พวกผู้ใหญ่จะ...”
เธอพูดไม่ทันจบ นิ้วนางข้างซ้ายของเธอก็โดนจับจองด้วยแหวนเงินเกลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากอุ่นจูบแนบบนหลังมือเล็ก
“คุณภู!”
เขายิ้มละมุน จุมพิตบนหน้าผากนวลแล้วสวมกอดร่างสวยไว้กับอกอุ่น “จองไว้ก่อน ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเรา รักษาหัวใจของเราไว้ให้ดีนะขวัญ เพราะเรายกมันให้เธอครอบครองแล้ว มันจะเป็นของเธอคนเดียว ตลอดไปเลย”
ขวัญชีวาหัวใจพองโต เต็มตื้นไปด้วยความสุข สวมกอดกายแกร่งของนายหัวภูของเธอจนแนบแน่น เพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
“อุ๊ย! เสียงฟ้าลั่นค่ะ ดูเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว เรารีบกลับบ้านกันดีกว่า”
เพราะเสียงฟ้าลั่นโครมครามและเมฆทะมึนเต็มท้องฟ้า ทำให้เขายอมพาเธอออกจากถ้ำสวรรค์ ด้วยกลัวว่าน้ำป่าจะไหลเข้าปิดทางออกจากถ้ำนั่นเอง
เขามาส่งเธอที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นต้นไม้อายุหลายร้อยปี อันเป็นเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านคนงาน
“อยากอยู่ด้วย เปิดหน้าต่างให้เค้าได้มั้ย”
“คุณภูขา รีบกลับบ้านเลยค่ะ เดี๋ยวนี้”
“รู้แล้วน่า ตัวเองไปก่อนสิ” เขายืนรอจนกระทั่งเห็นว่าเธอเดินถึงหน้าบ้านพักของตัวเองแล้ว จึงหันหลังแล้วเดินกลับไปยังบ้านพักหลังใหญ่ของนายเหมือง ขณะสายฝนเริ่มเทลงมาเป็นสาย
คืนนี้ฟ้าพิโรธหนักทีเดียว สายฝนเทกระหน่ำไม่ขาดสาย ลมพายุพัดแรงจนต้นไม้ใหญ่ไหวเอน เหมือนจะหักโค่น เสียงสรรพสัตว์ร้องระงม มันทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นและสังหรณ์ใจอย่างประหลาด
“น้องสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ” กลอยใจกับรุ่งอรุณมาถึงพอดี รีบเข้ามาหาคุณหมอ แล้วแสดงตัว “ฉันเป็นพี่สาวของคนไข้ค่ะ ฉันเป็นเจ้าของไข้”คุณหมอมองหน้าภูเมฆ ซึ่งบอกว่าเป็นสามีของคนไข้ก่อนหน้านี้ พอเห็นหน้าเจื่อน ๆ ของภูเมฆก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคงเป็นแค่สามีทางพฤตินัย แต่ยังไม่ได้เป็นสามีในทางกฎหมาย“เธอปลอดภัยแล้วครับ แต่ไข้ยังขึ้นสูง คงต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสักคืนสองคืนถึงจะกลับบ้านได้ ส่วนเด็กในท้อง ก็ปลอดภัยดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร สบายใจได้”“อะไรนะคะ” ทั้งกลอยใจและรุ่งอรุณอุทานพร้อมกันด้วยความตกใจ และงงงันละอุ่นหันมองหน้าเจ้านาย ด้วยสายตาเอาเรื่อง เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ“อุ่น!” กลอยใจหันมาคาดคั้นกับล่ะอุ่น เพราะสองคนนี้สนิทสนมกันและไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด“ไม่ใช่อุ่นหรอกครับ” ภูเมฆเอ่ยขึ้น “ผมเอง ผมเป็นพ่อของเด็กในท้อง เราสองคนแอบคบกันมาสักพักแล้ว ผมจะแต่งงานกับขวัญครับ”“คุณภู!” กลอยใจไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง นายภูเมฆที่บอกว่าเกลียดครอบครัวเธอนักหนา เพิ่งบอกว่าจะแต่งงานกับน้องสาวของเธอ ?“จริงหรือคะพี่ภู ดีใจจังเลย รุ่งกำลังจะมีหลานใช่มั้ยคะ เย้ๆ” ภูเมฆลูบศีรษะน้องสา
“คุณไม่ได้ฝันไป นี่ผมเอง ขี่หลังผมนะ” ภูเมฆยิ้มให้เธอ ก่อนจะช้อนร่างเธอขึ้น แต่ชะงักเสียก่อน เพราะดันเห็นรอยเลือดจางไหลเป็นทางบนขาอ่อน “ขวัญ...”“ขวัญรักคุณภูนะคะ” เธอยื่นมือลูบแก้มสากของภูเมฆด้วยความรักล้นอก ขณะภูเมฆหน้าซีดสั่น หัวใจสะท้านไปทั้งดวง “รักเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน”น้ำตาของชายหนุ่มไหลริน “ผมก็รักคุณ ผมรักคุณมากนะขวัญ เพราะงั้น คุณห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด ผมจะพาคุณออกไปเดี๋ยวนี้ เรากลับออกไปนะ”“จะออกไปได้ยังไงคะ ทางมันปิดไปแล้ว และฝนก็ยังไม่หยุดตกซะที คุณภูรีบออกไปเถอะค่ะ ก่อนที่น้ำมันจะท่วมถ้ำนี้ นะคะคุณภู”“จะให้ผมทิ้งคุณเหรอ”“ชีวิตคุณมีค่ากว่าขวัญ ไปเถอะค่ะ”“ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน!”“คุณภู”ภูเมฆก้มเข้าหาใบหน้าสวย ประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม พร้อมกอดร่างนุ่มไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขากอดเธอไว้อย่างนั้น ไม่ยอมทิ้งเธอไปไหน แม้เธอจะอ้อนวอนร้องขอ แต่เขาก็ไม่ฟัง...“ผมขอโทษที่ผมทำร้ายคุณนะขวัญ”“ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญเข้าใจคุณ”น้ำตาของเขาไหลไม่หยุด ปากพร่ำแต่คำว่าขอโทษ “ผมขอโทษที่ทำให้เราสองคนต้องมาเป็นแบบนี้ ทั้งที่เราสองคนรักกัน ผมมันโง่ที่สุดเลย ผมทำร้ายคนที่ผมรักได้ลงคอ ผ
“น้าขวัญน่ะสิ ไม่รู้หายไปไหน ที่บ้านพักก็ไม่อยู่ รุ่งรู้รึเปล่าว่าน้าขวัญไปไหน น้าได้บอกอะไรหนูรึเปล่า”ภูเมฆรอคำตอบด้วยใจจดจ่อ แต่รุ่งอรุณกลับบอกเหมือนกับทุกคน วันนี้เธอยังไม่เจอน้าขวัญเลยสักครั้ง“ฝนตกหนักซะด้วย ไม่รู้จะเกิดอันตรายขึ้นรึเปล่า” ความกังวลของกลอยใจ ทำให้ภูเมฆเริ่มปวดหัว เดินพล่านเหมือนคนหาทางออกไม่เจอ“น้าขวัญไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” รุ่งอรุณปลอบประโลมมารดาไปตามประสาเด็ก “อาจจะไปสปาก็ได้ น้าขวัญเคยบอกว่าถ้าช่วงไหนเหนื่อย ๆ ก็จะไปสปา”“สปาที่ไหน?”“หรือว่า...” อยู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็วาบเข้ามาในหัวของภูเมฆ เมื่อคิดได้ว่ายังมีอีกที่...ที่เธอมักใช้เพื่อซ่อนตัวจากโลกใบนี้ !ใช่แล้ว...ขวัญชีวาหอบความเจ็บปวดหนีมาหลบอยู่ที่ถ้ำสวรรค์ หนีมาตั้งหลักพักใจ หวังให้สายน้ำอุ่นในสระนางฟ้าช่วยชำระความเจ็บปวดให้ทุเลาเบาบางลงแต่มันก็ไม่ได้ผล ดูเหมือนที่แห่งนี้จะทำให้หัวใจของเธอยิ่งบอบช้ำหนัก เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะเห็นความทรงจำซ่อนอยู่“คุณภู...”ความจริงเธอคิดจะมารอเขานั่นแหละ เธอไม่ได้เชื่อคำพูดของกีรติร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แต่ก็แอบลังเลใจอยู่เสี้ยวหนึ่ง เธอจึงอยากจะถามเขาให้แน่ใจเสียก่อ
“งั้นเหรอ?”“เป็นความจริงรึเปล่าภู” กีรติยังแกล้งตีหน้าซื่อ “เรื่องที่เธอบอกว่านายให้มาหา นายกับเธอ มีอะไรกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง?”“แล้วนายทำอะไรเธอรึเปล่า” ภูเมฆไม่คิดปฏิเสธ แต่ก็ไม่ตอบคำถาม “อยากบอกอะไรฉันมั้ย?”“ฉันจะทำอะไรเธอได้” กีรติแอบหน้าเสีย แต่พยายามปั้นหน้าไม่ให้มีพิรุธ “เธอต่างหากที่ทำร้ายฉันแล้วหนีไป ฉันว่านายไม่ควรเก็บงูพิษไว้ใกล้ตัวนะ”“งั้นสินะ!” เขาไม่ควรเก็บงูพิษไว้ใกล้ตัวขณะนั้นเอง...อยู่ ๆ สายฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ราวกับฟ้าพิโรธ...เสียงฟ้าลั่นฟ้าร้องดังครืดคราดไปทั่วทั้งผืนฟ้า ลมพายุรุนแรงกระหน่ำจนต้นไม้ไหว “นายหัวครับ นายหัว!!” เสียงของละอุ่นนั่นเองที่ตะโกนเรียกเขาอย่างร้อนใจมาจากข้างล่าง ตะโกนแข่งกับสายฝนและลมแรงน่ากลัว ภูเมฆไม่รอช้ารีบลงไปหาละอุ่นที่ใต้ถุนบ้าน เพราะตัวเขาเองก็มีเรื่องร้อนใจจะถามละอุ่นเช่นเดียวกัน ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าขวัญชีวาปลอดภัยดี“แย่แล้วนายหัว! ฝายกั้นเหนือเขื่อนพัง ตอนนี้น้ำลงไปขังในเหมืองเต็มแล้วครับ ต้องไปช่วยกันยกเครื่องจักรและขนเครื่องมือบางส่วนขึ้นมาครับ”“งั้นเหรอ...แล้วขวัญล่ะ?” ละอุ่นชะงัก “วันนี้ผมยังไม่เจอขวัญเลยครับ เ
“คุณนี่มันทุเรศจริง ๆ !!”เธอด่าเขาแล้วหันหลังจะกลับ แต่โดนเขารวบตัวไว้ได้ แล้วฉุดลากเข้าห้องนอนทันที“อื้อ อื้อ!!” เธอพยายามขัดขืนดิ้นรนสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่อาจต้านแรงของหนุ่มจอมหื่นได้“เนื้อตัวหอมชะมัดเลยวุ๊ย”“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!”“ฉันปล่อยแน่ แต่เธอต้องนอนกับฉันก่อน”“สารเลว! คุณภูช่วยด้วย!”“ฮ่า ๆ จะไปร้องเรียกเขาทำไม เธอคงไม่รู้สินะว่าเขาเป็นคนเปิดทางให้เราเอง ไม่งั้นเขาจะนัดเธอมาให้ฉันเหรอ ยัยโง่!! อย่าซื่อบื้อไปหน่อยเลย!!”อะไรนะ...เธอหนาววูบไปทั้งตัวเลย เมื่อรู้ว่าเธอถูกหลอกมาอย่างเลือดเย็น “ไม่จริง!”“จริงสิ! เขาบอกว่าใช้ห้องเขาตามสบายเลย ยังบอกด้วยว่าเธอมันเผ็ดร้อนสุด ๆ รับรองว่าฉันต้องสนุกจนลืมที่นี่ไม่ลงเลยล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”ขวัญชีวานิ่งอึ้ง หัวใจแตกสลาย ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอ...เป็นไปไม่ได้“ปล่อยฉัน!” เธอดิ้นสุดชีวิต จนเกือบจะหลุดจากพันธนาการร้าย ชายหนุ่มจึงต่อยหน้าท้องเธออย่างแรงเพื่อปราบพยศ “โอ๊ย!”ความเจ็บที่เกิดกับร่างกาย ยังไม่เท่ากับความเจ็บที่เกิดในหัวใจ ความโกรธแค้นทำให้เธอทนไม่ไหว ออกแรงอีกครั้งด้วยการแตะผ่าหมากชายชั่วไปเต็มตีน“โอ๊ยยยยย!” กีรติหน้าเขียวปั๊ด ก
“ของเล่นน่า”“เลิศค่ะ” กานต์สินียิ้มอย่างสะใจ แทบจะรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว...เช้าวันต่อมา...ขวัญชีวารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจนลุกจากที่นอนแทบไม่ไหว แรงสวาทไม่ปรานีเธอ ลงโทษความอ่อนแอของเธอด้วยการดูดพลังเธอไปจนหมด“ไม่ได้ เราจะอ่อนแอไม่ได้” เธอบอกตัวเองให้ลุกขึ้นสู้ แล้วออกไปทำงานซะ อย่าให้ใครดูถูกได้ว่าเป็นจอมสำออย ชอบเรียกร้องความสนใจแต่วันนี้เธอออกจากบ้านพักสายกว่าทุกวัน อาจเป็นวันแรกในรอบปีที่เธอไปทำงานสาย ขณะที่เธอกำลังล็อคประตูบ้านอยู่นั่นเอง...“นี่ยัยขวัญ!” ยะหยาเข้ามาหาเธอ ด้วยท่าทีมึนตึงไม่พอใจ สอดมือกอดอก มองเธอด้วยสายตาดูถูก “เมื่อคืนเธอกับอุ่นออกมาด้วยกันใช่มั้ย มาพลอดรักกันที่บ้านล่ะสิ ไหนบอกว่าไม่ได้ชอบอุ่นไง แล้วทำไมยังพยายามยั่วยวน ให้ความหวังเขาอีก”“เธอเข้าใจผิดแล้วยะหยา เมื่อคืนเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน และฉันไม่เคยยั่วใคร”“งั้นเหรอ แต่ฉันเห็นอุ่นออกมาจากบ้านของเธอนะ ตกลงจะเอาไง เธอจะไม่ปล่อยอุ่นแน่ ๆ ใช่มั้ย”“ฉันกับอุ่นเป็นแค่เพื่อนกัน” เธอย้ำให้ยะหยาเข้าใจอีกครั้ง แม้มันจะเสียแรงเปล่า“ให้มันจริงเหอะ! ฉันจะคอยดู”“อย่ามัวแต่คอยดู ถ้าเธอชอบอุ่นจริง เธอก็ค