ธีทัตไม่รู้ว่าชีวาพรกำลังทำอะไร เขาได้ยินเพียงเสียงกุกกักดังมาจากห้องครัว ส่วนเจ้าตัวกลมที่ทำท่าเหมือนหิวจนกินกำปั้นของตัวเองได้นั้น ในเวลานี้กลับสงบ ยืนเกาะขอบคอกกั้นแล้วมองเขาตาแป๋ว
“สวัสดี นายชื่ออะไร”เมื่อคนเป็นแม่ไม่อยู่ เหลือแต่เจ้าตัวกลม เขาจึงชวนเจ้าตัวคุย ซึ่งไม่ผิดหวัง เด็กน้อยตอบรับโดยไว แถมด้วยน้ำลายที่ไหลย้อยถึงคางกลมๆ“แอ...แอ๊...แอ๊...”“นายยังพูดไม่ได้เหรอ แต่นายไม่ถึงหนึ่งขวบนี่นา สงสัยยังเดินไม่ได้ด้วย”“เอิ๊กๆ”ถูกเผงเลย...ถ้าเจ้าตัวกลมพูดได้คงตอบเขาเช่นนี้ ธีทัตหัวเราะ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กน้อยที่กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากใส่เขา ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กทุยที่มีผมสีดำปกคลุม แล้วเพ่งมองดวงหน้าเล็กกลม...เมื่อมองมากเข้า เขาก็รู้สึกหายใจติดขัดเสียดื้อๆ มือหนายื่นไปจับปลายคางมน เด็กตัวกลมไม่ถอยหนี ไม่กลัวเขา มันทำให้เขารู้สึกทึ่ง เพราะเขายังติดภาพจำมาจากหลานสาว...กว่าฟ้าใสจะยอมให้ลุงธีร์เข้าใกล้ เขาต้องรอจนหลานอายุเกือบครบหนึ่งขวบ ทั้งที่เขาเห็นฟ้าใสมาตั้“กล้องวงจรปิดที่บ้านของกวาง กวางพาลูกไปที่บ้าน กวางพูดกับกล้องว่ากวางพาลูกชายไปเดินเล่น เพราะลูกชอบสนามหญ้ากับต้นไม้ใหญ่”ธีทัตไม่มีทางเดาสุ่ม เพราะเขายกคำพูดของเธอมาทั้งดุ้นได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เธอตั้งใจบอกเจ้าของบ้านคนใหม่อย่างนั้นจริงๆ เพราะต้องการให้รู้ว่าเธอไม่มีเจตนาร้ายในการเข้าไปในบ้าน“พี่ซื้อบ้านจากคุณพ่อของกวางเก็บไว้เอง”ชีวาพรครางอยู่ในใจ...นึกอยู่แล้วเชียวว่าทำไมธีทัตถึงรู้เรื่องของเธอได้ละเอียดขนาดนี้“งั้นกวางขอโทษคุณที่บุกรุกเข้าไปในบ้านหลังนั้นค่ะ”“เราเป็นผัวเมียกัน พี่ซื้อบ้านไว้ มันก็จะกลายเป็นบ้านของเรา”ในขณะที่ชีวาพรพยายามถอยห่างไปตั้งหลัก แต่เขากลับโยนบ่วงมาคล้องเธอ แล้วกระชากให้เธอกลับไป...เขาสนุกกับเกมนี้นักหรือไง“บ้านเป็นของคุณแล้วค่ะ คุณใช้เงินของคุณซื้อมา กวางกับลูกไม่เกี่ยวข้องกับบ้านหลังนั้น”“พี่เปิดประตูรั้วเล็กเอาไว้ตั้งแต่วันนั้น เผื่อกวางจะพาลูกเข้าไปเดินเล่นในบ้านอีก แต่กวางก็ไม่ได้พาลูกไป”หญิงสาวกลอกตามองเพดาน...ดูเขาทำสิ
ชีวาพรนั่งมองลูกน้อยที่เกาะตามขอบคอกกั้นแล้วเดินไปรอบๆ หลังจากกินนมอิ่ม น้องพร้อมก็อารมณ์ดี ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน แต่เมื่อย้ายมาอยู่ในคอนโดมิเนียมของเมืองใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียมก็ไม่มี เธอจึงจำยอมให้ลูกใช้พื้นที่แค่ในห้องพักนึกถึงนิสาที่กลับไปเชียงรายแล้ว เพื่อนของเธออาลัยอาวรณ์น้องพร้อมมาก ย้ำว่าถ้ามีเวลาว่างก็จะมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ ซึ่งในตอนเย็นก่อนที่นิสาจะเดินทางกลับ เจ้าตัวได้พาน้องพร้อมลงไปเดินเล่นในล็อบบี้และพูดคุยกับน้องพร้อมโดยไม่ทันเห็นว่าเธอได้ตามลงไปด้วย‘เดือนหน้าบูบุ๊ยคงเดินได้คล่องมากขึ้น ช่วงนี้หนูต้องใช้พื้นที่กว้างๆ หัดเดิน ถ้าบูบุ๊ยได้ไปหัดเดินในสนามหญ้ากว้างๆ ที่บ้านราชเวคิน มันจะดีแค่ไหนนะ เฮ้อ! น้ารู้สึกสองจิตสองใจกับเรื่องนี้มาตลอด ใจหนึ่งอยากให้บูบุ๊ยได้เป็นลูกของพ่อธีร์ เพราะหนูจะได้รับสิ่งดีๆ จากเขา พ่อธีร์ของหนูมีพร้อมทุกอย่าง เขาจะจัดหาให้หนูได้ แต่อีกใจน้าก็เป็นห่วงแม่ของหนู น้ากลัวพ่อธีร์จะทำให้แม่กวางเสียใจอีก’ชีวาพรรู้สึกสะเทือนใจ เธอปิดกั้นความคิดที่จะให้น้องพร้อมได้รับสิ่
“กวางต้องทำงานและลูกก็อยู่ได้ค่ะ”เสียงของชีวาพรแข็งขึ้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกอะไรกับการนำลูกน้อยวัยทารกไปฝากคนอื่นเลี้ยง แต่ในเมื่อมันเป็นความจำเป็น...เธอก็ต้องทำ“ลาออกจากงานได้ไหม แล้วอยู่บ้านเลี้ยงลูก”“ไม่ได้ค่ะ”การมีงานทำและมีรายได้จะทำให้เธอกับลูกมีชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น เงินที่พ่อแบ่งมาให้หลังจากปิดกิจการมันมีพอแค่สำรองใช้ในระยะหนึ่ง แต่ไม่อาจกินใช้ไปนานๆ โดยไม่ต้องทำงาน...“พี่ไม่อยากขัดใจกวาง แต่น้องพร้อมเป็นลูกของพี่ กวางรู้แก่ใจดี อีกทั้งพี่กับกวางยังเป็นผัวเมียกัน เราไม่เคยหย่ากัน ที่ผ่านมาเราแค่แยกกันอยู่ ไม่ว่ายังไงพี่ก็ยังมีสิทธิ์ตัดสินใจเกี่ยวกับลูก พี่ไม่เห็นด้วยกับการนำลูกไปฝากเลี้ยง ลูกยังเล็กเกินไป พี่ไม่อยากเสี่ยง พี่ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงกับเรื่องพวกนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องพร้อม เราจะเสียใจในภายหลัง สู้เราทำให้มันดีตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า...กวางไม่เห็นหรือว่าขนาดพี่เป็นพ่อแท้ๆ ลูกยังไม่ยอมให้พี่อุ้ม พี่เข้าใจว่าธรรมชาติของเด็กว่าไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าง่ายๆ เขารู้สึกไม่ปลอดภัย แล้วในช
“พ่อ เอ่อ...ลุงธีร์จะหาพี่เลี้ยงมาดูแลหนู เขาจะอยู่กับหนูด้วย แม่ไม่รู้ว่าหนูชอบพวกเขาหรือเปล่า”ชีวาพรพูดในขณะที่สวมชุดนอนให้เจ้าตัวกลม หากเมื่อเห็นว่าดวงตากลมใสกำลังมองเธออยู่ หญิงสาวก็รู้สึกตื้อในอก...การเปลี่ยนแปลงสถานที่และผู้คนที่อยู่รอบตัว มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเด็ก ลูกของเธออายุแค่สิบเดือน ลูกยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าหากลูกรู้สึกกลัวและไม่วางใจกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ลูกจะทุกข์และทรมานใจสักแค่ไหน...ไฟในบ้านถูกปิดลง ก่อนที่รถสปอร์ตคันสีดำจะแล่นผ่านประตูรั้วใหญ่ เมื่อคนขับรถปิดประตูรั้วแล้ว รถคันนั้นก็ถูกบังคับให้แล่นไปทางหน้าปากซอย เขาแลกบัตรตรงป้อมยามของคอนโดมิเนียมเพื่อเข้าไปจอดรถในพื้นที่สำหรับแขกที่มาเยือนแม้ไม่ได้ขึ้นไปหา แต่การได้นั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ ในสถานที่ที่รู้ว่าลูกและเมียของเขาพักอาศัย ธีทัตก็รู้สึกอุ่นใจ...ไม่อยากเชื่อเลยว่าในที่สุดเขาก็ได้พบเธอและลูก ลูกของเขาน่ารักเหลือเกินชีวาพรคงไม่รู้ว่าเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องพักของเธอ เขายังเดินวนอยู่ตรงหน้าลิฟต์นานนับสิบนาที เพราะเขาตัดใจจากลูกไม่ได้ เขาอยากเดินกลับไ
“นั่นสิ เขาจับตามองพี่ตั้งแต่ลงจากรถ พอพี่บอกว่ามาหาลูกเมีย ลูกเมียของพี่อยู่ที่นี่ เขาก็ไม่เชื่อ พี่ต้องงัดหลักฐานว่าพี่กับกวางเป็นผัวเมียกันจริงๆ พี่เอารูปคู่ของเราให้เขาดู มีรูปถ่ายของน้องพร้อมด้วย เขายังบอกว่าน้องพร้อมหน้าเหมือนพี่”ธีทัตไม่ได้บอกว่าขั้นตอนมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาเล่า เพราะเขาเคยใช้วิธีนี้แต่ไม่สำเร็จ รอบนี้เขาจึงต้องงัดหลักฐานความเกี่ยวพันของตนกับสองแม่ลูกเพื่อยืนยันกับรปภ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปของน้องพร้อมในอิริยาบถต่างๆ ที่ถ่ายในห้องนี้ส่วนชีวาพรถึงกับครางในอก ไม่อยากเชื่อเลยว่ารปภ.ที่เธอให้คะแนนเต็มร้อยในเรื่องความตรงไปตรงมานั้นจะหลงลมปากคนเจ้าเล่ห์คนนี้ไปแล้ว กระนั้นเธอก็ยังมีเรื่องสงสัย“คุณเอารูปของลูกมาจากไหนไปให้เขาดู”“เมื่อวานตอนที่กวางเข้าไปในครัว พี่ได้ถ่ายรูปลูกเก็บไว้ พี่แค่อยากเก็บรูปของลูกเอาไว้ดูตอนที่คิดถึงแก”รูปของลูกอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาแล้ว เมื่อเขายื่นให้เธอดู ชีวาพรก็อดที่จะดูไม่ได้ ทั้งที่ยังขุ่นใจเขาอยู่“วันนี้กวางหยุดงานสักวันนะ จัดการเรื่องของลูกให้เร
เมื่อข้าวตุ๋นในหม้อสุกได้ที่ ชีวาพรจึงตักข้าวมาใส่ถ้วยรอไว้เพื่อให้เย็นลง อีกสักพักเธอจะได้ป้อนข้าวให้ลูกกินเธอรู้ว่าน้องพร้อมยังไม่หิว เพราะยังไม่ถึงเวลากิน หากทุกครั้งที่ลูกเห็นว่าเธอกำลังตุ๋นข้าว เจ้าตัวกลมก็จะร้องขอเหมือนกำลังหิว นี่แหละ...ที่มาของหุ่นจ้ำม่ำของลูกชายเธอน้องพร้อมเงียบไปจนชีวาพรต้องขยับกายออกมามองผ่านช่องประตูของห้องครัว เธอเห็นสองพ่อลูกนั่งอยู่ใกล้ๆ แต่คนเป็นลูกกลับหันหลังหนีและสนใจเพียงขวดน้ำพลาสติกที่เธอวางไว้ให้เล่นตั้งแต่เพิ่งตื่นนอนเรียวปากสวยเม้มแน่น แค่วันเดียวที่ธีทัตตามมาพบเธอกับลูก ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง มันเปลี่ยนเร็วเสียจนเธอรู้สึกเอะใจ เกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาธีทัตบอกว่าเขาและเธอยังไม่ได้หย่ากัน ในทางกฎหมายทั้งสองคนยังเป็นสามีภรรยา หากในความเป็นจริงชีวาพรรู้ว่าสถานะของเธอที่ทุกคนมองเห็นนั้นคือแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอครองสถานะแม่ม่ายที่มีลูกหนึ่งคนมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว...มันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ธีทัตกลับมาในคราวนี้ เขาทำเหมือนอยากคืนดีกับเธอ...แค่ทำเหมือนนะ แต่เขาไม่ได้พูดออกมาสักคำเจ็บจี๊ดตรงหัวใจ...ในห
ชีวาพรไม่อาจปฏิเสธความหวังดีของธีทัต เธอปล่อยให้เขานั่งรออยู่ภายในห้องพัก ในขณะที่เธอจัดการให้ลูกกินข้าวตุ๋นจนหมดถ้วย ต่อด้วยให้เจ้าตัวป้อมเล่นอยู่ในคอกกั้นอีกพักใหญ่ เพราะเห็นลูกกำลังเพลิน จนได้เวลาที่นัดกับผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กไว้ว่าจะพาน้องพร้อมไปคุยเรื่องลาออกเก้านาฬิกาเศษ รถสปอร์ตคันสีดำจึงแล่นออกจากคอนโดมิเนียม โดยชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งประจำเก้าอี้คนขับ ส่วนเก้าอี้โดยสารนั้นมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยและเด็กน้อยตัวกลมนั่งมาด้วย“เมื่อกี้คนงานมาเคลียร์บ้านให้เรียบร้อยแล้ว กวางกับลูกย้ายข้าวของไปอยู่ได้เลย ปกติคนงานเข้ามาทำความสะอาดทุกสัปดาห์ ส่วนคนสวนก็มาดูแลต้นไม้และตัดหญ้าอยู่เป็นประจำ พี่กำชับไว้ว่าอย่าปล่อยให้บ้านทรุดโทรม ต้องดูแลบ้านบ้านให้มีสภาพเหมือนตอนที่กวางกับคุณอายังอาศัยอยู่”“สิ่งไหนที่เป็นของคุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะทำหรือไม่ทำอยู่แล้ว กวางไม่อยากให้คุณดึงกวางกับคุณพ่อเข้าไปเกี่ยวข้องค่ะ”ชีวาพรบอกปัด เพราะต้องการปกป้องความรู้สึกตัวเอง เธอไม่อยากได้ยินคำพูดที่ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของเขาบ่อยเกินไป เพราะมันจะทำให
ธีทัตยกมือไหว้คุณเขม ท่าทางสุภาพและนอบน้อมของเขาทำให้คนที่นั่งอุ้มลูกตัวเกร็งแทบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เธอกำลังนึกหวั่นว่าเขาจะวางมาดบอสใหญ่แห่งราชเวคิน กรุ๊ปในที่แห่งนี้...เพราะเธอเกรงใจคุณเขม“คุณแม่บอกว่าจะมีพี่เลี้ยงมาดูแลน้องพร้อมที่บ้าน ฉันเลยอยากถามให้มั่นใจว่าน้องพร้อมจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อันที่จริงมันเป็นสิทธิ์ของคุณพ่อและคุณแม่ในการดูแลน้องพร้อม แต่เมื่อคุณแม่พาน้องพร้อมมาฝากเลี้ยงไว้ที่นี่และมันยังไม่ครบกำหนดเวลา ฉันก็อยากให้มั่นใจว่าไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของเด็ก”“พี่เลี้ยงที่จะมาดูแลน้องพร้อมเป็นพี่เลี้ยงเก่าของหลานผมเองครับ ช่วงแรกๆ ผมจะอยู่ดูแลลูกด้วย”“คุณเคยเลี้ยงน้องพร้อมหรือเปล่าคะ น้องพร้อมคุ้นเคยกับคุณแค่ไหน”คำถามนั้นทำให้คนตัวโตรู้สึกอึดอัดใจ ชีวาพรคิดจะช่วยเขา แต่ไม่ทันแล้วแหละ เพราะเมื่อเขาขยับตัวมาใกล้เธอ ลำแขนล่ำสันจึงสัมผัสกับเรียวแขนเสลา พลันมือป้อมก็ยื่นไปปัดออกโดยไว พร้อมกับเสียงขู่คำรามอย่างแสนน่ารัก“ง้อออ!”ธีทัตอยากคิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ ลูกไม่ตั้งใจทำ แต่เมื่อเขา
“อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อของแท้เลย”“ทำไม เขาก็เลี้ยงลูกดี”“เพราะพ่อจะปั้นลูกให้เป็นซุปต้าร์น่ะสิ ไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้ธีร์เข้าชมรมคนเห่อลูกเรียบร้อยแล้ว”แพทริเซียพูดกับสามีในขณะนั่งดูคลิปผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คลิปนี้ปรากฏขึ้นบนไอจีของธีทัต ส่วนรูปถ่ายจำนวนมากนั้นอยู่ในเพจของราชเวคิน กรุ๊ป“พวกเขาน่าจะกลับมาคืนดีกันแล้ว”“แพทรู้มาว่าพวกเขาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว ก็บ้านเดิมของคุณกวางนั่นแหละ เห็นผู้จัดการบอกว่าคุณธีร์ไปส่งคุณกวางที่โรงแรมอยู่บ่อยๆ”“ดีนะ โรงแรมของเราได้ยกระดับไปในตัว เพราะลูกสะใภ้ของราชเวคินมาทำงานด้วย”“นั่นสิ ตอนแรกแพทไม่ได้คิดอะไร มองแค่ว่าคุณป๊อบช่วยคุณกวางให้มีงานทำ เพราะคุณกวางต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่พอรู้ว่าคุณกวางมีความสามารถด้านภาษาในระดับดี ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน แถมภาษาสเปนอีกนิดหน่อย แพทก็คิดว่าถ้าหลุดไปคงจะเสียดายมาก เพราะโรงแรมสาขานี้ไม่มีพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านภาษาเลย ตอนนี้กลายเป็นเราได้โบนัสเพราะรับพนักงานที่ชื่อชีวาพรเข้า
น้องพร้อมอายุครบหนึ่งขวบ เด็กชายได้ตัดเค้กวันเกิดอีกรอบไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเดินได้คล่องมากขึ้น แถมยังขยันทำท่าทางตลกให้คนทั้งบ้านได้หัวเราะถึงแม้ธีทัตยังมองไม่เห็นจุดบรรจบของความสัมพันธ์แบบผัวเมียกับชีวาพร แต่ในฐานะพ่อของลูก...เขาทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุ่มเทสุดตัว“วันนี้พ่อต้องไปทำงาน น้องพร้อมจะไปกับพ่อไหมครับ”“คุณพาลูกไปได้หรือคะ”“หนูตอบคุณแม่ไปสิครับว่าได้แน่นอน ตอนนี้หนูโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็กทารกแล้วนะ ดูสิ หนูมีฟันขึ้นตั้งหลายซี่ แถมยังเดินได้คล่องอีกด้วย ไหน! น้องพร้อมเดินโชว์ให้คุณแม่ดูหน่อยสิครับ”เมื่อคุณพ่อทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับตัวเอง น้องพร้อมก็ยิ้มร่าเริงเป็นเชิงตอบรับ สองมือป้อมยันพื้นเอาไว้ แล้วยกก้นโด่งขึ้น กระทั่งท่อนขาสั้นป้อมยืนได้อย่างมั่นคง เจ้าตัวน้อยก็ออกเดินหัวซุนไปหาแม่ชีวาพรยิ้มกับความน่ารักของลูก เธอยกเจ้าร่างป้อมขึ้นมาอุ้มและหอมแก้มนุ่มๆ นั้นอย่างแสนรัก“เป็นไงครับ ผมโตพอที่จะไปทำงานกับคุณพ่อได้หรือยัง”น้องพร้อมออกอากา
“เมื่อไรกวางจะกลับไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน”คนที่ตามเข้ามาป้วนเปี้ยนถึงในห้องครัวถามขึ้นมา วันนี้เขาไปรับเธอกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่เมื่อเช้าเขาเซ้าซี้เพื่อไปส่งเธอรอบหนึ่งแล้ว...“อยู่บ้านหลังนี้ก็สบายอยู่แล้วนี่คะ หรือว่าคุณธีร์อึดอัด คุณกลับไปบ้านโน้นบ้างก็ได้ คุณมานอนค้างคืนอยู่ที่นี่บ่อยเกินไป”“ใครสอนให้พูดอย่างนี้”ธีทัตเคาะหน้าผากเมียเป็นการทำโทษ หญิงสาวปัดมือหนาออก เธอทำหน้ามุ่ยได้อย่างน่ารัก จนเขารู้สึกมันเขี้ยว...นึกอยากจับเมียมาทำโทษด้วยการจูบปากเสียให้เข็ดคนตัวโตมองหญิงสาวที่ง่วนอยู่หน้าเตาตาปรอย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เขาไม่อาจแตะแม้กระทั่งปลายนิ้วของเธอ ทั้งที่ข้างในกายรุ่มร้อน โหยหาเมียเหลือเกิน...ชะรอยดวงตาของเขาคงสื่อความรู้สึกให้เธอรู้ ตะหลิวในมือจึงถูกเงื้อขึ้นมาขู่ จนเขาต้องกระแอมในลำคอ แล้วบอกเธอเสียงอ่อน“พี่ไม่ได้อึดอัดที่จะอยู่ที่นี่หรอก พี่อยู่ที่ไหนก็ได้ที่กวางกับน้องพร้อมอยู่ พี่แค่อยากให้กวางได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่มากกว่านี้”“บ้านหลังนี้ไม่ควรอยู่หรือคะ?
ในช่วงเวลาบ่ายใกล้เย็นของวันนั้น รถคันสีครีมคุ้นตาแล่นเข้ามาในบ้าน ชีวาพรยืนมองด้วยความสงสัยว่ามันเป็นรถของใครกัน กระทั่งได้เห็นรถคันนั้นอย่างชัดตา เธอจึงหันไปมองธีทัตด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม“รถของกวาง...พี่ให้คนขับรถที่บ้านโน้นเอามาคืนให้ รถคันนี้พี่ซื้อให้กวาง ในช่วงที่กวางไม่อยู่ คนขับรถดูแลรถเป็นอย่างดี เช็กสภาพรถไว้ตลอด และไม่ได้ให้ใครใช้รถคันนี้ด้วย ตอนนี้รถติดคาร์ซีตแล้ว กวางจะได้ขับรถพาน้องพร้อมออกไปข้างนอกได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้ว คุณทำอะไรของคุณ”“นั่นสิ พี่ทำอะไรของพี่”ธีทัตยิ้มขื่น เมื่อย้อนนึกถึงพฤติกรรมของตัวเอง เขาคงเป็นบ้าตามที่ชีวาพรพูดจริงๆ เขาทำเหมือนชีวาพรยังอยู่กับเขา ทั้งที่เป็นตัวเขาเองที่บอกให้เธอไปหลังจากครบกำหนดที่ทั้งสองคนเคยตกลงว่าจะหย่าจากกันตลอดหนึ่งปีกว่าที่ชีวาพรไม่อยู่กับเขา เขาไม่ได้ออกตามหาเธอ แต่ทุกขณะจิตเขายังคิดว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว แม้ภายนอกใครจะมองว่าเขากลับมาเป็นโสดก็ตาม เขาใช้ชีวิตแบบคนโง่ไปวันๆ คนโง่ที่รู้ใจตัวเองแต่แบกอีโก้ไว้สูงเกินไป เขาทำให้เรื่องมันแย่ไปเสียหมด สุดท้ายเขาถ
“จะเป็นไรไปล่ะ”แค่เพียงวางน้องพร้อมลงบนโต๊ะ เจ้าตัวก็โผนไปหาเค้กแฟนซีที่เป็นตุ๊กตาหมีอยู่บนหน้าเค้กในทันที สองมือน้อยๆ คว้าหมับไปที่หน้าเค้ก ซึ่งแน่นอน...มันเละคามือป้อมๆน้องพร้อมออกอาการงุนงง ทำไมลูกหมีที่ประดับอยู่บนเค้กถึงได้เละคามือ เจ้าตัวน้อยยกมือที่เลอะครีมขึ้นมาดู ฉับพลันดวงหน้ากลมก็บิดเบ้“ไม่เป็นไรนะครับ มันเป็นเค้กวันเกิดของหนู หนูจะทำอะไรกับมันก็ได้”คนเป็นพ่อกล่อม แถมยังช่วยลูกเล่นเค้กด้วยการจิ้มครีมแล้วป้ายบนแก้มกลมๆ ชีวาพรรู้ว่าลูกกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกเสียดายเค้ก ซึ่งพี่เลี้ยงของลูกก็อ่านความคิดของเธอได้“น้องพร้อมได้สัมผัสและได้ขยำเค้ก ถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กไปในตัวค่ะ”“แต่มันเป็นของกิน เฮ้อ! กวางต้องทำใจสินะคะ”“ทำไมต้องทำใจ ลูกกำลังตัดเค้กให้เรากินอยู่นี่ไงล่ะ”ธีทัตแย้ง ส่วนพี่เลี้ยงของน้องพร้อมก็ลอบยิ้ม...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพ่อกับลูกได้เจอกันแค่เพียงไม่กี่วัน แต่ลูกก็ติดพ่อหนึบแล้วน้องพร้อมจะตัดเค้กยังไง? ...ชีวาพรยังรู้
มันเป็นความเคยชินสำหรับช่วงนี้ไปแล้วที่หากมีเรื่องอะไร ธีทัตจะโทร.ไปหาก่อฤกษ์...เรียกได้ว่าน้องชายฝาแฝดเป็นที่ปรึกษาของเขา“มึงห้ามผู้หญิงไม่ได้หรอก เธอมีเหตุผลของเธอ ถ้ามึงอยากเข้าใจเธอ มึงต้องยืนอยู่ในจุดของเธอ”คำตอบเฉียบคมเหมือนเดิม จนธีทัตนึกสงสัยตงิดๆ ขึ้นมาว่าก่อฤกษ์กำลังดึงเขาเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าอยู่หรือเปล่า เพราะเรื่องที่เกิดกับเขานั้นดันคล้ายกับเรื่องที่กำลังเกิดกับเจ้าตัวฝนแก้วกำลังเรียนระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยที่เมืองเพิร์ท ถึงแม้น้องสะใภ้ต้องเลี้ยงลูกถึงสองคน แต่เธอมีความตั้งใจสูงที่จะเรียนต่อ ดังนั้นก่อฤกษ์จึงรับหน้าที่เลี้ยงลูกไปโดยปริยายเพื่อให้เมียเรียนจบตามที่ตั้งใจว่าก็ว่าเถอะ...ธีทัตรู้สึกค้านมาตลอด เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฝนแก้ว แถมไม่เข้าใจน้องชายที่สนับสนุนเมีย แต่เขาพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของน้องชายหากเมื่อถึงเวลานี้ ธีทัตกลับเจอปัญหาคล้ายกัน มันเป็นคำถามที่อยู่ในใจของเขามา 2-3 วันแล้วว่าทำไมชีวาพรจะต้องออกไปทำงานข้างนอก ในเมื่อเขายินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เขายินดีจะให้เธอมากกว่านี้ด
นาตาลีรู้สึกคาใจกับเด็กหน้ากลมผมดกดำคนนั้นมาทั้งวัน ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงที่พักในตอนค่ำ หญิงสาวจึงติดต่อไปหาเพื่อนที่อยู่เมืองไทยซึ่งเคยส่งรูปถ่ายของเด็กคนนั้นมาให้เธอ“มีอะไรเหรอแพม”“เด็กคนนั้นเป็นใคร”“เด็กคนไหน?”“คนที่เธอเอารูปจากไอจีของคุณธีร์ส่งมาให้ฉันดูไง”“ไหนเธอบอกว่าไม่สนใจไง แล้วมาถามอะไรอีก”“อย่าเรื่องมากนะจูลี่”อารมณ์ของนาตาลีเริ่มขุ่นมัว แต่เพื่อนไม่ได้ถือสาหาความเธอ ได้แต่ตอบเธอไปตามความรู้สึกแท้จริง“ฉันมั่นใจว่าเด็กเป็นลูกของคุณธีร์ ฉันไม่ได้มีข้อมูลลับอะไรหรอก ฉันแค่ประมวลจากคอมเมนต์จากเพื่อนและคนใกล้ชิดของเขาตอนที่เห็นรูปถ่ายบนไอจี รวมถึงข่าวเมื่อวานที่บอกว่าเด็กเป็นทายาทราชเวคิน อ้อ! เขามีรูปถ่ายของเด็กอีกชุดหนึ่ง คราวนี้ลงในข่าวออนไลน์เลย ฉันไม่รู้ว่าเธอเห็นหรือยัง”“เห็นแล้ว”เพราะเห็นว่ารูปถ่ายของเด็กคนนั้นถูกนำไปลงเป็นข่าวบนสื่อออนไลน์ เธอจึงไม่อาจวางเฉย อีกทั้งฉากหลังของรูปถ่ายยังเป็นบ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เ
ธีทัตเปิดประตูรั้วด้วยกุญแจที่ตนถือไว้ จากนั้นจึงนำรถไปจอดในโรงจอดรถ แล้วเข้าไปในบ้านโดยใช้รหัสเปิดประตูบ้านทั้งหลังเงียบกริบ เขาเดินเข้าไปในห้องเด็กที่อยู่ชั้นล่าง แต่ลูกไม่อยู่ในนี้ ชะรอยว่าลูกยังอยู่ในห้องนอนชั้นบน เมื่อคิดจะตามขึ้นไป หากต้องชะงักเท้า เพราะฉุกคิดได้ว่าชีวาพรได้สั่งห้ามเขาไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปก่อนที่จะได้รับอนุญาตธีทัตจำใจถอยออกมา หากเมื่อกลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูก เขาจึงเบนทิศทางไปยังห้องครัวชีวาพรยืนอยู่หน้าเตา เธอกำลังทำอาหาร เขาได้กลิ่นขิงจากอาหาร มันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับติดรสมือของเธอ อาหารธรรมดาแต่เธอมักคิดไว้แล้วว่าแต่ละเมนูนั้นทำเพื่ออะไร‘กวางทำไก่ผัดขิงให้พี่ธีร์ค่ะ ช่วงนี้เริ่มหนาว เมื่อวานพี่ธีร์จามตั้งหลายหน เสียงขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัดด้วย เช้านี้กวางเลยทำไก่ผัดขิงให้กินไล่หวัด ไม่รู้ว่าพี่ธีร์กินเป็นมื้อเช้าได้หรือเปล่า ตอนแรกจะทำโจ๊กใส่ขิงเยอะๆ แต่แม่บ้านบอกว่าพี่ธีร์ไม่ชอบกินโจ๊ก’อยากได้ความใส่ใจนี้คืนมา ตลอดหนึ่งปีกว่าที่เธอหายไป เขาได้รู้ว่าบางอย่างในชีวิตข
ร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำอยู่ในสายตาของน้องชายทั้งสองคนที่เดินมาหยุดยืนฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของเขาสักพักใหญ่ ทั้งสองคนหันไปสบตากัน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวมีท่าทางแปลกไปธีทัตนิ่งเงียบ ท่าทางเหมือนคนกำลังเศร้า...มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อกี้พี่ชายใหญ่เพิ่งเล่านิทานให้ลูกฟัง เขาควรมีความสุขมากกว่านั่งคอตกเช่นนี้“กลับมานานแล้วหรือเฮีย แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า”ชนกันต์ถาม...คนถูกถามสะดุ้ง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ายังมีคนอื่นอยู่แถวนี้ แต่เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมา ภพธรจึงถามซ้ำไปด้วย เพราะเห็นท่าทางของพี่ชายชักน่าเป็นห่วง“เมื่อกี้เฮียคุยกับลูกไม่ใช่เหรอ แล้วนั่งคอตกทำไม ผมไม่ได้แอบฟังนะ แค่จะมาชวนเฮียให้ไปกินเบียร์ด้วยกัน แต่เห็นเฮียติดสายก็เลยรอ แล้วมันก็ได้ยินเอง”“น้องพร้อมไม่ยอมนอน กูเลยเล่านิทานให้ลูกฟัง”ธีทัตเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาจากก่อฤกษ์ แต่เขาจำเนื้อหานิทานไม่ได้หรอก เพราะเขาได้แต่ฟังผ่านๆ ในตอนที่น้องชายเล่านิทานให้หลานๆ ฟัง อาศัยการฟังหลายครั้งก็เลยปะติดปะต่อเข้าด้