เมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก็เป็นเวลาที่พระจันทร์รวมถึงหมู่ดาวทำหน้าที่ต่อจากนี้ ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้น พลบค่ำแล้วแสงไฟจากร้านรวงต่างๆ ตึกรามบ้านช่อง ท้องถนนทุกเส้นก็พร้อมใจกันเปิดไฟให้แสงสว่าง ช่วยให้ยามราตรีไม่มืดมิดจนเกินไป
เหล่านักท่องเที่ยวต่างก็ตบเท้ามุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดโต้รุ่งอันเรืองชื่อของหัวหิน จึงไม่แปลกที่จะมีคนต่างชาติต่างภาษาเดินกันเต็มถนน พ่อค้าแม่ค้าต่างให้การต้อนรับกันดิบดี มีทั้งชิมทั้งช้อป เดินเล่นได้ยาวถึงสองฟากถนน จะว่าไปแล้วร้านของฝากถึงแม้จะมีเหมือนๆกัน แต่มันก็คือมนต์เสน่ห์ที่ใครๆก็ต้องมาเยือน เฉกเช่นเดียวกับอันเดรสในตอนนี้ บุรุษร่างสูงใหญ่ หน้าตาบ่งบอกถึงสัญชาติตะวันตกที่มีอยู่ในตัว เดินเคียงคู่กับสตรีรูปร่างผอมบางวัยกลางคน หน้าฝรั่งเช่นเดียวชายหนุ่มรูปงาม ด้านหลังของทั้งคู่มีชายร่างยักษ์ในเครื่องแต่งกายสบายๆเดินตามอยู่สองคน ทำให้ทั้งสี่กลายเป็นจุดเด่น ไม่ว่าจะเดินผ่านไปตรงจุดไหนก็จะมีแต่คนมอง ราวกับว่ามีมาเฟียใหญ่มาเดินชมตลาดก็ไม่ปาน “คุณนายอันนาครับ เราจะเดินชมร้านค้ากันอีกนานไหม ของมันก็มีเหมือนๆกันแทบทั้งนั้น” อันเดรสถามมารดาที่เดินยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขาไม่ใช่พ่อนะที่จะมีความอดทนในการเลือกชมความสวยงามของทุกสรรพสิ่งที่คุณนายอันดาชอบได้ ตอนนี้อยากจะให้พ่อบินด่วนจากอิตาลีมาหาแม่จริงๆ “เดินยังไม่ถึงครึ่งทางเลย แกจะรีบไปไหนอันเดรส หรืออยากจะกลับไปหาหนูเจด้า ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะรีบให้แกพากลับบ้านพักเลย” คุณนายปรายตามองบุตรชาย นางและลูกชายมักจะใช้ภาษาไทยคุยกันอยู่เป็นประจำ อันเนื่องมาจากนางเป็นลูกครึ่งไทย อิตาเลียน บิดาเป็นคนไทยส่วนมารดาเป็นคนอิตาลี ความรักในสายเลือดไทยจึงมีมาก พอแต่งงานกับสามีที่เป็นคนอิตาลีแท้ๆเช่นเดียวกับมารดา พ่อของอันเดรสก็ดันรักประเทศไทยอีก ทำให้ทั้งคู่ไปๆมาๆระหว่างอิตาลีกับประเทศไทยเป็นประจำ อันเดรสเองก็ได้เลือดพ่อแม่มาเยอะ ตั้งแต่เล็กๆก็หัดพูดภาษาไทยควบคู่กับภาษาอื่นทำให้การใช้ภาษาไทยของเขาอยู่ในระดับดีทีเดียว จึงไม่แปลกที่จะได้ยินเขาสื่อสารได้ไม่ผิดเพี้ยน “ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันเข้าใจแล้วนะครับ” อันเดรสหรี่ตามองมารดา หลังกลับจากร้านอาหารเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปคุยเรื่องเจด้ากับคุณนายอันนาทันที จากการเจรจาประมาณหนึ่งชั่วโมง ผลสรุปก็คือแม่เขาเข้าใจและมีเหตุผลมากพอ ที่ผ่านมาเพียงแค่ต้องการจะกระตุ้นเขาเรื่องหาคู่ครองเท่านั้น ส่วนเรื่องจะกันเจด้าออกไปจากวงโคจรนั้นเขาต้องเป็นฝ่ายดำเนินการเอง แม่เขาจะไม่เข้ามายุ่งหากมันไม่ถึงที่สุดจริงๆ เพราะรายนั้นเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณนายอันนา “ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง เลิกมองฉันด้วยสายตาวางอำนาจแบบนั้นได้แล้ว ไม่เช่นนั้นฉันจะฟ้องพ่อแกว่าลูกชายบังเกิดเกล้าข่มขวัญแม่มัน” คุณนายอันนามองค้อนลูกชายแล้วเดินเลี้ยวเข้าร้านขายเสื้อผ้า ครอบครัวของแก้วตาก็ออกจากที่พักมาเดินเล่นที่ตลาดโต้รุ่ง ในมือของแต่ละคนมีของกินคนละอย่างสองอย่าง รวมถึงถุงสินค้าอื่นๆอีก ใครชี้นิ้วไปตรงไหนสามคนที่เหลือก็จะมองตาม และแสดงความคิดเห็นออกมา เสียงพูดคุยผสมผสานกับเสียงประกาศดังไปทั่วแลครื้นเครงร้านคาเฟ่สไตล์วินเทจมีลูกค้านั่งทานเกือบเต็มทุกโต๊ะทั้งที่เพิ่งเปิดร้านได้ราวสิบห้านาที นอกจากเมนูเบเกอรี่แล้วในบางวันก็มีขนมไทยเพิ่มเติมเข้ามา ขนมของที่นี่ไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ ราคาเข้าถึงง่าย“สวัสดีค่ะพี่แก้ว/สวัสดีครับ”“หวัดดีจ้ะ วันนี้ลูกค้าเยอะตั้งแต่ร้านเปิดเลย เหนื่อยกันหน่อยนะ ขนมที่พี่ให้คนเอามาส่งมาถึงแล้วใช่ไหมจ๊ะ”“ขนมมาส่งแล้วค่ะ ต่อให้ลูกค้าเยอะกว่านี้พวกเราก็รับมือไหวค่ะพี่แก้ว” เด็กสาวตอบรับอย่างกระตือรือร้น ได้ทำงานกับเจ้านายสาวสวยและใจดีสุดๆ อย่างพี่แก้วตาโชคดีที่สุดแล้ว“พวกเราช่วยงานพี่ได้มากจริงๆ ขอบใจนะจ๊ะที่ทำงานหนักเพื่อร้านของเรา” แก้วตาพูดกับลูกน้องอีกเล็กน้อยจากนั้นแยกตัวเข้าห้องทำงาน ถ้าไม่ติดธุระอะไรเธอจะเข้ามาดูร้านทุกวัน …วันนี้มาเช้าหน่อย “หนีพี่กับลูกมาที่ร้านคนเดียวอีกแล้วนะยาหยี” คนตามมาทีหลังหน้าตาบอกบุญไม่รับ เพราะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเมียถึงต้องหอบลูกตามมาหาที่ร้าน รอผัวตื่นก่อนก็ไม่ได้“เบาเสียงหน่อยค่ะ” เตือนสามีจอมเอาแต่ใจที่มาถึงก็น่าตีเลยพลางอมยิ้มมองลูกรักในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ “ห้ามทำหน้าบึ้งด้วยค่ะเดี๋ยวลูกค้าตกใจ” แต่อันเดรสตอนนี้
“อ้าวยัยแก้ว หอบหิ้วอะไรมาเยอะแยะล่ะนั่น ทำอย่างกับจะไปเปิดท้ายขายของที่ไหนงั้นแหละ ภาพลักษณ์ไม่เหมาะสมกับที่เป็นภรรยาของคุณอันเดรสเลย ดูลำบากกว่าที่ฉันคิดไว้อีก” น้ำเสียงเย้ยหยันระคนถากถางที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของบุคคลที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้แก้วตาโกรธ แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงได้โชคร้ายที่บังเอิญมาเจอเพื่อนที่ไม่อาจนับว่าเป็นเพื่อนที่นี่“ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ว่าแต่เธอเถอะ มาทำอะไรที่บริษัทสามีฉันดี้”ทว่าคนถูกถามยังไม่ทันจะตอบ“ยาหยี มาถึงนานยังคะ พี่ติดคุยงานกับอันโตนิโอเลยลงมาช้า ขอโทษนะครับ” อันเดรสมาถึงก็หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงก่อนจะแย่งของในมือเมียทั้งหมดมาถือไว้ ภาพแสดงความรักเหล่านี้เป็นที่คุ้นตากันดีของพนักงาน แก้วตายิ้มหวานพลางควงแขนสามี จูบแก้มสากเบาๆ เมื่อเขาเอียงแก้มมาให้ “แก้วเพิ่งมาถึงค่ะ บังเอิญเจอคนรู้จักเลยแวะทักทายนิดหน่อยน่ะค่ะ พี่อันเดรสเคยเจอเธอแล้วพอจะจำได้ไหมคะ” เธอใช้สายตามอง อันเดรสจึงมองตาม“คนนี้เหรอ” “ค่ะ คนนี้”“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณอันเดรส ดี้เป็นเพื่อนของแก้ว เราเคยเจอกันแล้วที่กระบี่ ดี้เห็นว่า
“แก้วยังทำความสะอาดไม่เสร็จ พี่อันเดรสปล่อยแก้วลงเดี๋ยวนี้นะคะ ไม่ต้องหาข้ออ้างหื่นเลย” “ห่วงอะไรเรื่องทำความสะอาด เดี๋ยวพี่ช่วย แต่ต้องหลังจากพี่เราฟัดกันแล้วเท่านั้น” “แต่แก้วอยากทำให้เรียบร้อยก่อน” เธอยังยืนยัน“แต่พี่อยากรักเมีย หิวมาก อยากกิน ให้พี่กินนะคะ” มาถึงห้องนอนชายหนุ่มก็วางเมียลงแล้วรวบเอวคอดมากอดแนบอก สูดดมพวงแก้มหอมกรุ่นหนักๆ “เวลาแก้วเข้าครัวทำพี่หิวตลอด ตอนใส่ผ้ากันเปื้อนแก้วน่ารัก และเซ็กซี่มาก พี่ต้องอดทนทุกครั้งที่จะไม่กินแก้วตอนกำลังวุ่นวายกับสิ่งที่ทำ” มือเขาไม่อยู่สุข ลูบไล้ไปตามไขสันหลังตรง แผ่นหลังบาง พลางซุกหน้าเม้มซอกคอขาวๆ ที่มีรอยแดงจางๆ กระจายหลายจุด“พี่อันเดรสน่ะ” แล้วเธอก็พูดอะไรไม่ออกด้วยอับจนปัญญา ความจริงก็รู้สึกได้อยู่หรอกเวลาที่เธอเข้าครัวมักจะมีสายตาร้อนแรงคู่หนึ่งคอยมองตลอดถ้าอยู่ด้วยกัน พี่อันเดรสชอบเข้ามาคลอเคลียแล้วก็จบลงด้วยการที่เธอถูกกินต่อ วันนี้จำเลยสารภาพเองเธอควรจะตามใจเขาสินะ แต่เธอก็ตามใจเขาตลอดนี่นา ไม่ตามใจก็เอาแต่ใจจนได้“ยาหยีของพี่ดูอวบขึ้นนะคะ โดยเฉพาะตรงนี้ พี่ว่ามันใหญ่ขึ้น พี่ชอบมาก” ฝ่ามืออุ่นร้อนบีบคลึงเต้านมเปลือยเปล่า
หลังผ่านพ้นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอันยิ่งใหญ่ คู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันก็บินลัดฟ้าไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ยุโรปหนึ่งเดือนเต็ม โดยแบกความหวังจากทั้งสองครอบครัวไปด้วย พวกเขาตั้งตารอวันที่ลูกสาวลูกชายกลับมาพร้อมข่าวดีเรื่องหลานน้อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมมาเกิด ทางด้านเรือนหอ อันเดรสเลือกจะใช้เพนท์เฮาส์ หนึ่งเพราะสะดวกในเรื่องการเดินทางไปทำงาน สองคือต้องการความเป็นส่วนตัว เรื่องนี้สร้างขัดใจแก่มาดามอันนาที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกสะใภ้คนโปรดไม่น้อย ทว่าได้รับการปลอบโยนจากลูกชายที่ทั้งรักทั้งชังที่รับปากว่าถ้ามีหลานเมื่อไหร่จะย้ายกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์เรื่องจึงจบลง“พี่อันเดรสขามาลองชิมขนมสูตรใหม่ของแก้วหน่อยค่ะ” แก้วตาเรียกสามีที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอทีวีเสียงหวานขณะมือสาละวนอยู่กับการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำขนมที่เพิ่งใช้ไป อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เธอมีเป็นของใหม่นำเข้าทั้งหมด มีเกือบทุกแบบ บางชิ้นน่ารักจนไม่อยากหยิบออกมาใช้ ซึ่งผู้สนับสนุนหลักก็ไม่ใช่ใคร คุณยักษ์สามีตัวโตของเธอเองที่เป็นคนจ่ายเงิน โดยภาพรวมแล้วที่เธอมีอยู่เรียกว่าสามารถเปิดร้านเล็กๆ ได้เลยล่ะเรื่องของเรื่องคือก่อนจะแต่งงาน
เสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวเนื้อนุ่มค่อยๆ ร่วงหล่นจากลาดไหล่เล็ก บราเซียร์แสนสวยที่โอบอุ้มภูเขาลูกขนาดล้นมือถูกปลดตะขอก่อนจะไปตกอยู่มุมไหนสักที่ในห้องหอ จากนั้นร่างอ้อนแอ้นพลิกกลับมานั่งคร่อมตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบแนบผิวเนื้อขาวผ่องน่าทะนุถนอม ขบเม้มลาดลำคอหอมกรุ่น ลูบแผ่นหลังเรียบเนียนเรื่อยลงมาแถวสะโพกผายแล้ววกกลับขึ้นไปบีบคลึงเต้าเต่งตึง “คิดถึงจะแย่”“อื้อ เบาหน่อยค่ะ” ความคิดถึงของเขารุนแรงเหลือเกิน ท้องน้อยแก้วตาเสียงวาบ ปลายเล็บสวยจิกเกร็งลงบนบ่าแกร่ง แอ่นหยัดเต้าใส่มือหนา แหงนหน้าเริ่ด ผมยาวสลวยสะบัดพลิ้วไหว อันเดรสอ้าปากงับเต้างาม ดูดดื่มด้วยความกระหายจัด แก่นกายขยายเหยียดเบียดกลีบกุหลาบ ร้องครางเสียงอู้อี้ยามเมียรักขยับ“แก้วจ๋า วันนี้เมียพี่สวยเป็นพิเศษ สวยจนไม่กล้าละสายตาไปที่อื่นเลย หวงมากด้วย” ชายหนุ่มงึมงำ เฝ้าดูดเลียยอดหัวนมชูชันจนแข็งชี้หน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยมีร่างบางเกี่ยวเอว “ทูนหัว นางฟ้าของพี่ ผัวหิวยาหยีมากรู้ไหม” พากันลงไปนอนบนเตียงทับกลีบกุหลาบกระจาย แก้วตายื่นมือเกี่ยวคอแกร่ง ไล้ปลายนิ้วแถวท้ายทอยสามี“สามีแก้วก็หล่อมากค่ะ หล่อจนแก้ว
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีส่งตัวทันทีที่ได้อยู่ในห้องหอซึ่งก็คือห้องนอนของแก้วตาตามลำพังอันเดรสก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า จัดการล็อกประตูจนมั่นใจแล้วว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครเปิดเข้ามาได้ เขาเดินตรงมาสวมกอดภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยความรักใคร่ ร่างสูงยืนซ้อนด้านหลัง หอมแก้มเนียน และจูบซอกคอหอมกรุ่น ซุกไซ้ผิวขาวผ่อง กระซิบถามเสียงค่อย “พร้อมจะเข้าหอกับพี่หรือยังยาหยี” ริมฝีปากอุ่นแตะจุมพิตใบหูนิ่มซ้ำๆ พิธีในวันนี้ความจริงจะจัดที่โรงแรมก็ได้แต่ด้วยความอยากเอาใจพ่อตาแม่ยายงานจึงถูกจัดขึ้นที่บ้านอัศวเทวา วันงานเลี้ยงฉลองถึงจัดที่โรงแรมในกรุงเทพฯ“ถ้าตอบว่าไม่พร้อมล่ะคะ ความจริงแล้วเราสองคนก็เข้าหอกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนทุกเรื่องหรอกค่ะ” นับครั้งไม่ถ้วนเชียวล่ะ คิดในใจพลางสบตาสามีในกระจก อมยิ้มเมื่อคนใจร้อนอยากรีบเข้าหอเงยหน้าขึ้นมาเม้มปากจ้องกลับอย่างเอาแต่ใจ แก้วตาทำเป็นไม่เห็น ลงมือถอดเครื่องประดับออกทีละชิ้นโดยเริ่มที่ต่างหูอย่างไม่รีบร้อนส่วนหนึ่งเพราะต้องการแกล้งอันเดรสงับซอกคอขาวด้วยความมันเขี้ยว ไล้ปลายนิ้วแถวหน้าท้องแบนราบลามมาสะโพกผาย กุมบั้นท้ายงามงอนแล้วบีบเบา