อันเดรสยืนมองร้านอาหารบรรยากาศดีสไตล์วินเทจ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านใน โดยมีเชสกับเจมส์เดินตาม ภายในร้านมีคนมานั่งทานค่อนข้างเยอะ ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นพวกวัยรุ่นหนุ่มสาวซะส่วนใหญ่
“ถ้าไม่ติดว่าลูกค้านัดคุยที่นี่ ฉันคงไม่พาตัวเองมาหรอก มีแต่วัยรุ่นทั้งนั้นเลย” อันเดรสบ่นกับลูกน้อง ขณะลากเก้าอี้ออกมานั่ง “อย่าไปแคร์ครับบอส ช่างหัววัยรุ่นประไร สนใจแค่เงินก้อนโตที่ลูกค้าจะเอามาให้บอสดีกว่าครับ” เจมส์ปลอบเจ้านายหนุ่มที่นั่งอยู่คนละโต๊ะ “เออ” อันเดรสคำรามในคอเบาๆ แล้วรับเมนูที่พนักงานยื่นให้เปิดดูไปพลางๆระหว่างนั่งรอลูกค้าที่ตกลงจะซื้อรถกับเขา ร่างเพรียวบางของแก้วตาอยู่ในชุดเดรสผ้ายืดสีเหลืองอ่อน ความยาวแค่หน้าขา สวมใส่กับรองเท้าผ้าใบสีขาว มีกระเป๋าใบเล็กสีดำคล้องไหล่เอาไว้ สายตากลมโตกวาดมองภายในร้านซ้ายที ขวาทีจนกระทั่งมีเสียงเรียกชื่อเธอ “แก้วทางนี้” แก้วตายิ้มตาหยี แล้วก้าวขายาวๆตรงมายังโต๊ะที่บรรดาเพื่อนๆนั่งกันอยู่ “โทษทีนะพวกแก ฉันมาช้าสุดเลยเหรอเนี่ย” คนมาสายตาโตเมื่อเห็นหน้าทุกคน ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่ว่าง “ช้าอะไรกัน อย่ามาซีเรียสน่า สั่งอาหารสั่งเครื่องดื่มที่แกอยากกินเลย พวกฉันสั่งไปบ้างแล้ว” “อือ” “แกจะช่วยป้าเสิร์ฟอาหารถึงเมื่อไหร่วะแก้ว มีกำหนดมะ” “ไม่มีกำหนด” แก้วตาตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเมนูที่กำลังดู “นี่แกไม่คิดจะหางานทำหรอแก้ว ถึงบอกว่าจะช่วยป้าแกไม่มีกำหนดแบบนั้นอ่ะ พวกฉันได้งานทำกันจะหมดแล้วนะ เริ่มสักทีเหอะ ชักช้ามันเสียเวลาไปโดยไร้ประโยชน์ อย่ามัวแต่เสิร์ฟข้าวอยู่ล่ะ เดี๋ยวจะตามพวกฉันไม่ทัน” น้ำเสียงค่อนข้างจะดูถูกเอ่ยเหมือนทีเล่นทีจริง แล้วทำท่ากรีดกรายนิ้วหยิบช้อนตักอาหารเข้าปาก “แกจะไปยุ่งอะไรกับแก้วมันวะดี้ เอาชีวิตแกให้รอดก่อนมะ คนที่ได้งานแล้วใช่ว่าทุกอย่างมันจะลงตัว แกเองก็เพิ่งจะบ่นไม่ใช่หรอว่าเงินเดือนน้อย เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยดี พูดอะไรคิดก่อนนะ เพราะมันทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดีได้” “ขอบใจมากกวางที่ช่วยพูดแทนฉัน” แก้วตายิ้มหวานให้เพื่อนที่สนิทที่ในกลุ่ม แล้วหันมาเอียงคอมองหน้าดี้ จากที่ตั้งใจจะสั่งอาหารก็ต้องชะงักไป “ฉันไม่ได้เดือดร้อนดี้ แกก็อย่าเดือดร้อนแทนฉันเลย ถึงจะตามพวกแกไม่ทันก็ไม่เป็นไร ถ้านัดเจอกันเพื่อจะมาพูดถากถาง วันหลังไม่ต้องชวนนะ เพราะฉันเป็นแค่คนเสิร์ฟข้าว ไม่เหมาะจะร่วมโต๊ะกับพนักงานออฟฟิศสวยๆอย่างเธอหรอก” “อย่าเว่อร์กันได้มะ ฉันพูดแบบไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย พวกแกก็รู้ว่าฉันเป็นคนชอบพูดลักษณะนี้อยู่แล้ว ดราม่าเพื่ออะไรเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ ควรชินได้แล้วป่ะ” ดี้ ส่ายหน้า แล้วสางผมยาวสยายเต็มแผ่นหลังของตัวเอง “ถามจริงนะดี้ แกไม่รู้ตัวเองเลยหรอว่าทำตัวไม่น่าคบ พวกฉันทนแกมาตั้งแต่เรียนแล้วนะ ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็นต้องทนด้วยซ้ำ เพราะแกเข้ามาอยู่ในกลุ่มพวกเราหลังสุด สาเหตุที่ทำให้แกต้องย้ายกลุ่ม มันก็คือเรื่องนิสัยของแก ทำไมไม่รู้จักปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนอื่นได้ ไม่ใช่สักแต่จะแขวะหรือทำตัวเองให้โดดเด่นกว่าคนอื่น ที่พูดไม่ได้อยากทะเลาะด้วย แต่พูดเพื่อให้รู้ตัวเอง และที่สำคัญอย่ามาดูถูกอาชีพของป้าฉัน” แก้วตาพูดจบก็ลุกขึ้นยืนทันที “จะไปไหนแก้ว” กวางรีบถามเพื่อน “ไม่มีอารมณ์กินแล้ว ไว้ค่อยเจอกันนะพวกแก” แก้วตายิ้มให้เพื่อนคนอื่นๆที่ยังไม่ทันจะได้คุยกันก็เกิดเรื่องซะก่อน แล้วหันหลังเดินออกไป “กลับดีๆนะแก้ว ถึงบ้านแล้วโทรบอกหรือไลน์บอกด้วยนะ” กวางตะโกนไล่หลังเพื่อน “ฉันก็กินไม่ลงแล้ว บรรยากาศกร่อยมาก เรียกคิดเงินเลยละกัน” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น เลยมีคนยกมือเรียกพนักงานให้เคลียร์เงิน จะได้แยกย้ายกันกลับ “แก้วมันพูดขนาดนั้นแล้ว คนแถวนี้น่าจะรู้ตัวนะ” กวางเบะปากแต่ตัวต้นเหตุอย่างดี้ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ ทำเป็นไม่รู้ว่ามีสายตาไม่พอใจของคนอื่นๆจับจ้องอยู่ที่ตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆของกลุ่มเพื่อนเมื่อกี้นี้ อยู่ในสายตาของอันเดรสพอดี หลังจากคุยกับลูกค้าจบ เก้าอี้ตรงหน้าเขาก็ว่างจึงทำให้เห็นและได้ยินเรื่องราวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะโต๊ะที่นั่งนั้นติดกัน ที่สำคัญเขาจำหน้าผู้หญิงชุดเหลืองที่ผลุนผลันออกไปเป็นคนแรกได้แม่น ไม่รู้ว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น “กลับกันยังครับบอส ไม่มีเรื่องอะไรให้เราได้นั่งฟังต่อแล้ว” เจมส์พูดหน้าตายกับเจ้านาย “ปากดี แกสองคนต่างหากที่ตั้งใจฟังจนหูแทบกระดิก” อันเดรสพูดเสียงเย็น ก่อนจะเดินนำออกไป “นานๆจะเห็นบอสสนใจเรื่องชาวบ้าน” เชสกอดคอเดินคู่กับเจมส์ตามเจ้านายอย่างขำขัน “นั่นดิ” “จะนินทาฉันอีกนานไหม” คนโดนนินทาหันกลับมาแยกเขี้ยวใส่ลูกน้อง สองหนุ่มเลยต้องหุบปากลงทันที เพราะขืนยังไม่เงียบอาจจะโดนบาทาเอาได้ร้านคาเฟ่สไตล์วินเทจมีลูกค้านั่งทานเกือบเต็มทุกโต๊ะทั้งที่เพิ่งเปิดร้านได้ราวสิบห้านาที นอกจากเมนูเบเกอรี่แล้วในบางวันก็มีขนมไทยเพิ่มเติมเข้ามา ขนมของที่นี่ไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ ราคาเข้าถึงง่าย“สวัสดีค่ะพี่แก้ว/สวัสดีครับ”“หวัดดีจ้ะ วันนี้ลูกค้าเยอะตั้งแต่ร้านเปิดเลย เหนื่อยกันหน่อยนะ ขนมที่พี่ให้คนเอามาส่งมาถึงแล้วใช่ไหมจ๊ะ”“ขนมมาส่งแล้วค่ะ ต่อให้ลูกค้าเยอะกว่านี้พวกเราก็รับมือไหวค่ะพี่แก้ว” เด็กสาวตอบรับอย่างกระตือรือร้น ได้ทำงานกับเจ้านายสาวสวยและใจดีสุดๆ อย่างพี่แก้วตาโชคดีที่สุดแล้ว“พวกเราช่วยงานพี่ได้มากจริงๆ ขอบใจนะจ๊ะที่ทำงานหนักเพื่อร้านของเรา” แก้วตาพูดกับลูกน้องอีกเล็กน้อยจากนั้นแยกตัวเข้าห้องทำงาน ถ้าไม่ติดธุระอะไรเธอจะเข้ามาดูร้านทุกวัน …วันนี้มาเช้าหน่อย “หนีพี่กับลูกมาที่ร้านคนเดียวอีกแล้วนะยาหยี” คนตามมาทีหลังหน้าตาบอกบุญไม่รับ เพราะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเมียถึงต้องหอบลูกตามมาหาที่ร้าน รอผัวตื่นก่อนก็ไม่ได้“เบาเสียงหน่อยค่ะ” เตือนสามีจอมเอาแต่ใจที่มาถึงก็น่าตีเลยพลางอมยิ้มมองลูกรักในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ “ห้ามทำหน้าบึ้งด้วยค่ะเดี๋ยวลูกค้าตกใจ” แต่อันเดรสตอนนี้
“อ้าวยัยแก้ว หอบหิ้วอะไรมาเยอะแยะล่ะนั่น ทำอย่างกับจะไปเปิดท้ายขายของที่ไหนงั้นแหละ ภาพลักษณ์ไม่เหมาะสมกับที่เป็นภรรยาของคุณอันเดรสเลย ดูลำบากกว่าที่ฉันคิดไว้อีก” น้ำเสียงเย้ยหยันระคนถากถางที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของบุคคลที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้แก้วตาโกรธ แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงได้โชคร้ายที่บังเอิญมาเจอเพื่อนที่ไม่อาจนับว่าเป็นเพื่อนที่นี่“ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ว่าแต่เธอเถอะ มาทำอะไรที่บริษัทสามีฉันดี้”ทว่าคนถูกถามยังไม่ทันจะตอบ“ยาหยี มาถึงนานยังคะ พี่ติดคุยงานกับอันโตนิโอเลยลงมาช้า ขอโทษนะครับ” อันเดรสมาถึงก็หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงก่อนจะแย่งของในมือเมียทั้งหมดมาถือไว้ ภาพแสดงความรักเหล่านี้เป็นที่คุ้นตากันดีของพนักงาน แก้วตายิ้มหวานพลางควงแขนสามี จูบแก้มสากเบาๆ เมื่อเขาเอียงแก้มมาให้ “แก้วเพิ่งมาถึงค่ะ บังเอิญเจอคนรู้จักเลยแวะทักทายนิดหน่อยน่ะค่ะ พี่อันเดรสเคยเจอเธอแล้วพอจะจำได้ไหมคะ” เธอใช้สายตามอง อันเดรสจึงมองตาม“คนนี้เหรอ” “ค่ะ คนนี้”“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณอันเดรส ดี้เป็นเพื่อนของแก้ว เราเคยเจอกันแล้วที่กระบี่ ดี้เห็นว่า
“แก้วยังทำความสะอาดไม่เสร็จ พี่อันเดรสปล่อยแก้วลงเดี๋ยวนี้นะคะ ไม่ต้องหาข้ออ้างหื่นเลย” “ห่วงอะไรเรื่องทำความสะอาด เดี๋ยวพี่ช่วย แต่ต้องหลังจากพี่เราฟัดกันแล้วเท่านั้น” “แต่แก้วอยากทำให้เรียบร้อยก่อน” เธอยังยืนยัน“แต่พี่อยากรักเมีย หิวมาก อยากกิน ให้พี่กินนะคะ” มาถึงห้องนอนชายหนุ่มก็วางเมียลงแล้วรวบเอวคอดมากอดแนบอก สูดดมพวงแก้มหอมกรุ่นหนักๆ “เวลาแก้วเข้าครัวทำพี่หิวตลอด ตอนใส่ผ้ากันเปื้อนแก้วน่ารัก และเซ็กซี่มาก พี่ต้องอดทนทุกครั้งที่จะไม่กินแก้วตอนกำลังวุ่นวายกับสิ่งที่ทำ” มือเขาไม่อยู่สุข ลูบไล้ไปตามไขสันหลังตรง แผ่นหลังบาง พลางซุกหน้าเม้มซอกคอขาวๆ ที่มีรอยแดงจางๆ กระจายหลายจุด“พี่อันเดรสน่ะ” แล้วเธอก็พูดอะไรไม่ออกด้วยอับจนปัญญา ความจริงก็รู้สึกได้อยู่หรอกเวลาที่เธอเข้าครัวมักจะมีสายตาร้อนแรงคู่หนึ่งคอยมองตลอดถ้าอยู่ด้วยกัน พี่อันเดรสชอบเข้ามาคลอเคลียแล้วก็จบลงด้วยการที่เธอถูกกินต่อ วันนี้จำเลยสารภาพเองเธอควรจะตามใจเขาสินะ แต่เธอก็ตามใจเขาตลอดนี่นา ไม่ตามใจก็เอาแต่ใจจนได้“ยาหยีของพี่ดูอวบขึ้นนะคะ โดยเฉพาะตรงนี้ พี่ว่ามันใหญ่ขึ้น พี่ชอบมาก” ฝ่ามืออุ่นร้อนบีบคลึงเต้านมเปลือยเปล่า
หลังผ่านพ้นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอันยิ่งใหญ่ คู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันก็บินลัดฟ้าไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ยุโรปหนึ่งเดือนเต็ม โดยแบกความหวังจากทั้งสองครอบครัวไปด้วย พวกเขาตั้งตารอวันที่ลูกสาวลูกชายกลับมาพร้อมข่าวดีเรื่องหลานน้อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมมาเกิด ทางด้านเรือนหอ อันเดรสเลือกจะใช้เพนท์เฮาส์ หนึ่งเพราะสะดวกในเรื่องการเดินทางไปทำงาน สองคือต้องการความเป็นส่วนตัว เรื่องนี้สร้างขัดใจแก่มาดามอันนาที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกสะใภ้คนโปรดไม่น้อย ทว่าได้รับการปลอบโยนจากลูกชายที่ทั้งรักทั้งชังที่รับปากว่าถ้ามีหลานเมื่อไหร่จะย้ายกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์เรื่องจึงจบลง“พี่อันเดรสขามาลองชิมขนมสูตรใหม่ของแก้วหน่อยค่ะ” แก้วตาเรียกสามีที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอทีวีเสียงหวานขณะมือสาละวนอยู่กับการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำขนมที่เพิ่งใช้ไป อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เธอมีเป็นของใหม่นำเข้าทั้งหมด มีเกือบทุกแบบ บางชิ้นน่ารักจนไม่อยากหยิบออกมาใช้ ซึ่งผู้สนับสนุนหลักก็ไม่ใช่ใคร คุณยักษ์สามีตัวโตของเธอเองที่เป็นคนจ่ายเงิน โดยภาพรวมแล้วที่เธอมีอยู่เรียกว่าสามารถเปิดร้านเล็กๆ ได้เลยล่ะเรื่องของเรื่องคือก่อนจะแต่งงาน
เสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวเนื้อนุ่มค่อยๆ ร่วงหล่นจากลาดไหล่เล็ก บราเซียร์แสนสวยที่โอบอุ้มภูเขาลูกขนาดล้นมือถูกปลดตะขอก่อนจะไปตกอยู่มุมไหนสักที่ในห้องหอ จากนั้นร่างอ้อนแอ้นพลิกกลับมานั่งคร่อมตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบแนบผิวเนื้อขาวผ่องน่าทะนุถนอม ขบเม้มลาดลำคอหอมกรุ่น ลูบแผ่นหลังเรียบเนียนเรื่อยลงมาแถวสะโพกผายแล้ววกกลับขึ้นไปบีบคลึงเต้าเต่งตึง “คิดถึงจะแย่”“อื้อ เบาหน่อยค่ะ” ความคิดถึงของเขารุนแรงเหลือเกิน ท้องน้อยแก้วตาเสียงวาบ ปลายเล็บสวยจิกเกร็งลงบนบ่าแกร่ง แอ่นหยัดเต้าใส่มือหนา แหงนหน้าเริ่ด ผมยาวสลวยสะบัดพลิ้วไหว อันเดรสอ้าปากงับเต้างาม ดูดดื่มด้วยความกระหายจัด แก่นกายขยายเหยียดเบียดกลีบกุหลาบ ร้องครางเสียงอู้อี้ยามเมียรักขยับ“แก้วจ๋า วันนี้เมียพี่สวยเป็นพิเศษ สวยจนไม่กล้าละสายตาไปที่อื่นเลย หวงมากด้วย” ชายหนุ่มงึมงำ เฝ้าดูดเลียยอดหัวนมชูชันจนแข็งชี้หน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยมีร่างบางเกี่ยวเอว “ทูนหัว นางฟ้าของพี่ ผัวหิวยาหยีมากรู้ไหม” พากันลงไปนอนบนเตียงทับกลีบกุหลาบกระจาย แก้วตายื่นมือเกี่ยวคอแกร่ง ไล้ปลายนิ้วแถวท้ายทอยสามี“สามีแก้วก็หล่อมากค่ะ หล่อจนแก้ว
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีส่งตัวทันทีที่ได้อยู่ในห้องหอซึ่งก็คือห้องนอนของแก้วตาตามลำพังอันเดรสก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า จัดการล็อกประตูจนมั่นใจแล้วว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครเปิดเข้ามาได้ เขาเดินตรงมาสวมกอดภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยความรักใคร่ ร่างสูงยืนซ้อนด้านหลัง หอมแก้มเนียน และจูบซอกคอหอมกรุ่น ซุกไซ้ผิวขาวผ่อง กระซิบถามเสียงค่อย “พร้อมจะเข้าหอกับพี่หรือยังยาหยี” ริมฝีปากอุ่นแตะจุมพิตใบหูนิ่มซ้ำๆ พิธีในวันนี้ความจริงจะจัดที่โรงแรมก็ได้แต่ด้วยความอยากเอาใจพ่อตาแม่ยายงานจึงถูกจัดขึ้นที่บ้านอัศวเทวา วันงานเลี้ยงฉลองถึงจัดที่โรงแรมในกรุงเทพฯ“ถ้าตอบว่าไม่พร้อมล่ะคะ ความจริงแล้วเราสองคนก็เข้าหอกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนทุกเรื่องหรอกค่ะ” นับครั้งไม่ถ้วนเชียวล่ะ คิดในใจพลางสบตาสามีในกระจก อมยิ้มเมื่อคนใจร้อนอยากรีบเข้าหอเงยหน้าขึ้นมาเม้มปากจ้องกลับอย่างเอาแต่ใจ แก้วตาทำเป็นไม่เห็น ลงมือถอดเครื่องประดับออกทีละชิ้นโดยเริ่มที่ต่างหูอย่างไม่รีบร้อนส่วนหนึ่งเพราะต้องการแกล้งอันเดรสงับซอกคอขาวด้วยความมันเขี้ยว ไล้ปลายนิ้วแถวหน้าท้องแบนราบลามมาสะโพกผาย กุมบั้นท้ายงามงอนแล้วบีบเบา