แก้วตาเดินโมโหออกมานอกร้านที่นัดไว้กับเพื่อนก่อนเวลาอันควร ใบหน้ามุ่ยอย่างไม่เก็บอาการใดๆทั้งสิ้น เดินไม่สนใจใครทั้งนั้นว่าจะมองหรือไม่มองตนเอง แต่แล้วขาที่จ้ำเอาๆก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อกระเพาะส่งเสียงครวญครางอย่างบ้าคลั่ง เพื่อประท้วงเจ้าของร่างกายที่ไม่ยอมให้มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่บ่ายจวบจนถึงตอนนี้ นาฬิกาข้อมือที่ยกขึ้นดูบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆหนึ่งทุ่มแล้ว
“เฮ้อ! แทนที่จะได้กินของอร่อยๆจากร้านนั้น เพราะยัยนั่นคนเดียวเลยที่ทำให้อดกินและอดคุยกับเพื่อน แล้วทีนี้จะหาอะไรกินเพื่อประทังชีวิตในตอนนี้ดีล่ะเนี่ย” แก้วตาบ่นกับตัวเอง พลางมองซ้ายแลขวาเพื่อหาร้านอะไรสักร้านเพื่อที่จะฝากท้อง เพราะความหิวเริ่มโจมตีขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว สะพานลอยที่มีคนเดินอย่างพลุกพล่าน ทำให้แก้วตาไม่ลังเลที่จะใช้ข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม สองขารีบก้าวจนในที่สุดก็เดินมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่มีคนนั่งจนเต็มเกือบหมด ดีที่ว่ายังพอมีเหลืออยู่อีกหนึ่งโต๊ะให้คนหิวจนตาลายอย่างเธอได้นั่ง รอไม่นานก็มีคนมารับออเดอร์ ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวก็ดื่มน้ำเปล่าแก้หิวไปพลางๆ เล่นโทรศัพท์บ้างเพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจใคร “ทำไมคนเยอะงี้วะ” อันเดรสเอ่ยอย่างหัวเสียเมื่อมองเห็นคนนั่งกันเต็มทุกโต๊ะ “เปลี่ยนร้านไหมครับบอส ผมว่าร้านอื่นคนคงไม่เยอะแบบนี้หรอกครับ” “ไม่เปลี่ยนโว้ย! นั่นไงมีคนลุกแล้ว แกสองคนรีบไปสิวะ เดี๋ยวคนอื่นก็มาแย่งโต๊ะหรอก ฉันไม่อยากรอนาน หิว!” อันเดรสชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ใกล้กับรถเข็นของร้าน เจมส์กับเชสเลยรีบใช้ความยาวของช่วงขาถลาเข้าไปจับจอง ระหว่างที่กำลังเดินไปยังโต๊ะที่ลูกน้องช่วงชิงมาได้ สายตาของอันเดรสก็ปะทะเข้ากับนัยน์ตากลมโตของสาวน้อยนางหนึ่ง ซึ่งเขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเจอกันที่หัวหิน และล่าสุดเมื่อราวสิบห้าสิบนาทีที่แล้วเห็นจะได้ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ก็ไม่รู้ เป็นไปตามคาดสาวเจ้าเป็นฝ่ายหลบสายตาของเขาก่อน จะด้วยความหิวหรือจำเขาได้ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้ “บอสครับนั่นน้องคนที่ไปร้านเดียวกับเรานี่ครับ จะว่าไปแล้วโลกมันก็กลมนะครับเนี่ย” เชสพูดกับเจ้านายพลางพยักเพยิดไปทางโต๊ะที่อยู่เยื้องๆกับพวกเขา “อืม ฉันเห็นแล้ว” อันเดรสตอบเพียงสั้นๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องโลกกลมอะไรนั่นด้วย แม้ตัวเขาเองจะคิดอย่างนั้นเช่นกันก็ตาม “ผมสั่งให้แล้วนะครับบอส เมนูเดิมแบบที่บอสชอบทาน บะหมี่น้ำพิเศษเส้นและเครื่อง” เจมส์บอกเจ้านายที่ตอนนี้เอาแต่สนใจโทรศัพท์เครื่องหรู ปกติเวลาเลิกงานดึกๆพวกเขาก็มักจะฝากท้องไว้กับร้านอาหารข้างทางเป็นประจำ เจ้านายเขาไม่ได้กินหรูทุกมื้อ ออกจะทานง่ายอยู่ง่ายเสียด้วยซ้ำ “อืม ขอบใจเจมส์” อันเดรสพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ความจริงในมือถือมันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจจนถึงขนาดดึงสายตาให้จดจ่ออยู่ได้นาน แต่ก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าทำไมตามันคอยจะเหลือบมองไปที่โต๊ะนั้นอยู่เรื่อยแก้วตาอิ่มแปล้กับก๋วยเตี๋ยวสองชาม พอดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เรียกคิดเงินทันที ได้เงินทอนปุ๊บก็ตรงดิ่งออกจากร้านปั๊บ เพราะไม่อยากจะเผชิญหน้ากับคนที่เธอเคยจับจ้องเขาจนถูกจับได้อีก ไม่รู้ว่าตอนสบตากันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเขาจะจำได้ไหม ได้แต่ภาวนาขอให้เขาจำไม่ได้ โลกจะกลมอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ ร้านข้างทางธรรมดาแท้ๆ คนดูดีมีอันจะกินอย่างเขาไม่น่าจะมานั่งกินร้านเดียวกับเธอได้ แถมยังบังเอิ๊ญเอิญสบตากันอีก หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายนะที่จะต้องมาเจอความอายที่ได้ทำไว้เมื่อครั้งอดีต
ร้านคาเฟ่สไตล์วินเทจมีลูกค้านั่งทานเกือบเต็มทุกโต๊ะทั้งที่เพิ่งเปิดร้านได้ราวสิบห้านาที นอกจากเมนูเบเกอรี่แล้วในบางวันก็มีขนมไทยเพิ่มเติมเข้ามา ขนมของที่นี่ไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ ราคาเข้าถึงง่าย“สวัสดีค่ะพี่แก้ว/สวัสดีครับ”“หวัดดีจ้ะ วันนี้ลูกค้าเยอะตั้งแต่ร้านเปิดเลย เหนื่อยกันหน่อยนะ ขนมที่พี่ให้คนเอามาส่งมาถึงแล้วใช่ไหมจ๊ะ”“ขนมมาส่งแล้วค่ะ ต่อให้ลูกค้าเยอะกว่านี้พวกเราก็รับมือไหวค่ะพี่แก้ว” เด็กสาวตอบรับอย่างกระตือรือร้น ได้ทำงานกับเจ้านายสาวสวยและใจดีสุดๆ อย่างพี่แก้วตาโชคดีที่สุดแล้ว“พวกเราช่วยงานพี่ได้มากจริงๆ ขอบใจนะจ๊ะที่ทำงานหนักเพื่อร้านของเรา” แก้วตาพูดกับลูกน้องอีกเล็กน้อยจากนั้นแยกตัวเข้าห้องทำงาน ถ้าไม่ติดธุระอะไรเธอจะเข้ามาดูร้านทุกวัน …วันนี้มาเช้าหน่อย “หนีพี่กับลูกมาที่ร้านคนเดียวอีกแล้วนะยาหยี” คนตามมาทีหลังหน้าตาบอกบุญไม่รับ เพราะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเมียถึงต้องหอบลูกตามมาหาที่ร้าน รอผัวตื่นก่อนก็ไม่ได้“เบาเสียงหน่อยค่ะ” เตือนสามีจอมเอาแต่ใจที่มาถึงก็น่าตีเลยพลางอมยิ้มมองลูกรักในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ “ห้ามทำหน้าบึ้งด้วยค่ะเดี๋ยวลูกค้าตกใจ” แต่อันเดรสตอนนี้
“อ้าวยัยแก้ว หอบหิ้วอะไรมาเยอะแยะล่ะนั่น ทำอย่างกับจะไปเปิดท้ายขายของที่ไหนงั้นแหละ ภาพลักษณ์ไม่เหมาะสมกับที่เป็นภรรยาของคุณอันเดรสเลย ดูลำบากกว่าที่ฉันคิดไว้อีก” น้ำเสียงเย้ยหยันระคนถากถางที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของบุคคลที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้แก้วตาโกรธ แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงได้โชคร้ายที่บังเอิญมาเจอเพื่อนที่ไม่อาจนับว่าเป็นเพื่อนที่นี่“ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ว่าแต่เธอเถอะ มาทำอะไรที่บริษัทสามีฉันดี้”ทว่าคนถูกถามยังไม่ทันจะตอบ“ยาหยี มาถึงนานยังคะ พี่ติดคุยงานกับอันโตนิโอเลยลงมาช้า ขอโทษนะครับ” อันเดรสมาถึงก็หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงก่อนจะแย่งของในมือเมียทั้งหมดมาถือไว้ ภาพแสดงความรักเหล่านี้เป็นที่คุ้นตากันดีของพนักงาน แก้วตายิ้มหวานพลางควงแขนสามี จูบแก้มสากเบาๆ เมื่อเขาเอียงแก้มมาให้ “แก้วเพิ่งมาถึงค่ะ บังเอิญเจอคนรู้จักเลยแวะทักทายนิดหน่อยน่ะค่ะ พี่อันเดรสเคยเจอเธอแล้วพอจะจำได้ไหมคะ” เธอใช้สายตามอง อันเดรสจึงมองตาม“คนนี้เหรอ” “ค่ะ คนนี้”“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณอันเดรส ดี้เป็นเพื่อนของแก้ว เราเคยเจอกันแล้วที่กระบี่ ดี้เห็นว่า
“แก้วยังทำความสะอาดไม่เสร็จ พี่อันเดรสปล่อยแก้วลงเดี๋ยวนี้นะคะ ไม่ต้องหาข้ออ้างหื่นเลย” “ห่วงอะไรเรื่องทำความสะอาด เดี๋ยวพี่ช่วย แต่ต้องหลังจากพี่เราฟัดกันแล้วเท่านั้น” “แต่แก้วอยากทำให้เรียบร้อยก่อน” เธอยังยืนยัน“แต่พี่อยากรักเมีย หิวมาก อยากกิน ให้พี่กินนะคะ” มาถึงห้องนอนชายหนุ่มก็วางเมียลงแล้วรวบเอวคอดมากอดแนบอก สูดดมพวงแก้มหอมกรุ่นหนักๆ “เวลาแก้วเข้าครัวทำพี่หิวตลอด ตอนใส่ผ้ากันเปื้อนแก้วน่ารัก และเซ็กซี่มาก พี่ต้องอดทนทุกครั้งที่จะไม่กินแก้วตอนกำลังวุ่นวายกับสิ่งที่ทำ” มือเขาไม่อยู่สุข ลูบไล้ไปตามไขสันหลังตรง แผ่นหลังบาง พลางซุกหน้าเม้มซอกคอขาวๆ ที่มีรอยแดงจางๆ กระจายหลายจุด“พี่อันเดรสน่ะ” แล้วเธอก็พูดอะไรไม่ออกด้วยอับจนปัญญา ความจริงก็รู้สึกได้อยู่หรอกเวลาที่เธอเข้าครัวมักจะมีสายตาร้อนแรงคู่หนึ่งคอยมองตลอดถ้าอยู่ด้วยกัน พี่อันเดรสชอบเข้ามาคลอเคลียแล้วก็จบลงด้วยการที่เธอถูกกินต่อ วันนี้จำเลยสารภาพเองเธอควรจะตามใจเขาสินะ แต่เธอก็ตามใจเขาตลอดนี่นา ไม่ตามใจก็เอาแต่ใจจนได้“ยาหยีของพี่ดูอวบขึ้นนะคะ โดยเฉพาะตรงนี้ พี่ว่ามันใหญ่ขึ้น พี่ชอบมาก” ฝ่ามืออุ่นร้อนบีบคลึงเต้านมเปลือยเปล่า
หลังผ่านพ้นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอันยิ่งใหญ่ คู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันก็บินลัดฟ้าไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ยุโรปหนึ่งเดือนเต็ม โดยแบกความหวังจากทั้งสองครอบครัวไปด้วย พวกเขาตั้งตารอวันที่ลูกสาวลูกชายกลับมาพร้อมข่าวดีเรื่องหลานน้อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมมาเกิด ทางด้านเรือนหอ อันเดรสเลือกจะใช้เพนท์เฮาส์ หนึ่งเพราะสะดวกในเรื่องการเดินทางไปทำงาน สองคือต้องการความเป็นส่วนตัว เรื่องนี้สร้างขัดใจแก่มาดามอันนาที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกสะใภ้คนโปรดไม่น้อย ทว่าได้รับการปลอบโยนจากลูกชายที่ทั้งรักทั้งชังที่รับปากว่าถ้ามีหลานเมื่อไหร่จะย้ายกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์เรื่องจึงจบลง“พี่อันเดรสขามาลองชิมขนมสูตรใหม่ของแก้วหน่อยค่ะ” แก้วตาเรียกสามีที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอทีวีเสียงหวานขณะมือสาละวนอยู่กับการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำขนมที่เพิ่งใช้ไป อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เธอมีเป็นของใหม่นำเข้าทั้งหมด มีเกือบทุกแบบ บางชิ้นน่ารักจนไม่อยากหยิบออกมาใช้ ซึ่งผู้สนับสนุนหลักก็ไม่ใช่ใคร คุณยักษ์สามีตัวโตของเธอเองที่เป็นคนจ่ายเงิน โดยภาพรวมแล้วที่เธอมีอยู่เรียกว่าสามารถเปิดร้านเล็กๆ ได้เลยล่ะเรื่องของเรื่องคือก่อนจะแต่งงาน
เสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวเนื้อนุ่มค่อยๆ ร่วงหล่นจากลาดไหล่เล็ก บราเซียร์แสนสวยที่โอบอุ้มภูเขาลูกขนาดล้นมือถูกปลดตะขอก่อนจะไปตกอยู่มุมไหนสักที่ในห้องหอ จากนั้นร่างอ้อนแอ้นพลิกกลับมานั่งคร่อมตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบแนบผิวเนื้อขาวผ่องน่าทะนุถนอม ขบเม้มลาดลำคอหอมกรุ่น ลูบแผ่นหลังเรียบเนียนเรื่อยลงมาแถวสะโพกผายแล้ววกกลับขึ้นไปบีบคลึงเต้าเต่งตึง “คิดถึงจะแย่”“อื้อ เบาหน่อยค่ะ” ความคิดถึงของเขารุนแรงเหลือเกิน ท้องน้อยแก้วตาเสียงวาบ ปลายเล็บสวยจิกเกร็งลงบนบ่าแกร่ง แอ่นหยัดเต้าใส่มือหนา แหงนหน้าเริ่ด ผมยาวสลวยสะบัดพลิ้วไหว อันเดรสอ้าปากงับเต้างาม ดูดดื่มด้วยความกระหายจัด แก่นกายขยายเหยียดเบียดกลีบกุหลาบ ร้องครางเสียงอู้อี้ยามเมียรักขยับ“แก้วจ๋า วันนี้เมียพี่สวยเป็นพิเศษ สวยจนไม่กล้าละสายตาไปที่อื่นเลย หวงมากด้วย” ชายหนุ่มงึมงำ เฝ้าดูดเลียยอดหัวนมชูชันจนแข็งชี้หน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยมีร่างบางเกี่ยวเอว “ทูนหัว นางฟ้าของพี่ ผัวหิวยาหยีมากรู้ไหม” พากันลงไปนอนบนเตียงทับกลีบกุหลาบกระจาย แก้วตายื่นมือเกี่ยวคอแกร่ง ไล้ปลายนิ้วแถวท้ายทอยสามี“สามีแก้วก็หล่อมากค่ะ หล่อจนแก้ว
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีส่งตัวทันทีที่ได้อยู่ในห้องหอซึ่งก็คือห้องนอนของแก้วตาตามลำพังอันเดรสก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า จัดการล็อกประตูจนมั่นใจแล้วว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครเปิดเข้ามาได้ เขาเดินตรงมาสวมกอดภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยความรักใคร่ ร่างสูงยืนซ้อนด้านหลัง หอมแก้มเนียน และจูบซอกคอหอมกรุ่น ซุกไซ้ผิวขาวผ่อง กระซิบถามเสียงค่อย “พร้อมจะเข้าหอกับพี่หรือยังยาหยี” ริมฝีปากอุ่นแตะจุมพิตใบหูนิ่มซ้ำๆ พิธีในวันนี้ความจริงจะจัดที่โรงแรมก็ได้แต่ด้วยความอยากเอาใจพ่อตาแม่ยายงานจึงถูกจัดขึ้นที่บ้านอัศวเทวา วันงานเลี้ยงฉลองถึงจัดที่โรงแรมในกรุงเทพฯ“ถ้าตอบว่าไม่พร้อมล่ะคะ ความจริงแล้วเราสองคนก็เข้าหอกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนทุกเรื่องหรอกค่ะ” นับครั้งไม่ถ้วนเชียวล่ะ คิดในใจพลางสบตาสามีในกระจก อมยิ้มเมื่อคนใจร้อนอยากรีบเข้าหอเงยหน้าขึ้นมาเม้มปากจ้องกลับอย่างเอาแต่ใจ แก้วตาทำเป็นไม่เห็น ลงมือถอดเครื่องประดับออกทีละชิ้นโดยเริ่มที่ต่างหูอย่างไม่รีบร้อนส่วนหนึ่งเพราะต้องการแกล้งอันเดรสงับซอกคอขาวด้วยความมันเขี้ยว ไล้ปลายนิ้วแถวหน้าท้องแบนราบลามมาสะโพกผาย กุมบั้นท้ายงามงอนแล้วบีบเบา