ไทเกอร์จอดรถสปอร์ตสีดำในที่จอดประจำ เขาสวมแว่นกันแดดสีเข้ม
เสื้อยืดแบรนด์เนมสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบราคาแพง ดูสดใสและมีเสน่ห์เหมือนเคย เขาก้าวลงจาแชมป์ถพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง
"เฮ้ย! ไทเกอร์! มานี่เว้ย!" มาร์คโบกมือเรียกจากใต้ต้นไม้ใหญ่ เขานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสามคน ไทเกอร์โบกมือตอบ แต่ไม่ได้เดินตรงไปที่กลุ่มเพื่อนทันที เขามองหาใครบางคนในฝูงชน เดินวนเล็กน้อยพลางมองไปรอบๆ
"มองหาใครวะ?" มาร์คตะโกนถาม
"เดี๋ยว" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ จู่ๆ ใบหน้าของไทเกอร์ก็สว่างขึ้น เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยกำลังเดินขึ้นบันไดคณะ
"เลโอ!" เขาเรียกเสียงดัง
เลโอชะงักและหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นไทเกอร์ เขาก็ยิ้มและโบกมือทักทาย ไทเกอร์เดินเข้าไปหา ทั้งสองจับมือกันฉันเพื่อนและตบไหล่กันเบาๆ
"มาถึงเมื่อไหร่วะ?" ไทเกอร์ถาม
"เมื่อวานตอนเย็น กูเพิ่งมาถึงกรุงเทพฯ มึงล่ะ?" เลโอตอบ
"เมื่อคืน ไปเที่ยวกับพ่อแม่นานกว่าที่คิด"
มาร์คและเพื่อนในกลุ่มมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ พวกเขาจำได้ดีว่าก่อนปิดเทอม ไทเกอร์และเลโอแทบไม่คุยกัน หรืออย่างมากก็แค่ทักทายกันผ่านๆ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ดูสนิทกันราวกับเป็นเพื่อนรักมานาน
"ไปกินข้าวกัน กูหิวฉิบหาย" ไทเกอร์ชวน "เรียนเริ่มบ่ายโมงนี่นา?"
"อืม" เลโอพยักหน้า "ไปโรงอาหารกันเถอะ"
ทั้งสองกำลังจะเดินออกไป แต่แล้วไทเกอร์ก็หันมาเห็นมาร์คและเพื่อนๆ ที่ยังมองพวกเขาด้วยความงุนงง
"เฮ้ย พวกมาร์ค! ไปกินข้าวกันมั้ย?" ไทเกอร์โบกมือเรียก
"เออ..." มาร์คทำตาโต เขากวักมือเรียกเพื่อนอีกสามคน
กลุ่มหกคนเดินไปยังโรงอาหารด้วยกัน โดยไทเกอร์และเลโอเดินคุยกันนำหน้า ส่วนมาร์คและเพื่อนตามหลังมาติดๆ เสียงกระซิบกระซาบดังมาจากกลุ่มด้านหลัง
"เกิดอะไรขึ้นวะ? ทำไมไอ้ไทเกอร์กับไอ้เลโอถึงดูสนิทกันจัง?" แบงค์ เพื่อนของมาร์คถาม
"กูไม่รู้เหมือนกัน ไอ้ไทเกอร์หายไปตลอดช่วงปิดเทอม บอกแค่ว่าไปเที่ยวกับครอบครัว" มาร์คขมวดคิ้วตอบอย่างสงสัยเช่นกัน
"มึงจำได้ใช่มั้ยว่าไอ้เลโอเป็นคนที่ไทเกอร์ชอบแกล้งตอนปีหนึ่ง?" เบนซ์ย้ำ
"จำได้ดิ แต่มึงก็รู้ว่าไอ้เลโอเคยช่วยชีวิตไทเกอร์ตอนรถคว่ำ อาจจะเริ่มสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้" มาร์คพยักหน้าตอบ
ที่โรงอาหาร พวกเขาเลือกโต๊ะยาวและนั่งกินข้าวด้วยกัน ไทเกอร์และเลโอยังคงคุยกันอย่างออกรส มาร์คและเพื่อนๆ พยายามเข้าร่วมสนทนาบ้าง แต่ก็รู้สึกเหมือนพวกเขาพลาดอะไรบางอย่างไป เลโอพยักหน้าและเดินนำไปก่อน ปล่อยให้ไทเกอร์และมาร์คพูดคุยกัน
"มีอะไรวะ?" ไทเกอร์ถามเพื่อน
"มึงชวนไอ้เลโอเข้าชมรมบาสเนี่ย มึงแน่ใจ?" มาร์คถาม
"แน่สิ กูอยากให้มันเข้ามาเล่นด้วย ทำไมเหรอ?"
"นั่นมันเลโอนะเว้ย ไอ้หนุ่มไม่เอาไหน เนิร์ดจัด มึงจำได้มั้ยที่มึงเคยล้อมันว่า..."
"พอเลย! กูไม่อยากฟังเรื่องเก่าๆ นั่น" น้ำเสียงของไทเกอร์เข้มขึ้นทันที
"เฮ้ย แค่ถามเฉยๆ เองน่า" มาร์คชะงัก เขาไม่เคยเห็นไทเกอร์จริงจังแบบนี้มาก่อน
"ฟังนะมาร์ค" ไทเกอร์หันมามองเพื่อนสนิท
"เลโอไม่ได้อย่างที่พวกเราคิด มันเป็นคนดีมาก มึงรู้ใช่มั้ยว่ามันเคยช่วยชีวิตกู แล้วยังบริจาคเลือดให้กูทั้งที่พวกเราเคยแกล้งมัน" ไทเกอร์อธิบาย
"ก็รู้..."
"แล้วตอนปิดเทอม เราไปเที่ยวด้วยกัน กูรู้จักมันมากขึ้น เลโอเป็นคนที่เจ๋งมาก มีมุมมองชีวิตที่แปลกใหม่ กูอยากให้พวกมึงรู้จักมันมากขึ้นเหมือนกัน"
"โอเค... ถ้ามึงบอกงั้น กูก็จะลองคุยกับมันมากขึ้น"มาร์คยิ้มบาง
"ดี" ไทเกอร์พยักหน้า
"รู้อะไรมั้ย... นี่เป็นครั้งแรกที่กูเห็นมึงปกป้องใครขนาดนี้" มาร์คหันบอกไทเกอร์อีกครั้ง ไทเกอร์ไม่ตอบ เขาเพียงโบกมือลาเพื่อนแล้วรีบเดินไปตามเลโอ ทิ้งมาร์คไว้ด้วยความสงสัย
ช่วงบ่ายที่สนามบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย เสียงเด้งของลูกบาส เสียงรองเท้าที่เสียดสีกับพื้นสนาม และเสียงตะโกนเชียร์ดังไปทั่ว ไทเกอร์และเลโอยืนอยู่ที่ขอบสนาม มองนักกีฬาบาสที่กำลังซ้อมกันอยู่
"กูว่ากูไม่เหมาะกับกีฬานี้จริงๆ นะ" เลโอพูดเสียงเบา เมื่อเห็นพวกรุ่นพี่เล่นกันอย่างคล่องแคล่ว
"ไม่มีใครเกิดมาเก่งหรอกน่า ต้องฝึกกัน" ไทเกอร์ให้กำลังใจ
"ถ้ากูลองแล้วมันไม่ใช่กูถอนตัวนะ" เลโอออกตัวก่อน
“ได้สิ”
ทั้งสองเดินไปหาพี่แสงที่เป็นประธานชมรม แนะนำตัวและสมัครเข้าชมรม ไทเกอร์พูดคุยกับพี่แสงอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากเขาเคยช่วยทีมบาสได้รางวัลในระดับมัธยมมาก่อน พี่แสงดูสนใจไทเกอร์มาก และรับเลโอเข้าทีมด้วยโดยไม่ต้องทดสอบ
"ดีเลยนะน้อง เรากำลังต้องการคนตัวสูงๆ พอดี" พี่แสงบอก "ซ้อมทุกวันจันทร์กับพฤหัส ห้าโมงเย็น"
"ครับ ขอบคุณครับพี่" เลโอตอบอย่างสุภาพ
หลังจากแนะนำตัวเสร็จ ไทเกอร์ดึงเลโอไปที่อีกมุมหนึ่งของสนามเพื่อสอนเลโอเบื้องต้นก่อน พลางหยิบลูกบาสมาจากตะกร้า ไทเกอร์สาธิตวิธีจับลูกบาสที่ถูกต้อง ก่อนจะส่งบอลให้เลโอลอง
พวกเขาใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงฝึกพื้นฐานง่ายๆ ไทเกอร์สอนทุกอย่างอย่างใจเย็น ไม่แสดงความรำคาญแม้เลโอจะทำได้ไม่ดีนัก ทั้งสองเดินออกจากสนามบาส เมื่อถึงลานจอดรถ ไทเกอร์หันมาถามเลโอ
"เย็นนี้มึงมีแพลนอะไรมั้ย?"
"ไม่มีเป็นพิเศษ กูว่าจะกลับไปอ่านหนังสือที่หอ"
"ไปกินข้าวด้วยกันก่อนมั้ย? เราไปเจอมาร์คกับเพื่อนๆ ที่ร้านหมูกระทะแถวมหาลัย"
เลโอลังเลเล็กน้อย เขายังไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนกลุ่มนั้นของไทเกอร์มากนัก
"เอาก็ได้..."
"เยี่ยม! กูจะขับรถไปส่งมึงที่หอก่อน แล้วค่อยไปรับตอนหกโมงนะ"
"ไม่เป็นไร กูนั่งรถเมล์กลับเองได้"
"เฮ้ย ไม่ต้องหรอก ไปด้วยกันเถอะ"
เลโอไม่โต้แย้งอีก เขาขึ้นรถไปกับไทเกอร์ ระหว่างทางไทเกอร์เปิดเพลงเบาๆ และพูดคุยเรื่องวิชาเรียนในเทอมนี้
"เทอมนี้มึงต้องช่วยกูหน่อยนะ มีหลายวิชาที่กูไม่ถนัด" ไทเกอร์บอก
"ไม่เห็นต้องขอเลย กูช่วยอยู่แล้ว"
"กูรู้ แต่กูไม่อยากรบกวนมึงมากไปแต่ก็อยากจบพร้อมมึง" ไทเกอร์ยิ้ม
ไทเกอร์ขับรถมาส่งเลโอที่หอพัก รถจอดที่หน้าหอพักของเลโอ เขาลงจากรถและโบกมือลา
"หกโมงนะ กูมารับ" ไทเกอร์ย้ำ
"อืม เจอกัน"
ตกเย็น ไทเกอร์ มาร์ค เบนซ์ แบงค์ แอนและเลโอนั่งล้อมวงกินหมูกระทะที่ร้านใกล้มหาวิทยาลัย กลิ่นหอมของเนื้อย่างและเสียงหัวเราะเติมเต็มบรรยากาศ
"เออ พวกมึงอย่าลืมนะ สองอาทิตย์หน้ามีงานรับน้องของคณะ เราต้องช่วยงานกันนะ" มาร์คพูดขึ้น ทุกคนพยักหน้า ยกเว้นเลโอที่นิ่งเงียบ
"มึงเป็นไรวะ?" ไทเกอร์ถาม สังเกตเห็นว่าเลโอไม่ค่อยพูด
"เปล่า... แค่กำลังคิดว่าจะช่วยงานยังไง"
"มึงไม่ชอบงานพวกนี้เหรอ?" มาร์คถาม
"ไม่ใช่ไม่ชอบหรอก แค่ไม่ถนัดเท่าไหร่"
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวกูดูแลเอง มึงช่วยได้ตรงไหนก็ช่วย ไม่ต้องฝืน" ไทเกอร์เอ่ยขึ้น
มาร์คเลิกคิ้ว นี่เป็นอีกครั้งที่ไทเกอร์ปกป้องเลโอ ทั้งที่ปกติเพื่อนเขามักจะเป็นคนที่ชอบกดดันให้ทุกคนทำอะไรตามที่เขาต้องการ
"ไม่เป็นไร กูทำได้ แค่อาจจะไม่คล่องเท่าพวกมึง" เลโอตอบ
ขณะที่ทุกคนคุยกันเรื่องงาน จู่ๆ ก็มีกลุ่มนักศึกษาชายสี่คนเดินเข้ามาที่โต๊ะ พวกเขาสวมเสื้อคณะวิศวกรรมปี 4 ที่เรียนเข้าปีที่ 6
"เฮ้ย ไอ้ไทเกอร์! สบายดีมั้ย น้องเอ๋ย?" หนึ่งในนั้นทัก
"พี่แมน... ดีครับ" ไทเกอร์หันไปมอง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูไม่ค่อยพอใจ
"กูเห็นมึงซ้อมบาสอยู่ที่สนามวันนี้ ไม่ยักกะบอกกูว่าจะเล่นบาสด้วย" พี่แมนพูด
"ผมเพิ่งสมัครวันนี้ครับ"
"ดีๆนี่เพื่อนมึงเหรอ?" พี่แมนพยักหน้า แล้วสายตาของเขาก็เลื่อนไปที่เลโอ
"ใช่ครับ เลโอ เพื่อนผม" ไทเกอร์ตอบเสียงแข็ง
"ไอ้เด็กคะแนนสอบสูงสุดที่มึงชอบแกล้งตอนปีหนึ่งใช่มั้ย? ที่มึงบอกว่ามันอวดฉลาด เป็นไอ้บ้านนอกที่..." พี่แมนทำท่าเหมือนนึกอะไรออก
"พี่แมน!" ไทเกอร์ลุกพรวดขึ้น เสียงดังกว่าที่ตั้งใจ ทุกคนที่โต๊ะชะงัก
"เอ๊ะ? แปลกแฮะ... กูจำได้ว่ามึงเคยพูดกับกู..." พี่แมนยักคิ้ว
"ผมขอโทษครับแต่พี่ไปได้แล้วครับ พวกเราจะกลับกันแล้วะ" ไทเกอร์พูดเสียงเย็น สายตาจ้องมองกลุ่มรุ่นพี่อย่างเอาเรื่อง และรุ่นพี่กลุ่มนั้นก็เดินจากไป
เลโอมองหน้าไทเกอร์ เห็นสีหน้าที่อายและโกรธปนกัน เขารู้สึกแปลกใจกับปฏิกิริยาของไทเกอร์ ทุกคนดูงุนงง แต่ก็เก็บของและลุกขึ้นตาม ไทเกอร์วางเงินค่าอาหารส่วนของตัวเองและเลโอไว้บนโต๊ะ แล้วเดินนำออกไป
"เฮ้ย มึงเป็นอะไร?" มาร์คถามเมื่อพวกเขาเดินออกมาถึงลานจอดรถ
"ไม่มีอะไร" ไทเกอร์ตอบเสียงแข็ง
"กูขอโทษนะ ถ้ากูทำให้มึงลำบากใจ..." เลโอพูดขึ้น
"มันไม่ใช่ความผิดของมึง"
"กูขอโทษ สำหรับทุกอย่างที่กูเคยพูดลับหลังมึง กูเป็นไอ้เหี้ยมาก ตอนปีหนึ่ง" ไทเกอร์พูดเสียงเบา แต่ชัดเจนพอที่ทุกคนจะได้ยิน เพื่อนๆ มองหน้ากันด้วยความงุนงง ไทเกอร์ถอนหายใจแล้วหันมาหาเลโอ เลโออึ้งไป ไม่คาดคิดว่าไทเกอร์จะพูดแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนทุกคน
"ไม่เป็นไร... มันผ่านไปแล้ว"
"เออ... พวกกูกลับก่อนนะ" แอนรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัด เธอดึงมาร์ค เบนซ์และแบงค์ให้แยกไป เมื่อทุกคนไปหมดแล้ว ไทเกอร์และเลโอยืนเงียบกันอยู่สักพัก
"ขึ้นรถเถอะ" ไทเกอร์พูดเบาๆ
ทั้งสองขึ้นรถ ไทเกอร์ขับออกไปอย่างเงียบๆ ไม่เปิดเพลงเหมือนเคย ความเงียบกดดันจนเลโอต้องเป็นฝ่ายทำลายมันลง
"มึงไม่จำเป็นต้องขอโทษกูหรอกนะ กูไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆ" เลโอบอก
"กูแค่... อยากให้มึงรู้ว่ากูไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ กูแค่อยากเท่ อยากโชว์ ไอ้พี่แมนมันเหี้ยอยู่แล้ว กูอยากเข้าแก๊งมันเลยต้องทำตัวแย่ๆ" ไทเกอร์พูดไปและบีบพวงมาลัยแน่น
"กูเข้าใจ" เลโอตอบ "เราก็เป็นแบบนั้นกันทุกคนแหละ อยากเข้ากลุ่ม อยากมีที่ยืน"
"แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง กูทำไม่ดีจริงๆ"
"มึงเปลี่ยนไปแล้ว นั่นแหละสำคัญ"
"ขอบใจว่ะ ที่ให้โอกาสกู" ไทเกอร์ยิ้มบาง ขับรถไปส่งเลโอที่หออย่างรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากที่ได้ขอโทษและระบายความรู้สึกออกไป
หนึ่งเดือนผ่านไป ไทเกอร์และเลโอกลายเป็นเพื่อนที่แยกกันไม่ออก พวกเขาไปเรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ซ้อมบาสด้วยกัน จนทั้งคณะเริ่มคุ้นชินกับภาพของทั้งคู่
เย็นวันหนึ่งหลังการซ้อมบาส เลโอกำลังเก็บของอยู่ในห้องล็อกเกอร์ ขณะที่ไทเกอร์ไปคุยกับพี่แสงเรื่องตารางแข่งที่จะมาถึง
"เฮ้ย ไอ้เลโอ เล่นบาสเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?" พี่แชมป์ รุ่นพี่ปีสี่เดินเข้ามาทัก
"เพิ่งหัดครับพี่ ไทเกอร์ชวนมา" เลโอตอบ
"อ้อ... ไอ้ไทเกอร์นี่เอง มึงสนิทกับมันเหรอ?" พี่แชมป์พยักหน้า สีหน้ามีแววบางอย่าง "
"ก็เพื่อนกันครับ"
"แปลกดีนะ เมื่อก่อนมันดูไม่ชอบหน้ามึงเลย" พี่แชมป์เอียงคอถาม
เลโอไม่ตอบ เขาแค่ยิ้มบางๆ และเก็บของต่อ ก่อนที่เลโอจะตอบ
"เลโอ มึงเสร็จหรือยัง? กูรอ..." เสียงของไทเกอร์ก็ดังขึ้นจากประตู
ไทเกอร์หยุดพูดเมื่อเห็นแชมป์ เขาเดินเข้ามาในห้องล็อกเกอร์
"อ้าว ไอ้ไทเกอร์ พอดีกูชวนไอ้เลโอไปติววิชา Digital Circuit น่ะ วันพฤหัสนี้"" แชมป์ทักทาย
"อ้อ... แต่วันพฤหัสพวกเรามีซ้อมบาสนะ" ไทเกอร์มองไปที่เลโอ แล้วกลับมาที่พี่แชมป์
"ไม่เป็นไร ติวแค่ชั่วโมงเดียว เสร็จก่อนซ้อมอีก"
"แล้วแต่เลโอ" ไทเกอร์พยักหน้า แต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก
"เอ่อ... ขอคิดดูก่อนนะครับพี่ ผมติดงานกลุ่มอยู่ด้วย" เลโอรู้สึกถึงความอึดอัดในอากาศ
"โอเค บอกพี่ได้ตลอด มึงก็มาด้วยได้นะ ถ้าอยากมา" พี่แชมป์พยักหน้า แล้วหันไปทางไทเกอร์
"อืม" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
หลังจากพี่แชมป์เดินออกไป ไทเกอร์ก็ถามเลโอขึ้นมา
"มึงจะไปเหรอ?"
"ไม่รู้สิ... น่าจะมีประโยชน์"
"อืม มึงไปก็ได้... แต่..." ไทเกอร์พยักหน้า
"แต่อะไร?"
"ไม่มีอะไร" ไทเกอร์ส่าย
ทั้งที่พี่แชมป์ปีสี่และไทเกอร์ปีสี่แต่เลโอกลับไม่เคยเรียกไทเกอร์ว่าพี่เลยสักครั้ง และไทเกอร์แล้วก็ยอมรอเรียนหลายวิชาพร้อมเลโอด้วย เลโอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของไทเกอร์ แต่เขาไม่ได้ถามอะไร เพียงพยักหน้าและเดินตามออกไป นี่เป็นอีกหนึ่งวันที่ทำให้เลโอสงสัยว่าทำไมไทเกอร์ถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จากคนที่เคยข่มเขา กลายเป็นคนที่ดูเหมือนจะปกป้องเขาจากทุกอย่าง แม้แต่จากรุ่นพี่ที่แค่มาชวนไปติว เลโอรู้สึกว่าไทเกอร์แต่ความรู้สึกที่มีคนคอยห่วงใยก็ทำให้เลโออุ่นใจอย่างประหลาด
ตอนพิเศษบทส่งท้าย NCหลังจากที่เลโอเปิดสำนักงานใหม่ของบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปสาขากรุงเทพฯแล้ว การบริหารงานของเลโอก็ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียง 6 เดือน สามารถปิดดีลงานได้หลายโครงการจนต้องมีการปิดรับดีลใหม่เพื่อทำงานที่รับมาแล้วให้มีมาตรฐานที่สุด และยังสามารถดีลกับบริษัททัวร์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติด้วย เรียกว่าเสริมให้เลโอกลายเป็นนักธุรกิจไฟแรงแนวหน้าของประเทศ ซึ่งตอนนี้เขาออกสื่อมากขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ดูโดดเด่นมากส่วนไทเกอร์ตอนนี้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาดูแลบริษัทในเคลือของครอบครัวทั้งหมดจากแต่ก่อนนั้นที่เขาดูแลเพียงบริษัทของตัวเองคือบริษัทภูริกรุ๊ป ตอนนี้คุณพ่อวางมือให้ไทเกอร์บริหารงาน 100% แล้ว ดังนั้นงานบริหารต่างๆ จึงตกอยู่ที่ซีอีโอหนุ่มไฟแรงคนนั้นเช่นกันตั้งแต่เลโอกลับเข้ามาในชีวิตไทเกอร์ เขาพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยเขาเองรู้แล้วว่าเลโอ คือ คนที่มีความสำคัญต่อชีวิต ต่อจิตใจ ต่อทุกสิ่งอย่างของเขา เขาจะไม่มีทางทำให้เลโอเสียใจอีกครั้งเป็นอันขาด"เอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้วครับ คุณภูริ"ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากแบบแปลนที่กำลังตรวจสอบ เห็นธันย์ผู้ช่วยคนใหม่ยื่นแฟ้มเอกสา
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่