แชร์

5.มองหาใคร

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-10 08:24:15

ตอนที่ 2

2/3

เมื่อเจ้าของร่างสูงหันกลับมารอยยิ้มของหญิงสาวก็หายไปอีกครั้ง  มองจากข้างหลังคิดเอาไว้ว่ายังไงว่าต้องใช่เขาแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นคนละคนกัน ผู้ชายที่เธอทักผิดไม่ใช่คนที่ขวัญข้าวเฝ้ารอจะเจอ แต่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างคล้ายกันเพียงเท่านั้น

"ขอโทษค่ะ เอ่อ  ฉันทักคนผิดค่ะ ขอโทษนะคะ"

"ไม่เป็นไรครับ"

นัยน์ยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าพูดตอบกลับอย่างสุภาพ  ก่อนจะหันกลับไปหาแคชเชียร์ตามเดิมแล้วสั่งเมนูกาแฟสองแก้ว  หลังจากขวัญข้าวกล่าวคำขอโทษแล้วก็กลับมาที่โต๊ะของตนเอง เก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าสะพายบ่าเดินออกจากร้านไปด้วยไปใบหน้าเศร้าสร้อย  สงสัยวันนี้เสียค่ากาแฟไปเกือบสองร้อยแต่ต้องคว้าน้ำเหลว  หญิงสาวปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรรอบที่สิบ  พรุ่งนี้จะมาใหม่ต่อให้วันนี้ไม่ได้เจอเขาก็ตาม  ทว่าพอพ้นหลังขวัญข้าวไปไม่ถึงสามนาที คนต้องการเจอก็เปิดประตูเข้าไปในร้าน กษิดิศเห็นว่านัยน์นั่งอยู่มุมหนึ่งจึงเดินเข้าไปหา

"กูสั่งให้แล้ว"

นัยน์บอกพร้อมหลุบตามองกาแฟที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ  เมื่อครู่นี้ที่เขาสั่งกาแฟสองแก้วก็เพราะสั่งเผื่อกษิดิศด้วยหนึ่งแก้ว

"อืม ขอบใจ"

"นัดกูออกมาเองแท้ ๆ แต่ให้กูมาถึงก่อน  แถมยังให้สั่งรอมึงอีกเนี่ย"

ผู้มาก่อนบ่นอุบ แต่ทางนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจเสียงบ่น  มิหนำซ้ำยังกวาดตาไปทั่วร้านคล้ายกำลังมองหาใครสักคน

"มึงมองหาใคร"

"เปล่า"

"เออ เมื่อกี้นี้มีผู้หญิงเข้ามาทักกูผิดด้วย"

"อืม มึงหล่อมากมั้ง"

กษิดิศแซวเล่นตามประสาเพื่อนแล้วหยิบเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นมาจิบ พอมองนัยน์ชัด ๆ ก็เห็นว่าซูบผอมลงไปมาก  แถมขอบตายังดำคล้ำลงอีกด้วย อาจเป็นเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อย  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจลดทอนความหล่อเหลาของนัยน์ลงได้เลย

"แล้วไอ้อติกับไอวินล่ะ"  กษิดิศถาม

"ไอ้อติมันก็ยุ่ง ๆ กับงาน ส่วนไอ้วิณมันยุ่งกับผู้หญิง ไม่รู้หนีหายไปรักษาแผลใจที่ไหนแต่เดี๋ยวมันได้สติก็คงกลับมา คนอย่างมันไม่กล้าทำอะไรบ้า ๆ หรอก"

เป็นอันไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว  เพราะต่างก็รู้ปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างประสบพบเจอในขณะนี้  วันนี้มาไม่ครบองค์ก็คงไม่เป็นไร  เพราะสองหนุ่มรู้ดีว่าเพื่อนที่หายไปจะกลับมาในไม่ช้า  พอมาถึงแล้วก็จะต้องระบายเรื่องปัญหาชีวิตให้ฟังจนหูชา

"ตกลงนัดกูออกมาเพื่อ"

"ก็ให้มานั่งเป็นเพื่อนนี่ไง"

"โว๊ะ  ถือออกจากร้านไปดื่มในออฟฟิศก็ได้มั้ง"

กษิดิศไม่ได้บอกหรอกว่าเขามาที่นี่เพราะอยากเลี้ยงตอบแทนขวัญข้าว  หากพูดออกไปแบบนั้นต้องถูกเพื่อนแซวแน่ ๆ  

"นั่งอยู่ก่อนสักครึ่งชั่วโมงค่อยไป  เดี๋ยวมึงจะไม่ได้เจอกูอีกหลายวันนะขอบอก"

"จะหนีไปบวช?"  

"กูจะไปดูงานต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์"

แล้วทั้งสองก็นั่งอยู่แบบนั้นจริง ๆ  นั่งจนเลยครึ่งชั่วโมงแต่ไม่ปรากฎแม้แต่เงาของสาวสวยคนนั้น  ปกติแล้วกษิดิศมักจะรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อติดค้างใคร  เขาอยากจะซื้อกาแฟคืนเธอให้จบ ๆ  อุตส่าห์เจียดเวลางานรัดตัวมาก็เพราะเหตุผลนี้แท้ ๆ  แต่เห็นทีคงจะต้องติดหนี้ผู้หญิงคนนั้นไว้ก่อนอีกตามเคย

"ไปเถอะ"

พอเห็นว่ารอนานเกินสมควร  กษิดิศลุกขึ้นยืนแล้วชวนนัยน์ออกจากร้าน  ขวัญข้าวและเขาคลาดกันไปอย่างน่าเสียดาย  เธอมารอเขา  ส่วนเขามาถึงหลังเธอจะจากไปเพียงไม่กี่นาที  อาจเพราะโชคชะตาเป็นตัวกำหนด  ไม่ใช่เพราะไม่มีวาสนาแต่เข็มโชคชะตาของคนทั้งสองไม่ตรงกัน

7 วันต่อมา

ขวัญข้าวย้อนคิดแล้วนึกเสียดาย  ทำไมเธอไม่ถามชื่อหรือทำใจกล้ากว่านั้นอีกสักหน่อย  น่าจะขอแอดไลน์เขาไปเลยแล้วค่อยหาเรื่องคุยทีหลัง  เอาข้ออ้างที่ว่าเขาจะเลี้ยงกาแฟคืนมาต่อรองเสียเลย  ในขณะที่นอนคิดอะไรบนเตียงไปเรื่อยเปื่อยเสียงท้องก็ร้องจ๊อก ๆ  จึงลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปที่กระติกน้ำร้อน  ข้างกระติกน้ำร้อนมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวางอยู่หกห่อ  ใจจริงก็อยากไปหาอะไรดี ๆ กินอยู่หรอก  แต่ติดตรงที่ต้องเก็บเงินไว้ซื้อกาแฟ  คิดแล้วมันเศร้า...

"เอาซี้  ผีในห้องจะได้เห็นว่าฉันเองก็มีความพยายาม"

เธอพึมพำแล้วลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปเติมน้ำลงกระติกน้ำร้อน  หลังจากกดสวิตท์ไม่ถึงสามนาทีเสียงน้ำก็เดือดปุด ๆ  ขวัญข้าวจัดการฉีกซองเทน้ำร้อนลวกเส้น  รอไม่นานเส้นหยักศกสีเหลืองนวลในชามก็อ่อนตัวเหนียวนุ่ม  เธอซู้ดบะหมี่ในชามจดหมดไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำซุป  พออิ่มท้องแล้วก็ทอดมองไปยังแก้วกาแฟยี่ห้อดังที่วางเรียงกันอยู่หลายแก้ว  คิดในใจอย่างน้อยก็ได้แก้วมาเพิ่มละว้า  

...ลำพังแค่เงินจะซื้อข้าวกินก็น้อยนิด  ยังต้องเจียดไปซื้อกาแฟเพราะอยากเจอหน้าผู้ชายอีก  แบบนี้ไม่เรียกว่าทุ่มเทแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

เหตุใดชีวิตยัยข้าวถึงว่างเปล่าได้ขนาดนี้  ก่อนออกจากบ้านยังจำคำสุดท้ายที่แม่พูดไว้ได้ดี  แม่บอกให้หยุดเขียนนิยายแล้วหางานทำเป็นชิ้นเป็นอันซะ  ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วสามปี  ขวัญข้าวตั้งใจว่าถ้าเธอไม่ประสบผลสำเร็จก็จะไม่กลับไปเหยียบบ้านเด็ดขาด  ไม่ใช่เพราะว่าผิดใจอะไรกับแม่  ขวัญข้าวไม่เคยโกรธเคืองกับคำพูดเหล่านั้น  เธอยังคงโทรคุยกับแม่ทุกวันเป็นปกติ  และสนิทสนมกับครอบครัวเป็นอย่างดี  แถมยังส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน  แม้ว่าเงินที่ส่งไปให้จะไม่มากมายอย่างน้อยก็ภูมิใจ  แต่ที่ยังไม่กลับไปเป็นเพราะเธอตั้งเป้าหมายสูงสุดของชีวิตไว้แบบนั้น

...หากไม่ได้ดีจะไม่กลับไป

ขวัญข้าวออกจากบ้านมาได้ก็สามปีแล้ว  เธอกับกัลยาเรียนมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก  จึงไม่แปลกที่จะสนิทสนมและให้ความช่วยเหลือกันมาด้วยดี  ฐานะทางบ้านของกัลยาค่อนข้างดี  เรียนจบแล้วจึงไม่ต้องออกหางานทำให้ลำบาก  พ่อของกัลยาให้เงินมาหนึ่งก้อน  กัลยาจึงเอาเงินนั้นมาลงทุนเปิดร้านขายดอกไม้เป็นของตัวเอง  ซึ่งตอนนี้ร้านขายดอกไม้ของกัลยาก็เปิดมาแล้วสี่ปี  ถึงกำไรไม่มากนักแต่ก็พออยู่ได้อย่างไม่ขัดสน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก   5.มองหาใคร

    ตอนที่ 22/3เมื่อเจ้าของร่างสูงหันกลับมารอยยิ้มของหญิงสาวก็หายไปอีกครั้ง มองจากข้างหลังคิดเอาไว้ว่ายังไงว่าต้องใช่เขาแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นคนละคนกัน ผู้ชายที่เธอทักผิดไม่ใช่คนที่ขวัญข้าวเฝ้ารอจะเจอ แต่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างคล้ายกันเพียงเท่านั้น"ขอโทษค่ะ เอ่อ ฉันทักคนผิดค่ะ ขอโทษนะคะ""ไม่เป็นไรครับ"นัยน์ยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าพูดตอบกลับอย่างสุภาพ ก่อนจะหันกลับไปหาแคชเชียร์ตามเดิมแล้วสั่งเมนูกาแฟสองแก้ว หลังจากขวัญข้าวกล่าวคำขอโทษแล้วก็กลับมาที่โต๊ะของตนเอง เก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าสะพายบ่าเดินออกจากร้านไปด้วยไปใบหน้าเศร้าสร้อย สงสัยวันนี้เสียค่ากาแฟไปเกือบสองร้อยแต่ต้องคว้าน้ำเหลว หญิงสาวปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรรอบที่สิบ พรุ่งนี้จะมาใหม่ต่อให้วันนี้ไม่ได้เจอเขาก็ตาม ทว่าพอพ้นหลังขวัญข้าวไปไม่ถึงสามนาที คนต้องการเจอก็เปิดประตูเข้าไปในร้าน กษิดิศเห็นว่านัยน์นั่งอยู่มุมหนึ่งจึงเดินเข้าไปหา"กูสั่งให้แล้ว"นัยน์บอกพร้อมหลุบตามองกาแฟที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ เมื่อครู่นี้ที่เขาสั่งกาแฟสองแก้วก็เพราะสั่งเผื่อกษิดิศด้วยหนึ่งแก้ว"อืม ขอบใจ""นัดกูออกมาเองแท้ ๆ แต่ให้กูมาถึงก

  • แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก   4.อยากจะได้คนนี้เป็นแฟน

    ตอนที่ 21/3"เอ่อ เดี๋ยวค่อยสั่งค่ะ""ขอบคุณนะครับ วันนี้ผมติดธุระด่วนต้องไปก่อน เจอกันครั้งหน้าอย่าลืมทวงนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ"เขาบอกอย่างสุภาพก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปพร้อมกับกาแฟที่ขวัญข้าวเป็นคนจ่ายเงิน เธอเหลียวมองตามหลังจนร่างสูงหายไปลับตา พอเขาพ้นขอบเขตระยะสายตาไปแล้วขวัญข้าวก็ยิ้มบิดไปบิดมา กระทั่งเสียงของ Barista ดังขึ้นนั่นแหละ จึงปลุกเธอให้ตื่นจากฝันกลางวัน"คุณลูกค้ารับอะไรดีคะ""เอ่อ ตายจริง" ลูกค้าสาวอุทานเสียงสูงพร้อมกับยกข้อมือที่ไม่มีนาฬิกาขึ้นมาดู เอาว่ะ! นาฬิกาทิพย์ก็มา ที่มันเป็นนาฬิกาทิพย์ไม่ใช่เพราะเพื่อนยืมไปแต่ไม่ได้ใส่มาตั้งแต่แรก "ขอโทษนะคะ ไม่เอาแล้วค่ะพอดีมีธุระรีบไป"บอกเพียงเท่านั้นก็สาวเท้าออกมาจากร้านโดยทันที ฝ่าย Barista จึงหันไปสบตากับเพื่อนอีกคนอย่างงง ๆ พอออกมาแล้วก็หยุดตั้งหลักที่ป้ายรถเมล์ วันนี้จำใจหอบงานกลับไปทำที่ห้องพัก แผนเดิมตั้งใจว่าจะนั่งทำที่ร้านกาแฟแต่คงเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะเงินในกระเป๋าไม่เอื้ออำนวยภายในหอพักอันคับแคบของตึกสามชั้น นอกจากเตียงนอนก็มีเฟอร์นิเจอร์อยู่ไม่กี่อย่าง เป็นข้าวของที่จำเป็นเท่านั้น เช่นตู้เสื้อผ้าและโต

  • แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก   3.กลิ่นดีแอร์เย็นฉ่ำ

    ตอนที่ 13/3"แน่นะลุง"เธอย้ำถามอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ ฝ่ายลุงแท็กซี่ก็พยักหน้ายืนยัน ขวัญข้าวจำใจต้องหยิบเงินแบงค์ห้าร้อยออกมาแล้วส่งให้ พอลุงรับไปแล้วก็ยิ้มแป้นรีบเก็บใส่กระเป๋า เธอที่เห็นแบบนั้นก็กระแอมเตือนดัง ๆ"ฮะแฮ่ม! ลืมอะไรไปรึเปล่าลุง อย่านิ่ง ๆ รีบทอนมาเลยบาทนึงอะ""ขี้เหนียวนะเรา""บาทเดียวก็เงิน"ลุงแท็กซี่รื้อหาเงินบาทในเกะมายัดใส่มือให้ ก่อนจะออกรถมุงไปยังร้านกาแฟที่ขวัญข้าวบอก เมื่อรถจอดสนิทแล้วเธอก็เดินเข้าไปในร้าน กลิ่นแรกที่ลอยเข้าจมูกคือกลิ่นของกาแฟคั่วบดหอมกรุ่น บรรยากาศในร้านสะอาดสะอ้าน วันนี้ไม่ค่อยมีลูกค้านั่งในร้านเยอะเท่าทุกวัน"อ้า กลิ่นดีแอร์เย็นฉ่ำ"ดวงหน้างามยิ้มปริ่มประหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอยู่ในสวนลาเวนเดอร์ ขวัญข้าวมาต่อคิวที่เค้าเตอร์แคทเชียร์ ข้างหน้าเธอมีลูกค้าชายกำลังยืนสั่งกาแฟอยู่ ความสูงของเขาบดบังร่างเธอจนมิด"บัตรใช้ไม่ได้เหรอครับ เอ...ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ""ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าสะดวกจ่ายเป็นเงินสดมั้ยคะ"สาว Barista เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นการ์ดส่งคืนให้ชายหนุ่มอย่างสุภาพ"ผมไม่มีเงินสดติดตัวเลยครับ"พอได้ยินแบบนั้นขวัญข้าวก็จ้องมองแผ่นหลังกว้า

  • แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก   2 ผู้ชายเฮงซวย

    ตอนที่ 12/3"เตย ต่อไปนี้ฉันจะตั้งมาตรฐานให้ตัวเองสูงกว่านี้ ฉันคือผู้หญิงที่สมควรได้รับสิ่งดี ๆ""คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว ผู้หญิงอย่างเราคู่ควรสำหรับสิ่งที่ดี แกเป็นคนสวยนะเว้ยข้าว""แกพูดได้ดีเตย"นี่สิถึงเรียกว่าเพื่อนรัก พอได้ยินคำชมขวัญข้าวยิ้มแป้นจนตัวแทบลอย พยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยที่กัลยาพูด หยิบมือถือขึ้นมาดูตอนนี้ย่างเข้าบ่ายสองโมงแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่างเพราะมัวแต่เอาเวลาไปหยุมหัวไอ้กฤษตินั่นแหละ "ต้องไปแล้วล่ะ จะหอบงานไปนั่งทำที่ร้านกาแฟ เบื่อเซ็งอยากหากาแฟแพง ๆ อัปลงสตอรี่"ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนคว้าเอากระเป๋าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กสะพายไหล่ อาชีพนักเขียนที่ขวัญข้าวทำอยู่ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าใดนัก นามปากกาของเธอแทบไม่ค่อยมีใครรู้จัก นิยายที่เขียนก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จ ผู้ติดตามน้อยนิดเท่าหยิบมือ รายได้ที่ใช้อยู่ใช้กินก็แค่หลักหมื่นต้น ๆ ต่อเดือน ไหนจะค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่งเสียเลี้ยงดูทางบ้านอีก แต่ที่ยังทำอยู่อย่างนั้นเพราะหวังว่าสักวันโชคคงเข้าข้าง เผื่อจะฟลุ๊กแล้วปังปุริเย่เหมือนนักเขียนคนอื่น...แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหน คิดแล้วมันโศกมันเศร้าอยากร้องไ

  • แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก   1.ผู้ชายเฮงซวย

    ตอนที่11/3"ต่อให้เราปฏิเสธคนรวยแล้วเลือกผู้ชายธรรมดาก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดี คนดีมันก็มีทั้งคนรวยและคนจนนั่นแหละ"ขวัญข้าวพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ หลังจากที่เลิกรากับแฟนหนุ่มมุมมองความรักก็เปลี่ยนไป บางทียังนึกสงสัยว่าตัวเองคงเกิดมาอาภัพก็เลยไม่เคยสมหวังในความรัก และก็ไม่รู้อีกว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนมาจีบทั้งที่เป็นคนหน้าตาสะสวย ผิดกับกัลยาที่หน้าตาจัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีหนุ่ม ๆ เทียวมาขายขนมจีบไม่ขาดกฤษติคือผู้ชายคนล่าสุดที่คบหาดูใจกับขวัญข้าวได้เพียงเดือนกว่า ๆ ยังไม่ทันไรทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอตั้งใจเอาเค้กวันเกิดไปเซอร์ไพส์เขา แต่บังเอิญเห็นภาพบาดตาบาดใจจนแทบกระอักในขณะที่นั่งถือกล่องเค้กขนาดสองปอนด์รออยู่ที่ล็อบบี้ เห็นกฤษติพาผู้หญิงหุ่นทรงเซ็กซี่ขึ้นคอนโด ขวัญขาวรู้สึกเจ็บใจจนขอบตาร้อนผ่าว จึงโทรหาเพื่อนสนิทอย่างกัลยา พอกำลังเสริมมาถึงก็บุกเข้าไปวีนฉ่ำแบบไม่ให้ต้องรอให้พ่อใครมาตัดริบบิ้นเค้กขนาดสองปอนด์ถูกโปะลงที่หน้าผู้ชายเฮงซวย ส่วนแม่สาวที่พาขึ้นห้องก็หอบผ้าวิ่งหนีไม่คิดชีวิต กฤษติโมโหโวยวายยกใหญ่ ชี้หน้าด่าทอขวัญข้าวอย่างเกรี้ยวกราด แล้ว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status