ตอนที่ 2
3/3
"ไม่เจอหลายวันขอบตาเป็นหมีแฟนด้าเชียวนะ ปั่นนิยายดึกเหรอ"
กัลยาพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวเปิดประตูเข้ามาในร้าน สภาพขวัญข้าวเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาแล้วหลายวัน กัลยาจึงคิดไปว่าเพื่อนต้องโหมงานหนักมาแน่ ๆ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วยัยข้าวก็แค่โด๊ปกาแฟหนักไปหน่อยจนนอนไม่หลับต่างหาก
"อืม นอนน้อย"
จะไม่ให้นอนน้อยได้อย่างไรเพราะเล่นอัดกาแฟมันทุกวัน ดื่มจนตาลอยคอยจนท้อแต่ก็ยังไม่ได้เจอหน้ากษิดิศสักวินาทีเดียว
"นอนซะบ้าง ร่างกายไม่มีอะไหล่เปลี่ยน"
"อยากจะนอนนะ แต่พักนี้ดื่มกาแฟหนักไปหน่อย"
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เลือกเมนูที่ไม่มีคาเฟอีน รู้แค่ว่าดื่มกาแฟแล้วมันดูเท่กว่าปกติ ขวัญข้าวนึกขำตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้น แต่ถ้าไม่สั่งกาแฟให้จบ ๆ พอถึงห้องก็ต้องชงกาแฟทรีอินวันดื่มอีกอยู่ดี แล้วจะต้องเสียเงินค่ากาแฟซ้ำซ้อนไปทำไม
"ถ้าคนงานไม่ลาออกกะทันหันก็คงไม่รบกวนแกหรอก"
"เออน่า ฉันก็เต็มใจช่วยอยู่แล้วมั้ย"
วันนี้กัลยารับงานจัดดอกไม้นอกสถานที่ เป็นงานกินเลี้ยงพนักงานประจำปีที่ถูกจัดขึ้นในบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อวานนี้คนงานเพิ่งจะลาออกกระทันหัน กัลยาก็เลยโทรตามเพื่อนรักให้มาช่วย ขวัญข้าวเรียนรู้วิธีจัดดอกไม้รูปแบบต่าง ๆ เพราะเวลาว่างชอบมาช่วยงานกัลยาอยู่เป็นประจำ ที่วันนี้ฝากฝังให้ขวัญข้าวไปเป็นตัวแทนกัลยาจึงพออุ่นใจได้บ้าง
"เดี๋ยวจะให้เด็กไปเป็นเพื่อนคนนึง"
"อืม ไอ้ทัพนะเหรอ ขนของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"
"เรียบร้อยแล้ว งานนี้งานใหญ่ทำสุดฝีมือเลยนะ กลับมาจะมีค่ากาแฟให้"
กัลยาโบกมือแล้วยิ้มกว้าง ขวัญข้าวขึ้นไปนั่งบนรถกะบะข้างคนขับส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน เด็กที่พูดถึงก็คือน้องชายแท้ ๆ ของกัลยาชื่อว่ากองทัพ ทำหน้าที่ขับรถและคอยเป็นลูกมือช่วยเหลือในวันนี้ ทั้งคู่ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงรถดอกไม้ก็มาจอดหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากแลกบัตรประชาชนที่ป้อมยามแล้วก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน บริเวณที่จัดงานเป็นเหมือนห้องอบรมสมนาทั่ว ๆ ไป กว้างขวางใหญ่โตโออ่า มีชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับจัดเลี้ยงไม่ต่ำกว่าร้อยโต๊ะ
"อืม งานใหญ่จริง ๆ ด้วย"
"บริษัทใหญ่โตขนาดนี้เจ้าของต้องรวยมากแน่พี่ข้าว"
กองทัพพูดพร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องโถง ขวัญข้าวก็เห็นด้วยว่าเจ้าของบริษัทนี้จะต้องร่ำรวยมากแน่ ๆ แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ ที่มาเพราะแค่อยากช่วยเหลือเพื่อนก็เท่านั้น ไม่ได้อยากรอดูหน้าประธานบริษัทหรือสอดส่องความร่ำรวยของใคร พองานเลี้ยงปิดแล้วก็เก็บฉากและพล็อพต่าง ๆ กลับร้าน เท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ
"รีบทำเถอะ กำหนดการเปิดงานจะเริ่มห้าโมงเย็น เราต้องเผื่อเวลาไว้สักชั่วโมงก่อนงานเริ่ม ตอนนี้กี่โมงแล้ว"
"สิบโมงเช้าแล้วพี่"
"โอเค เริ่มเลย!"
ทั้งสองช่วยกันจัดดอกไม้อย่างตั้งใจ เจ้าของงานเจาะจงเอาเฉพาะดอกลิลลี่สีขาวเป็นหลัก นอกจากลิลลี่ก็ยังมีไม้ประดับอื่น ๆ ที่ไม่ส่งกลิ่นหอมรุนแรงจนเกินไป กระทั่งเวลาล่วงเลยจนถึงบ่ายโมงกองทัพรู้สึกหิวจนแสบท้อง พลันเสียงร้องประท้วงของกระเพาะก็ดังขึ้น ขวัญข้าววางมือจากดอกไม้แล้วหันขวับมาที่หนุ่มรุ่นน้องทันที
"เสียงอะไร"
"เสียงท้องทัพนี่แหละ นี่ใกล้จะบ่ายสองแล้วทัพหิว"
"เออ งั้นแกทำรอไปก่อนเดี๋ยวพี่ออกไปซื้อข้าวกล่องมาให้"
ว่าแล้วขวัญข้าวก็เดินออกจากห้องโถง ตั้งใจว่าจะออกไปซื้ออาหารตามสั่งร้านใกล้ ๆ ระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาตเธอได้หยุดมองเข้าไปในร้านกาแฟ มันเป็นร้านเดียวกันกับที่เธอมานั่งรอเขาทั้งอาทิตย์ แต่พอคิดได้ว่าวันนี้หมดงบสำหรับกาแฟสักแก้วแล้ว ขวัญข้าวจึงละสายตาแล้วมุงตรงไปยังร้านขายอาหารตามสั่งเพียงอย่างเดียว พอสั่งข้าวกล่องแล้วก็ออกมานั่งรอนอกร้าน ระหว่างที่นั่งรอก็หลับหูหลับตาใช้มืออังปากหาว ทว่าจังหวะที่ลืมตาขึ้นมาแก้วกาแฟโลโก้คุ้นตาก็ถูกยื่นมาตรงหน้า ขวัญข้าวเบิกตาโตเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือขาวสะอาดทันที
"หายกันนะครับ"
"...คุณ"
"ผมไม่รู้ว่าคุณดื่มอะไร แต่วันนั้นผมดื่มเมนูนี้ก็เลยซื้อเมนูนี้มาคืน"
เสียงหัวใจของหญิงสาวดังกลบทุกเสียง เพียงแค่เห็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากของอีกฝ่ายขวัญข้าวก็พร้อมจะหลอมละลายเป็นของเหลว เขาหล่อมาก! เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกถีบให้ลงไปในหลุมรักแบบเต็มใจ ต่อให้ตกลงไปแล้วจะขาหักก็ไม่เป็นไร
"มือผมเย็นจนชาผมแล้วนะ"
"อ๋อ ค่ะ ๆ ขอโทษนะคะ"
พอได้สติขวัญข้าวก็รีบรับเอาแก้วกาแฟจากเขา จังหวะนี้ต้องมีแต๊ะอั๋งบ้างล่ะ โอ้ย พ่อประคุณรุนช่องเอ้ยมือนุ่มนิ่มมากพ่อ พอเธอรับแก้วไปแล้วกษิดิศก็ใช้มือทั้งสองข้างถูกกันไปมาบรรเทาอาการชา ถ้าไม่ต้องรักษาความเป็นกุลสตรีขวัญข้าวแทบอยากรวบมือเขามากุมไว้ให้หายเย็น
...คนอะไรขนาดใช้มือถูกกันเฉย ๆ ยังหล่อ ขวัญข้าวคิดในใจแล้วอมยิ้มเหนียมอาย ใช้นิ้วเกี่ยวปอยผมทัดหูแอ๊ปสวย
"ขอบคุณนะคะ"
"ขอบคุณเช่นกันครับ"
"เอ่อ...คุณทำงานแถวนี้เหรอคะ"
"ครับ ผมทำงานอยู่ GSD กรุ๊ป"
ที่แท้ก็เป็นพนักงานของบริษัท GSD กรุ๊ป นี่เอง แต่ทำไมชื่อบริษัทถึงได้ฟังแล้วคุ้นหูนักนะ ขวัญข้าวกลอกตาไปมา เพิ่งจะคิดออกว่าเธอกำลังทำหน้าที่รับจัดดอกไม้ให้บริษัทนี้นี่นั่นเอง
"จริงเหรอคะ บริษัทนี้ใหญ่โตมากเลยนะคะ วันนี้ฉันก็มารับจัดดอกไม้ในงานกินเลี้ยงพนักงานที่นั่นค่ะ"
"อ๋อ เหรอครับ"
กษิดิศพยักหน้าเออออ พอมองนาฬิกาที่ข้อมือเห็นว่าตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาเข้าประชุมแล้ว เขาจึงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดกับเธอ
"ใกล้ถึงเวลางานแล้ว ผมไปก่อนนะ"
"เดี๋ยวค่ะ คุณมีแฟน เอ้ย! เอ่อ คุณชื่ออะไรคะ"
กษิดิศนึกขำอยู่ในใจ เธอเหมือนคนที่ตื่นเต้นและประหม่าอยู่ตลอดเวลาจนพูดอะไรก็ติดขัดไปเสียหมด
"ผมชื่อต่อ คุณล่ะ"
"ขวัญข้าวค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่าข้าวก็ได้ค่ะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ"
ชายหนุ่มยิ้มแล้วหมุนตัวเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาสบตากับเธออีกครั้ง เธอเลิกคิ้วสูงรอฟังอยู่ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
"ผมยังไม่มีแฟนนะครับ"
สรุป ตายแบบสงบศพสีบานเย็นไปเลย...
ตอนพิเศษส่งท้าย"คุณต่อส่งอะไรไปบ้านข้าวคะ"ทันทีที่วางสายจากอารี ขวัญข้าวเดินเข้ามาถามกษดิศ เมื่อครู่นี้แม่ของเธอโทรมาบอกว่ามีรถขนส่งไปส่งของ รถหกล้อคันใหญ่บรรจุของมาเต็มรถ เป็นของใช้ในบ้านอาทิเช่น โฟซา ตู้ เตียง เฟอร์นิเจอร์ดีๆ และของใช้สำหรับตกแต่งบ้านอื่นๆ อีกทั้งยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกครบครัน ที่จริงอารีก็เล่าให้ขวัญข้าวฟังหมดแล้ว ขณะที่เล่าไปก็ตื่นเต้นไป แต่ขวัญข้าวก็ยังอยากถามอยู่ดีว่าคนที่ส่งไปนั่นจะใช้ฝีมือเขาหรือเปล่า"ก็ของใช้นิดหน่อยครับ""เต็มคันรถหกล้อนะเหรอคะนิดหน่อย""ตอนแรกว่าจะส่งไปสักชิ้นสองชิ้น แต่คิดไปคิดมาส่งไปหลายชิ้นเลยก็ดีเหมือนกัน พ่อกับแม่จะได้สะดวกสบายขึ้น"โอ้ย...อภิชาติราชบุตรเขย น่าหยิกแก้มเบาๆ สักที"คุณต่ออย่าทำแบบนี้อีกนะคะ"พอได้ยินเธอพูดเสียงดุ กษิดิศจึงเป็นกังวลว่าขวัญข้าวอาจจะไม่พอใจ เขาคว้าตัวเธอให้ลงมานั่งตัก เอาคางเกยที่ไหล่บอบบางพูดน้ำเสียงออดอ้อน"ทำไมละครับ ไม่พอใจเหรอ เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะบอกก่อ
ตอนที่ 142/3เมื่อกลับมาถึงห้องก็เหงาเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะกษิดิศบินไปคุยงานต่างประเทศตั้งแต่สามวันที่แล้วยังไม่กลับ กว่าจะกลับก็น่าจะยาวนานเป็นอาทิตย์ ขวัญข้าวหยิบหมอนที่เขาเคยหนุนนอนมาสูดดมฟุดฟิดเธอคิดถึงเขามาก...แค่ได้กลิ่นอายจางๆ บ้างก็ยังดี ไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่าหากมีความรักแล้วจะต้องทรมานเพราะความคิดถึง ขณะที่นั่งทำหน้าเซื่องซึมเสียงมือถือก็ดังขึ้น ขวัญข้าวรีบพุ่งตัวไปหยิบมาดู สายที่โทรเข้ามาคือกษดิศ เป็นการวิดีโอคอลทางไกลมาจากต่างประเทศ พอได้เห็นหน้าเขาก็ยิ่งอยากกอด นัยน์ตาดูเหงาหงอยเสียจนอีกฝ่ายมองออก"เป็นอะไร""คิดถึงคุณต่อมากค่ะ นับวันรอแล้ว กว่าจะกลับมาก็อีกตั้งอาทิตย์ข้าวคงใจขาดตายก่อนพอดี""คิดถึงเหมือนกัน อีกสองสามวันจะรีบกลับครับ""
ตอนที่ 141/3"สิ่งที่ข้าวรักก็คุณไงคะ ยกให้คุณต่ออยู่เหนือทุกอย่างเป็นเดอะเบสของข้าวเลยค่ะ แต่ข้าวก็ไม่ได้จะทิ้งสิ่งที่ข้าวทำนะคะ ทุกอย่างมันอยู่ในนี้" หญิงสาวหัวเราะสดใสแล้วชี้นิ้วเข้าหาขมับตัวเอง "อยู่ในสมองเอาออกมาใช้เมื่อไรก็ได้ ไว้ถ้าข้าวเรียนรู้งานกับคุณต่อจนสามารถซัปพอร์ตคุณต่อได้บ้างค่อยหาโอกาสกลับมาทำสิ่งที่อยากทำก็ยังไม่สายค่ะ ข้าวไม่อยากปิดโอกาสที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ คนเราถ้าทำเป็นหลายอย่างก็ดีไม่ใช่เหรอคะ""จะเอาแบบนั้นก็ได้ งั้นค่อยเริ่มงานอาทิตย์หน้าเลย แต่คนที่สอนงานคงต้องให้มัดหมี่กับคุณนุชเป็นคนสอน ช่วงนี้ผมยุ่งๆ น่ะ""ได้ค่ะ""แล้วจะเอาเงินเดือนเท่าไรครับ""อืมมม"เธอใช้นิ้วชี้เคาะริมฝีปากจิ้มลิ้มแล้วทำหน้าครุ่นคิด ครั้งที่แล้วก็ได้จากเขามาค่อนข้างเยอะ หากจะเรียกเยอะเกินตัวก็อาจจะดูน่าเกลียดเกินไป"พิจารณาให้ต
ตอนที่ 132/3"คุณครับ คุณคนสวยเป็นแฟนเพื่อนผมจริงๆ เหรอครับ" อติหันไปทางขวัญข้าวแล้วพูดยิ้มๆ ใช้น้ำเสียงละมุนกว่าตอนที่พูดกับเพื่อนๆ หลายเท่า ขวัญข้าวตอบคำถามของเขาด้วยการพยักหน้าหงึกๆ"กูตกข่าวไปตอนไหนวะเนี่ย ไอ้วิณมึงก็รู้เหรอ""ไม่ กูไม่รู้ เพิ่งรู้พร้อมมึง""งั้น...เอ่อ คุณคนสวยครับ คืนนี้ผมขออนุญาตพาเพื่อนไปเที่ยวแล้วกลับดึกได้มั้ยครับ รับรองกลับก่อนพระออกบิณฑบาตแน่นอน"อันนั้นไม่เรียกว่ากลับดึกแต่เรียกว่ากลับเช้า อติไม่วายขออนุญาตขวัญข้าวอย่างถูกต้อง เพราะก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้ามาพวกเขากำลังคุยเรื่องนี้อยู่พอดี พอเธอมองไปที่กษิดิศจึงพอจะดูออกว่าเขาเองก็ไม่อยากออกไปนักหรอก เหมือนกำลังส่งสายตาเว้าวอนขอให้เธอปฏิเสธอติมากกว่า"ได้ค่ะ"
ตอนที่ 131/3"ข้าวเพิ่งรู้ว่าคุณต่อแพ้กุหลาบก็เลยอาบน้ำล้างตัวก่อนค่ะ แต่เมื่อกี้ก็เข้าครัวไปรอบนึงแล้วนะคะ คุณต่อไม่ได้กลิ่นไข่เจียวเหรอคะ""ถึงเป็นไข่เจียวก็ยังหอม""แล้วทำไมไม่บอกข้าวละคะว่าแพ้กุหลาบ หากข้าวรู้ข้าวก็จะ""จะทำยังไงครับ"นั่นนะสิ ถ้ารู้ว่าเขาแพ้กุหลาบขวัญข้าวก็คงหาคนอื่นไปส่งดอกไม้แทน ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าทุกครั้งที่เจอกันอาจเสี่ยงต่อการแพ้แต่กษิดิศก็ไม่คิดจะหลีกเลี่ยง หากขวัญข้าวคิดแบบเข้าข้างตัวเองก็คงจะมีแค่เหตุผลเดียว..."เพราะอยากเจอข้าวเหรอคะ""ไม่บอก"กษดิศเฉไฉ ซึ่งก็คงหมายความว่าเธอพูดถูก ขวัญข้าวเอียงหน้ามาจุ๊บที่แก้มเขาเบาๆ แล้วลุกขึ้นจูงมือชายหนุ่มมาที่โต๊ะอาหาร หลังจากทานมือค่ำอิ่มแล้วก็มานอนดูหนังด้วยกัน ขวัญข้าวเลือกหนังผีมาเรื่องหนึ่ง ระหว่างดูก็คลุ
ตอนที่ 123/3"เอาไปเถอะ ปกติผมเป็นคนไม่ชอบพกเงินสดเยอะ พอรู้ว่าจะได้ออกต่างจังหวัดก็เลยเตรียมมานิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพอมั้ย""แต่""ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ"เขายิ้มอบอุ่นแล้วบีบมือเธอเบาๆ เพิ่มความมั่นใจให้เธอมากยิ่งขึ้น ขวัญข้าวยิ้มตอบด้วยความตื้นตัน เปิดประตูลงจากรถแล้วเอาเงินนั้นไปมอบให้พ่อและแม่ กษิดิศนั่งมองเธออยู่ในรถเห็นผู้เฒ่าทั้งสองแย้มยิ้มด้วยความดีใจก็ยิ้มตาม หลังจากขวัญข้าวกลับขึ้นรถแล้วกษิดิศจึงขับจากไป ฝ่ายป้าข้างบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้ร้องถามอารีด้วยความอยากรู้อยากเห็น"ลูกสาวให้เงินไว้ใช้กี่พันล่ะแม่อารี""ยังไม่ได้นับดูเลยจ๊ะพี่ปริก""ก็คงจะให้ไว้ไม่กี่พันหรอก ว่าก็ว่าเถอะสมัยนี้เงินมันหายาก แต่นานๆ ทีกลับมาเยี่ยมบ้านน่าจะให้พ่อแม่สักห้าหกพันก็ยังดี"