Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-05-15 22:38:40

เมริสานอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ในเรือนหอที่พ่อแม่สามีซื้อให้เป็นของรับขวัญสะใภ้คนแรกของตระกูล เดิมทีพวกท่านก็อยากให้อยู่กันเสียบ้านเดียวกัน เพราะอย่างไรบ้านหลังนั้นก็คงไม่แคล้วไปจากธนาธิป ลูกชายคนเล็กอยู่แล้ว แต่พ่อคุณทูนหัว พ่อสามีตีทะเบียนเธอนี่สิ สวมบทบาทนักแสดงดีเด่นได้อย่างหน้าตายว่าอยากแยกบ้านออกไปทดลองใช้ชีวิตกับเธอตามลำพังสองต่อสองตามประสาคู่ผัวตัวเมีย ข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันหมาด ๆ

ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ก็ทำเพื่อที่จะได้ออกไปหาแม่ดาราชื่อดังคนนั้นได้ตามสะดวกโดยที่ไม่ต้องคอยตอบคำถามคุณพ่อคุณแม่ต่างหากล่ะ เหอะ อย่าให้เธอต้องสาธยายความแสบของนายธันวาอะไรนั่นเลย หนึ่งสัปดาห์กลับมาซุกหัวนอนที่บ้านแทบนับครั้งได้ว่าไม่เกินสอง ซ้ำยังอยู่แยกห้อง เดินสวนกันก็ไม่เคยทายทักทำคล้ายกับว่าอยู่คนละโลกกัน

แต่ก็ดี แยกออกมาก็ถือเป็นความคิดที่เข้าท่า เพราะเธอเองก็ไม่อยากต้องเล่นละคร แสร้งตีสองหน้าว่ารักใคร่กับนายธันวานั่นตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเธอคงได้เป็นโรคประสาทตายก่อนที่จะได้ใช้สมบัติที่คุณพ่อคุณแม่สร้างไว้แหง ๆ เลย

“เอ้อ!!! ชุดนี้มันแซ่บ เริ่ด” เมริสาดีดตัวลุกขึ้นไปยืนด้านหน้ากระจกบานใหญ่ แล้วหยิบเดรสขึ้นมาทาบ เอียงซ้าย เอียงขวา ดูมุมไหนก็เข้ากันกับเรือนร่างแบบบางของเธอ รับประกันได้ว่าเด่นสุดในงาน!

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวร่วมสองชั่วโมงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลานัดหมายออกเดินทางไปยังโรงแรมซึ่งใช้เป็นเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดคุณป้าจรรยา เมริสาย่างกรายลงมาจากชั้นบน สอดส่องสายตามองหาร่างของสามีหนุ่มตามนิตินัยที่วันนี้จะต้องสวมบทบาทคู่รักข้าวใหม่ปลามันเพื่อตบตาทุกคนภายในงาน

“พี่เฟื่อง เจ้านายพี่ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอ จะพิรี้พิไรให้มากความไม่ได้ช่วยให้หน้าโหล ๆ ดูหล่อขึ้นมาสักนิด” เมริสาเลิกคิ้วถามสาวรับภายในบ้านที่เป็นคนของคุณผกาวรรณว่าจ้างมาให้คอยดูแลความสะอาดเรียบร้อยและทำอาหาร เพราะหากจะพึ่งพาให้เธอทำหน้าภรรยา เป็นแม่บ้านแม่เรือนล่ะก็ อย่าหวังเลย ขนาดทอดไข่ยังไหม้จะนับประสาอะไรกับต้มยำตำแกง

“คุณธันวาออกไปแล้วค่ะคุณเมริสา”

“อะไรนะ!!” หญิงสาวหวีดเสียงแหลม

“คุณธันวาฝากบอกคุณเมริสาด้วยว่า จะต้องไปรับคุณพิญญาที่บ้านก่อนเพราะรถคุณพิญญาเข้าอู่ยังซ่อมไม่เสร็จ ส่วนคุณเมริสาให้พี่บุญช่วยไปส่ง พบกันหน้างานแล้วค่อยเดินเข้าไปพร้อมกันค่ะ”

“กรี๊ดดดดดดดดดด” เมริสากรีดร้องอแกมาเพื่อระบายความโมโหที่มันคับแน่นอยู่ในอก เขาทำเช่นนี้ไม่เห็นแก่หน้าเธอเลยสักนิด ก็รู้อยู่หรอกว่ารักกันมากปานจะกลืนกิน แต่แค่ช่วยปั้นหน้าเสเเสร้งสวมบทบาทผัวเมียกันแค่วันเดียว มันจะลงแดงตายเลยหรืออย่างไร อีเมริสาไม่เข้าใจ

แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!!

“จะไปเลยไหมครับคุณเมริสา” บุญช่วยเดินเข้ามาถาม

“ไป” เธอสะบัดผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังเล็กน้อย ก่อนจะเดินสับ ๆ ตามหลังคนขับรถไป “นี่ พี่บุญช่วย เมขอถามอะไรหน่อยสิ”

“คุณเมมีอะไรจะถามผมเหรอครับ” บุญช่วยตอบลพลางตาก็มองถนนไปด้วย

“พี่อยู่รับใช้อีตาคุณธันมานานแล้วใช่มั้ย”

“ครับ”

“แล้วอีตาคุณธันกับแม่ดาราโล่ทองคนนั้นเนี่ยเขารักกันมากเลยเหรอ รักกันมากขนาดนั้น แล้วทำไมถึงไมรีบแต่ง ๆ กันล่ะ” นี่คือสิ่งที่เมริสาเคลือบแคลงสงสัยมาโดยคตลอด แต่หากจะให้เอ่ยปากถามสามีเห็นทีเขาคงด่าทอว่าเธอขี้เสือกแน่ ๆ แม้พ่อเจ้าประคุณรุนช่องเขาไม่ได้พูดออกเสียงตามตรง แต่กลับใช้สีหน้าท่าทางและแววตาที่ชัดเสียยิ่งกว่าชัดซะอีก

“ครับ ผมอยู่กับคุณธันมาตั้งแต่คุณธันตีนเท่าฝาหอย ผมดูออกว่าคุณธันรักคุณพิญมาก แต่ที่ไม่สามารถแต่งงานกันได้ก็เพราะคุณผู้หญิงไม่ยอมรับ ยืนกรานเสียงแข็งว่าจะไม่มีวันให้คุณพิญญาเข้ามาเป็นสะใภ้เด็ดขาด” บุญช่วยตอบไปเท่าที่เขารับรู้มา ที่กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเมริสา เมียตีทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจ้านายก็เพราะรู้ดีว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีใจพิศวาสต่อกันเลยสักนิด เพียงแค่ต้องแต่งงานกันตามหน้าที่เท่านั้น หากเมื่อครบกำหนดแล้วก็คงแยกย้ายไปใช้ชีวิตอิสระอย่างที่ต้องการ

สำหรับธนาธิป บุญช่วยมองออกว่าชีวิตหลังจากที่ได้เป็นอิสระจากทะเบียนสมรสนี่ก็คง ประวิงเวลาให้ผ่านไปสักนิด เพื่อไม่ให้คนรักโดนซุบซิบนินทาได้ว่ารอเสียบกลางมาตั้งแต่ที่ฝ่ายชายยังมีเมียเป็นตัวเป็นตน แล้วก็ค่อยแต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุขตามที่ต้องการ

แต่สำหรับคุณเมริสาแล้วบุญช่วยมองไม่ออก เธอดูเป็นคนไม่ค่อยมีจุดหมายปลายทางอะไร ขนาดต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก เธอยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรสักอย่าง ใช้ชีวิตได้ดั่งเดิม นอน เที่ยว ช้อปปิ้ง

“อ๋อ” เมริสาพยักหน้าเป้นอันว่ารับรู้แต่ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพราะนั่นไม่ใช่ธุระกงการที่เธอจะต้องให้ความสำคัญ ปัญหาของใครคนนั้นก็หาหนทางแก้ไขเอาเอง เธอไม่รับรู้ด้วย “พี่ พี่ส่งฉันด้านหน้าแล้วก็กลับไปที่บ้านได้เลย และที่สำคัญอย่าได้โทรไปรายงานเจ้านายพี่เด็ดขาด เข้าใจไหม”

“ครับคุณเม” บุญช่วยแม้ยังงงวงวยอยู่บ้าง ว่าทำไมเมริสาถึงไม่ยอมให้เขาเข้าไปส่งถึงด้านหน้าโรงแรม ทั้ง ๆ ที่ก็อยู่ในซอยด้านหน้านี้แล้วแท้ ๆ

“ขอบใจจ้ะ” เมริสาถกชายกระโปรงยาวขึ้นมาจับขมวดเอาไว้แล้วเหยียดขาเรียวยาวก้าวลงจากรถ ก่อนจะยืนบนฟุตพาธแล้วโบกมือบ๊ายบายบุญช่วยด้วยรอยยิ้มแย้มอย่างคนมีแผนการ “คุณไม่ให้เกียรติฉันก่อนนะคุณธันวา”

เธอเกลียดที่สุดกับการโดนไม่ให้เกียรติ เธอก็เข้าใจอยู่หรอกว่าไอ้การแต่งงาน และกระดาษโง่ ๆ ที่เก็บไว้ในลิ้นชักมันไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับเธอและเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเราต่างฝ่ายต่่างก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยความจำใจไม่ใช่รักใคร่ เธอไม่เคยว่าหากเขาจะใช้เวลาทั้งวันอยู่กับคนรัก แต่อีแค่มาออกงานสังคมที่ต้องปั้นหน้าว่าเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันไม่ได้เลยเหรอ

เขาหักหน้าเธอ ทิ้งเธอแล้วไปรับแม่ดาราคนนั้น แล้วคนอื่นเขาจะมองยังไง ไม่หัวเราะเยาะเธอเหรอไงที่สามีวิ่งแจ้นกับผู้หญิงคนอื่น แม้อาจจะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาทั้งสองผูกใจสมัครรักใคร่กัน แต่การออกงานสังคมในครั้งนี้ เขาก็ควรให้เกียรติเธอในสถานะเมียหลวง ซึ่งถือว่าเป็นการไว้หน้าคุณพ่อคุณแม่เธอด้วย

แล้วเราจะได้เห็นกีกัน คุณธันวา!!!

“ไปโรงแรมโฮเฮาส์ค่ะ” ในระหว่างทางที่นั่งรถมาจนถึงปากซอยโรงแรม เธอก็ได้เรียกแท็กซี่มารับเรียบร้อยแล้ว

@โรงแรมโฮเฮาส์

ก่อนหน้านี้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง ธนาธิปได้รับสายจากคนรักโทรมาบอกว่า รถของเธอยางรั่วกะทันหัน เกรงว่าจะไม่สามารถไปร่วมงานคุณป้าจรรยาตามที่รับปากกับหล่อนไว้ได้ เขาจึงต้องรีบไปรับที่บ้าน เพราะยังไงเสีย พิญญาเองก็ไม่มีใคร หากปล่อยให้นั่งแท็กซี่คนเดียวกลางค่ำกลางคืนก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายได้ ส่วนเมริสาไหว้วานให้บุญช่วยไปส่ง และค่อยนัดแนะพบกันด้านหน้างานเพื่อเข้าไปด้านในพร้อม ๆ กัน

แต่จนแล้วจนเล่า เมริสาก็ยังมาไม่ถึง เขาจึงโทรหาบุญช่วย และได้ความว่า เธอให้บุญช่วยจอดรถลงหน้าปากซอยโรงแรม เขาก็เลยคิดเออออไปเอง คนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจเช่นผู้หญิงคนนี้อาจเปลี่ยนความคิดกะทันหัน ไม่มาร่วมงานวันเกิดคุณหญิงจรรยาแล้วออกไปเที่ยวกับเพื่อนแทน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ธนาธิปก็ไม่ได้รอให้เสียเวลา เดินเข้าไปด้านในงาน และทำหน้าที่เป็นตัวแทนมอบของขวัญและอวยพรวันเกิดให้คุณจรรยา เพื่อนของคุณแม่ “สวัสดีครับคุณป้า”

“เอ้า ตาธันวา”

“คุณแม่ฝากของขวัญมาให้ครับ และให้ผมฝากขอโทษคุณป้าด้วยที่ไม่สามารถมาร่วมงานวันเกิดของคุณป้าได้ เพราะตอนนี้คุณพ่อกับแม่ไปทริปญี่ปุ่นกว่าจะกลับก็เกือบ ๆ กลางเดือนเลยครับ” พูดพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญที่ด้านในนั้นมีเครื่องประดับมูลค่าสูงพอสมควร

“ไม่เป็นไรหรอก ป้าเข้าใจ ขอบใจมากนะจ้ะ” คุณป้าจรรยารับของขวัญจากหลานชาย แล้วส่งให้เด็กในงานเอาไปวางไว้รวมกันกับชิ้นอื่น ๆ “แล้วนี่ตาธันมาคนเดียวเหรอ หนูเมริสาล่ะ”

“เมริสา เธอไม่ค่อยสบายน่ะครับคุณป้าก็เลยมาไม่ได้”

“เสียดายจังเนาะ” หล่อนตีหน้าเศร้าอย่างไม่เอาจริงเอาจังมากนัก เพียงหยอกเย้าหลายชายเล่น ๆ ให้พอขำขันเท่านั้น

“เมมาแล้วค่ะคุณป้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 43

    งานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายมีแค่คนภายในครอบครัวไม่มีอยู่จริง...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหล่อนแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่โปรดปรานนักโปรดปรานหนาอย่างหนูเมริสาทั้งทีมีหรือคุณผกาวรรณจะยินยอมให้มันไม่เอิกเกริกยิ่งใหญ่...ซึ่งในช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตร สวมแหวน รดน้ำสังข์ ซึ่งมีเพียงคนภายในครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่นวันนี้เมริสาสวมชุดไทยสีชมพูหวานมีสไบพาดเฉียงไปด้านหลัง ตัวเนื้อผ้าถูกตัดเย็บและปักสลักอย่างละเมียดละไม แต่งหน้าจนดูสวยผิดหูแปลกตา ทรงผมมัดเป็นหางม้าแต่ม้วนลอนเรียงลงมาคล้ายกับเกลียวคลื่น ดูอย่างไรก็เข้ากัน...ส่วนธนาธิปด้านบนเป็นเสื้อสูทสีชมพูโทนเดียวกับเจ้าสาวแสนสวย ด้านล่างสวมใส่โจงกระเบนสีเข้มกว่าเล็กน้อยกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับขันหมากโดยมีพ่อกับแม่ขบาบข้างเป็นญาติผู้ใหญ่ทาบทามสู่ขอ..."โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "ใครมีมะกรูด มาแลกมะนาว ใครมีลูกสาว มาแลกลูกเขย ฮู้วววว" เสียงร้องรำทำเพลงดังครึกครื้นด้านหน้าบ้าน... ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานแต่งงานครั้งที่สอง แต่ก็เป็นครั้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 42

    ธนาธิปประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างละเมียดละมัยนุ่มนวลแล้วค่อย ๆ ชำแรกปลายลิ้นเข้าไปควานหาน้ำหวานในโพรงอุ่นดูดดึงหยอกเย้ากอบโกยความสุขเสพสมจากกันและกันนานสองนานจนภายในกายมันอบอวลไปด้วยไอรักอยู่เต็มเปี่ยมไม่รู้ และคงไม่พยายามคิดหาคำตอบว่าต้นรักต้นเล็ก ๆ ที่มันก่อเกิดอยู่กลางใจจนรากของมันชอนไชยึดเหนี่ยวเราทั้งสองคนเอาไว้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทราบเพียงแค่ว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็จะรักษาและดูแลมันให้คงอยู่ไปตลอด ทั้งสองค่อย ๆ ผละจูบออกจากกัน ฝ่ามือของธนาธิปเลื่อนขึ้นไปจับประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้แล้วให้หน้าผากชนชิดรวมถึงปลายจมูกที่แตะสัมผัสกัน ก่อนจะขยับลงมาจุมพิตพวงแก้มนุ่ม ๆ ฟอดใหญ่ ทุกการกระทำของเขาคล้ายกับขนนกที่ปลิวผ่านปุยเมฆมันทั้งนุ่มนวล อบอุ่นจนใจเธอสั่นสะท้าน เขาไม่ได้รุนแรง หรือรุกอย่างฉาบฉวยแต่กลับทำให้เธอค่อย ๆ รู้สึกโอนเอนอ่อนไหวตามต่างหาก"ขอบคุณนะเมที่ให้โอกาสคนโง่ ๆ แบบผม" "ค่ะ" "กลับมาเป็นเมริสาเหมือนคนเดิมนะ รู้หรือเปล่าตอนที่คุณเปลี่ยนไปใจผมมันหดแทบจะเหลือเท่าปลายนิ้วก้อยอยู่แล้ว" ชายหนุ่มหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาแล้วถือวิสาสะรั้งตัวเธอเข้ามาโอบกอดเอาไว้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 41

    เมริสาวางไอแพดลงบนที่นั่งก่อนจะลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกบ้าบอนี้เอาไว้จนมันหนักอกหนักใจได้อีกต่อไปแล้ว เขามากล่าวโทษว่าเธอพยายามหลบหน้า เปลี่ยนแปลงไป คิดอะไรรู้สึกอะไรทำไมไม่บอกเขาตามตรง แล้วเขาล่ะเคยรู้บ้างหรือเปล่าว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันกำลังทำร้ายใครอีกคนที่เขาเผลอคิดไปเอง! "คุณมาทำให้ฉันรู้สึกดี มาทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณรู้สึกอะไรกับฉัน จนฉันเผลอถลำตัว...และสุดท้ายคุณก็มาบอกว่าที่คุณทำไปทั้งหมดจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย คุณแค่ต้องการให้เราจบกันด้วยดี คุณแค่ต้องการให้วันหย่ามันเป็นไปได้อย่างราบรื่น คุณแค่ต้องการตอบแทนที่ฉันช่วยเหลือคุณ คุณไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย! แล้วคุณเคยรู้หรือเปล่าว่าฉันคิด คุณแม่งไม่เคยรู้ไง!!! แต่พอฉันเริ่มตีตัวออกห่าง รักษาระยะห่างเซฟความรู้สึกของตัวเอง คุณกลับพยายามเข้าหา พยายามทำให้ฉันกลับไปอยู่ที่จุดเดิม คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เป็นเหี้ยอะไรห๊ะ ถ้าไม่รักไม่คิดอะไรด้วยก็ต่างคนต่างอยู่ จอบอ จบ” ได้ยินคำพูดของเมริสาไปธนาธิปถึงกับนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว "คุณรู้หรือเปล่าคุณธันวา ก็การกระทำของคุณไง ไ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 40

    "ก็แปลกสิ คุณลองคิดดูนะเมื่อก่อนโน้นคุณไม่แม้แต่อยากที่จะเสวนาหรือเจอหน้าฉันด้วยซ้ำ เดินผ่านแทบจะชนกันอยู่แล้วคุณก็ยังทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตน แต่เดี๋ยวนี้คุณ..." หญิงสาวไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดแบบใดดีที่จะไม่ดูหลงตัวเองจนเกินไป...ถึงแม้ใจจริงอยากถามมากแค่ไหนที่เขาทำแบบนี้เพราะรู้สึกอะไรกับเธอหรือเปล่า แต่ก็ทำได้เพียงเงียบเอาไว้ เรื่องอะไรทำนองนี้ต้องให้ผู้ชายเป็นคนพูดก่อน...แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เขาจะสารภาพกับเธอสักที ไหน ๆ การกระทำมันก็ชัดเจนขนาดนี้แล้วเหลือแค่รอพูดออกมาอย่างเดียวเท่านั้น "เอ่อ...ผมก็แค่คิดว่าถ้าเกิดเราสองคนผูกมิตรกันไว้คงไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ไหน ๆ ก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะหลุดพ้นจากพันธะใบทะเบียนสมรส ผมเองช่วงนั้นก็ขอความช่วยเหลือให้คุณมาสวมบทบาทคนรักให้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าทำดีใส่กันเข้าไว้ ตอบแทนเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร" ธนาธิปตอบไปตามความจริง เขาเป็นนักธุรกิจไม่มีทางที่จะทำอะไรแล้วไม่หวังผลประโยชน์แน่นอน... ได้ยินแบบนั้นใจเธอมันก็แป้วแปลก ๆ รู้สึกวูบโหวงอย่างไรก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ควรจะเคยชินได้แ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 39

    พอหลังจากนั้นประมาณเดือนกว่า ๆ คุณพ่อของเธอก็ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ จึงตัดสินใจยกตำแหนงให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเมริสาเข้ามาดูแลและนั่งแท่นซีอีโอบริษัทแทน โชคดีที่เธอมีธนาธิปข้างกาย เขาจึงคอยมอบคำแนะนำและคอยซัพอร์ต ส่งผลให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะยังไม่คล่องแคล่วสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ๆ เพราะพื้นฐานแล้วเมริสาเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง และ ฉลาด เพียงแต่เกียจคร้านจะหาเหาใส่หัวพาตัวเองไปลำบากเท่านั้น แต่พอภาระหน้าที่มันมากองรออยู่ด้านหน้าอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอก็ต้องจำใจรับเอามาดูแล ทางโน้นพอรู้ว่าคุณเกียรตินครป่วยหนัก อาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ซ้ำยังทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนให้กับเมริสาลูกสาว และ อดีตภรรยา ซ้ำยกให้หล่อนเพียงบ้านหลังนี้กับเงินในบัญชีธนาคารยี่สิบกว่าล้านเท่านั้น จึงไม่อยากเก็บเขาไว้เป็นภาระที่จะต้องมาคอยดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อย่างกับคนใช้ ก็เลยถีบหัวส่ง พาคุณเกียรตินครกลับไปให้เมียเก่าดูแล ส่วนหล่อนก็ใช้เงินที่ปอกลอกจากอีกฝ่ายมาได้ด้วยความสเน่หาอย่างสบายใจ หรือไม่ในอนาคตข้างหน้าก็อา

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 38

    ซ่า!!!! น้ำเย็นยะเยือกถูกสาดใส่รดศีรษะของหญิงสาวในชุดเดรสสีชมพูหวานซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ แขนสองข้างไขว้หลังและถูกมัดกันไว้ด้วยเชือกที่ไม่สามารถดิ้นหลุดได้อย่างง่ายดาย"กรี๊ด!!!" พิรญาสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจก่อนจะเพ่งสายตาหันไปมองคนที่กล้ากระทำกับดาราสาวอันดับหนึ่งอย่างเธอ คอยดูเถอะเธอจะโพสต์ประจานเอาให้ไม่สามารถมีที่ยืนอยู่บนสังคมได้เลย "พวกแกเป็นใคร จับตัวฉันมาทำไม ปล่อย!!! ปล่อยนะ ปล่อย" หญิงสาวพยายามดิ้นพล่านเพื่อให้หลุดออกจากเชือกที่พันธนาการมัดข้อแขนและข้อเท้าอยู่ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ตัวเธอก็เจ็บมากเท่านั้น "ก็เป็นเมียของคนที่แกเล่นชู้ด้วยไง!" จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวเข้ามา หล่อนคนนั้นสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อของแบรนด์ชั้นนำพร้อมด้วยสะพายกระเป๋าราคาแพงเฉียดหลักสิบล้าน แต่มีแว่นตาปกปิดอยู่จึงมองไม่ออกว่าเป็นใคร ถึงถอดแว่นออกมา ก็ใช่จะรู้ว่าเมียของคนที่เล่นชู้ด้วยคือใคร! บ้าบอ ผู้ชายในสต็อกที่เคยคั่วด้วยก็มีตั้งหลายคนแล้วจะไปทราบได้ยังไงถ้าเกิดไม่เอ่ยชื่อบอกมา เหอะ ถึงเอ่ยก็ไม่รู้ว่าจะจำได้อีกหรือเปล่า! "ใคร?" "คงจะเล่นชู้กับผัวชาวบ้านมาหลายค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status