Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-05-15 22:38:40

เมริสานอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ในเรือนหอที่พ่อแม่สามีซื้อให้เป็นของรับขวัญสะใภ้คนแรกของตระกูล เดิมทีพวกท่านก็อยากให้อยู่กันเสียบ้านเดียวกัน เพราะอย่างไรบ้านหลังนั้นก็คงไม่แคล้วไปจากธนาธิป ลูกชายคนเล็กอยู่แล้ว แต่พ่อคุณทูนหัว พ่อสามีตีทะเบียนเธอนี่สิ สวมบทบาทนักแสดงดีเด่นได้อย่างหน้าตายว่าอยากแยกบ้านออกไปทดลองใช้ชีวิตกับเธอตามลำพังสองต่อสองตามประสาคู่ผัวตัวเมีย ข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันหมาด ๆ

ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ก็ทำเพื่อที่จะได้ออกไปหาแม่ดาราชื่อดังคนนั้นได้ตามสะดวกโดยที่ไม่ต้องคอยตอบคำถามคุณพ่อคุณแม่ต่างหากล่ะ เหอะ อย่าให้เธอต้องสาธยายความแสบของนายธันวาอะไรนั่นเลย หนึ่งสัปดาห์กลับมาซุกหัวนอนที่บ้านแทบนับครั้งได้ว่าไม่เกินสอง ซ้ำยังอยู่แยกห้อง เดินสวนกันก็ไม่เคยทายทักทำคล้ายกับว่าอยู่คนละโลกกัน

แต่ก็ดี แยกออกมาก็ถือเป็นความคิดที่เข้าท่า เพราะเธอเองก็ไม่อยากต้องเล่นละคร แสร้งตีสองหน้าว่ารักใคร่กับนายธันวานั่นตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเธอคงได้เป็นโรคประสาทตายก่อนที่จะได้ใช้สมบัติที่คุณพ่อคุณแม่สร้างไว้แหง ๆ เลย

“เอ้อ!!! ชุดนี้มันแซ่บ เริ่ด” เมริสาดีดตัวลุกขึ้นไปยืนด้านหน้ากระจกบานใหญ่ แล้วหยิบเดรสขึ้นมาทาบ เอียงซ้าย เอียงขวา ดูมุมไหนก็เข้ากันกับเรือนร่างแบบบางของเธอ รับประกันได้ว่าเด่นสุดในงาน!

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวร่วมสองชั่วโมงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลานัดหมายออกเดินทางไปยังโรงแรมซึ่งใช้เป็นเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดคุณป้าจรรยา เมริสาย่างกรายลงมาจากชั้นบน สอดส่องสายตามองหาร่างของสามีหนุ่มตามนิตินัยที่วันนี้จะต้องสวมบทบาทคู่รักข้าวใหม่ปลามันเพื่อตบตาทุกคนภายในงาน

“พี่เฟื่อง เจ้านายพี่ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอ จะพิรี้พิไรให้มากความไม่ได้ช่วยให้หน้าโหล ๆ ดูหล่อขึ้นมาสักนิด” เมริสาเลิกคิ้วถามสาวรับภายในบ้านที่เป็นคนของคุณผกาวรรณว่าจ้างมาให้คอยดูแลความสะอาดเรียบร้อยและทำอาหาร เพราะหากจะพึ่งพาให้เธอทำหน้าภรรยา เป็นแม่บ้านแม่เรือนล่ะก็ อย่าหวังเลย ขนาดทอดไข่ยังไหม้จะนับประสาอะไรกับต้มยำตำแกง

“คุณธันวาออกไปแล้วค่ะคุณเมริสา”

“อะไรนะ!!” หญิงสาวหวีดเสียงแหลม

“คุณธันวาฝากบอกคุณเมริสาด้วยว่า จะต้องไปรับคุณพิญญาที่บ้านก่อนเพราะรถคุณพิญญาเข้าอู่ยังซ่อมไม่เสร็จ ส่วนคุณเมริสาให้พี่บุญช่วยไปส่ง พบกันหน้างานแล้วค่อยเดินเข้าไปพร้อมกันค่ะ”

“กรี๊ดดดดดดดดดด” เมริสากรีดร้องอแกมาเพื่อระบายความโมโหที่มันคับแน่นอยู่ในอก เขาทำเช่นนี้ไม่เห็นแก่หน้าเธอเลยสักนิด ก็รู้อยู่หรอกว่ารักกันมากปานจะกลืนกิน แต่แค่ช่วยปั้นหน้าเสเเสร้งสวมบทบาทผัวเมียกันแค่วันเดียว มันจะลงแดงตายเลยหรืออย่างไร อีเมริสาไม่เข้าใจ

แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!!

“จะไปเลยไหมครับคุณเมริสา” บุญช่วยเดินเข้ามาถาม

“ไป” เธอสะบัดผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังเล็กน้อย ก่อนจะเดินสับ ๆ ตามหลังคนขับรถไป “นี่ พี่บุญช่วย เมขอถามอะไรหน่อยสิ”

“คุณเมมีอะไรจะถามผมเหรอครับ” บุญช่วยตอบลพลางตาก็มองถนนไปด้วย

“พี่อยู่รับใช้อีตาคุณธันมานานแล้วใช่มั้ย”

“ครับ”

“แล้วอีตาคุณธันกับแม่ดาราโล่ทองคนนั้นเนี่ยเขารักกันมากเลยเหรอ รักกันมากขนาดนั้น แล้วทำไมถึงไมรีบแต่ง ๆ กันล่ะ” นี่คือสิ่งที่เมริสาเคลือบแคลงสงสัยมาโดยคตลอด แต่หากจะให้เอ่ยปากถามสามีเห็นทีเขาคงด่าทอว่าเธอขี้เสือกแน่ ๆ แม้พ่อเจ้าประคุณรุนช่องเขาไม่ได้พูดออกเสียงตามตรง แต่กลับใช้สีหน้าท่าทางและแววตาที่ชัดเสียยิ่งกว่าชัดซะอีก

“ครับ ผมอยู่กับคุณธันมาตั้งแต่คุณธันตีนเท่าฝาหอย ผมดูออกว่าคุณธันรักคุณพิญมาก แต่ที่ไม่สามารถแต่งงานกันได้ก็เพราะคุณผู้หญิงไม่ยอมรับ ยืนกรานเสียงแข็งว่าจะไม่มีวันให้คุณพิญญาเข้ามาเป็นสะใภ้เด็ดขาด” บุญช่วยตอบไปเท่าที่เขารับรู้มา ที่กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเมริสา เมียตีทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจ้านายก็เพราะรู้ดีว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีใจพิศวาสต่อกันเลยสักนิด เพียงแค่ต้องแต่งงานกันตามหน้าที่เท่านั้น หากเมื่อครบกำหนดแล้วก็คงแยกย้ายไปใช้ชีวิตอิสระอย่างที่ต้องการ

สำหรับธนาธิป บุญช่วยมองออกว่าชีวิตหลังจากที่ได้เป็นอิสระจากทะเบียนสมรสนี่ก็คง ประวิงเวลาให้ผ่านไปสักนิด เพื่อไม่ให้คนรักโดนซุบซิบนินทาได้ว่ารอเสียบกลางมาตั้งแต่ที่ฝ่ายชายยังมีเมียเป็นตัวเป็นตน แล้วก็ค่อยแต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุขตามที่ต้องการ

แต่สำหรับคุณเมริสาแล้วบุญช่วยมองไม่ออก เธอดูเป็นคนไม่ค่อยมีจุดหมายปลายทางอะไร ขนาดต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก เธอยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรสักอย่าง ใช้ชีวิตได้ดั่งเดิม นอน เที่ยว ช้อปปิ้ง

“อ๋อ” เมริสาพยักหน้าเป้นอันว่ารับรู้แต่ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพราะนั่นไม่ใช่ธุระกงการที่เธอจะต้องให้ความสำคัญ ปัญหาของใครคนนั้นก็หาหนทางแก้ไขเอาเอง เธอไม่รับรู้ด้วย “พี่ พี่ส่งฉันด้านหน้าแล้วก็กลับไปที่บ้านได้เลย และที่สำคัญอย่าได้โทรไปรายงานเจ้านายพี่เด็ดขาด เข้าใจไหม”

“ครับคุณเม” บุญช่วยแม้ยังงงวงวยอยู่บ้าง ว่าทำไมเมริสาถึงไม่ยอมให้เขาเข้าไปส่งถึงด้านหน้าโรงแรม ทั้ง ๆ ที่ก็อยู่ในซอยด้านหน้านี้แล้วแท้ ๆ

“ขอบใจจ้ะ” เมริสาถกชายกระโปรงยาวขึ้นมาจับขมวดเอาไว้แล้วเหยียดขาเรียวยาวก้าวลงจากรถ ก่อนจะยืนบนฟุตพาธแล้วโบกมือบ๊ายบายบุญช่วยด้วยรอยยิ้มแย้มอย่างคนมีแผนการ “คุณไม่ให้เกียรติฉันก่อนนะคุณธันวา”

เธอเกลียดที่สุดกับการโดนไม่ให้เกียรติ เธอก็เข้าใจอยู่หรอกว่าไอ้การแต่งงาน และกระดาษโง่ ๆ ที่เก็บไว้ในลิ้นชักมันไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับเธอและเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเราต่างฝ่ายต่่างก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยความจำใจไม่ใช่รักใคร่ เธอไม่เคยว่าหากเขาจะใช้เวลาทั้งวันอยู่กับคนรัก แต่อีแค่มาออกงานสังคมที่ต้องปั้นหน้าว่าเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันไม่ได้เลยเหรอ

เขาหักหน้าเธอ ทิ้งเธอแล้วไปรับแม่ดาราคนนั้น แล้วคนอื่นเขาจะมองยังไง ไม่หัวเราะเยาะเธอเหรอไงที่สามีวิ่งแจ้นกับผู้หญิงคนอื่น แม้อาจจะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาทั้งสองผูกใจสมัครรักใคร่กัน แต่การออกงานสังคมในครั้งนี้ เขาก็ควรให้เกียรติเธอในสถานะเมียหลวง ซึ่งถือว่าเป็นการไว้หน้าคุณพ่อคุณแม่เธอด้วย

แล้วเราจะได้เห็นกีกัน คุณธันวา!!!

“ไปโรงแรมโฮเฮาส์ค่ะ” ในระหว่างทางที่นั่งรถมาจนถึงปากซอยโรงแรม เธอก็ได้เรียกแท็กซี่มารับเรียบร้อยแล้ว

@โรงแรมโฮเฮาส์

ก่อนหน้านี้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง ธนาธิปได้รับสายจากคนรักโทรมาบอกว่า รถของเธอยางรั่วกะทันหัน เกรงว่าจะไม่สามารถไปร่วมงานคุณป้าจรรยาตามที่รับปากกับหล่อนไว้ได้ เขาจึงต้องรีบไปรับที่บ้าน เพราะยังไงเสีย พิญญาเองก็ไม่มีใคร หากปล่อยให้นั่งแท็กซี่คนเดียวกลางค่ำกลางคืนก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายได้ ส่วนเมริสาไหว้วานให้บุญช่วยไปส่ง และค่อยนัดแนะพบกันด้านหน้างานเพื่อเข้าไปด้านในพร้อม ๆ กัน

แต่จนแล้วจนเล่า เมริสาก็ยังมาไม่ถึง เขาจึงโทรหาบุญช่วย และได้ความว่า เธอให้บุญช่วยจอดรถลงหน้าปากซอยโรงแรม เขาก็เลยคิดเออออไปเอง คนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจเช่นผู้หญิงคนนี้อาจเปลี่ยนความคิดกะทันหัน ไม่มาร่วมงานวันเกิดคุณหญิงจรรยาแล้วออกไปเที่ยวกับเพื่อนแทน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ธนาธิปก็ไม่ได้รอให้เสียเวลา เดินเข้าไปด้านในงาน และทำหน้าที่เป็นตัวแทนมอบของขวัญและอวยพรวันเกิดให้คุณจรรยา เพื่อนของคุณแม่ “สวัสดีครับคุณป้า”

“เอ้า ตาธันวา”

“คุณแม่ฝากของขวัญมาให้ครับ และให้ผมฝากขอโทษคุณป้าด้วยที่ไม่สามารถมาร่วมงานวันเกิดของคุณป้าได้ เพราะตอนนี้คุณพ่อกับแม่ไปทริปญี่ปุ่นกว่าจะกลับก็เกือบ ๆ กลางเดือนเลยครับ” พูดพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญที่ด้านในนั้นมีเครื่องประดับมูลค่าสูงพอสมควร

“ไม่เป็นไรหรอก ป้าเข้าใจ ขอบใจมากนะจ้ะ” คุณป้าจรรยารับของขวัญจากหลานชาย แล้วส่งให้เด็กในงานเอาไปวางไว้รวมกันกับชิ้นอื่น ๆ “แล้วนี่ตาธันมาคนเดียวเหรอ หนูเมริสาล่ะ”

“เมริสา เธอไม่ค่อยสบายน่ะครับคุณป้าก็เลยมาไม่ได้”

“เสียดายจังเนาะ” หล่อนตีหน้าเศร้าอย่างไม่เอาจริงเอาจังมากนัก เพียงหยอกเย้าหลายชายเล่น ๆ ให้พอขำขันเท่านั้น

“เมมาแล้วค่ะคุณป้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status