Masukณ ปัจจุบัน
07 : 45 น. "เสร็จแล้ว" เสียงหวานใสของณดาเอ่ยพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้มอย่างภูมิใจ เมื่ออาหารที่เธอทำเองกับมือนั้นเสร็จเรียบร้อยพร้อมทาน "คุณหนูคะ คุณท่านให้ตามไปพบค่ะ" แม่บ้านใหญ่ประจำตระกูล เดินเข้ามาเอ่ยบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและนอบน้อม "ค่ะ ณดาฝากดูต่อด้วยนะคะ" วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างจะพิเศษ เธอถึงได้ตื่นมาเข้าครัวเตรียมอาหารแต่เช้า เพราะว่าวันนี้จะเป็นวันที่เธอได้เจอหน้าพี่ชายอีกครั้งในรอบเกือบสองปี เธอเลยตั้งใจจะทำเมนูโปรดของพี่ชายไว้เป็นพิเศษ เพื่อต้อนรับการกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในรอบเกือบสองปีเต็ม ๆ ที่เธอไม่ได้เจอหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายเลย ก๊อก ก๊อก ก๊อก "คุณพ่อเรียกน้องเหรอคะ" ณดาเดินเข้ามาในห้อง พร้อมเอ่ยพูดกับคนเป็นพ่อด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่างสูงสง่า ของคนที่เธอไม่ได้เจอหน้ามานานเกือบสองปี กำลังนั่งหันหลังให้เธออยู่ "มานั่งก่อนสิลูก พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย" โอลิเวอร์เอ่ยบอกลูกสาวเสียงทุ้ม ณดาพยักหน้ารับแล้วเดินมานั่งลงที่โซฟาข้าง ๆ กับร่างสูงสง่าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายอย่างอลัน ที่นั่งนิ่งขรึมไม่สนใจแม้จะทักทายเธอด้วยซ้ำ เขาทำเพียงปลายตามองเธอเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น "สวัสดีค่ะพี่อลัน ^^" เสียงหวานใสเอ่ยทักทายพี่ชายด้วยรอยยิ้มอย่างเช่นทุกที แม้จะไม่เจอกันนานแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปจากเธอเลยก็คือรอยยิ้มแสนสดใส "….." แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเคย อลันนิ่งเงียบกับเธอมาตั้งแต่เธอจำความได้ จนกระทั่งวันนี้เขาก็ยังคงนิ่งเงียบกับเธออยู่แบบนั้นไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด สิ่งที่เปลี่ยนก็จะมีก็แค่รูปร่างหน้าตา ที่นับวันเขายิ่งดูหล่อเหลาและดูดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอแอบเผลอใจเต้นแรงอย่างไม่ควร "ณดาจะโกรธพ่อไหมลูก ถ้าพ่อจะบอกว่าหนูต้องย้ายไปอยู่อิตาลีกับพี่อลันก่อนชั่วคราว" โอลิเวอร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงลำบากใจไม่น้อย เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าลูกชายตนนั้นไม่ชอบณดามาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยเหตุผลจำเป็นบางอย่าง เขาเลยต้องวานลูกชายให้ช่วยดูแลลูกสาวให้ชั่วคราวอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าณดาจะโตพอที่จะสามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้ แต่ด้วยความเป็นห่วง และด้วยการเลี้ยงดูที่ไม่เคยปล่อยให้ลูกสาวได้ออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง ทำให้อดห่วงไม่ได้หากจะต้องให้อยู่คนเดียว อย่างน้อยให้ไปอยู่กับพี่ชายก็ยังมีคนดูแล แถมอลันยังเอ่ยปากเองว่าจะช่วยดูแลน้องให้ "ทำไมล่ะคะ" ณดาถามกลับอย่างสงสัย "พ่อคงจะไม่ได้อยู่สักพักใหญ่ ระหว่างนี้หนูต้องไปอยู่กับพี่อลันก่อน หนูโอเคไหมลูก" "เอ่อ...น้องแล้วแต่คุณพ่อค่ะ แล้วเรื่องเรียน..." เธอไม่รู้หรอกว่าคนเป็นพ่อมีเหตุผลอะไร แต่สิ่งที่ท่านเลือกให้ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธออยู่แล้ว "ไม่ต้องห่วงนะ พ่อจัดการให้หมดแล้วไปถึงก็สามารถเรียนได้เลยตามปกติ" โอลิเวอร์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะหยิบยื่นอะไรให้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือแพง ณดาก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธหรือร้องขออะไรที่มันมากมายเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน บางทีขนาดหยิบยื่นให้เธอยังไม่ยอมรับไว้ก็มี "เสร็จธุระแล้วใช่ไหมครับ งั้นผมขอตัว" อลันที่นั่งนิ่งเงียบฟังมานานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกไปทันที โดยไม่ต้องรอคำตอบอะไรจากใคร "ไปอยู่ที่นู้นหนูต้องดูแลตัวเองด้วยนะลูก อย่าดื้อกับพี่เขานะ" อดห่วงไม่ได้จริง ๆ ที่ลูกสาวสุดที่รักจะต้องไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่นแบบนั้น แล้วไร้ซึ่งพ่อแม่คอยปกป้อง ตั้งแต่ภรรยาสุดที่รักของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 6 ปีก่อน เขาก็พาลูกสาวคนเล็กอย่างณดา ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นการถาวร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยาเขา และเป็นที่ที่เขาและภรรยาได้พบกับสาวน้อยเจ้าของรอยยิ้มสดใสอย่างณดา จะมีก็แต่ลูกชายคนโตอย่างอลัน ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีตามลำพัง ที่คอยสืบทอดอำนาจของตระกูลแทนตน "คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ น้องสัญญาว่าจะไม่ดื้อกับพี่อลัน จะเป็นเด็กดีแล้วก็ตั้งใจเรียน" ร่างบางลุกขึ้นเดินเข้าสวมกอดคนเป็นพ่อด้วยความรัก ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยต้องห่างจากอกพ่อแม่ไปไหนไกล แต่ครั้งนี้เธอต้องย้ายไปอยู่กับพี่ชาย…พี่ชายที่ดูจะเกลียดชังเธอยิ่งกว่าอะไรดี "มีอะไรก็โทรหาพ่อนะลูก เอาไว้พ่อมีเวลาจะไปเยี่ยมนะ" "น้องต้องคิดถึงคุณพ่อมากแน่ ๆ เลยค่ะ" ณดาพูดเสียงออดอ้อน ก่อนจะเอ่ยถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่เธอควรจะต้องรู้ เมื่อต้องย้ายกลับไปอยู่ที่อิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่ถามรายละเอียด ที่เธอต้องย้ายไปใช้ชีวิตที่อิตาลีเรียบร้อย เธอก็ต้องรีบมาเก็บของใช้ที่จำเป็น เพราะว่าเธอจะต้องเดินทางไปพร้อมกับอลันในคืนนี้เลย ส่วนที่เหลือก็คงต้องไปหาซื้อเอาที่นู้น เพราะถ้าจะให้เก็บไปหมดคงจะไม่ทันเวลา"กูรู้ว่าลูกมันหวงแม่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะหวงขนาดนี้" คริสเตียนที่เห็นชอบ ร่วมมือกันกับอลันเพื่อแกล้งเพื่อน ก็ถึงกลับไปต่อไม่ถูก ที่เห็นดีแลนร้องไห้ดังจ้า ทิ้งทุกอย่างในมือ แล้ววิ่งเข้าไปหาคนเป็นแม่ทันทีแบบนั้น "ไอ้คริสบอกให้กูลองดู ใครจะคิดว่าลูกมึงจะหวงแม่เอาเรื่องขนาดนี้วะ" อลันเองก็มีสีหน้าที่รู้สึกผิดขึ้นมาไม่ต่างจากคริสเตียน ที่พวกเขานั้นทำหลานร้องไห้ดังลั่นบ้าน จนเด็กๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน ถึงกับหยุดนิ่ง แล้วมองไปที่เฟรย่ากับดีแลน ที่กอดโอ๋กันแน่นกลางบ้าน เพี้ยะ! "เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง" ฝ่ามือเล็กๆ ของณดา ภรรยาของอลัน ฟาดลงกับต้นแขนของสามีอย่างแรง เพี้ยะ! ตามมาด้วยเสียงฝ่ามือที่ฟาดลงกับต้นแขนเช่นกัน ที่ดังมาจากอีกคู่ เมื่อทอฝันเองก็ฟาดมือลงกับไหล่สามีอย่างคริสเตียน อย่างแรงไม่ต่างกัน "พี่คริสก็เหมือนกัน โดนกับตัวเองบ้างจะรู้สึก!" "พี่โดนมาเยอะแล้วที่รัก อย่าให้โดนอีกเลย" คริสเตียนถึงกับรีบหันมากอดซบอกภรรยาไว้แน่น แล้วรีบอ้อนทันที เพราะเขานั้น กว่าจะมีวันนี้ก็เรียกว่าสาหัสหนักมาก จนแทบจะหมดโอกาสด้วยซ้ำ "คนเก่งของแม่หยุดร้องแล้ว ไปครับ เราไปเล่นตรงนู้นกับพี่ๆ กันด
"พอเลย วันๆคิดแต่เรื่องจะทำน้องให้ดีแลน" "ไม่ใจอ่อนกับพี่จริงเหรอ" แดเนียลถึงกับทำเสียงอ่อน จ้องมองเธอด้วยสายตาออดอ้อน ที่น้อยครั้งนักเขาจะแสดงมันออกมา นอกซะจากจะอยู่กับเธอสองคนเท่านั้น "แค่ดีแลนคนเดียวน้องเฟรก็ปวดหัวจะแย่แล้วค่ะ ไหนจะแด๊ดดี้คนหื่นของดีแลนอีก แค่นี้ก็รับมือไม่ไหวแล้ว" "ไม่มีน้องก็ได้แค่ได้เข้าหอกับเมียทุกวันก็พอ" พูดจบเขาก็ตวัดร่างบางของภรรยา ที่อยู่ในชุดเจ้าสาวขึ้นแนบอกทันที พรึบ! "ว้าย! อะไรของพี่แดนเนี่ย เพื่อนมาเต็มบ้านจะมาหื่นอะไรตอนนี้คะ" สองแขนเล็กรีบโอบกอดรอบลำคอหนาไว้แน่นด้วยความตกใจ ก่อนจะว่าให้คนหื่นอย่างเขา อย่างไม่จริงจังนัก เมื่อตอนนี้เขากำลังอุ้มเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน ตามหลังลูกชายที่เดินเตาะแตะ นำหน้าไปจนจะถึงประตูบ้านอยู่แล้ว "หื่นตรงไหน แต่งงานกันแล้วก็ต้องเข้าหอสิ" "ใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ค่ะ เพราะพี่แดนก็พาน้องเฟรเข้าหอทุกวันอยู่แล้ว" "หึ พี่จะพาเมียพี่เข้าหอทุกวัน จนกว่าน้องดีแลนจะมา" แดเนียลยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อพูดถึงการมีน้องให้ลูกชายสุดที่รัก ที่จนตอนนี้เขาก็ยังทำไม่สำเร็จสักที "นี่พี่แดนยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกเหรอคะ" "ก็พี
"สมน้ำหน้า ชอบแกล้งลูกดีนัก" "หวง~" เสียงเล็กๆ เอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ก็พอฟังรู้เรื่องว่าเจ้าตัวนั้นพูดอะไร "หึๆ รู้แล้วครับว่าหวง กลับบ้านกันครับ ให้แด๊ดอุ้มไหม หรือจะเดินเอง" แดเนียลหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะเอ่ยถามลูกชายด้วยรอยยิ้ม ดีแลนที่พอได้ยินแบบนั้น ก็มีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้ารับหงึกหงักเบาๆ แล้วปล่อยมืออีกข้าง จากการโอบกอดรอบลำคอระหงของคนเป็นแม่ ก่อนจะชูสองแขนขึ้นสูง เพื่อบ่งบอกว่าให้คนเป็นพ่อนั้น อุ้มตัวเองแทนการที่ต้องเดินเอง แดเนียลรับลูกชายเข้ามาสู่อ้อมกอดทันที ที่เจ้าตัวชูแขนขึ้นสูง ก่อนจะโอบอุ้มขึ้นแนบอก พร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วยื่นมืออีกข้างลงมาหาร่างบางของภรรยา ที่ยังคงนั่งยองๆ อยู่ที่เดิม "ขอบคุณค่ะ ^^" เฟรย่าที่เห็นแบบนั้น ก็รีบยื่นมือไปจับมือหนาไว้แน่นอย่างไม่รอช้า ก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนเคียงข้างกับเขาทันที ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกพากันก้าวเดินออกมาตามทางเดิน ที่ตลอดสองข้างทางนั้น ถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ โดยที่ร่างสูงของแดเนียลนั้น ใช้แขนเพียงข้างเดียวโอบอุ้มลูกชายไว้แนบอก มืออีกข้างก็ประสานจับมือเล็กของภรรยาสาวส
"คุณแดเนียล คุณจะรับคุณเฟรย่าเป็นภรรยาของคุณ และดูแลเธอจนกว่าชีวิตจะสิ้นลมหายใจหรือไม่" เสียงของบาทหลวงกล่าวถามขึ้นทันที เมื่อทั้งคู่ต่างพยักหน้าให้กัน พร้อมกับหันหน้าไปทางบาทหลวง ที่ทำหน้าที่เป็นพยานรัก กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ให้กับเธอและเขาในวันนี้ อย่างเรียบง่ายตามที่เธอต้องการ โดยที่ไม่ต้องมีพิธีอะไรมากมาย ขอแค่ให้เธอและเขา ได้กล่าวคำสัญญาต่อกันและกัน ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ "ผม...แดเนียล ยินดีรับคุณเฟรย่าเป็นภรรยา และขอสัญญาว่า จะรักและซื่อสัตย์ต่อเธอเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต" น้ำเสียงทุ้มของแดเนียล เอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัดด้วยความหนักแน่น พร้อมกับกล่าวคำสัญญาต่อเธอ ต่อหน้าพระเจ้าด้วยความหนักแน่น ในความรักที่มีต่อเธอ "คุณเฟรย่า คุณยินดีที่จะรับคุณแดเนียลเป็นสามีของคุณหรือไม่" "ฉัน...เฟรย่า ยินดีรับคุณแดเนียลเป็นสามี และขอสัญญาว่า จะรักและซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงคนเดียว ไปตลอดชีวิตเช่นกัน" เฟรย่าตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด กึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ก่อนที่เธอจะกล่าวคำสัญญาต่อเขา ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นไม่ต่างจากเขา แดเนียลหมุมตัวหันหน้าเข้าหาเธออีกครั้ง พร้อมกั
สองปีต่อมา ภายในโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์ ถูกเนรมิตรจัดแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์อย่างสวยงาม ให้บรรยายที่แสนโรแมนติก ด้วยกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ทำให้บรรยากาศนั้นดูสดชื่นและผ่อนคลาย แถมยังโอบล้อมไปด้วยความอบอุ่น ของพิธีศีลสมรส ที่ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ต่างก็เฝ้ารอมาแสนนาน จนในที่สุด เขาและเธอก็มีวันนี้ "อุ้ม~" เสียงเล็กๆ ที่เอ่ยออกมาด้วยคำพูดที่ยังไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับสองแขนเล็กๆ ที่ชูขึ้นสูง "อีกนิดเดียวจะถึงแด๊ดดี้แล้วครับ คนเก่งของแม่ พาแม่เดินไปหาแด๊ดดี้ได้ไหมครับ" เสียงหวานอ่อนโยน เอ่ยพูดกับลูกชายวัยขวบเศษ ที่ตอนนี้กำลังร้องงอแงขอให้เธออุ้ม เฟรย่าที่ตอนนี้อยู่ในชุดเจ้าสาว ราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายอย่างที่เธอใฝ่ฝัน มือข้างหนึ่งถือช่อดอกไม้ขนาดพอเหมาะ มืออีกข้างจับมือลูกชายไว้แน่น ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อวันนี้ที่เธอเฝ้ารอคอยมาตลอดหลายปี ในที่สุดก็มาถึง เมื่อตอนนี้เธอกำลังก้าวเดินตามทางเดินเข้ามาภายในโบสถ์ ที่สองข้างทางนั้น ถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ โดยที่ปลายทางของเธอก็คือเขา...แดเนียล เจ้าบ่าวและพ่อของลูกเธอ ที่ตอนนี้เขายืนรอเธออยู่ที
"หึ~ น้องเฟรครับ ขอตัวเล็กให้พี่สักคนนะครับที่รัก" แดเนียลหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ แล้วกระซิบบอกชิดใบหูของเธอ ด้วยน้ำเสียงพร่ากระเส่า "พี่แดน~ >เสียงกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับคำพูดและสรรพนามที่แปลกใหม่ ที่เขาใช้พูดกับเธอ ทำเอาเธอแทบอยากจะกลั้นหายใจ ยิ่งนานวันเขายิ่งเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจนเธอเองก็แทบสูญเสียความเป็นตัวเองเพราะเขา จากที่เคยรุกเขาก่อน เคยพูดจาหยอกล้อ และยั่วยวนเขาก่อนตลอด ทุกวันนี้เธอแทบจะเป็นฝ่ายตั้งรับแทนแล้ว "ว่างไงครับ มีตัวเล็กให้พี่สักคนจะได้ไหม" ยิ่งเห็นคนตัวเล็กใต้ร่างกายแกร่งของเขาเขินหน้าแดง เขายิ่งอยากจะแกล้ง "น้องเฟรเสียความเป็นตัวเองไปหมดแล้วนะ!" เฟรย่าแกล้งกลบเกลื่อนความเขินอาย ด้วยการทำเป็นตะเบ็งเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ "ตอบไม่ตรงคำถาม" "แล้วพี่แดนคิดว่าน้องเฟรปฏิเสธได้ไหมล่ะคะ ถึงจะบอกว่าไม่ แต่สุดท้ายก็แพ้พี่แดนอยู่ดี" "หึ~ ยัยแม่มดน้อยของพี่สิ้นฤทธิ์ไปซะแล้ว" "ก็เพราะพี่แดนนั้นแหละที่เป็นคนทำ" "ก็บอกแล้วไง ว่าพี่จะปกป้องเอง และจะปกป้องตลอดไป ไม่ให้ใครมาทำร้ายแม่มดน้อยคนนี้ของพี่ได้อีกแล้ว" เขาเอ่ยบอกกับเธอด้วยรอยยิ้ม พ







