Wanna be yours
ตอนที่ 3.2
เสนอตัวอีกครั้ง
“จะนวด?” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย ฮาร์เปอร์นึกขันกับใบหน้าสวยที่ยังคงมีท่าทีมึนตึง แต่เขาก็ไม่คิดจะขัดศรัทธา “อะ ไหนลอง”
จบคำอนุญาต เจ้าของฝ่ามือนุ่มก็ออกแรงบีบนวดอย่างแรงด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโต นับดาวไม่ได้อยากทำงานนี้ขนาดนั้น เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ได้รับเลือกทั้งที่เสนอตัวก่อนตั้งหลายวัน
จะให้พูดแบบไม่อายปากก็ยังไงอยู่ แต่เธอไม่ปฏิเสธใจว่าเป็นเพราะอยากอยู่ใกล้อีกฝ่ายนั่นแหละ กระนั้นพี่เปอร์ก็ทำทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใบหน้าหล่อยังคงลอยหน้าลอยตาจ้อง มุมปากหยักลึกเผยรอยยิ้มในจังหวะที่มือกระด้างคว้าจับเข้าที่ข้อมือของเธอ
“แรงไป”
“พี่จะได้รู้ว่าดาวมีแรงพอจะทำงาน”
“ตัวแค่นี้ ทำเป็นเก่ง”
“ดาวเก่งนะ” นับดาวอดไม่ได้ที่จะฮาร์ดเซลล์ตัวเอง “เก่งหลายอย่างเลย จะใช้ให้ยกของจนกล้ามขึ้นยังได้ ดาวแข็งแรงจะตาย”
“อย่างเธอแค่สะพายกระเป๋ากล้องก็ไหล่ช้ำแล้วมั้ง” ฮาร์เปอร์เลื่อนคิ้วเข้าหากันอย่างไม่ศรัทธา แค่กระเป๋ากล้องกับเลนส์ถ่ายก็หนักร่วมกิโล ไหนบางครั้งอาจต้องช่วยเขาแบกไฟไปนอกสถานที่อีก ตัวบาง ๆ แค่นี้จะเอาตัวเองมาเหนื่อยเพื่ออะไร
“เวอร์มากพี่เปอร์ ดาวไม่ใช่เด็ก ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น”
“ไหนหมุนตัว…” ฮาร์เปอร์พยักหน้ารอดู เขาไม่ได้จริงจังแค่อยากแกล้งเล่นตามประสาคนสนิทเท่านั้น “ขอพี่เช็กของหน่อย”
“พี่เปอร์บ้า” คนตัวเล็กเริ่มออกอาการหน้าแดงกับคำพูดสองแง่สองง่ามที่ได้ฟัง แต่ก็ยอมกางแขนหมุนตัวให้คนที่กำลังยิ้มกว้างได้ดู “ดาวโตแล้ว”
“อาฮะ” ฮาร์เปอร์พยักหน้ารับ สายตาเลื่อนมองเรือนร่างเพรียวบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ถ้าที่ได้เห็นกับตาหญิงสาวก็โตแล้วจริง ๆ โดยเฉพาะหน้าอกคัพ E ที่โตยิ่งกว่าโต ต่างจากบั้นเอวคอดกิ่ว กับเรียวขาอ่อนที่เล็กนิดเดียว
“พี่เปอร์!”
“อืม” สติสตางค์ของฮาร์เปอร์กลับมาก็ตอนที่อีกฝ่ายดีดนิ้วเรียก
เขายกมือขึ้นกวาดลูบใบหน้าพลางก็สะบัดศีรษะเรียกสติตัวเอง ต้องเป็นเพราะได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอแน่ ๆ ถึงได้คิดอะไรไม่เข้าที
“เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”
“หืม?” ดวงตาคมเงยขึ้นสบตาหญิงสาวอีกครั้ง เมื่อจู่ ๆ เจ้าตัวก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนลง
“ดาวหงุดหงิดไม่เข้าเรื่องเอง พี่จะชวนใครทำก็เอาเถอะ สงสัยประจำเดือนใกล้มามั้ง” ท้ายประโยคนับดาวคล้ายจะพึมพำกับตัวเอง แต่แน่นอนว่าฮาร์เปอร์ได้ยิน
“พี่ก็เหมือนกัน คงนอนน้อยไป” หากหญิงสาวหงุดหงิดเพราะรอบเดือน เขาก็คงคิดฟุ้งซ่านตามประสาคนพักผ่อนไม่เพียงพอเหมือนกัน
“พี่ก็นอนให้เยอะ ๆ สิ สภาพดูไม่ได้เลย” คนตัวเล็กอ้อมแอ้มเสียงบอกด้วยความเป็นห่วง อันที่จริงพี่เปอร์ของเธอยังหล่อเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว แต่ที่เธอพูดก็เพราะเป็นห่วงสุขภาพของเขา
“ดูไม่ได้ตรงไหน?” ฮาร์เปอร์มั่นใจว่าต่อให้พักผ่อนน้อยเขาก็ยังห่างไกลจากคำว่า สภาพดูไม่ได้
“ทุกตรง”
“ตรงไหน?”
“ผมพี่ยุ่งมาก แถมพี่ไม่โกนหนวดด้วย” นับดาวชี้นิ้วส่งเดช ใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายเห็นตอหนวดครึ้มเขียวก็จริงแต่เขาก็หล่อมากอยู่ดี และเพราะคนตัวโตยังคงเลิกคิ้วจ้องสบตา เธอจึงอึกอักเอ่ยเสนอ “ดาวมัดผมให้เอาไหม?”
“มาดิ ไหนหนังยาง?” ฮาร์เปอร์พยักหน้ารับไม่คิดขัดใจใคร
“เอายางดาวก็ได้” ว่าพลางนับดาวก็ดึงหนังยางออกจากเรือนผมของเธอ ก้าวเข้าหาคนตัวโตในระยะประชิด
“…” ฮาร์เปอร์ไม่ได้เอ่ยคำใด ทว่าก็ยอมนั่งนิ่งแต่โดยดี
ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าขาวใสของคนที่กำลังช่วยจัดการมัดจุกผมให้ กลิ่นหอมแบบผู้หญิงทำเอาชายแท้แมนเต็มร้อยอย่างเขาต้องสะกดกลั้นลมหายใจในหลายจังหวะ ทั้งบัดนี้มือไม้ก็ไม่รู้จะวางไว้ที่ตรงไหน ได้แต่ประทับนิ่งอยู่บนหน้าขาแข็งแรง
ก็หากเป็นผู้หญิงคนอื่นมาชิดมาใกล้แบบนี้ คงไม่พ้นโดนรวบกอดเข้าให้สักที แต่ที่ฮาร์เปอร์ทำได้ขณะนี้คือต้องสำรวมกายหยาบเอาไว้เท่านั้นเอง
“แต่ดาวพูดจริงนะ ถ้าพี่เหนื่อยจะให้ดาวมาช่วยก็ได้…” เสียงแผ่วหวานพึมพำต่อโดยไม่สบตา “ดาวเคยช่วยพี่คลื่นจัดพร็อพจัดฉากบ่อย ๆ ช่วงนี้พี่คลื่นไม่ค่อยรับงาน ให้ดาวมาช่วยพี่บ้างไม่เห็นเป็นไร ไม่ต้องจ้างหรอก แถมพี่ก็มีงานแค่ช่วงเย็นถึงค่ำช่วงนั้นดาวก็ว่างเหมือนกัน”
“…”
“ไม่ได้คิดอะไรเลยนะจริง ๆ” นับดาวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสริมเพื่อไม่ให้ดูจงใจมากเกินพอดี “ดาวอยากฝึกไว้ เผื่อเป็นประสบการณ์ด้วยไง”
“ไม่ได้ว่าอะไร” ฮาร์เปอร์ไหวไหล่ ยังคงจับสายตาที่ตำแหน่งเดิม
“แต่… ถ้าพี่อยากให้เจ๊ฟ้าของพี่มาช่วยก็ไม่เป็นไร ดาวแค่…”
“อยากทำไหม?” เสียงเรียบตัดบท ฮาร์เปอร์หยัดกายขึ้นยืนโดยมีจุกเล็ก ๆ บนศีรษะ ความสูงของเขาทำเอาคนตัวเล็กกว่าต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่จะให้ทำเหรอ?”
“ถ้าเธออยากทำ พี่จะไปคุยกับไอ้คลื่น” เครื่องหน้าคมคายก้มลงมองในระยะประชิด ก่อนจะทำทีเอ่ยด้วยสายตาจริงจัง “บางคืนเธออาจต้องนอนกับพี่”
“ฮะ?” นับดาวย่นคอถอยหนี ตากลมโตกะพริบปริบกับสิ่งที่ได้ฟัง ทว่าคนขี้แกล้งก็หัวเราะ ‘หึ’ ออกมาหนึ่งคำ
“พูดจริง” ฮาร์เปอร์ยังคงตีหน้าขึงขัง “ลูกค้าบางคนเขาก็มาขอให้ถ่ายตอนดึก ๆ พวกเด็กในมอนี่ตัวดี”
“แล้วเราถึงขั้นต้องนอนด้วยกันเลยเหรอ?” นับดาวตั้งคำถามอย่างพาซื่อ ท่าทีของเธอทำเอาคนตัวโตเท้าสะเอวกดสายตามอง
“ทำไม? กลัวพี่รึไง?”
“ดะ… ดาวไม่ได้กลัว” นับดาวจะกลัวทำไม พี่เปอร์แค่ตัวโตกว่าเธอเกือบหนึ่งเท่า แค่มัดกล้ามรวมถึงอะไรต่อมิอะไรใหญ่โตกว่าร่างกายเธอทุกส่วนเท่านี้เอง
“ไม่กลัวก็ดี…” ฮาร์เปอร์หรี่ตามองคนซึ่งลอบกลืนน้ำลายหลายต่อหลายอึก ก่อนเขาเองจะเลิกแกล้ง ด้วยเกรงว่าผิวแก้มแดง ๆ ของอีกฝ่ายจะระเบิดเสียก่อน “เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไปคุยกับไอ้คลื่นก่อนแล้วกัน”
“อือ” นับดาวรู้สึกหายใจโล่งสบายขึ้นเมื่อคนตัวโตยอมผละห่างออกไป แต่เธอก็จำต้องถามถึงเรื่องที่ยังค้างคาใจ “แล้วถ้าพี่คลื่นให้ดาวทำกับพี่ แล้วเจ๊ฟ้าล่ะ?”
ทว่าร่างสูงของคู่สนทนาที่เดินไปกระแทกตัวนั่งบนโซฟาคว้าจานหมี่ผัดขึ้นกินไม่ใส่ใจจะตอบคำถาม ทั้งยังชวนเปลี่ยนเรื่องคุยโดยไม่เอ่ยต่อในเรื่องเดิม เจ้าของคำถามจึงไม่คิดจะซักไซ้ต่อเช่นกัน
นับดาวรู้ดีว่าการเสนอตัวช่วยอีกฝ่ายเป็นการหาเรื่องใส่ตัวหาเหาใส่หัวโดยใช่เรื่อง ทว่าเธอก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ขอแค่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ ได้อยู่ในระยะไม่ไกลจากเขาบ้างก็เพียงพอ แม้จะได้แค่เพียงสถานะน้องสาวเพื่อนสนิทก็ไม่เป็นไร