พี่มานพบอกให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาว่ายน้ำเล่นคนเดียวก่อน ส่วนเขาขอเตรียมมื้อเย็น เสร็จแล้วจะตามออกมาเล่นด้วย สระว่ายน้ำลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ มีต้นก้ามปูให้ร่มเงาเลยไม่ร้อนมากเมื่อฉันเดินมายืนอยู่ตรงนี้ ฉันเคยเล่นน้ำที่สระนี้แล้วหลายครั้งตอนตามสามีมารับใช้ครอบครัวท่าน จึงคุ้นเคยเป็นอย่างดี หลังจากล้างตัวแล้ว ฉันเดินยืดเส้นยืดสายอยู่รอบๆ สระ เหวี่ยงแขนขาไปมาเพื่อป้องกันการเป็นตะคริว วันนี้ฉันเลือกใส่ชุดว่ายน้ำแบบบิกินีที่พี่มานพแนะนำว่าดูเซ็กซี่เหมาะกับหุ่นฉัน ซึ่งแน่นอนว่าฉันเองก็ชอบด้วยเพราะมันเน้นส่วนสัดฉันให้ดูลงตัวมีความมั่นใจมากขึ้นหน้าอกอวบอิ่มโดดเด่นเมื่อมีผ้าสามเหลี่ยมสีเหลืองเลมอนแปะอยู่ตรงกลางเพื่อปิดจุกนมเพียงเท่านั้นด้านล่างเป็นสีสตริงชิ้นเล็ก แน่นอนว่ามันปิดได้เพียงเฉพาะด้านหน้าเท่านั้นบั้นท้ายงอนเด้งของฉันยักย้ายปะทะสายลมและแสงแดดซึ่งฉันไม่กลัวผิวจะคล้ำเพราะกำลังลงมือทาครีมกันแดด“ให้ช่วยทาครีมมั้ย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นขณะทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ริมสระทำให้ฉันสะดุ้งตกใจ หันไปมองก็เห็นท่านพิทักษ์ในชุดกางเกงว่ายน้ำเดินเข้
ไม่น่าเชื่อเลยว่าสิ่งที่ฉันรอคอยจะเดินทางมาถึงในเวลาอันรวดเร็ว เราสองคนผัวเมียคุยกันเรื่องกิจกรรมบนเตียงเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันเองก็ลืมเลือนไปเพราะต้องเร่งเคลียร์งานเพื่อปิดรอบบัญชีจึงทำให้รู้สึกตกใจไม่น้อย เมื่อพี่มานพบอกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ท่านชวนไปเที่ยวพักผ่อนที่ภาคตะวันออกซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่นั่น “ท่านว่ายังไงบ้างพี่” ฉันถามพี่มานพขณะนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน “เรื่องนั้นน่ะเหรอ” “ค่ะ พี่ได้พูดกับท่านหรือเปล่า” “อืม ท่านแปลกใจนิดหน่อยแต่ก็เห็นด้วยกับเรานะ” “แปลกใจเพราะผิดหวังที่เป็นนานาหรือเปล่า” ฉันก็ยังไม่มั่นใจเหมือนเดิม พี่มานพหัวเราะอีกแล้ว แต่ก็ทำหน้าจริงจัง “แปลกใจที่นานายอมทำอะไรแบบนี้มั้ง แต่พี่ก็เล่าให้ฟังตามที่เราคุยกันนั่นแหละ อย่างน้อยเราก็คนกันเองและก็ไว้ใจได้เรื่องโรคติดต่อ ที่สำคัญตอนนี้นานาฉีดยาคุมเลยหมดปัญหา” “จริงนะพี่ คนกันเองสบายใจดี บอกตามตรงถ้าเป็นคนอื่นนานาก็ไม่ค่อยกล้าหรอก” “พี่ก็เหมือนกัน” “แสดงว่าที่ไปเที่ยวคราวนี้ก็...” ฉันอดตื่นเต้นไม่ได้ เหมือนกา
“สรุปแล้วเรื่องเจ้านายพี่มันเป็นยังไงเหรอ” ฉันนึกขึ้นได้ตอนเรานอนดูซีรีส์เรื่องโปรดกันบนเตียงหลังน้ำแตกกันไปคนละหนึ่งรอบแล้ว “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ท่านก็เปรยๆ เรื่องในมุ้งตามประสาผู้ชายคุยกันนั่นแหละ” “ท่านมีปัญหาเหรอ” ฉันขยับตัวนั่งพิงพนักเตียง เดาเอาว่าฝ่ายที่มีปัญหาน่าจะเป็นเจ้านายสามีเพราะทราบมาว่าท่านอายุไม่น้อยแล้ว ทั้งยังมีหน้าที่การงานมากมายในความรับผิดชอบ อาจทำให้ความต้องการลดลงหรือน้อยลงจนกลายเป็นปัญหาครอบครัวในที่สุด “เปล่า” สามีฉันส่ายหน้าหวือ “อ้าว ยังไงอะ” คำปฏิเสธของพี่มานพทำฉันฉงน “คนที่มีปัญหาคือคุณนายน่ะ” “ทำไมเป็นงั้นล่ะ คุณเจนอายุยังไม่สี่สิบเลยไม่ใช่เหรอ” ฉันยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ เพราะเท่าที่รู้จัก เห็นว่าคุณนายก็ยังสาว ยังสวยและที่สำคัญคือหุ่นดีไม่ต่างจากสาวๆ วัยยี่สิบปลายเลย “อืม คุณเจนอายุแค่สามสิบเก้า แต่ท่านบ่นๆ ว่าไม่ค่อยชอบเรื่องเซ็กส์น่ะ สองปีมานี่ท่านบอกว่าห่างมานาน” “ยังไงที่ว่าห่างนาน”“ก็ได้แค่เดือนละครั้งสองครั้ง”“โห...” ฉันร้องเสียงตกใจ ไม่แปลกที่ท่านจะบ่น เพราะผู้ชายส่วน
ฉันนั่งหอบหายใจแรงอยู่บนตักพี่มานพ ความเสียวซ่านที่เพิ่งเสร็จไปทำหัวใจเต้นรัว เต้านมกระเพื่อมขึ้นลงเป็นภาพเชิญชวนให้เขายื่นมือมาบีบขยำเล่น งึมงำส่งเสียงพอใจ“พร้อมรับแรงโยกหรือยังคะ” ฉันกอดคอสามีโน้มตัวเข้าไปกระซิบเสียงพร่าข้างๆ หู ที่มานพส่งเสียงครางแหงนหน้าจูบแก้มของฉัน “ขย่มให้ยับเลยเมียจ๋า เสียวเอ็นมาก” เขาจับเอวฉันไว้ แล้วกระเด้าปลายลำบ่องข้าวหลามกระแทกปากถ้ำของฉันเบาๆ หัวมนทู่ที่ทิ่มเข้ามาตื้นๆ ทำรูหอยฉันสั่นระริก ตอดตุบๆ น้ำเสียวไหลย้อยออกมาเป็นสาย มันหยดใส่ท่อนเอ็นสีเข้มจนเปียกปอน ฉันโยกเอวบดกลีบแคมสีแดงฉ่ำถูขึ้นลงกับท่อนเนื้อของพี่มานพจนมันวาว จังหวะคลึงเนิบนาบนั้นให้ความรู้สึกวาบหวิวบอกไม่ถูก ประกอบกับหัวนมกำลังถูกเล่นงานด้วยปากหยักเลยยิ่งเสียว เราสองคนสบตากัน ขณะสามีกำลังรวบหัวนมฉันเข้าปากดูดเสียงดัง “ซี๊ด...เสียวหอย” “พี่ก็เสียวเอ็น หอยเมียโคตรเด็ดเลย เอามันที่สุด” “ชอบแบบนี้มั้ยคะ” ฉันพลิ้วเอวรัวๆ ให้ร่องกลางแคมเสียดสีหนักหน่วงมากขึ้น “อ่า...บดแรงๆ เมียจ๋า” “อยากดูดบ่องข้าว
“เด็กสมัยนี้ใจกล้าดีจัง” พี่มานพออกความเห็นหลังจากฟังเรื่องที่ฉันเล่าจบ “ใช่พี่ น้องผู้หญิงดูเรียบร้อยมากนะ แต่พอถูกล้วงก็น้ำนองเต็มมือเลย” ฉันบรรยายให้พี่มานพฟังจนเห็นภาพ เขาทำตาวาวกลืนน้ำลายเร็วๆ จนลูกกระเดือกขยับขึ้นลงแรงเชียว “เจอแบบนี้นานาไม่ค้างเหรอ” พี่มานพถามยิ้มๆ เพราะรู้จักฉันดีว่าเป็นคนจุดติดง่าย เจออะไรกระตุ้นนิดหน่อยก็เสียววูบวาบเราสองคนย้ายที่นั่งจากโต๊ะกินข้าวมาเป็นโซฟาหน้าทีวี พี่มานพถือแก้วเหล้าและกับแกล้มมาวางไว้บนโต๊ะกลาง ส่วนฉันหยิบขวดเหล้าและถังน้ำแข็งติดมือมาด้วยฉันนั่งเอนตัวแนบชิดกับสามี พิงไหล่ของเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขตามประสาคนยังไม่มีลูก ซึ่งเราวางแผนไว้ว่าฉันอายุสามสิบค่อยเริ่มคิดเรื่องลูกพี่มานพกำลังเลื่อนหารายการหนังที่ดูค้างเอาไว้เมื่อคืนก่อน เขาวางมือบนต้นขาฉันแล้วลูบเบาๆ อย่างเคยชิน เวลาอยู่บ้านฉันมักใส่เสื้อผ้าสบายๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อแขนกุดแบบพอดีตัว“จะเหลือเหรอพี่ นั่งดูไปแฉะไป” ฉันตอบพร้อมเสียงหัวเราะ“แล้วทำยังไง เบ็ดไหม” เราพูดเรื่องแบบนี้กันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเพราะสนิทกันมาก ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลย ใครรู้สึกอย่
แล้วก็เป็นแบบที่ฉันคิดเอาไว้ไม่ผิด เมื่อกลับถึงบ้านเห็นสามีเปิดไฟสีวอร์มรอบบ้าน บรรยากาศดูแปลกตาจากทุกวันที่จะเปิดไฟสีขาวสว่างไสวฉันอมยิ้มเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปแล้วได้ยินเสียงเพลงบรรเลงคลอเบาๆ มองเข้าไปเห็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาดกะทัดรัดมีอาหารหลากหลายชนิดจัดวางอย่างสวยงาม ตรงกลางมีแจกันดอกไม้ส่งกลิ่นหอมทั่วบ้านหลังเล็กชั้นเดียวที่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่พี่มานพซื้อให้เป็นชื่อฉันในวันแต่งงาน“กลับมาแล้วเหรอ” พี่มานพเดินถือจานกับข้าวออกมาจากในครัว สีหน้าเขายิ้มแย้มมีความสุข“เนื่องในโอกาสอะไรเอ่ย” ฉันวางกระเป๋าไว้บนชั้นแล้วเข้าไปสมทบ ช่วยพี่มานพจัดโต๊ะซึ่งมีแต่ของโปรดของเราสองคน“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่นายให้เบี้ยเลี้ยงพิเศษ” พี่มานพสีหน้ายิ้มมีความสุข“แล้วก็ไม่ต้องปวดหัวเรื่องไอ้มอสเพราะนายเคลียร์ให้แล้ว”“โห โชคสองชั้นเลยนะพี่” ฉันอดยินดีกับข่าวที่ได้ยินนี้ไม่ได้ เพราะเรื่องของหลานชายพี่นพ ทำเราสองผัวเมียเป็นกังวลมาพักใหญ่ ไม่คิดว่าปัญหาจะคลี่คลายได้ง่ายขนาดนี้“ใช่สิ พี่เกรงใจนายมากเลย ตอนแรกว่าจะไม่รับเงินเบี้ยเลี้ยงก้อนนี้ แต่ท่านก็คะยั้นคะยอให้รับเพราะมันคนละส่วนกัน”“นายพี่ใจดีจริงๆ