หลังจากนั้นดัสตินพยายามเข้าใกล้เฟรินทร์โดยการไปบ้านของเหมยหลินแทบทุกวัน จนเริ่มมีข่าวออกมาว่าทั้งสองกำลังคบหากันอย่างจริงจัง
เขากำลังคิดหาแผนร้ายเพื่อเข้าให้หญิงสาว เจอหน้ากันทีไรเขาพยายามลวนลามตลอด และมันต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดเสมอเขาศึกษาท่วงท่ามาแล้วรับรองรอบนี้ เฟรินทร์ทำอะไรเขาไม่ได้
“ว่าไงจ๊ะคนสวยของไอ้ดัสติน”
“โรคจิตหรือไง”
เธอเริ่มกลัวเขาขึ้นมาเสียแล้วเฟรินทร์ถอยหลังเมื่อเขาคุกคามเข้ามา จนแผ่นหลังของเธอชนกับผนังพอดี เขาใช้มือยันตัวเธอไว้
“ถะ...ถอยออกไป”
“รอบนี้คนสวยทำอะไรพี่ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ” สรรพนามเปลี่ยนไปจนหญิงสาวขนลุก สายตาหวานเยิ้มยามที่อยู่ใกล้เฟรินทร์
“ไอ้โรคจิตป่วยก็ไปรักษา”
“อยากให้คนสวยรักษามากกว่า”
“คุณดัสตินอยู่แถวนี้ไหมคะ?” เหมยหลินกำลังเดินใกล้เข้ามา
ทันทีได้ยินเสียงเหมยหลินเขาฉุดรั้งเธอเข้ามุมมืดของบ้าน และรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอพร้อมกับดันขึ้นเหนือหัวและกดตรึงไว้กับผนัง ก่อนจะบดเบียดปากหนาลงอย่างหื่นกระหาย เฟรินทร์พยายามเบือนหน้าหลบ แต่ก็ถูกมือหนาอีกข้างบีบปลายคางเอาไว้ เมื่อจูบจนพอใจก็ผละออก แล้วกระซิบข้างหู
“จูบแรกสินะ หวานจัง หวานจนพี่อยากจะชิมอย่างอื่นแล้วสิ”
“อื้อ อ๊ะ” ริมฝีปากของเขาบดคลึงริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง เขาจูบเธอเนิ่นนานจนเธอแทบจะขาดใจ แม้ว่าพยายามดันร่างของเขาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม และบีบบังคับให้เธอรับจูบร้อนแรงนั้นต่อ
เขาปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระจูบที่ไร้เดียงสาทำให้เขาแทบคลั่ง ไม่อยากเธอไปไหน
เพียะ เพียะ
เฟรินทร์ตบหน้าเขาเต็มแรงถึงสองครั้ง โกรธเขาจนตัวสั่นที่ทำรุ่มร่ามกับเธอทั้งที่กำลังคบหากับเหมยหลินแท้ๆ หญิงสาวใช้หลังมือถูปากตัวเองอย่างนึกรังเกียจสัมผัสของเขา
‘ตบครั้งเดียวเหมือนคนอื่นไม่ได้รึไง!’
ดัสตินไม่โกรธเลยสักนิดกลับยิ้มเยาะสมใจที่เขาได้จูบแรกของเฟรินทร์มา เขาเดินออกไปจากบ้านหลังนี้โดยไม่ร่ำลาเหมยหลินสักคำ
การกระทำครั้งนั้นเหมยหลินเห็นตั้งแต่ต้น แต่เธอเลือกที่จะไม่โวยวายแล้วมาจัดการกับตัวปัญหาทีหลัง เพราะกลัวว่าจะเสียดัสตินไป หลังจากที่เขากลับไปแล้วเธอมุ่งหน้าไปจัดการตัวต้นเหตุทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เฟรินทร์แอบส่องตาแมวดูเห็นว่าเป็นเหมยหลินมายืนเคาะประตูจึงแปลกใจเพราะหญิงสาวไม่เคยมาหาเธอถึงที่นี่
เพียะ เพียะ
ทันทีที่เฟรินทร์เปิดประตูกลับถูกเหมยหลินตบหน้าถึงสองครั้ง
“คุณเหมยหลิน”
“ถ้าแกยังไม่เลิกยั่วคุณดัสติน แกจะโดนหนักกว่านี้ และฉันก็เฉดหัวเธอออกจากบ้านหลังนี้ จำใส่สมองแกไว้อีลูกเมียน้อย”
จากนั้นเฟรินทร์ระวังตัวและเลี่ยงที่จะเจอกับเขา หากเขามาเธอก็จะขึ้นมาหลบบนห้อง รอจนกว่าดัสตินจะกลับไปเธอจึงจะลงทำงาน
แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหมยหลินพอใจเลยสักนิด ยังคงคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอด คืนนี้ดัสตินโทรนัดเหมยหลินออกไปเที่ยว โดยไม่ลืมหันมาเยาะเย้ยเฟรินทร์
“ความแตกต่างระหว่างฉันกับแกแล้วหรือยัง? อย่างแกก็แค่ดอกไม้ริมทางไม่มีค่า ไม่มีใครอยากจะจริงจังด้วยหรอกเหมือนแม่แกนั่นแหละ”
คล้อยหลังที่เหมยหลินออกไปเฟรินทร์ก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บใจ เธอไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเลย และไม่เคยคิดจะแข่งขันกับเหมยหลินด้วย ทำไมเธอต้องถูกทำแบบนี้ด้วย
.
“ทำอะไร!”
“คุณทำอะไรหนูปล่อยนะ” มินนี่ร้องเสียงดังเมื่อถูกเขาจับได้ว่าเธอกำลังแอบเข้ามารื้อค้นเอกสารในห้องทำงานของเขา
“ฉันถามว่าจะทำอะไร”
“หนูจะกลับเมืองไทย” เขาไม่มีสิทธิ์กักขังเธอไว้ทำเหมือนว่าเธอเป็นนักโทษของเขา
“ฉันไม่ให้กลับ!” พูดไม่รู้เรื่องหรือไงพอเขาตะคอกใส่น้ำตาเรียกคะแนนความสงสารจึงไหลอาบแก้ม เขาพยายามใจดีกับมินนี่แต่หญิงสาวไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาพูด
“ฮึก ฮือ คุณจะขังหนูไว้เป็นนางบำเรอของคุณทำไม”
“มินนี่เลิกร้องได้แล้ว”
แดนนี่ดึงหญิงสาวมากอดไว้แน่นเขาไม่เคยตามง้อใครจึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร มินนี่ถึงจะเลิกร้องไห้ตอนนี้เขายังไม่พร้อมปล่อยเธอไปไหน
“ปล่อย คอยดูนะหนูจะหนีไปจากคุณให้ได้”
“รอให้ฉันตายก่อนคอยคิดทางหนี”
“กรี๊ดดด ไอ้สาระเลว”
เขาอุ้มหญิงสาวพาดบ่าพอมินนี่ดิ้นเขาฟาดมือลงที่ก้นงามทุกครั้ง พอถึงเตียงกว้างเขาโยนลงไปสุดแรงแล้วรีบตามมาขึ้นคร่อมหญิงสาว
“ถอยออกไปอย่าทำ...”
“เธอห้ามฉันได้เหรอ” เขาบีบคางหญิงสาวเพื่อให้ไม่ให้หันหน้าหลบหนี ปากหนาจูบลงมาอย่างร้อนแรง เขาไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ในตอนนี้ ใครจะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้เขากำลังใจติดใจแม่กวางน้อย
“อื้อออ”
“เอาใจฉันสิทำให้ฉันพอใจ” เขาทิ้งลงนอนลับตัวมินนี่ให้ขึ้นมานอนบนตัวเขาแทน มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของหญิงสาว
“ถ้าฉันพอใจอะไรก็ให้เธอได้ทุกอย่าง”
มินนี่ได้ยินแบบนั้นไม่รอช้าทำตามที่เขาต้องการทันที เธอไม่อยากอยู่เป็นนางบำเรอของเขาหากวันไหนที่เขาต้องแต่งงาน แล้วเธอจะต้องทำอย่างไรคงไม่พ้นต้องออกจากบ้านหลัง สิ่งเดียวที่กลัวคือตกหลุมรักผู้ชายโฉดคนนี้
.
“ผมอยากได้ที่ดินในมาเก๊า” ไห่ฉงบอกความต้องการไปพ่อของเขามีที่ดินผืนงาม เขาอยากได้ไปทำกาสิโนแข่งกับดัสติน
“พ่อคงให้ไม่ได้”
“ทำไมครับผมเป็นลูกชายคุณพ่อเหมือนกัน”
“พ่อขายมันให้คนอื่นแล้ว”
ชิงอีนั่งอ่านเอกสารไปเขาไม่ทุกข์ร้อนเพราะที่ดินผืนนั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
“คุณพ่อขายมันไปให้ใครทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย?”
“แกจะไปรู้เรื่องอะไรวันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่” ชิงอีวางปากกาลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองลูกชายที่ไม่เอาไหน
“มันชื่ออะไรครับผมจะไปซื้อกลับมา”
“25ล้านเหรียญ”
ไห่ฉงถึงกับพูดไม่ออกเพราะราคาที่เอ่ยมานั้นเขาไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อกลับคืนมาได้แน่ เจ็บใจที่พ่อไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย
“แล้วเงินคุณพ่อเอาไปไหนหมด”
“เอาลงทุนสิถามได้จะนอนอยู่เฉยๆ เงินไม่งอกเงยขึ้นมาหรอก”
“ผมจะตามสืบให้ได้ว่าเป็นใคร”
เฟรินทร์ได้ยินในสิ่งที่สองพ่อลูกพูดเรื่องทรัพย์สินเงินทองเธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่ต้องการเงินจากใครด้วยตอนนี้หาทางเก็บเงินให้ได้แล้วออกไปจากที่นี่
“คุณพอลเรื่องที่ดินในมาเก๊าห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่าตอนนี้เป็นชื่อใคร” ชิงอีวางสายเขากลัวว่าเจ้าของที่แท้จริงจะได้รับอันตราย หากสิ้นเขาไปแล้วใครจะตามปกป้องได้
เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่ปลุกให้คนเป็นพ่อสะดุ้งตื่นขึ้นจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดัสตินยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือขยี้ตาที่หนักอึ้งและชุ่มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวไปอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับลูก” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ บนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังสะอื้น ร่างน้อยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน พยายามผลักอกเขาเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาถอนหายใจยาวพยายามไกวตัวลูกไปมา หัวของเขาหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำและใต้ตาคล้ำลึกเป็นวง เหมือนหมีแพนด้าที่อดนอนมาสามวันติด เขาลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ลองร้องเพลงกล่อม ลองพาเดินวนรอบห้อง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เฟรินทร์ตื่นขึ้นมาพอดีจึงได้เห็นภาพนั้นพอดี ผู้ชายตัวโตที่อุ้มลูกไม่ค่อยเป็นกลางคืนเป็นหน้าที่เขาที่ต้องลุกขึ้นมาอุ้มลูกยามที่ลูกร้อง “ทำไมไม่นอนครับลูก…” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง ทารกน้อยในอ้อมแขนยังคงแผดเสียงร้องไม่หยุด เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนสุดท้าย เมื่อไม่มีแรงแม้แต่จ
เหงื่อซึมทั่วใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มขณะกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ“อึก...!” เสียงครางลอดออกมาจากลำคอ เธอรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“สูดลมหายใจเข้าไว้! อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่!”เสียงปลอบโยนจากหมอและพยาบาลดังก้องในโสตประสาท แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับพร่ามัว เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับมืออุ่นของใครบางคนกอบกุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง“อดทนไว้นะเมียจ๋า... พี่อยู่ตรงนี้”เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเครือ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะเบ่งแรงสุดท้ายเสียงร้องแหลมเล็กดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับลมหายใจของเธอที่เหมือนถูกดึงกลับมาอีกครั้ง น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงเผาะลงข้างแก้ม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข“ลูกของเรา...” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่พยาบาลวางร่างเล็กๆ ไว้แนบอก“หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจัง”หัวใจของเธอเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เป็นเพราะชีวิตน้อยๆ ที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขนก่อนหน้านี้“อื้ม...!” เสียงครางเบาๆ ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสะดุ้งสุดตัว เขาหันขวับไปมองคนบนเตียง คนที่กำลังจับท้องตัวเองแ
เฟรินทร์มองหน้าคนที่เข้ามาบุกรุกห้องนอนของเธอ เขากระโดดขึ้นเตียงโดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่เกิดเหตุเขาหายเงียบไปสองสัปดาห์ไม่ยอมส่งข่าว ปล่อยให้เธอคิดไปฝ่ายเดียว และวันนี้เข้าโผล่หน้ามาทั้งโกรธทั้งคิดถึงเป็นห่วงเขาสารพัด แต่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้สึกผิด “มานอนสิจ๊ะเมียจ๋าไม่คิดถึงผัวเหรอ” “คุณตลกมากเหรอคะคุณดัสติน” เธอทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเขา แต่เขากลับทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่แค่ปล่อยข่าวลือน่าตอนนี้พี่กลับมาครบ 32” “ไม่ต้องมาจับ!” เธอเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว “ที่รักขา~ พี่ผิดไปแล้วมาให้พี่ทักทายลูกหน่อย” “เราเลิกกันเถอะค่ะ เฟย์ไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในอันตรายแบบคุณ” เธออยากใช้ชีวิตแบบปกติไม่ต้องคอยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา “ไม่เลิกให้ตายก็ไม่เลิก” พยานรักอยู่ในท้องแท้ๆ “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะเราทำหน้าที่พ่อแม่ก็พอ” “ไม่เลิกพี่ไม่เลิก!” ต่อเอามีดมาจ่อที่คอก็ไม่มีวันเลิกเด็ดขาด “ออกไปค่ะ” “เฟย์ทำไมงี่เง่าจังเลยมันคืองาน
ประตูห้องฉุกเฉินปิดลงดัสตินหัวใจสลายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาที่ดูแลเฟรินทร์กับลูกไม่ดี น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างไม่อายสายตาของใคร เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดจนเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้น...เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเฟรินทร์ ขณะที่เธอนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ มือขาวซีดกำผ้าปูแน่น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเป็นระลอก "หมอ...ช่วยลูกฉันด้วย..." เสียงของเธอสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เขาขยับเข้ามาตรวจร่างกายเธออย่างเร่งด่วน สีหน้าเคร่งเครียดขณะมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงอาการของทั้งแม่และเด็ก ในขณะที่เฟรินทร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอจากความทรมาน "ยาได้แล้วค่ะ หมอ" พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ หมอรับมาและรีบฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือ พลางเฝ้าดูอาการของเธออย่างใกล้ชิด ทุกวินาทีช่างยาวนานเหลือเกิน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ค่อยๆ ทุเลาลง หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวัง "ลูก...ลูกปลอดภัยไหมคะ?" หมอยิ้มบางๆ "ปลอดภัยแล้ว แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครี
“สวัสดีค่ะนายหญิงเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” “หลับสบายมากเลยค่ะ แต่มีรู้ว่ามีผีที่ไหนมาร้องห่มร้องไห้ทั้งคืน” พูดแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า “ตายจริงโจรหรือเปล่าคะ” “โจรที่ไหนมันจะกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่” แม้แต่แมลงสักตัวไม่อาจบินผ่านเข้ามาได้ ดัสตินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆ เมื่อเช้าดีนะตื่นก่อนหญิงสาวไม่อย่างนั้นคงโวยวายบ้านแตกที่ถูกเขาลวนลามตอนที่เธอหลับ “คุณลี่ถังไปส่งเฟย์ที่โรงแรมx หน่อยค่ะ” วันนี้เธอแต่งตัวสวยเพราะมีงานสำคัญ อย่าคิดว่าไม่รู้เมื่อคืนเขาแอบทำอะไรกับเธอ “ไปทำไม” อยู่ดีๆ จะไปโรงแรมไอ้แดนนี่ “ชิ” เฟรินทร์ไม่ตอบเดินไปรอลี่ลังที่รถดัสตินไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถ จนมาถึงโรงแรมเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของแดนนี่ เฟรินทร์เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู โดยมีดัสตินเดินตามหลังและลูกน้องของเขาเดินตามเป็นโขยง หลายคนกำลังคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงมีความหมายสำหรับเขามากชายหนุ่มดูหวงแหน “มาแล้วเหรอพี่ชาย” “แด๊ดกับหม่ามี้ยังไม่กลับมาจากเที่ยวรอบโลก ไว้งานแต่งท่านต้องม
ดัสตินพาหญิงสาวกลับมาที่เซฟเฮาส์ในมาเก๊าเขาค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนเตียงกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น เขานั่งมองใบหน้าของเธอและหอมแก้มทั้งว้ายและขวาเวลานี้อะไรก็ยอมทุกอย่างขอแค่หญิงสาวไม่หนีไปจากเขาก็พอ เขาเดินมาส่องกระจกหน้าแดงบวมแดงแต่ไม่คิดโกรธเมีย“ผมเอายามาให้ครับ”“อื้อ ขอบใจ”“ทานยาแก้ปวดก่อนดีกว่าครับ”ดัสตินยอมทานยาเพราะตอนนี้เขาปวดแผลมาก ตอนที่อุ้มเมียไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร เขานั่งลงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง“โทนี่”“ครับ”“นายทำงานกับฉันมากี่ปีแล้ว?”“14 ปีแล้วครับ” ถามแบบนี้คงไม่คิดจะให้กันออกใช่ไหม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ตอนนี้นายอายุ 36 แล้วหนิ...” เขาเว้นจังหวะการพูด “นายง้อผู้หญิงยังไงวะ นายอายุเยอะกว่าฉันน่าจะมีประสบการณ์มาก่อน”ไอ้โทนี่เป็นขี้ข้ารับใช้นายตั้งแต่เรียนจบจนอายุปูนนี้ยังไม่มีเมียตัวเป็นตน เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนและจะตอบคำถามเจ้านายยังไง“ถ้าตอบว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อนเสียชาติเกิดมาก”แรงมาก แล้วตัวเองไม่เคยจีบสาวมาก่อนเหมือนกัน ถึงได้ทุกข์ระทมตกนรกแสนหมื่นล้านครั้งแบบนี้ ทำงานถวายหัวจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว“ผม...”“มึงตอบดีๆ” เขาคาดหวังกับคำตอบของโทนี่มาก จะได้ตามง้อเฟรินทร