บรรยากาศในไนต์คลับเต็มไปด้วยแสงไฟสลัว สีสันฉูดฉาด และเสียงเพลงดังเร้าใจ ผู้คนสนุกสนาน ดื่มเครื่องดื่ม พูดคุยและเต้นรำอย่างอิสระ เสียงหัวเราะและจังหวะดนตรีสร้างบรรยากาศที่ครึกครื้น
ดัสตินนั่งหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อไรที่เหมยหลินจะเลิกเกาะแกะเขาเสียที ตั้งแต่มานั่งดื่มในไนต์คลับถ้าเป็นผีนี่สิงเขาได้เลย
“คุณรู้ไหมว่าพ่อของคุณมีที่ดินผืนงามในมาเก๊า”
เขาเปรยๆ ขึ้นมาเผื่อว่าสิ่งที่เขาลงทุนทำไปอาจจะส่งผลให้เร็ววัน เขาคิดไว้เหมยหลินน่าจะหลงเสน่ห์เขาแล้ว หากจะหลอกใช้เธอเรื่องที่ดิน เธอก็คงไม่ปฏิเสธ
“มาเก๊า?”
“ผมรู้มาว่าเป็นของครอบครัวคุณ”
ดัสตินถามพลางโอบกอดเอวของหญิงสาว ส่วนเธอก็คลอเคลียหน้าอกกว้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยรอยยิ้มยั่วยวน
“ใช่ค่ะ คุณถามทำไมเหรอคะ?” เธอไม่รู้เรื่องที่ดินในมาเก๊าและไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อเป็นเจ้าของ แต่เขาถามมาแบบนั้นเธอต้องพูดไว้ก่อน
“ต้องการที่ดินแปลงมาทำกาสิโน” เขาบอกความจริงแค่เพียงครึ่งเดียว เพราะหากเขาได้ครอบครองเงินหลายร้อยล้านเหรียญจะแพร่สะพัดเข้ามาในกระเป๋าของเขาทันที
“ทั้งๆ ที่คุณก็มีกาสิโน”
“ผมยื่นข้อเสนอให้คุณดีกว่าเผื่อจะสนใจ ผมจะซื้อด้วยราคาที่สูงแล้ว และยังจะให้คุณถือหุ้นในกาสิโนนั้น 5%”
“ก็ได้ค่ะฉันจะไปคุยกับคุณพ่อให้”
ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เหมยหลินเองก็พอใจมาก เธอจึงรับปากว่าจะคุยกับพ่อให้ เมื่อความสวยอยู่เหนือกว่าความฉลาดหญิงสาวจึงไม่ฉุดคิดว่าเพราะเหตุใดดัสตินจึงเข้าหาเธอ
เขายกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มสายตามองไปยังนักท่องราตรีเบื้องล่าง เขากวาดสายตาไปมองรอบๆ จนสะดุดตากับเจ้าของร่างบางที่นั่งหันหลังให้ ตรงหน้ามีลีออนเพื่อนรักของเขาและแดนนี่ที่นั่งอยู่ข้างสาวสวยอีกคน
“คุณจะไปไหนคะดัสติน”
“ไปหาคนรู้จัก”
“ฉันไปด้วยค่ะ เอ่อ...ไม่ไปแล้ว”
เหมยหลินเห็นแดนนี่นั่งอยู่จึงไม่กล้าเดินตามดัสตินลงไปที่ชั้นล่าง หญิงสาวที่นั่งหันหลังเธอคุ้นตามากแต่นึกไม่ออกว่าใคร
เฟรินทร์นั่งมองบรรยากาศไนต์คลับเป็นครั้งแรกที่เธอมาสถานที่อโคจรแบบนี้ แดนนี่ชวนเธอมาเปิดหูเปิดตาและบอกจะพามินนี่มาด้วยจึงยอม
“น้องเฟย์ดื่มพั้นซ์ไหมครับ” ลีออนเสนอหน้ามานั่งกับสาวๆ เขาไม่สนใจสายตาของแดนนี่สาวสวยข้างกายคนนั้นเขาคงไม่มีสิทธิ์เพราะแดนนี่ออกอาการหวงมาก
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ชิมนิดเดียวก็ได้ไม่เมาหรอกครับ”
เฟรินทร์ยื่นมือมารับแก้วจากเขาแต่ต้องหยุดกลางอากาศเมื่อมีมือหนาเดินมาคว้าแก้วเสียก่อน แล้วกระดกน้ำในแก้วจนหมด
ปึก!
“ไอ้ดัสตินกูไม่ได้ให้มึงชิมกูให้น้องเฟย์” ลีออนมองหน้าเพื่อนมันมาได้ยังไงเขาไม่ได้ชวน แล้วไม่บอกด้วยว่าจะมา
“กูคอแห้งนั่งด้วยคนดิ” เขานั่งเบียดเฟรินทร์จนหญิงสาวจะตกจากเก้าอี้ มีมือหนาคว้าเอวสอบไว้เสียก่อนตอนนี้ดูเหมือนหญิงสาวกำลังอยู่บนตักของเขา
“ปล่อยนะ”
“อะ อะ คนเยอะด้วยทำพี่เจ็บพี่จับดูดปากโชว์คนทั้งโต๊ะนี่เลย” ขู่ไว้ก่อนเดี๋ยววันนี้เจ็บตัวอีกเขากวาดสายตามองไปที่แดนนี่กับสาวข้างกาย
“มาได้ยังไง”
“กูขับรถมา” ลีออนเป็นคนตอบคำถามดัสตินคนแรก
“ไม่ได้ถามมึง” เขาถามคนข้างกายเขาทุกคนเหมือนอยากรู้ความสัมพันธ์ของเขากับเฟรินทร์
“นี่น้องเฟย์”
“ว่าที่เมียกูเอง” เขาตอบกลับอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องคิดนาน
“ไอ้ดัสตินพูดอะไรวะ!”
“ว่าที่แม่ของลูก” เปลี่ยนคำตอบใหม่ก็ได้วะ
“อย่าพูดไร้สาระนะคุณ” คนที่นั่งฟังมานานรีบแก้ข่าวจะเป็นว่าที่ภรรยาเขาได้อย่างไร เมื่อเขากำลังตามจับเหมยหลิน
“ที่รักบอกเขาไปสิว่าเราสองคนรู้จักกันลึกซึ้งแค่ไหน...โอ๊ยยย” โดนอีกดอกแล้วบอกว่าที่เมีย แม่คุณมือหนักจริงๆ
“เป็นอะไรใครเหยียบตีน” ลีออนก้มลงมองหาเมื่อเพื่อนร้องเหมือนได้รับบาดเจ็บ
เฟรินทร์แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้เธอจงใจหยิกหน้าท้องของเขาตอนที่คนอื่นไม่ทันมอง
“เฟย์กลับเลยไหมครับผมแวะไปส่ง”
แดนนี่นั่งเงียบมานานเขาหมดความอยากทันทีเมื่อมีดัสตินเข้ามาร่วมวง สงสารน้อยที่กำลังถูกคุกคามจากคนแก่ที่เอาแต่ใจ
“ค่ะเฟย์อยากกลับแล้ว” เธอรีบคว้ากระเป๋าแต่ไม่ทันดัสตินเขาหยิบกระเป๋าเธอพาดบ่ากว้างแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปสั่งลาทุกคน
“ฉันจะไปส่งเฟรินทร์เอง”
“ฉันไม่ไปกับคุณ”
“ไปดิเร็วๆ อย่าให้ต้องอุ้ม” สองหนุ่มสาวเหมือนคู่สามีภรรยาที่กำลังทะเลาะกันไม่มีผิด ลีออนจะเดินตามออกไปแต่ถูกแดนนี่ห้ามไว้เสียก่อน
เฟรินทร์ถูกจับยัดเข้าไปในรถหรูทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่กับเขาอีกครั้ง เธอเบือนหน้าหลบหนีกลัวว่าเขาจะทำที่คาดไม่ถึง
“อ๊ะ คุณปล่อยนะ”
ดัสตินคว้าเธอไปนั่งบนตักแกร่งมือหนาทั้งสองข้างโอบเอวไว้แน่น สายตาหวานเชื่อมส่งให้คนตัวเล็กเมื่อไรหนอเขาได้เชยชมแม่ยอดยาหยีของเขา
หญิงสาวอายจนแก้มแดงเพราะในรถไม่ได้มีเธอแค่สองคนแต่ยังมีลูกน้องของเขาสองคนนั่งอยู่หน้ารถ
“ถ้าตบตีว่าที่ผัวอีกครั้งนี้ดูดปากโชว์พวกมันสองคนเลย” ช้ำในตายก่อนพอดีตัวเล็กนิดเดียวแต่มือหนักใช้ได้เลยจบเรื่องนี้เมื่อไรโดนเขาขย้ำแน่นอน
Rrrrrrrr
“เอามือถือฉันมา”
“ดูก่อนว่าใครโทรมา” เขาหยิบโทรศัพท์ของมาจากกระเป๋า ก่อนจะยื่นให้เฟรินทร์รับสายเขาแนบหูลงไปฟังว่าคนปลายสายจะพูดอะไร
“ค่ะ”
“เฟย์เมื่อไรจะกลับดึกมากแล้วนะ”
“คุณพ่อยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
“พ่อรอเฟย์กลับบ้าน” ชิงอีห่วงลูกสาวเพราะเฟรินทร์ไม่เคยออกไปเที่ยวในยามค่ำคืน
“เฟย์ใกล้ถึงแล้วค่ะคุณพ่อนอนได้เลย”
“กลับดีๆ นะลูก”
ดัสตินมองใบหน้าสวยหวานชิงอีรักลูกสาวเสียขนาดนี้ ทำไมถึงปล่อยให้น้องพี่น้องรังแกเฟรินทร์ เลี้ยงดูเหมือนคนรับใช้
“ถามหน่อยเถอะทำไมบรรดาพี่ๆ ของเธอถึงได้ทำตัวนิสัยแย่ขนาดนี้”
“คุณหมายถึงอะไร!”
“คิดว่าไม่รู้เหรอว่าว่าที่เมียเป็นอะไรกับคนในบ้านนั้น”
“รู้แล้วยังไงคะ? ต่อไปห้ามเข้าใกล้ฉันอีกฉันไม่มีปัญหากับคุณเหมยหลิน”
เจ็บใจที่เขาทำเหมือนว่าไม่สนใจไยดีเหมยหลิน แต่กลับมาตามตอแยเธอ ผู้ชายแบบเขาไม่สมควรได้ความรักดีๆ ตอบแทน
“ฉันกับเหมยหลินไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“นั้นเรื่องของคุณค่ะ”
“ถ้าฉันจบเรื่องนี้...เธอจะยอมพูดคุยกับฉันดีๆ ไหม” ดัสตินถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเขาอยากจีบเฟรินทร์แบบจริงจังเสียที
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ…หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก”
เธอเดินเข้าไปในบ้านแล้วดัสตินหัวเราะในลำคอเบาๆ เกมมันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น รอเขาจัดการกับเหมยหลินเสียก่อนเขาไม่ปล่อยเป้าหมายไปไหนแน่
ดัสตินตัดสินใจปิดเครื่องมือถือเมื่อเหมยหลินพยายามโทรหาเขา เล่นออกมาส่งเฟรินทร์โดยไม่บอกเล่าหญิงสาวสักคำ ป่านนี้น่าจะรอเขาอยู่ที่เดิม
“ให้ผมกลับไปไนต์คลับไหมครับ”
“ไม่ต้องกลับเลย”
“ครับ” โทนี่เกาหัวเบาๆ พอเจอสาวที่ถูกใจดันลืมผู้หญิงอีกคน ไม่รู้จะส่งสารใครก่อนดีถ้าได้เฟรินทร์มาไว้ข้างกายจริงๆ เขาว่าเจ้านายเขาคงไม่รอดจากน้ำมือของสาวสวยคนนั้น
เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่ปลุกให้คนเป็นพ่อสะดุ้งตื่นขึ้นจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดัสตินยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือขยี้ตาที่หนักอึ้งและชุ่มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวไปอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับลูก” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ บนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังสะอื้น ร่างน้อยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน พยายามผลักอกเขาเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาถอนหายใจยาวพยายามไกวตัวลูกไปมา หัวของเขาหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำและใต้ตาคล้ำลึกเป็นวง เหมือนหมีแพนด้าที่อดนอนมาสามวันติด เขาลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ลองร้องเพลงกล่อม ลองพาเดินวนรอบห้อง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เฟรินทร์ตื่นขึ้นมาพอดีจึงได้เห็นภาพนั้นพอดี ผู้ชายตัวโตที่อุ้มลูกไม่ค่อยเป็นกลางคืนเป็นหน้าที่เขาที่ต้องลุกขึ้นมาอุ้มลูกยามที่ลูกร้อง “ทำไมไม่นอนครับลูก…” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง ทารกน้อยในอ้อมแขนยังคงแผดเสียงร้องไม่หยุด เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนสุดท้าย เมื่อไม่มีแรงแม้แต่จ
เหงื่อซึมทั่วใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มขณะกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ“อึก...!” เสียงครางลอดออกมาจากลำคอ เธอรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“สูดลมหายใจเข้าไว้! อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่!”เสียงปลอบโยนจากหมอและพยาบาลดังก้องในโสตประสาท แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับพร่ามัว เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับมืออุ่นของใครบางคนกอบกุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง“อดทนไว้นะเมียจ๋า... พี่อยู่ตรงนี้”เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเครือ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะเบ่งแรงสุดท้ายเสียงร้องแหลมเล็กดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับลมหายใจของเธอที่เหมือนถูกดึงกลับมาอีกครั้ง น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงเผาะลงข้างแก้ม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข“ลูกของเรา...” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่พยาบาลวางร่างเล็กๆ ไว้แนบอก“หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจัง”หัวใจของเธอเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เป็นเพราะชีวิตน้อยๆ ที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขนก่อนหน้านี้“อื้ม...!” เสียงครางเบาๆ ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสะดุ้งสุดตัว เขาหันขวับไปมองคนบนเตียง คนที่กำลังจับท้องตัวเองแ
เฟรินทร์มองหน้าคนที่เข้ามาบุกรุกห้องนอนของเธอ เขากระโดดขึ้นเตียงโดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่เกิดเหตุเขาหายเงียบไปสองสัปดาห์ไม่ยอมส่งข่าว ปล่อยให้เธอคิดไปฝ่ายเดียว และวันนี้เข้าโผล่หน้ามาทั้งโกรธทั้งคิดถึงเป็นห่วงเขาสารพัด แต่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้สึกผิด “มานอนสิจ๊ะเมียจ๋าไม่คิดถึงผัวเหรอ” “คุณตลกมากเหรอคะคุณดัสติน” เธอทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเขา แต่เขากลับทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่แค่ปล่อยข่าวลือน่าตอนนี้พี่กลับมาครบ 32” “ไม่ต้องมาจับ!” เธอเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว “ที่รักขา~ พี่ผิดไปแล้วมาให้พี่ทักทายลูกหน่อย” “เราเลิกกันเถอะค่ะ เฟย์ไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในอันตรายแบบคุณ” เธออยากใช้ชีวิตแบบปกติไม่ต้องคอยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา “ไม่เลิกให้ตายก็ไม่เลิก” พยานรักอยู่ในท้องแท้ๆ “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะเราทำหน้าที่พ่อแม่ก็พอ” “ไม่เลิกพี่ไม่เลิก!” ต่อเอามีดมาจ่อที่คอก็ไม่มีวันเลิกเด็ดขาด “ออกไปค่ะ” “เฟย์ทำไมงี่เง่าจังเลยมันคืองาน
ประตูห้องฉุกเฉินปิดลงดัสตินหัวใจสลายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาที่ดูแลเฟรินทร์กับลูกไม่ดี น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างไม่อายสายตาของใคร เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดจนเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้น...เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเฟรินทร์ ขณะที่เธอนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ มือขาวซีดกำผ้าปูแน่น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเป็นระลอก "หมอ...ช่วยลูกฉันด้วย..." เสียงของเธอสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เขาขยับเข้ามาตรวจร่างกายเธออย่างเร่งด่วน สีหน้าเคร่งเครียดขณะมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงอาการของทั้งแม่และเด็ก ในขณะที่เฟรินทร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอจากความทรมาน "ยาได้แล้วค่ะ หมอ" พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ หมอรับมาและรีบฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือ พลางเฝ้าดูอาการของเธออย่างใกล้ชิด ทุกวินาทีช่างยาวนานเหลือเกิน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ค่อยๆ ทุเลาลง หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวัง "ลูก...ลูกปลอดภัยไหมคะ?" หมอยิ้มบางๆ "ปลอดภัยแล้ว แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครี
“สวัสดีค่ะนายหญิงเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” “หลับสบายมากเลยค่ะ แต่มีรู้ว่ามีผีที่ไหนมาร้องห่มร้องไห้ทั้งคืน” พูดแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า “ตายจริงโจรหรือเปล่าคะ” “โจรที่ไหนมันจะกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่” แม้แต่แมลงสักตัวไม่อาจบินผ่านเข้ามาได้ ดัสตินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆ เมื่อเช้าดีนะตื่นก่อนหญิงสาวไม่อย่างนั้นคงโวยวายบ้านแตกที่ถูกเขาลวนลามตอนที่เธอหลับ “คุณลี่ถังไปส่งเฟย์ที่โรงแรมx หน่อยค่ะ” วันนี้เธอแต่งตัวสวยเพราะมีงานสำคัญ อย่าคิดว่าไม่รู้เมื่อคืนเขาแอบทำอะไรกับเธอ “ไปทำไม” อยู่ดีๆ จะไปโรงแรมไอ้แดนนี่ “ชิ” เฟรินทร์ไม่ตอบเดินไปรอลี่ลังที่รถดัสตินไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถ จนมาถึงโรงแรมเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของแดนนี่ เฟรินทร์เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู โดยมีดัสตินเดินตามหลังและลูกน้องของเขาเดินตามเป็นโขยง หลายคนกำลังคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงมีความหมายสำหรับเขามากชายหนุ่มดูหวงแหน “มาแล้วเหรอพี่ชาย” “แด๊ดกับหม่ามี้ยังไม่กลับมาจากเที่ยวรอบโลก ไว้งานแต่งท่านต้องม
ดัสตินพาหญิงสาวกลับมาที่เซฟเฮาส์ในมาเก๊าเขาค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนเตียงกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น เขานั่งมองใบหน้าของเธอและหอมแก้มทั้งว้ายและขวาเวลานี้อะไรก็ยอมทุกอย่างขอแค่หญิงสาวไม่หนีไปจากเขาก็พอ เขาเดินมาส่องกระจกหน้าแดงบวมแดงแต่ไม่คิดโกรธเมีย“ผมเอายามาให้ครับ”“อื้อ ขอบใจ”“ทานยาแก้ปวดก่อนดีกว่าครับ”ดัสตินยอมทานยาเพราะตอนนี้เขาปวดแผลมาก ตอนที่อุ้มเมียไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร เขานั่งลงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง“โทนี่”“ครับ”“นายทำงานกับฉันมากี่ปีแล้ว?”“14 ปีแล้วครับ” ถามแบบนี้คงไม่คิดจะให้กันออกใช่ไหม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ตอนนี้นายอายุ 36 แล้วหนิ...” เขาเว้นจังหวะการพูด “นายง้อผู้หญิงยังไงวะ นายอายุเยอะกว่าฉันน่าจะมีประสบการณ์มาก่อน”ไอ้โทนี่เป็นขี้ข้ารับใช้นายตั้งแต่เรียนจบจนอายุปูนนี้ยังไม่มีเมียตัวเป็นตน เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนและจะตอบคำถามเจ้านายยังไง“ถ้าตอบว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อนเสียชาติเกิดมาก”แรงมาก แล้วตัวเองไม่เคยจีบสาวมาก่อนเหมือนกัน ถึงได้ทุกข์ระทมตกนรกแสนหมื่นล้านครั้งแบบนี้ ทำงานถวายหัวจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว“ผม...”“มึงตอบดีๆ” เขาคาดหวังกับคำตอบของโทนี่มาก จะได้ตามง้อเฟรินทร