แชร์

แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค
แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค
ผู้แต่ง: เทียนสื่อ

บทที่ 1 จิตวิญญาณตื่นในคืนฝนพรำ (1)

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 18:42:24

ทั่วบริเวณหุบเขาร้อยโอสถ ซึ่งเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดล้วนเปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำพราวระยับ เพราะยามนี้สายฝนกำลังเทกระหน่ำดุจสวรรค์ร่ำไห้ ผืนนภาอันเคยสว่างเจิดจ้าแปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมแผ่กลิ่นอายน่าหวาดเกรง

เสียงสายฟ้าหวดสะบั้นเฉกเช่นอสนีเคราะห์ ภายในถ้ำแสนอนธการซ้ำยังอับชื้นพลันปรากฏสตรีร่างระหงนอนไร้สติเพียงลำพัง ความเย็นเยียบกำลังกัดลึกกร่อนกระดูกเสียจนหนาวเหน็บ เรือนร่างที่แน่นิ่งมานานจึงเริ่มขยับไหวพร้อมลมหายใจกระเพื่อมถี่   

แค่ก แค่ก

"หนาวจัง..." 

เสียงที่เคยสดใสแหบแห้งระคนสั่นเครือ เปลือกตาบางเปิดปรือขึ้นแช่มช้า ครั้นได้สตินางจึงดันกายของตนเพื่อพิงผนังผิวหยาบ อ้อมแขนยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างตนหวังคลายความเย็นเยียบ พลางกวาดสายตาสำรวจสรรพสิ่งท่ามกลางความมืดมัว หญิงสาวขยับแขนเพื่อตรวจสอบทีละฝั่งด้วยสีหน้าฉงนสนเท่ห์ 

"นี่เรายังไม่ตายอีกหรือ" ฟู่ซูหนิงถอนหายใจด้วยความรู้สึกปลดปลง 

นางจำได้ว่าถูกบั่นศีรษะสิ้นใจไปแล้วตั้งแต่อยู่ในวังหลวง โทษฐานวางยาพิษฮ่องเต้ คาดไม่ถึงว่ายามนี้ฟู่ซูหนิงได้หวนกลับมาในคืนฝนพรำเมื่อคราที่ตนอายุสิบหกหนาวอีกครั้ง

เหตุใดนางจึงไร้ท่าทีตื่นตระหนกเมื่อทราบว่าตนนั้นย้อนเวลากลับงั้นหรือ นั่นเพราะฟู่ซูหนิงเคยเจอเรื่องอัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านี้มาก่อน จะด้วยอะไรก็ช่าง ดูเหมือนสวรรค์คงไม่อนุญาตให้นางตายอย่างสงบ 

มารดามันเถอะ! 

ฟู่ซูหนิงลอบสบถในใจ แต่มิอาจฝืนลิขิตสวรรค์ได้จริง ๆ 

เดิมฟู่ซูหนิงมีนามว่าเฝิงลู่ นางคือนักศึกษาแพทย์ปีสี่จากต่างยุคสมัย หนำซ้ำยังเคยสนทนากับผู้คุมกฎแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เอ่ยไปใครจะเชื่อ คงมีคนกล่าวหาว่านางเพ้อเจ้อเสียสติ 

ชีวิตเดิมในตอนที่ยังเป็นเฝิงลู่ นางได้ออกไปเที่ยวงานคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชื่นชอบ ใครจะทันคาดคิดว่านั่นดันกลายเป็นวันสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาแพทย์สาวซึ่งกำลังมีอนาคตอันสดใสและโชติช่วง 

อยู่ ๆ ก็เกิดเหตุจลาจลไม่คาดฝัน ผู้คนกำลังหนีตายกันจ้าละหวั่น เฝิงลู่ผู้ป้ำเป๋อพลันสะดุดขาของตนล้มแอ้งแม้งลงบนพื้นสกปรกซ้ำยังเปียกแฉะ ร่างเล็กเกลือกกลิ้งไปมาเพื่อหลบใต้เท้าผู้คนนับร้อยพัน กระทั่งมิอาจหลีกพ้น ร่างของเฝิงลู่จึงถูกคนเหล่านั้นเหยียบย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนช้ำในกระอักโลหิตออกมาคำโต 

ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วย ไม่มีใครใส่ใจนางเลยสักคน ผู้คนที่นี่แล้งน้ำใจเกินไปแล้ว ก่อนสิ้นใจเฝิงลู่ได้อธิษฐานต่อทวยเทพ ยกเอาคุณงามความดีไม่ว่าชาตินี้หรือชาติปางไหนมาอ้างสรรพคุณของตนเสียจนหมดสิ้น เพราะสิ่งที่นางหวาดกลัวที่สุดคือการตกนรก เฝิงลู่วาดฝันมาตลอดว่าในชีวิตอันแสนสั้นจะได้พานพบรักแท้กับชายในฝัน อยู่ด้วยกันตราบนิจนิรันดร์กาล

ไฉนตอนนี้ต้องมาตายอย่างน่าอนาถ ชาตินี้ยังไม่เคยมีแฟนเลย จะเร่งส่งนางไปปรโลกทำไมกัน!

ดูเหมือนสวรรค์รับรู้ถึงคำอธิษฐานของนาง จึงอุตส่าห์เมตตาส่งจิตวิญญาณของเฝิงลู่ให้ล่องลอยมาติดแหง็กในร่างเด็กหญิงวัยสองขวบผู้หนึ่ง ยามนั้นเด็กตัวน้อยถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไว้ไม่ห่างจากหุบเขาร้อยโอสถมากนัก เด็กวัยกระเตาะถูกช่วยเหลือจากสองตายายคู่หนึ่ง นางจึงโชคดีมีชีวิตรอดมาจวบจนเติบใหญ่ 

แม้จิตวิญญาณเป็นผู้ใหญ่แต่ร่างกายยังเป็นเด็ก ส่งผลให้เฝิงลู่เปล่งวาจาออกมามีเพียงเสียงอ้อแอ้ มันช่างชวนอึดอัดอย่างยิ่ง

นี่มันชีวิตใหม่อันบัดซบใดกันเล่า จะพูดก็ยังเป็นเสียงเด็กไม่รู้ความ...

สองตายายจึงตั้งชื่อให้เฝิงลู่ใหม่ นามว่า'ฟู่ซูหนิง' จากนั้นเฝิงลู่จึงรู้สึกคุ้นชินกับนามว่าฟู่ซูหนิงและยอมรับความจริงในที่สุด นางได้กลายเป็นคนของมิติใบนี้ไปโดยปริยาย 

เด็กน้อยกวาดสายตามองโดยรอบก็ทราบว่าที่นี่คือยุคโบราณห่างจากโลกเดิมของตนนับพันปี กระทั่งเฝิงลู่ในนามฟู่ซูหนิงค่อย ๆ เติบโตตามวัย ขณะที่จิตวิญญาณก็ยังคงเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสอง ส่งผลให้พัฒนาการของเด็กหญิงฟู่ซูหนิงก้าวกระโดดมากกว่าเด็กทั่วไปมากโข  

นับว่าดีหรือร้ายที่สวรรค์ดันถีบส่งนางลงมาอยู่ในร่างสตรีมิใช่บุรุษ หาไม่แล้วจิตวิญญาณเป็นหญิงสาวแต่ทว่ามีเนื้องอกห้อยต่องแต่งอยู่หว่างขา นางคงรับไม่ได้จนต้องกัดลิ้นตายอีกครั้งเป็นแน่ 

เรื่องบังเอิญอีกหนึ่งสิ่ง สองตายายที่ช่วยเหลือนาง ผู้คนล้วนขนานนามว่าหมอเทวดาแห่งหุบเขาร้อยโอสถ ประจวบเหมาะกับวิชาที่ติดกายมาแต่โลกกาลก่อน ฟู่ซูหนิงจึงเรียนรู้ศาสตร์แพทย์ได้รวดเร็วจนน่าฉงน นางสามารถจดจำทุกรายละเอียดของตำราโอสถราวผ่านตาไม่รู้ลืม ดูเหมือนสวรรค์คงมอบความสามารถนี้ให้นางเพื่อหวังประโลมจิตใจอันบอบช้ำ ฟู่ซูหนิงจึงนับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาอยู่เล็กน้อยก็แล้วกัน ฟู่ซูหนิงนั้นใช้ชีวิตในคราบหลานสาวของหมอเทวดากระทั่งเติบใหญ่ นางได้สืบทอดวิชาจากสองตายายจนกลายเป็นหมอหญิงในที่สุด

ครั้นฟู่ซูหนิงอายุครบสิบหกหนาว สวรรค์ก็ส่งบุรุษผู้สูงส่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ตอนนั้นนางคิดว่าเขาคือรักแท้จากคำอธิษฐานจิต ทว่ายามนี้ฟู่ซูหนิงได้รู้แล้วว่า ชายหนุ่มผู้นี้นับเป็นฝันร้ายของตนไปตลอดกาล 

"สวรรค์นะสวรรค์ กลั่นแกล้งข้าตั้งแต่โลกก่อนไม่พอ ไยต้องให้ข้าย้อนกลับมาในวันนี้ด้วยเล่า ให้ข้าตายไปเลยยังดีเสียกว่า ไม่ต้องรับรู้ ไม่ต้องแบกรับความเจ็บปวดอันหนักอึ้ง หรือไม่ก็ช่วยลบความทรงจำของข้าออกไปเถิด รังแกข้าสนุกนักหรือไร" ฟู่ซูหนิงระบายความอัดอั้น พลันแหงนหน้าด่าทอสรวงสวรรค์ ทั้งที่รู้ว่ามิอาจเปลี่ยนแปลงชะตาได้ตามอำเภอใจ 

ความรู้สึกอันน่าหวาดผวา เป็นเหตุให้นางไม่อาจย้อนกลับมาแล้วหลงทางซ้ำซ้อน นัยน์ตาดอกท้อเหลือบเห็นบุรุษร่างสูง นอนหมดสติอยู่ข้างพงหญ้า ยามนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เดิมทีนางเป็นหมอควรยื่นมือช่วยเหลือเขา บทเรียนครั้งก่อนมันได้สอนนางว่า เขามันตัวอันตราย อย่าหมายว่านางจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีกเลย 

ริมฝีปากบางเฉียบขยับเอ่ย "ท่านจงนอนรอความตายอยู่ตรงนั้นเถิด ท่านทิ้งข้าแล้วหนหนึ่ง ยามนี้ข้าจะเลือกหมางเมินท่านบ้าง หึ!" 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   สะพานสายรุ้ง (ตอนพิเศษ)

    เมืองเป่ยเหลียนและเมืองเทียนหลันเป็นเมืองที่ห่างกันเพียงแม่น้ำกั้น หลังจากฉืออิ้งเทียนเข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองเป่ยเหลียนจึงมีการหารือกับเหออ๋องและเหอหยางซื่อจื่อพร้อมส่งเรื่องรายงานไปยังเมืองหลวง เพื่อจัดแจงการก่อสร้างสะพานเชื่อมไมตรีระหว่างสองเมือง และให้นามว่าสะพานไฉ่หง [1] อีกทั้งสองฟากฝั่งยังเป็นแหล่งการค้าที่อุดมสมบูรณ์สะพานจึงถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตและงดงาม ราษฎรทั้งสองเมืองล้วนแช่มชื่นและเบิกบานที่การเดินทางสัญจรนั้นสะดวกมากขึ้น แม้การสร้างสะพานใช้เวลานานถึงสามปีแต่ทุกอย่างกลับคุ้มค่าเป็นที่สุดค่ำคืนนี้คือเทศกาลโคมไฟ จึงมีการจัดงาน ณ สะพานไฉ่หงเป็นครั้งแรก"ท่านพี่เพคะ อาภรณ์ตัวนี้งามหรือไม่"ริมฝีปากได้รูปยกโค้งอบอุ่น ฉืออิ้งเทียนมองสีหน้าฟู่ซูหนิงซึ่งประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข"ไม่ว่าเจ้าสวมชุดไหนก็งามที่สุด ไม่สวมยิ่งงดงาม""ท่านพี่ นี่พระองค์ทำไมจึงพูดจาไร้ยางอายยิ่งนัก"ฉืออิ้งเทียนอมยิ้ม ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง จากนั้นเยื้

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 45 ความรักทำให้คนตาบอด (2) (จบ)

    ฟู่ซูหนิงตัวแข็งค้างดั่งดินปั้นไม้แกะสลัก เมื่อลมหายใจอุ่น ๆ เป่าปะทะบริเวณลำคอและปรางแก้มของตน แขนแกร่งดุจคีมเหล็กรวบเอวของนางพลันกระชับด้วยใจคะนึงหา"หนิงเอ๋อร์ เจ้าเลิกผลักไสข้าเสียที ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ชายาของข้า"ฟู่ซูหนิงหนาวยะเยือกไปทั่วสรรพางค์ กระบอกตาสองข้างร้อนรื้นแดงก่ำ เสียงใสสั่นเครือ "ทะ...ท่านอ๋อง เหตุใดเป็นท่าน""หนิงเอ๋อร์ เจ้าให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้าอีกครั้งมิได้เชียวหรือ เรื่องในตอนนั้นเป็นข้าที่ผิด เป็นข้าเพียงคนเดียวไม่อาจดูแลเจ้าได้"น้ำสีใสหลั่งลงตรงหางตาเมื่อนางรับรู้ว่ายามนี้เขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากนาง "ท่านอ๋อง ท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร""ครึ่งปีมานี้ข้าติดอยู่ในวังวนมายาแห่งหนึ่ง ข้าฝันเห็นเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้ามิอาจช่วยเหลือเจ้าได้ ข้าเป็นสามีที่ไร้สามารถเอง หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะเกลียดข้า โกรธข้าก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปจากข้าอีกได้หรือไม่"ฟู่ซูหนิงใจเต้นโครมครามหูของนางอื้ออึงไปหมด ภาพในวันนั้นที่เขาวิ่งเข้ามาตระกองกอดนาง ฟู่ซูหนิงเองก็ฝันในทุก ๆ คืน เขาไม่เคยทิ้งนางเลย วันนั้นเขากลับ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 45 ความรักทำให้คนตาบอด (1)

    ร่างระหงเยื้องย่างเข้าสู่ด้านในห้องพักส่วนตัวของเจ้าเมืองเป่ยเหลียน นัยน์ตาดอกท้อกวาดมองโดยรอบก็รู้สึกใจเต้นครึกโครมด้วยความประหวั่น รูปแบบการตกแต่งภายในห้องเหตุใดจึงคล้ายกับห้องหอของนางและเขาในชาติก่อน"นี่เป็นการตบแต่งแบบใดกัน ยังมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อยู่อีกหรือ" ฟู่ซูหนิงกระซิบกับตนเองเสียงแผ่ว"ท่านหมอ มาแล้วหรือ"ฟู่ซูหนิงสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังลอดออกจากม่านผืนโปร่งบริเวณเตียงนอน แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูแหบแห้ง ทว่ากลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด"ท่านเจ้าเมือง" ฟู่ซูหนิงยอบกายลง นางทราบมาจากเหอหยางว่าท่านเจ้าเมืองคนนี้เพิ่งมาประจำการใหม่ และเขายังพ่วงตำแหน่งอ๋องเฉกเช่นบิดาของเหอหยางฟู่ซูหนิงได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วผ่านลำคอของอีกฝ่าย ส่งผลให้หัวใจของนางเต้นโครมคราม"ขออภัย ทำให้ท่านหมอตกใจแล้ว""เปล่าเลยเพคะ เป็นหม่อมฉันที่ใจลอยเอง""ใจลอยงั้นหรือ กำลังคิดถึงผู้ใดเล่า""เอ่อ..."ยังไม่ทันได้รับคำตอบ เขาก็ถามนางขึ้นอีก "ท่านหมอชอบห้องนี้

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 44 ความรักช่างยากแท้หยั่งถึง (2)

    และรถม้าก็วนกลับมาที่โรงหมอของฟู่ซูหนิงอีกครั้งเสี่ยวไป๋เอ่ยขึ้น "อ้าว ซื่อจื่อเพิ่งออกไปไม่ใช่หรือขอรับ ไยจึงกลับมาอีกเล่า หรือว่าลืมของ"ฟู่ซูหนิงมองตามสายตาของเสี่ยวไป๋ สหายของนางหัวรั้นใช้ได้ เหตุใดคนที่อยู่รอบกายต้องมีแต่พวกเอาแต่ใจกันนะ จะว่าไปแล้วนางก็คงเอาแต่ใจไม่ต่างจากพวกเขา มิน่าเล่าเขาถึงบอก โลกจะเหวี่ยงคนประเภทเดียวกันให้มาพบกัน ช่างน่าปวดหัวจริงเชียว"ซื่อจื่อ ท่านมีเรื่องใดอีกหรือ""หนิงเอ๋อร์ ข้าขอถามเจ้าว่ายังอยากรักษาโรงหมอแห่งนี้ไว้หรือไม่""แน่นอนเจ้าค่ะ""แต่เจ้าค้างค่าเช่ามานานมากแล้ว หุบเขาร้อยโอสถเจ้าก็ยังไม่อยากกลับ"แววตาคู่งามระริกไหว "ข้ารู้ ข้ากำลังพยายามหาวิธีอยู่เจ้าค่ะ""หากข้ามีวิธีให้เจ้า โดยที่ข้าไม่ได้ควักเงินของตน หรือเป็นเรื่องผิดศีลธรรมใด เจ้าจะยินยอมทำหรือไม่"ฟู่ซูหนิงหยุดมือที่ง่วนกับเทียบยาลง "ซื่อจื่อ ท่านไม่เคยจริงจังเช่นนี้มาก่อน มีอะไรก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ""เจ้ายังจำเมืองเป่ยเหลียนได้หรือไม่"ริมฝีปากสีกุหลาบขยับเอ่ย "เมืองเป่ยเหลียนงั้นหรือ" ฟู่ซูหนิงครุ่นคิดคร

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 44 ความรักช่างยากแท้หยั่งถึง (1)

    ณ ตำหนักฮ่องเต้"อิ้งเทียนเจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าต้องการเช่นนี้""พ่ะย่ะค่ะ ลูกแน่ใจ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีถอนหายใจแผ่ว "เจ้าต้องการไปเช่นนี้เสด็จแม่ของเจ้าเล่า ยินยอมงั้นหรือ""เรื่องนี้เสด็จแม่ทรงทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกจากไปเพียงกาย ใช่ว่ามิอาจหวนกลับมาเยี่ยมเยียน เสด็จพ่อโปรดอนุญาตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ""ได้ เช่นนั้นก็ตามแต่ใจเจ้า"ฉืออิ้งเทียนเดินทางจากเมืองหลวงภายในวันที่ตนฟื้นขึ้นด้วยความเร่งร้อนฮ่องเต้หมายปูนบำเหน็จให้เขาหลังจากได้สติทว่าสิ่งที่ฉืออิ้งเทียนต้องการ กลับเป็นสิ่งที่ผู้เป็นบิดาล้วนลำบากใจยิ่ง แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของหัวใจผู้ใดก็มิอาจบังคับ ราชโองการนี้จึงนับว่าสมควรแล้วกระมังอีกคนพยายามวิ่งหนีไม่ลืมหูลืมตาส่วนอีกคนพยายามไล่ตามอย่างไม่ย่อหย่อน ความรักหนุ่มสาวช่างยากแท้หยั่งถึงเหลือเกินเติ้งเหวยค้อมศีรษะ "ท่านอ๋อง ที่หุบเขาร้อยโอสถไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าท่านหมอคงมิได้กลับมาที่นี่"คิ้วเข้มขมวดมุ่น "นางจะไปที่ใดได้"

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 43 อดีตที่เสมือนกระจกสะท้อนความจริง (2)

    จู่ ๆ ฟู่ซูหนิงก็ถูกควบคุมตัวให้คุกเข่าลง "นี่เรื่องใดกัน อยู่ ๆ ก็มาจับกุมข้า อยากหัวขาดงั้นรึ"บุรุษผู้หนึ่งย่างกรายมาเบื้องหน้าของนาง พร้อมย่ามสุดรักในมือ เขาชูของสิ่งนั้นขึ้น ครั้นเห็นกระจะตาว่าเป็นผู้ใดนางก็เบิกตากว้าง"หมอชุย!"ชุยว่านเหวินเหยียดยิ้ม "พระชายา นี่ของท่านใช่หรือไม่"ฟู่ซูหนิงเมียงมองครู่หนึ่ง "ของข้า แล้วไปอยู่กับเจ้าได้อย่างไร""เป็นชายาชินอ๋องไม่ผิดแน่ นางสารภาพแล้วว่าคือของนาง"คิ้วสวยขมวดฉับ "หมายความว่าอย่างไร""พระชายา ท่านแสร้งทำตาใสเรื่องใดงั้นหรือ ลอบวางยาพิษฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่ามีโทษสถานใด""ลอบวางยาพิษ! ไร้หลักฐานไยคิดปรักปรำข้า อีกอย่างข้าเป็นชายาชินอ๋อง ควบคุมตัวข้าทั้งที่ยังไม่ไต่สวน ทำเช่นนี้นับว่าถูกต้องแล้วรึ หากชินอ๋องรู้เข้า อย่าหมายว่าศีรษะของเจ้าจะยังอยู่บนบ่า"เสียงทุ้มหัวเราะร่วน "พระชายา หลักฐานคาตา ทุกคนก็เห็นกันหมด และนี่..." เขาเทของออกจากย่ามใบโปรดของฟู่ซูหนิง ยาพิษหลากชนิดร่วงกราวดั่งใบไม้แห้ง "ของพวกนี้ ยาพิษใช่หรือไม่""ก็ใช่ แต่นั่นข้าเอาไว้ศึกษาทดลอง และย่ามของข้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status