หลังจากที่ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างลงมือรับประทานอาหาร ซึ่งบางเมนูคุณนายแม้นเมืองไม่ค่อยได้รับประทานมานาน โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนนึ่งบ๊วย รสชาติเปรี้ยวนำ เค็มตาม แล้วหวานท้ายสุดนั้นช่างเลิศรส
“จานนี้คงกลายเป็นเมนูโปรดของแม่ไปแล้ว วันหลังทำให้แม่ทานอีกนะคุณหมอ ว่าแต่ใครไปหาซื้อของสดพวกนี้ละ” หญิงสูงวัยเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางรับประทานในจานไปด้วยความเอร็ดอร่อย จนทำให้แพทย์หญิงใบบัวอดที่จะยิ้มให้กับหญิงสูงวัยไม่ได้
“บัวแอบไปหลังจากเดินชมไร่ เมื่อตอนเย็นน่ะค่ะ เมนูปลาซาร์ดีนมีประโยคต่อสุขภาพมากเลยนะคะ คุณ... เอ่อ... คุณแม่ทานเยอะๆ นะคะ” หญิงสาวรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ที่เธอต้องเรียกหญิงสูงวัยว่าแม่ ขณะที่ลูกชายของนางนั่งอยู่ด้วยแบบนี้ เขาลอบมองเธอด้วยหางตาบ่อยครั้ง จนนับไม่ถ้วน จนแพทย์หญิงใบบัวเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง เธอพยายามที่จะไม่ใส่ใจ ก่อนจะตักอาหารใส่จานให้คุณนายแม้นเมือง
“ค่าใช้จ่ายมื้อนี้ คุณหมอไปเบิกกับพ่อเลี้ยงเลยนะลูก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ถือซะว่าเป็นการฉลอง ที่บัวกับลูกเข้ามาอยู่ในไร่หมื่นเมืองก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวดูเกรงคุณนายแม้นเมือง เสียจนพ่อเลี้ยงเมืองรามอดที่จะสงสัยไม่ได้ เธอดูสวยไม่เหมือนใคร สุภาพเรียบร้อย ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย แต่ทว่าทำไมเธอนั้นถึงได้เลี้ยงลูกเพียงลำพัง ไม่ยอมเปิดใจรับใครเข้ามาทำหน้าที่บิดาของลูกสาวสักที
“เจ้าของไร่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายจัดเลี้ยงต้อนรับ คุณหมอมักจะทำให้แม่ได้แปลกใจเสมอ ยังไงพ่อเลี้ยงก็เขียนเช็คให้คุณหมอด้วยล่ะ อาหารมื้อนี้มีแต่เมนูแพงๆ ทั้งนั้น เงินเดือนก็ไม่รับ แล้วยังจะต้องมาจ่ายค่าอาหารได้ยังไงกัน”
“เอ่อ... ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ”
“คำสั่งแม่ถือว่าสิ้นสุด” คราวนี้หญิงสูงวัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกังวาน เพื่อยืนกรานห้ามหญิงสาวปฏิเสธความตั้งใจของนาง
“ค่ะแม่ ถ้าอย่างนั้นแม่ทานเยอะๆ นะคะ ในปลาซาร์ดีนมีไขมันดี สามารถลดระดับไตรกรีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตรายในการเพิ่มระดับ HDL ช่วยป้องกันและลดการอักเสบของโรคต่างๆ อย่างเช่นการลดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะค่ะ”
แพทย์หญิงใบบุญจำใจรับในสิ่งที่เจ้าของบ้านต้องการ ก่อนที่เธอจะบรรยายถึงสรรพคุณอาหารในจาน ในเวลาที่แพทย์หญิงใบบัวพูดกับหญิงสูงวัย ทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนใครจริงๆ น้ำเสียงของเธอฟังดูอ่อนโยน ไร้ซึ่งการแสแสร้งแกล้งเอาใจ จนทำให้เขาเริ่มอยากรู้จักผู้หญิงอย่างเธอมากยิ่งขึ้น
เมื่อแพทย์หญิงใบบัวหันไปมองลูกสาวของเธอ ที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ข้างๆ พ่อเลี้ยงเมืองราม ทำให้สายตาของเธอประสานเข้ากับสายตาอันแหลมคมของพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างไม่ทันระวังตัว ความรู้สึกได้เกิดขึ้นภายในหัวใจดวงน้อยของเธอแปลกๆ ราวกับถูกคลื่นลูกใหญ่โหมซัดสาดเข้ามาภายในจิตใจของเธอ กำแพงที่คนทั้งคู่สร้างเอาไว้กำลังจะพังทลายลงไป อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณพ่อขาตักผักโขมอบชีสให้หนูหน่อยสิค่ะ”
“ของขวัญ! ทำไมเรียกพ่อเลี้ยงเมืองรามแบบนั้น ขอโทษคุณลุงเดี๋ยวนี้ค่ะ” หญิงสาวที่เคยพูดจาอ่อนหวาน กำลังกลายร่างเป็นนางมารร้ายไปภายในชั่วพริบตา เมื่อลูกสาวของเธอพูดในสิ่งที่ฟังดูเสียมารยาท เนื่องจากสิ่งที่ของขวัญแสดงออกมานั้น มันบ่งบอกและแสดงออกว่าเธอสอนลูกให้ดีได้ไม่มากพอ
ซึ่งปกติแล้วของขวัญไม่ใช่เด็กไม่มีเหตุผล เข้ากับคนได้ยาก แต่ทำไมเธอถึงดูคุ้นเคยกับคนในไร่หมื่นเมืองจัง ทั้งที่เพิ่งพบกับได้ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ
“ก็ของขวัญอยากมีพ่อนี่ค่ะคุณแม่”
“ฟังแม่นะลูก พ่อของหนูได้ตายไปแล้ว เขาไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ก่อนจะมาที่นี่ของขวัญตกลงกับแม่ว่ายังไง จะไม่ดื้อจะไม่ซนใช่ไหมคะ” ในเวลานี้แพทย์หญิงใบบัวพยายามพูดจาหว่านล้อมให้ของขวัญได้เข้าใจ แต่ทว่าในทางกลับกัน หนูน้อยดูมีทีท่าดึงดันที่จะไม่ฟังคำพูดของมารดา
“ไม่จริง! ไหนแม่บอกว่าคุณพ่อรอพวกเราอยู่บนสวรรค์ ยังไงละค่ะ” คราวนี้หนูน้อยได้สะอื้นออกมาจนน้ำตาไหลอาบแก้มสองข้าง ทำให้แพทย์หญิงใบบัวทำตัวไม่ถูก เธอกับลูกกำลังย้ายเข้ามาอยู่แท้ๆ ยังไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ เรื่องวุ่นก็เกิดขึ้นจนได้
“คุณเองก็ผิด ทีปกปิดเรื่องพ่อของเธอ เป็นถึงหมอ ทำไมไม่รู้จักใช้จิตวิทยาในการทำความเข้าใจกับลูก” พ่อเลี้ยงเมืองรามกล่าวตำหนิหญิงสาวออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม แต่ทว่าผู้เป็นมารดากลับแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักอาหารรับประทานอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้ว่านางจะสงสารของขวัญมากโขก็ตามที แต่หญิงสูงวัยกลับเชื่อว่าหนูน้อยกำลังจะเป็นสะพาน เพื่อให้พ่อเลี้ยงเมืองรามเดินเข้าไปหาแพทย์หญิงใบบัวได้ง่ายขึ้น
“ฉันไม่ใช่จิตแพทย์” แพทย์หญิงใบบัวแก้ตัวออกไปน้ำขุ่นๆ ในเวลานี้คนทั้งคู่เริ่มต่อปากต่อคำ โต้ตอบกันไปมา ราวกับเป็นสามีภรรยา ซึ่งดูเหมือนเขาและเธอนั้นกำลังทะเลาะกันเรื่องลูกยังไงอย่างนั้นแหละ
“ถึงไม่ใช่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่รู้ ความพิเศษของการเป็นแม่คนนอกจากจะอุ้มท้องได้แล้ว สิ่งสำคัญคือจิตวิญญาณของการทุ่มเทเอาใจใส่ แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยของบุตร เฉกเช่นความรู้สึกของลูกสาว ควรมาเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ปล่อยให้ของขวัญเข้าใจผิด จนเธอคิดว่าพ่อยังมีตัวตน เพ้อฝันเฝ้ารอวันที่จะได้พบเจอ”
สิ่งที่พ่อเลี้ยงเมืองรามกำลังสาธยายออกมานั้น ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้ง แม้แต่มารดาของเขาเอง ยังไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ลูกชายจะมีทัศนคติต่อความเป็นแม่ของสตรีได้ถ่องแท้ขนาดนี้
“ขอโทษนะคะคุณท่าน เอ่อ...คุณแม่” ดูเหมือนว่าแพทย์หญิงใบบัวกำลังโกรธคนแถวนี้ พลอยทำให้เธอขุ่นเคืองใจ จนเกือบขาดสติระเบิดออกมา ทั้งที่ปกติแล้วเธอนั้นเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง และที่สำคัญแพทย์หญิงใบบัวแทบจะไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อนด้วยซ้ำ
“วันนี้บัวคงต้องเสียมารยาท ขอตัวพาของขวัญไปทำความเข้าใจ เพื่อปรับทัศนคติใหม่ เธอจะได้เข้าใจความเป็นไปในโลกกว้างได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งคนที่เหมาะจะเป็นพ่อต้องมีคุณสมบัติหลายประการ ไม่ใช่สักแต่พูดออกมาเพียงแค่ลมปาก เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น”
คราวนี้คนที่โกรธคือพ่อเลี้ยงหนุ่ม เมื่อเขากำลังถูกเธอต่อว่าทั้งที่พยายามช่วยอธิบาย ให้คุณหมออย่างเธอเข้าใจในความรู้สึกของลูกสาวแท้ๆ กลับกลายเป็นคนที่ดูแย่ไปซะอย่างนั้น
“ของขวัญไม่ไปค่ะ ของขวัญจะอยู่กับคุณพ่อ” หนูน้อยยังคงงอแงเอาแต่ใจ เมื่อเธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ในเวลาที่อยู่ใกล้ๆ พ่อเลี้ยงเมืองราม
“ของขวัญ เรามีเรื่องต้องคุยกัน หนูต้องมีเหตุผลมากกว่านี้เข้าใจไหมค่ะ มากับแม่” ดวงตาของคนที่เรียกตัวเองว่าแม่ได้แผ่รังสีความเฉียบขาดออกมา ซึ่งคราวนี้หนูน้อยได้เงยขึ้นไปสบตา ก่อนจะจำใจ ให้มารดาจูงแขนออกไปจากห้องอาหารอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ
“อวดดีชะมัด ผู้หญิงอะไรทำตัวหยิ่งผยอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน แทนที่จะพูดความจริงให้ลูกได้รับรู้ ของขวัญจะได้ไม่ต้องเที่ยวไปขอร้องใครต่อใครมารับบทเป็นพ่อให้กับเธอ”
หนึ่งเดือนผ่านไปก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะท้องโตไปกว่านี้ งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่ไร่องุ่นหมื่นเมือง ท่ามกลางแขกผู้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งเวลานี้ได้ดำเนินมาถึงพิธีการส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ โดยมีแขกคนสำคัญอย่างใบบุญและกวินมาในงานนี้ด้วย แต่ที่ขาดไม่ได้คือใบโพธิ์พี่ชายที่แสนดีของเธอ ส่วนหลานๆ มาร่วมงานในช่วงเช้า ก่อนจะเดินทางกลับ เพราะมีประชุมด่วนที่บริษัท ซึ่งแพทย์หญิงใบบัวก็ไม่ได้น้อยใจ เพราะถึงยังไงใบพลูก็ยังอุตส่าห์มา“พี่ดีใจที่คุณคุณหมอมีวันนี้ อย่าให้ใครหรืออะไรมาทำลายความเชื่อใจที่เรามีต่อกันได้ พี่ขอฝากคุณหมอด้วยนะคะพ่อเลี้ยง” ใบบุญถึงกับน้ำตาซึม เพราะเธอปลาบปลื้มปีติยินดี ที่เห็นน้องสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นึกว่าแพทย์หญิงใบบัวจะขึ้นคานเสียแล้ว“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะรักและดูแลคุณหมอกับลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เพราะเธอกับลูกเป็นดั่งลมหายใจของผม” ทุกคนต่างฉีกยิ้มให้กับถ้อยคำที่พ่อเลียงเมืองรามเอ่ยออกมา“บัวขอบคุณพี่ใบบุญและพี่กวินมากเลยนะคะ ที่คอยช่วยเหลือน้องมาโดยตลอด”“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอก็คือคนในครอบครัวของเราเช่นกัน ขอให้ชีวิตคู่ชื่นมื่นมีแต่ความส
“พ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องอ้อนเลยครับ ผมไม่มีทางใจอ่อน ขอทำโทษคุณแม่หน่อยเป็นไร อยากทำตัวดื้อกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องยอมรับบทลงโทษจากผมนะครับ” พ่อเลี้ยงเมืองรามไม่พูดเปล่า เขารั้งหญิงสาวนอนราบกับเตียง ก่อนจะเข้าไปคร่อมร่างของเธอเอาไว้ด้วยความระมัดระวังกว่าที่เคย“บัวท้องอยู่นะคะ”“ท้องก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ คุณเป็นหมอน่าจะรู้ดี” สิ้นเสียงพูดพ่อเลี้ยงเมืองรามได้โน้มใบหน้าลงต่ำ เขากดจูบลงไปที่ริมฝีปากอิ่มน้ำด้วยความรู้สึกรักและหวงแหนเธอเป็นที่สุดจากรสจูบที่แสนหวานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน เขาผ่อนจังหวะหนักผ่อนสลับไปมา เพื่อให้หญิงสาวมีช่วงเวลาสูดลมหายใจเข้าออก ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอดชุดนอนของเธอออก จนเห็นร่องอกอวบอิ่มแค่เพียงสัมผัสเขาก็รู้ทันที ถึงความคับแน่นเต็มมือมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้แพทย์หญิงตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว แต่ทว่าหน้าท้องของเธอยังไม่โผล่ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์บทรักลึกซึ้งยังคงร้อนแรง แว่วเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ หอบกระชั้นถี่ ต่างคนต่างก็กำลังดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์รัก ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอยู่ในโพรงปากของคนตัวเล็ก พลางรั้งชุดของตัวเองออกได้อย่างช่ำชอง ท
เมื่อหญิงสาวอันเป็นที่รักได้ปิดบังเรื่องสำคัญเอาไว้ เธอคิดว่าตัวเองเก่งมากหรืออย่างไร ทำไมถึงไม่ยอมพูดความจริง พ่อเลี้ยงเมืองรามค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ แพทย์หญิงใบบัวเขาวางมือลงไปที่หน้าท้องของเธอเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มกำลังจะได้เป็นพ่อคน แต่ทว่าหญิงสาวที่รักสุดหัวใจกำลังจะหนีเขาไปไกล เธอทำไมถึงใจร้ายจัง“พ่อจะไม่ยอมให้แม่พาหนูไปไหนไกลหูไกลตา มันน่าจับมาตีก้นให้เข็ด คุณคิดจะทำอะไร คิดว่าผมไม่มีหัวใจรึไง ถึงจะทิ้งกันไปไกลสุดขอบฟ้า” ถึงแม้ว่าเขาจะตัดพ้อต่อเธอ แต่ทว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามก็โกรธหญิงสาวไม่ลง“จุ๊บ! ผมรักคุณ รักมาก มากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้ และไม่คิดจะรักใครนอกจากคุณ คุณหมอใบบัว” เขาจุมพิตลงไปที่หน้าผากกว้างของเธอด้วยความทะนุถนอม พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูเล็ก ทำให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้กับชายตรงหน้า ซึ่งเธอยังไม่รู้ว่านายแพทย์โฬมได้เล่าความจริงทั้งหมดให้กับพ่อเลี้ยงเมืองรามได้ทราบ ซึ่งเขาให้อ้ายคำป้อจัดการเรื่องค่าปรับเรียบร้อยแล้ว“พ่อเลี้ยง” แพทย์หญิงใบบัวงัวเงียตื่นขึ้นมา ขณะที่พ่อเลี้
“คุณหมอจำสร้อยเส้นนั้นได้ไหม ล็อกเกตนั่นเป็นสิ่งยืนยันว่าของขวัญคือลูกสาวของคุณเมืองแมน มอบมันให้กับเธอในวันเกิด แล้วฝากบอกทุกคนด้วย คุณเมืองแมนได้ส่งของขวัญ แทนความคิดถึงมาให้ทุกคน”เขมจิราพูดออกมา พลางสะอื้นไปด้วยความรู้สึกคิดถึงเมืองแมน ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยลืมผู้ชายที่แสนดีอย่างเขาได้ ยิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่ม เขมจิราก็ยิ่งเสียใจเป็นทวีคูณ“บัวตั้งใจจะสวมให้ของขวัญอยู่พอดีเลย ทุกคนคงดีใจมาก โดยเฉพาะคุณย่า ที่รักและเอ็นดูของขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าหากรู้ว่าของขวัญคือหลานสาวแท้ๆ คงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก”“ขอบใจมากนะคุณหมอ สงสัยคุณเจคอบจะกลับมาแล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวเขมขอตัวไปเล่าเรื่องราวทังหมดให้เขาฟังก่อน เขาคงดีใจที่ของขวัญได้พบกับครอบครัวของฝ่ายคุณพ่อสักที”“โอเค ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ขอบใจมาก บ๊าย... บายจ้า” เมื่อกดวางสาย แพทย์หญิงใบบัวค่อยๆ เดินเข้าไปหาทุกคน ซึ่งมีแค่คนในครอบครัว แต่ดูอบอุ่นเกินบรรยาย“อ้าวคุณหมอ เชิญเลยครับ ของขวัญกำลังรอคุณมาอวยพรอยู่พอดีเลย” พ่อเลี้ยงเมืองรามเดินเข้ามาโอบไหล่แพทย์หญิงเอาไว้ ซึ่งเธอไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ ก่อนจะเดินเข้
“คุณนอนพักก่อน หน้าซีดแบบนี้ ผมว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามแสดงสีหน้าเครียดออกมา ขณะที่หญิงสาวยิ้มบางๆ ให้กับเขา“คุณลืมหรือเปล่า ฉันก็เป็นหมอนะคะพ่อเลี้ยง ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”“ไม่ให้ห่วงได้ยังไง นี่เมียผมทั้งคนเลยนะครับ” แววตาที่แฝงไปด้วยความรัก บวกกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ทำให้แพทย์หญิงใบบัวยิ้มทั้งน้ำตา เธอปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไปเป็นเดือน ทั้งที่ไม่รู้ความจริง เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาดไป“พ่อเลี้ยง... บัวขอโทษนะคะ ที่เข้าใจคุณผิด คิดว่าคุณกลับไปคืนดีกับ...” เธอช้อนตาขึ้นไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา พลางใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองอย่างคนที่คุ้นเคย พลอยทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามฉีกยิ้มให้กับคนตัวเล็ก สายตาคมที่สบกับดวงตากลมโต เป็นคำตอบที่เธอไม่ต้องรอให้ชายตัวโตต้องอธิบาย“อย่าเก็บความทุกข์สะสมไว้ในหัวใจ เพราะต่อให้ผมเจอใคร ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจากคุณ ผมรักคุณนะครับ”“บัวก็รักคุณค่ะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามดีใจเสียจนแทบเก็บอาการไว้ไม่ไหว ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำบอกรักจากเธอสักที คิดว่าต้องรอเป็นปีเสียอีก ต่อจากนี้ไปคงพบเจอแต่สิ่งดีๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มจะไม่ยอมให้ใคร หรือสิ
“แต่บัวต้องไปส่งของขวัญก่อน ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวบัวจะให้คนงานเอาไปส่งแทนก็แล้วกันนะคะ” แพทย์หญิงใบบัวพยายามหาทางหลีกเลี่ยง เพราะเธอยังไม่ปรารถนาที่จะเจอพ่อเลี้ยงเมืองราม“พ่อเลี้ยงรอได้ แม่อยากให้คุณหมอเป็นคนเอาไปส่งเอง อย่าให้ใครหรืออะไรเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเราได้ แม่เชื่อว่าพ่อเลี้ยงเมืองราม ไม่มีทางเปิดใจให้ใคร นอกจากคุณหมอ”“แต่คุณแม่คะ...”“เชื่อแม่สิจ๊ะ แม่รู้จักลูกชายคนนี้ดี เขามีหัวใจแกร่งดุจดั่งภูผา คนที่ทำลายกำแพงหนาผ่านเข้าไปได้ ก็มีแค่คุณหมอเท่านั้น”“ถ้าอย่างนั้นบัวขอตัวนะคะ เดี๋ยวตอนกลับจะแวะเอาปิ่นโตไปให้พ่อเลี้ยง พอดีว่าของขวัญรออยู่ในรถ บัวไปแล้วนะคะ”“ขับรถดีๆ นะลูก” ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะถือปิ่นโตไปที่รถ เธอไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามจะแสดงท่าทียังไง ถ้าเห็นเธอไปที่ไร่ขวัญหมื่นเมืองแพทย์หญิงใบบัวพยายามอดทนอดกลั้นไปส่งของขวัญถึงโรงเรียน แต่พอขากลับ ขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปในไร่ส้ม พอจอดรถได้ เธอรีบลงมาจากรถในทันที ซึ่งพ่อเลี้ยงเมืองรามกำลังให้คนงานจัดการทุกอย่าง ให้เข้าที่เข้าทางคงเสร็จในวันสองวันนี้“อัวก! อ๊วก! กลิ่นนี้ทำไมเหม็นจัง แ