แปดเดือนผ่านไป
หญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกมาจากแผนกสูติฯ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่มาตรวจครรภ์ตามนัดทุกเดือน
“สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันแล้วนะลูกแม่ ว้ายยย...” เสียงเอ่ยเดินก้มหน้าพูดกับท้องกลม ๆ ของตัวเอง โดยไม่ได้มองทางข้างหน้าเลย จนชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าให้
ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้น เป็นหญิงสาวท้องแก่ จึงรีบคว้าเธอเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะแกรงว่าจะล้มลง และได้รับอันตรายเข้า
“ขอโทษครับ เป็นอะ... ชะเอม!!!” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนในอ้อมแขนไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าคนนั้น ๆ คือใคร ซึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด
“พี่ธีร์!” เธออุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานั้นเอง
“ชะเอม เธอท้อง!!!” ตกใจที่ได้เจอเธอ แต่ยิ่งตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเธอท้อง กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย
“...” เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่จ้องมองเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย
“หมายความว่า...” เขากำลังเอ่ยปากถามหาคำตอบ หรือคำยืนยันจากเธอ
“ลูกหนูคะ เขาเป็นลูกของหนูคนเดียว” เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“หึ เธอจะบ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมา เธอจะท้องคนเดียวได้ยังไง...” เขาตวาดเสียงใส่ทันที เมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูดออกมา
“พี่หมายความว่ายังไง...” เธอถามเขากลับ
“คนนะชะเอม ไม่ใช่ปลากัด ที่มองหน้ากันเฉย ๆ แล้วจะท้องได้ แล้วนี้ท้องได้กี่เดือนแล้ว ตอบฉันมาตามตรงนะ ห้ามโกหก” เขาใช้สายตาข่มขู่เธอทันที เพื่อให้เธอตอบเขาออกมาตามตรง
“ปะ แปดเดือนกว่าแล้วคะ”
“ชัดเลย ไม่ต้องพูดฉันก็รู้แล้ว แถมมั่นใจด้วยว่านี้ คือลูกของฉัน” เขาไม่ได้ตกใจในคำตอบของเธอ แถมเขายังมั่นใจอีกว่าเธอท้องลูกของเขาอยู่อย่างแน่นอน
“...” เธอเสมองไปทางอื่น เมื่อเขายืนยันแบบนั้น และเธอก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรด้วย
“หายไปอยู่ไหนมา ฉันไปตามหาเธอที่โรงเรียน ก็พบว่าเธอลาออกแล้ว แถมไปหาที่บ้านเธอก็ไม่ได้กลับไปเลยตั้งแต่วันนั้น” เขายิงคำถามใส่เธออีกทันที เพราะตลอดแปดเดือนกว่าที่ผ่านมา เขาพยายามตามหาเธอมาตลอด จนสืบรู้ที่อยู่บ้านที่พ่อและพี่ชายเธออยู่ แต่กลับไร้แม้เงาของเธอ
“...” เธอนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะอธิบายบอกเขาอย่างไร และเธอก็ไม่คิดด้วย ว่าจะมีคนตามหาเธอแบบที่เขาถามในตอนนี้ และคนที่ถามหาเธอทำไมถึงไม่ใช่พ่อและพี่ชายของเธอ แต่ทำไมถึงเป็นเขา เขาที่เธอพยายามหลบ เพราะไม่กล้าสู้หน้า
“สบายดีหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามออกมา เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าเงียบอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“สบายดีมั้ง ท้องโย่แบบนี้” เธอสวนกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ปากดีตลอดไม่เคยเปลี่ยน จะไปไหนฉันจะไปส่ง” แต่คนตัวสูงที่ยังคงยืนกอดเธอกลับได้ยินอย่างชัดเจนทุกคำพูดของเธอ
“กลับคะ”
“ไปขึ้นรถ” เขาเอ่ยบอก และกำลังปล่อยแขนออก
“โอ้ยยยย”
“ชะเอม!” เขารีบคว้าเธอมากอดอีกทันที เพราะตกใจที่เธอร้องออกมาแบบนี้ และกลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจากเขาเดินชนหรือเปล่า
สายตาคมมองสำรวจรอบกายของเธอด้วยความเป็นห่วง
“เอมปวดท้อง...” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และยกมืกกุมท้องเอาไว้
ธีรเมธหันมองซ้ายแลขวา และไม่รู้จะทำเช่นไรดี คอยถามเธอออกไป และคอยช่วยประคองเธอไว้แนบอกแกร่งไม่ยอมปล่อยออกห่าง
“เดินไหวไหม ฉันจะพาเธอกลับไปหาหมอ” เสียงทุ้มถามเธอ
“...” เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แต่กับส่ายหน้ามองตาเขา ย่นหน้ายู่ใส่เขาเหมือนเด็ก
เขาจึงตัดสินใจช้อนเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ถึงแม้จะรู้ดีว่าตัวเธอหนักมากแค่ไหนก็ตาม เพราะตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว แถมยังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่
“กอดฉันไว้แน่น ๆ เดี๋ยวจะตก ฉันจะพาเธอเดินกลับไปหาหมอน่ะ”
“...” เธอพยักหน้ารับ และทำตามที่เขาบอก ด้วยการยกแขนขึ้นมาคล้องคอเขาเอาแน่น เพราะกลัวจะตก
“ชะเอม!!! ทำไมเปียกแบบนี้ละ” ก้าวเท้าไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ต้องตกใจเมื่อรับรู้ถึงแขนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำอะไรสักอย่าง
“เอมไม่รู้ โอ้ยยย เจ็บบบ” เธอได้แต่ส่ายหน้าอย่างเดียว แต่ตอนนี้อาการเจ็บท้องเริ่มเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มหายใจติด ๆ ขัด ๆ
ธีรเมธรีบสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งพาเธอกลับไปยังแผนกที่เธอเดินออกมา อย่างรีบร้อน เพราะเขาก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้
“เธอเจ็บท้องครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเหมือนตะโกนทันที ที่พาเธอมาถึง
“เข้าไปด้านในเลยครับ...” บุรุษพยาบาลที่อยู่บริเวณนั้นรีบเปิดประตูให้เขาที่อุ้มร่างสาวท้องแก่เข้าไปด้านในทันที
ธีรเมธวางเธอลงที่เตียงอย่างช้า ๆ แล้วถอยออกมาห่าง ๆ เมื่อพยาบาลรูดผ้าม่านปิดรอบเตียง ตรวจดูอาการของเธอตอนนี้
“พาไปที่เตียงรอคลอดได้เลยครับ” นายแพทย์ประจำห้องคลอดแห่งนี้เอ่ยบอกพยาบาล หลังจากที่ได้ตรวจความพร้อมของเอมิกาเรียบร้อยแล้ว
“ผ่าเอาได้ไหมครับ” ธีรเมธแทรกขึ้นมาทันที หลังจากที่ผ้าม่านกั้นถูกเปิดออก พร้อมกับหญิงสาวที่น้ำตาเอ่อล้นอาบแก้มบนเตียงนอนรออย่างแสนเจ็บปวด
“คุณผู้ชาย เอ่อ...” เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร พยาบาลในห้องนั้นต่างก็พากันสงสัยไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และก็ตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าจะเจอหนุ่มเจ้าของไร่ชาอยู่ที่นี่ด้วย
“สามีเธอเองครับ” เขาเอ่ยบอก พร้อมกับมองสบตาของเธอพอดี
นายแพทย์ประจำห้องหันไปมองหน้าหญิงสาวบนเตียงก่อน เพื่อความมั่นใจว่าชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของไร่ในพื้นที่คนนี้ไม่ได้แอบอ้างความเป็นสามี เพราะทุกครั้งที่เธอมาตรวจครรภ์ตามนัด ก็จะเห็นเธอมาคนเดียว บางทีก็มีหญิงวัยทองมาด้วย
“...เชิญเซ็นเอกสารยินยอมทางนี้ครับ” เมื่อเอมิกาพยักหน้ารับ นายแพทย์ที่จะทำคลอดให้หันมาพยักหน้าให้เขาเชิงรับรู้ แล้วพาเขามานั่งที่โต๊ะยื่นเอกสารให้เขาได้เซ็นทันที
หนุ่มสุดฮอตเจ้าของไร่ชา ซึ่งเป็นที่หมายตาของสาวเล็กสาวใหญ่ เป็นที่รู้จักในวงกว้างของคนทั้งอำเภอเลยก็ว่าได้ ที่ครองโสดมานาน แต่บัดนี้กลับบอกว่าเป็นสามีของสาวท้องแก่ ที่ทุกครั้งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“พยาบาลเตรียมเครื่องมือให้พร้อมครับ ส่วนคุณสามีถ้าจะเข้าในห้องคลอดด้วย เชิญตามพยาบาลไปเปลี่ยนชุดด้วยครับ” นายแพทย์เอ่ยบอกพยาบาลและผู้ช่วยที่อยู่ในห้องนี้ ให้เตรียมความพร้อม ก่อนที่จะหันมาบอกเขาที่เซ็นเอกสารเสร็จเป็นที่เรียบน้อยแล้ว
เขาเดินตามพยาบาลออกไปอีกห้องหนึ่ง ผ่านหน้าหญิงสาวที่นอนคร่ำครวญอยู่บนเตียงพอดี มองเขาด้วยใบหน้าที่มีแต่ความกังวล
“พี่ธีร์ เอมกลัว” เสียงแผ่วเบาเอ่ยบอกเขา
“เดี๋ยวพี่มาครับ เอมไม่ต้องกลัวน่ะ” เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอก่อน แล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงที่นุ่มเป็สความห่วงใย ก่อนที่จะเดินจากไป
ไม่นานธีรเมธเดินกลับมาหาเธอที่ห้องผ่าตัด ที่ตอนนี้มีเธอนอนอยู่บนเตียงเตรียมพร้อมที่จะทำการผ่าคลอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขานั่งลงประจำตำแหน่งที่ได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้
มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบที่ศีรษะทุยของเธออย่างให้กำลังใจ และคอยเอ่ยปลอบประโลมเพื่อให้เธอคลายความกังวลลง พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลลงข้างแก้มให้เธอด้วย
“ไม่ต้องกลัวน่ะ ลูกของเราจะต้องปลอดภัย” เสียงนุ่มเอ่ยบอกผ่านหน้ากากอนามัย พร้อมกับหอมลงที่หน้าผากมนของเธออย่างให้กำลังอีกที
ในเวลาไม่นานนัก ลูกของเธอและเขาก็ได้ส่งเสียงร้องออกมา เมื่อได้ลืมตาดูโลกอย่างปลอดภัย เป็นทารกเพศชายตัวแดง ๆ ที่ส่งเสียงร้องดังลั่นห้อง สร้างความตื่นเต้นให้แก่ทั้งคู่ยิ่งนัก ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า
“ขอบคุณที่มาอยู่ตรงนี้กับเอมนะคะ” เธอเอ่ยขอบคุณเขาเสียงแผ่วเบา
“เจ็บไหม”
“…” เธอได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เพราะตอนนี้เธอยังไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น นอกจากความดีใจ ที่ลูกของเธอคลอดอย่างปลอดภัย
“เก่งมากตัวแสบ” เขาเอ่ยชมพร้อมกับก้มหน้าลงหอมที่หน้าผากมนของเธออีกครั้ง
ถึงแม้จะเป็นเพียงการสัมผัสที่ผ่านหน้ากากอนามัย ก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจอยู่ไม่น้อย ที่วันนี้มีเขาอยู่ตรงนี้กับเธอ ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร ที่ได้เป็นคุณพ่อแบบกะทันหัน แบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ ขอบคุณลูกชายด้วยที่เลือกเกิดได้ถูกวัน...
พ่อแม่มือใหม่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่มีเอมิกาและลูกชายตัวน้อยมาอยู่ที่ไร่ด้วย ธีรเมธแทบจะไม่เข้าไปในไร่ชาของเขาเลย แถมยังไม่ยอมออกจากบ้านอีก เพราะต้องคอยช่วยเธอดูแลลูกขณะที่เธอยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างถนัด และก็เป็นพ่อและแม่มือใหม่ที่วุ่นวายกันเลยทีเดียวเขาอยากจ้างพี่เลี้ยงมาคอยช่วยเธอ เพราะอยากให้เธอได้มีเวลาพักบ้าง แต่เธอยืนกรานที่จะเลี้ยงเอง แล้วเขาก็ไม่อยากขัด จึงต้องยอมสละงานตัวเองมาช่วยเธอ เพราะสงสารที่เธอต้องดูแลลูกเองคนเดียว เวลาพักผ่อนของเธอก็แทบจะไม่มีเลยเขามองใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทีไร ก็รู้สึกผิดต่อเธอตลอด หญิงสาวที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว มีอนาคตที่ไกลกว่านี้ แต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกอดหลับอดนอน เพราะความมักง่ายของเขาแท้ ๆ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยให้เขาได้ยินสักคำเลย“เธอนอนพักเถอะชะเอม เดี๋ยวพี่ดูลูกต่อเอง” เขาเอ่ยบอกเธอขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าลูกน้อยได้หลับไปแล้ว หลังจากที่ร้องมานาน กว่าจะหลับลงได้ ก็ทำเอาเขาและเธอเพลียกันเลยทีเดียว“แต่...”เมื่อเธอยังคงปฏิเสธ เขาจึงสาวเท้าเดินไปหาเธอ แล้วช้อนเธอขึ้นมา อุ้มไปวางที่เตียงแล้วคร่อมทาบทับตัวเธอเอาไว้ท
เซอร์ไพรส์จากพ่อและแม่เมื่อลูกน้อยร้อง เขาจึงยอมเป็นฝ่ายลุกขึ้นเอง แล้วเดินไปอุ้มลูกที่นอนอยู่บนเตียงกว้างของเขาที่พรรณวนาอุ้มขึ้นมาส่งตอนที่มาถึง แล้วเขาก็ช้อนลูกชายตัวน้อยขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เดินมาหาเอที่นั่งอยู่ ได้ให้เธอได้เอาเข้าเต้า เพราะน่าจะหิวแล้ว แล้วเขาก็นั่งลงตำแหน่งเดิม ข้าง ๆ เธอ“เอมจะให้นมลูก พี่ธีร์ออกไปก่อนสิ” เธอหันมาบอกเขาที่ยังคงนั่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับเธอไม่ยอมออกห่างจากเธอและลูกเลยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็นั่งจ้องดูลูกขณะที่เธอกำลังเปิดเสื้อให้นมลูก เธออาย แต่ไม่กล้าเอ่ยบอกเขา เพราะมีพยาบาลอยู่ด้วย แต่ตอนนี้อยู่ที่บ้านเขาก็ยังมานั่งจ้องอีก“ทำไมพี่ต้องออกไปด้วย พี่ก็อยากดูลูกกินนมเหมือนกัน” เขาพูดขึ้นมาแบบไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แถมยังทำหน้าตาท่าทีกวน ๆ ใส่เธออีก“พี่ธีร์” เธอได้ค้อนใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากนัก เพราะมีลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขน เกรงว่าจะตกใจเข้า“อะไรอีก” เขาเลิกคิ้วถามเออย่างท่าทีคงเฉยชา“แต่เอมอาย...” เธอบอกเขาออกไป“จะอายทำไม พี่เห็นของเธอมาหมดทุกส่วนแล้ว ต้องให้บอกไหม ว่าเธอมีไฝตรงจุดไหนบ้างของร่างกาย” นอกจากเขาจะไม่รู้สึกรู้อะไรแล้ว เขายังพูดจากำก
พาลูกเมียเข้าไร่เช้าของวันที่สาม ก่อนที่จะได้กลับบ้าน เขาได้กลายเป็นพ่อแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเชิญเจ้าหน้าที่เขตเข้ามาที่ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลที่เอมิกาพักอยู่ เพื่อดำเนินการเรื่องจดทะเบียนสมรสของเขาและเธอ หลังจากที่เขาได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับบิดาวันก่อน ตั้งแต่ที่ออกจากห้องคลอดส่วนบิดาของเขาตอนแรกก็ตกใจไม่น้อย ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นปู่แบบกระทันหัน เพราะคิดว่าโดนเขาอำเล่น แต่เมื่อได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เขาโทรศัพท์ไปเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ท่านจึงได้แนะนำให้เขาจดทะเบียนสมรส แล้วลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้กว่าจะจบด้วยวิธีนี้ ธีรเมธก็โดนบิดาต่อว่าเอาอยู่ไม่น้อย เรื่องทำผู้หญิงท้อง ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขามาก แต่เมื่อเขาสารภาพว่าทำหญิงสาวอายุไม่ถึงสิบแปดท้อง ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยินแบบนั้น แทบจะจับเขาเข้าคุกเสียเองที่ทำอะไรยั้งคิดลงไปแบบนั้นส่วนเรื่องชื่อของลูกชาย เขาเป็นคนไปจัดการเรื่องแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาก็เป็นคนตั้งชื่อให้ด้วยตัวเอง พร้อมกับให้ใช้นามสกุลของเขา เขาจัดการเองทุกอย่างเสร็จสับ โดยที่เธอไม่สามารถปฏิเสธหรือห้ามอะไรเขาได้เลย“เด
เป็นพ่อแบบไม่ทันตั้งตัวแปดเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกมาจากแผนกสูติฯ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่มาตรวจครรภ์ตามนัดทุกเดือน“สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันแล้วนะลูกแม่ ว้ายยย...” เสียงเอ่ยเดินก้มหน้าพูดกับท้องกลม ๆ ของตัวเอง โดยไม่ได้มองทางข้างหน้าเลย จนชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าให้ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้น เป็นหญิงสาวท้องแก่ จึงรีบคว้าเธอเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะแกรงว่าจะล้มลง และได้รับอันตรายเข้า“ขอโทษครับ เป็นอะ... ชะเอม!!!” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนในอ้อมแขนไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าคนนั้น ๆ คือใคร ซึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด“พี่ธีร์!” เธออุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานั้นเอง“ชะเอม เธอท้อง!!!” ตกใจที่ได้เจอเธอ แต่ยิ่งตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเธอท้อง กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย“...” เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่จ้องมองเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย“หมายความว่า...” เขากำลังเอ่ยปากถามหาคำตอบ หรือคำยืนยันจากเธอ“ลูกหนูคะ เขาเป็นลูกของหนูคนเดียว” เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน“หึ เธอจะบ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมา เธอจะท้องคนเดียวได้ยังไง...” เขา
หายไป...สองวันต่อมา ที่ไร่ธีรเมธ🌿“วันนี้คุณธีร์มีนัดหรือครับ” นิกรถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่เดินออกมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงจอดรถ“มีธุระด่วนนิดหน่อย” เสียงเรียบนิ่งกลับเพียงแค่สั้น ๆ“ธุระอะไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย” นิกรถามขึ้นมาทันที เพราะเขาจะรู้ทุกเรื่องของธีรเมธหากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานในไร่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็มีบ้างที่ไม่อาจรู้นอกเสียจากผู้เป็นเจ้านายจะเล่าบอกเอง“แกจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องของฉันไหมไอ้กร ไปดูแลแม่ฉันที่บ้านด้วย ถ้าท่านถามถึงก็บอกว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก” ธีรเมธตวาดใส่ลูกน้องคนสนิททันทีอย่างเหลืออด และสั่งการให้นิกรไปดูแลมารดาของเขาแทนธีรเมธเดินขึ้นรถไป และขับออกไปทันทีอย่างรีบร้อน ส่วนมารดาของเขานั้นเดินทางมาหาเขาได้สามวันแล้ว แต่การมาครั้งนี้มารดาของเขาเดินทางมาคนเดียว ไม่มีผู้เป็นสามีและลูกสาวสุดที่รักตามมาด้วยเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยมา“กินอะไรมาว่ะ ระเบิดลงแต่เช้าเลย” นิกรได้แต่เอ่ยบ่นให้เจ้านายเมื่อรถแล่นออกไปได้ไกลแล้วธีรเมธขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนตามบัตรประจำตัวหอพักนักเรียนของเธอที่ตกอยู่ภายในห้องนอนของเขา ในตอนช่วงเช้าท
ความซวยมาเยือนเขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์ตับ ตับ ตับและเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขาเมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย