แชร์

บทที่ 1251

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
วันถัดมา

ในห้องทรงพระอักษร

เฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอให้แต่ละค่ายทหารกำหนดเวลาแข่งขันแลกเปลี่ยนความรู้กัน จัดให้มีรางวัลสำหรับผู้ชนะ เพื่อกระตุ้นความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเหล่าทหาร

แม่ทัพชราหลี่เห็นด้วยเป็นคนแรก

“กระหม่อมคิดว่าดีพ่ะย่ะค่ะ หลายปีมานี้แคว้นหนานฉีเจริญรุ่งเรื่องมากขึ้น เลี่ยงไม่ได้ที่เหล่าทหารจะเกียจคร้าน เราควรจะเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนอันตรายจะเกิดพ่ะย่ะค่ะ!”

แม่ทัพท่านอื่น ๆ ส่วนมากก็เห็นด้วย

ทว่าก็ยังมีผู้คัดค้าน

“ฮองเฮา กระหม่อมคิดว่าเรื่องทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

“หากตอนนั้นชนะ แน่นอนว่าต้องดีใจ ทว่าท่านได้คิดถึงผู้แพ้บ้างหรือไม่?”

สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา ดูแล้วไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย

“ข้ารู้เพียงว่าเมื่อสู้กับพวกเดียวกัน หากแพ้ก็คือแพ้ ครั้งหน้าค่อยชนะก็ได้แล้ว

“ทว่าเมื่อสู้กับศัตรู แพ้ ก็คือตาย”

ผู้ต่อต้านคนนั้นถามอีกครั้ง

“กระหม่อมคิดว่าแคว้นเป่ยเยี่ยนได้ยอมแพ้แล้ว ชายแดนสี่ทิศของแคว้นหนานฉีไม่มีสงครามอีก เหล่าทหารตึงเครียดกันมาหลายปีเพียงนี้ ถึงเวลาที่จะกลับมาฟื้นฟูแคว้นแล้ว

“ยามนี้ควรจะปลดทหาร ให้เหล่าทหารกลับไปไถนา

“อีกอย่างภายในชายแดนขอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1474

    “น้องสาม เจ้าเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!” ฮูหยินนั่วมีสีหน้าเย็นชา เซียวเหิงก็มองไปที่หยวนสุยเช่นกัน หยวนสุยยื่นมือใหญ่ออกไป ดึงภรรยาและลูกชายมาปกป้องไว้ข้างหลังของตน เขาสบประสานสายตาคลุ้มคลั่งของฮูหยินนั่ว ชี้ไปที่เซียวเหิง “ในช่วงเวลาที่เดินทางแสวงหาความรู้นั้น หยวนตั๋วไปทำอะไรมาบ้าง พี่หญิงรองยังไม่รู้ชัดอีกหรือ? “ผู้ที่ฆ่าหยวนตั๋วจริง ๆ หาใช่หยวนจั้นลูกชายของข้าไม่ เกรงว่า คงเป็นคนข้างหมอนของท่านต่างหาก!” สีหน้าของฮูหยินนั่วเปลี่ยนไปอย่างมาก เพียะ! นางตบหน้าหยวนสุยอย่างเดือดดาล “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!” “ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ !” หานซื่อรู้ว่าฮูหยินนั่วเพิ่งจะสูญเสียลูกชายที่รักไป จึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาท นางจึงดึงแขนหยวนสุยผู้เป็นสามี และชักชวนให้เขาออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม หยวนสุยเก็บงำเรื่องนี้มานานหลายปี มีบางอย่างที่เขาจะต้องพูดออกไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นสายตาที่ฮูหยินนั่วพี่หญิงรองใช้มองบุตรชายของเขาเมื่อครู่ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกชายเข้าม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1473

    เซี่ยหวั่นเฉินตกอยู่ในวังวนการแย่งชิงอำนาจจักรพรรดิตั้งแต่เยาว์วัย ไม่ใช่คนจิตใจเรียบง่ายอย่างแน่นอน เขาสังเกตเห็นแล้วว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการส่งเขาไปพ้น ๆ เพียงคาดไม่ถึงว่า ครั้งนี้นางและเซียวอวี้จะแสดงท่าทีชัดเจนขนาดนี้ เขาไม่อาจแสร้งสับสนได้อีก เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเซียวอวี้ เซียวอวี้ก็มองนางเช่นกัน คำถามของเซี่ยหวั่นเฉินนั้น พวกเขาหาได้ตอบทันทีไม่ เซี่ยหวั่นเฉินใช้มือหนึ่งแตะที่หน้าผาก “ตอนนี้พวกท่านไม่ปิดบังแล้วหรือ?” กลับส่งสายตาให้กันต่อหน้าเขาเช่นนี้เลย เซียวอวี้เอ่ยอย่างสงบนิ่ง “จะบอกเจ้าก็ได้” ระหว่างทาง เขายังตระหนักได้ว่า เซี่ยหวั่นเฉินมิใช่คนไร้คุณธรรมที่พอข้ามแม่น้ำเสร็จก็รื้อสะพานทิ้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนยังระมัดระวังเล็กน้อย ทว่า ความจริงไม่อาจซ่อนเร้นได้ เซียวอวี้ตัดสินใจจะบอกเซี่ยหวั่นเฉิน นางไม่ได้คัดค้าน “สรุปแล้วคืออะไรกันแน่?” เซี่ยหวั่นเฉินดูร้อนใจไม่น้อย เซียวอวี้เอ่ย “หมอเทวดาพวกนั้นกล่าวว่า หากใช้เลือดของเราทดลองยา อาจจะสามารถหลอมยาถอนพิษมนุษย์โอสถได้” เมื่อได้ยินเช่นน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1472

    แม้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็ไม่คาดคิดว่า จะเจอเซียวเหิง ในเวลานี้นางถือกระบี่นั่งอยู่หลังม่านรถม้าหากเซียวเหิงเปิดม่านโดยพละการ จุดนั้นก็พอจะเป็นมุมอับได้ แต่ก็ไม่แน่นอนเสมอไปเอาเป็นว่า นางได้เตรียมพร้อมที่จะต้องปะทะคมกระบี่กับเซียวเหิงตลอดเวลาท่านผู้เฒ่าหยวนนั่งอยู่บนที่นั่งหลักเขาสมกับเป็นคนที่เคยดำรงตำแหน่งมหาเสนาบดี ตอนนี้ไม่มีท่าทีลนลานเลยสักนิด เอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน“ข้าจะไปไหน เจ้าไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย“หากมีเวลาว่างนัก เจ้าไปเดินหารัชทายาทมากขึ้นอีกไม่ดีกว่าหรือ”นอกรถม้า เซียวเหิงดูนอบน้อม“ท่านพ่อสั่งสอนได้ถูกต้อง”“แต่ว่า ข้างนอกทั้งมืดและอันตราย ข้าเป็นห่วงท่าน ข้าขอส่งคนไปคุ้มกันท่านดีกว่า…”ท่านผู้เฒ่าพูดเสียงเข้ม“ไม่จำเป็น คิดว่าข้าไม่มีคนของตัวเองหรือ?”สิ้นคำพูด เขาก็ให้สารถีออกเดินทางต่อ ไม่เห็นเซียวเหิงในสายตาสักนิดหลังจากรถม้าออกไปไกล แววตาของเซียวเหิงก็คมกริบเขาออกคำสั่งลูกน้อง“ส่งคนแอบติดตามไป ดูว่าเจ้าแก่นั่นจะไปที่ไหน?”“รับทราบ!”ในรถม้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเก็บกระบี่ลงฝักท่านผู้เฒ่าหยวนปรายตามองนาง“เจ้าเองก็เป็นลูกศิษย์ภูเขาหวูหยาหรือ?”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1471

    สิ่งที่เป็นของยืนยันที่ว่า คือพู่หยกเมื่อเสียวอู่รับของยืนยันไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ปีนหน้าต่างออกไปน่าเสียดายที่เขาอุตส่าห์เก็บสัมภาระเรียบร้อย ทว่ายังต้องอยู่เป็นหนอนบ่อนไส้ในตระกูลหยวนต่อวันต่อมาเช้าวันรุ่งขึ้น เสียวอู่โวยวายขอพบท่านผู้เฒ่าหยวนท่านผู้เฒ่าหยวนจำต้องมาหาเขาที่ห้องด้วยตนเอง“ตกลงมีเรื่องอะไรกันแน่!” ปกติท่านผู้เฒ่าหยวนจะบำเพ็ญตน นั่งสมาธิบ่อย ๆ ทว่ายังแก้นิสัยใจร้อนไม่ได้เสียวอู่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนขโมย ไปปิดประตูหน้าต่างทั้งหมดท่านผู้เฒ่าขมวดคิ้ว “นี่เจ้าทำอะไร!”เสียวอู่ยกนิ้วชี้ขึ้นทำท่าบอกให้เขาเงียบ“ชู่ว!”ท่านผู้เฒ่า: ?เจ้าเศษสวะนี้! กล้ามาบอกให้เขาเงียบหรือ?ต่อมา เสียวอู่ก็ล้วงพู่หยกในอ้อมแขนออกมา ส่งให้ท่านผู้เฒ่า“มีคนฝากสิ่งนี้มาให้ท่าน…”ตอนแรกท่านผู้เฒ่าไม่ได้ตั้งใจมอง ทว่าพอเขาเห็นพู่หยกครั้งที่สอง ก็จำได้ทันทีว่ามันคือของรัชทายาทด้วยเหตุนี้ เสียวอู่ยังพูดไม่จบ ก็ถูกท่านผู้เฒ่าบีบคอ“ฝีมือเจ้าจริง ๆ หรือ?!“ทำไม คิดจะมาขู่ข้าหรือไร!“พวกเจ้าทำอะไรรัชทายาท!”เสียวอู่ไม่คิดว่าท่านผู้เฒ่าจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เขาถูกบีบคอ เนิ่น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1470

    จวนหยวน ในเรือนหลักท่านผู้เฒ่าหยวนกำลังนั่งทำสมาธิ บ่าวรับใช้ก็เข้ามารายงาน“ท่านผู้เฒ่า องค์รัชทายาทถูกคนหนานฉีจับเป็นตัวประกัน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน”ท่านผู้เฒ่าหยวนลืมตาขึ้น“มีเรื่องใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ? ทางหอเทียนเซียงเป็นอย่างไรบ้าง?”เขาเพียงอยากรู้ เสียวอู่มีส่วนร่วมหรือไม่บ่าวรับใช้กล่าว“หลายวันมานี้คุณชายเสียวอู่อยู่ที่หอเทียนเซียงตลอด นอกจากคราวก่อน ก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกขอรับ”คราวก่อน ก็คือวันที่หยวนตั๋วถูกช่วยกลับมาท่านผู้เฒ่าหยวนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก การหายตัวไปของหยวนตั๋ว ต้องเกี่ยวข้องกับเสียวอู่เป็นแน่“เจ้าไปที่หอเทียนเซียง มัดตัวเจ้าไร้ประโยชน์มาให้ข้า!”“ขอรับ ท่านผู้เฒ่า!”กลางคืนเสียวอู่ถูกคลุมกระสอบ พามาที่เรือนหลักของจวนหยวนท่านผู้เฒ่าเห็นกระสอบดิ้นไปมา ก็ขมวดคิ้ว“เปิดออก”บอกให้จับมัด ไม่ได้บอกให้คลุมกระสอบเสียหน่อยไม่กลัวคนขาดใจตายหรือไร!บ่าวรับใช้รู้สึกได้ถึงไอเย็นแปลก ๆ จึงรีบกรีดกระสอบออก แบบนี้จะได้เร็วขึ้นศีรษะของเสียวอู่โผล่ออกมา ในปากมีผ้าขี้ริ้วยัดเอาไว้ ดวงตาสุกใสมองมาที่ท่านผู้เฒ่าหยวนท่านผู้เฒ่าทนมองภาพนี้ไม่ได้ จึ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1469

    หมอเทวดากระแอมไอออกมา“แค่ก ๆ …”เฟิ่งจิ่วเหยียนวกกลับสู่หัวข้อหลัก“นี่คือธนูส่งสัญญาณ พวกเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี เมื่อถึงสถานที่ปลอดภัยแล้วให้ยิงส่งสัญญาณ แล้วข้าจะส่งคนไปตามหาพวกเจ้า”เหล่าหมอเทวดามองหน้ากันไปมา เห็นได้ชัดว่ากลัวนางพาเซียวอวี้หนีไปทว่าตอนนี้ พวกเขาก็ไม่มีตัวเลือกอื่นต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อนเป็นอันดับแรก!เซียหวั่นเฉินยังครุ่นคิด คำพูดต่อจากนั้นของหมอเทวดาผู้นั้นคืออะไรจนกระทั่งเฟิ่งจิ่วเหยียนเร่งรัดเขา“ไปได้แล้ว!”……จวนหยวนภายในเรือนตะวันตกหลังจากได้ข่าวจากวังเฉวียน สีหน้าของเซียวเหิงก็เย็นสะท้าน“หนีไปแล้วงั้นหรือ? แล้วรัชทายาทล่ะ? ไม่เจอเหมือนกันหรือ?”“องค์รัชทายาทก็ไร้ร่องรอยเหมือนกันขอรับ”“เหอะ! เรือนพักหลังใหญ่ มีคนอยู่หลายคนขนาดนั้น กลับหายตัวไปหมด เก่งจริง ๆ!” เซียวเหิงยิ้มเยาะ พร้อมกันนั้นก็ไม่พอใจที่วังเฉวียนทำภารกิจไม่ได้เรื่องลูกน้องคาดเดา “ในเรือนพักบนเขาแห่งนั้นต้องมีช่องทางลับเป็นแน่”“พวกวังเฉวียนได้ค้นหากลไกช่องทางลับหรือไม่”“กำลังค้นหา แต่ขณะนี้ยังไม่มีเบาะแส”สายตาของเซียวเหิงดุร้าย“หาต่อไป! แม้นต้องขุดดินหา ก็ต้องหาให้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status