กองทัพฉียึดเมืองอู๋โจวได้ ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามบนหอประตูเมือง หร่วนฝูอวี้ได้รับบาดเจ็บหนักมิใช่ได้รับบาดเจ็บจากทหารหนานเจียงเหล่านั้น แต่เป็นเพราะถูกนกไม้กลไกของกองทัพฉียิงพลาดจนบาดเจ็บเพราะอย่างไร กองทัพฉีก็ไม่คาดคิดว่า บนกำแพงเมืองจะมี “พันธมิตร” อยู่ด้วยถึงแม้จะรู้ ก็คงไม่ยอมทิ้งโอกาสในการโจมตี เพราะหร่วนฝูอวี้เพียงคนเดียวบาดแผลที่หร่วนฝูอวี้ได้รับล้วนเกิดจากลูกธนูเก๋อสือชีประคองนางไว้ ด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ถูกบาดแผลของนางเมื่อลงมาจากกำแพงเมือง หร่วนฝูอวี้ก็พบกับเซียวอวี้ที่นำทัพมาด้วยตัวเองนางยิ้มอย่างขมขื่น“ข้าเข้าใจมาตลอดว่า การมีวรยุทธ์สูงส่ง ก็เพียงพอที่จะปกป้องแคว้นหนานเจียงได้ แต่ ‘มังกรไฟ’ กับ ‘นกไม้กลไก’... การปรากฏตัวของพวกมัน ในที่สุดก็ทำให้ข้าได้เห็นความหยิ่งทะนงของตัวเองอย่างชัดเจน“แคว้นหนานเจียงล้าหลังแคว้นอื่น ๆ มานานเกินไป นานจนไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในใต้หล้านี้ ข้าไม่สามารถฆ่าถานไถเหยี่ยนได้แล้ว ฮ่องเต้ฉี ที่เหลือ ก็ฝากไว้กับพวกท่านแล้ว”เซียวอวี้นั่งอยู่บนหลังม้า และขี่ผ่านหน้านางไป พร้อมทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง“รักษาตั
ณ เมืองอู๋โจวหร่วนฝูอวี้พาราษฎรชาวหนานเจียงกลุ่มหนึ่งบุกโจมตีเมืองภายในเมือง ก็เป็นราษฎรชาวหนานเจียงเช่นกันทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบกัน เมืองอู๋โจวนั้นง่ายต่อการป้องกันแต่ยากต่อการโจมตีทหารบนกำแพงเมืองโยนก้อนหินขนาดใหญ่ลงมา ทำให้กระแทกใส่คนที่กำลังปีนอยู่บนกำแพงเมืองจนตายทั้งเป็นการเสียสละของคนเหล่านี้ ทำให้หร่วนฝูอวี้ได้โอกาสในการโจมตีนางฉวยโอกาสขณะที่กองกำลังป้องกันบนกำแพงเมืองไม่ทันระวังตัว ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้สำเร็จทหารนายหนึ่งที่เห็นนางเป็นคนแรก ก็ตะโกนขึ้นทันที “มีคนขึ้นมาแล้ว!”ชั่วพริบตาถัดมา เขาก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารในสายตาของหร่วนฝูอวี้ พวกเขาไม่นับเป็นชาวหนานเจียง ล้วนเป็นสุนัขรับใช้ของถานไถเหยี่ยน! ล้วนสมควรตาย!นางจับคนผู้หนึ่งไว้ แล้วถาม: “ถานไถเหยี่ยนอยู่ที่ใด!”“ไม่... ไม่รู้! อ๊าก!” สิ้นเสียง ก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารนางยังคงจับคนอื่น ๆ และถามต่อไปทว่า ไม่มีใครตอบนางทันใดนั้นลูกธนูคมดอกหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังหร่วนฝูอวี้เบี่ยงตัวหลบได้ทันหลังจากลูกธนูดอกนั้นตกถึงพื้น สิ่งที่ตามมา ก็คือลูกธนูอีกนับไม่ถ้วน ที่ยิงเข้ามาหาหร่วนฝูอวี้อย่างพร้อมเพรีย
เมื่อกองทัพฉีหยุดพักอยู่ที่เดิม แม่ทัพแต่ละนายก็พากันตรวจนับจำนวนคนแม้เหลียนซวงจะเป็นสตรี แต่ก็ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยแม้แต่คำเดียว ยังตรวจสอบด้วยตัวเองว่าคนในกองคาราวานอพยพออกมาทั้งหมดแล้วหรือไม่ภายในกระโจมใหญ่เฉินจี๋รายงานต่อเซียวอวี้“ฝ่าบาท ชาวหนานเจียงที่อพยพมาพร้อมกับพวกเรา มีเพียงหนึ่งร้อยกว่าคนเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ พากันไปโจมตีเมืองอู๋โจวกันหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้คิ้วขมวดขึ้นเขาเปิดม่านแล้วเดินออกมา ก็เห็นว่า ด้านนอกกระโจมใหญ่ คนหนึ่งร้อยกว่าคนนั้น ล้วนเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบขวบบางคนมีสายตาแน่วแน่ ขณะที่บางคนยังคงร้องไห้ด้วยความไม่เข้าใจสถานการณ์เหล่าทหารหนานฉีกำลังมุงดูพวกเขาอยู่ ด้วยสีหน้าสับสนและหนักใจ“ชาวหนานเจียงเหล่านั้น ทิ้งไว้แค่เด็ก ๆ เท่านั้น”เซียวอวี้มองดูพวกเด็ก ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบุตรชายทั้งสามของตนในดวงตาที่เย็นชาเฉียบคมของเขา แอบซ่อนความใจอ่อนในฐานะของคนเป็นพ่อจากนั้น เขาก็สั่งการกับเฉินจี๋“แจกจ่ายอาหารให้พวกเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”ทันใดนั้น เด็กที่โตขึ้นมาหน่อยคนหนึ่งก็คุกเข่าลง“ฮ่องเต้ฉี! ขอท่านได้โปรดโจมตีเมืองอู๋โจว สังหารไอ้คนชั่วถา
ทางเข้าหลุมฝังศพ เมื่อเทียบกับทางเข้าทางลับ “ใยแมงมุม” ทั่วไปแล้ว หาเจอยากยิ่งกว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนและคนอื่น ๆ ค้นหาอยู่นาน ก็ไม่พบเบาะแสร่องรอยใด ๆ เลย เสียวอู่ล้มตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงบนพื้น “ข้าว่านะ พวกเจ้าคนตระกูลถานไถ ไม่มีอะไรที่เห็นแล้วผ่านได้ทันทีหรือ? อย่างเช่น กลไกเหล่านี้พอเห็นว่าเจ้าเป็นคนตระกูลถานไถ ก็จะเปิดออกเอง คงจะดีมากเลย!” ถานไถเหยี่ยนมีท่าทีจริงจัง “ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล สมกับเป็นทายาทของฮ่องเต้ซวี่หยาง จะว่าไปแล้ว หลุมฝังศพยอมรับเจ้านาย ก็อาจจะเป็นไปได้” “ยอมรับเจ้านาย?” เสียวอู่ทำสีหน้างุนงง จู่ ๆ ถานไถเหยี่ยนก็คว้าแขนของเขาไว้ “เช่นว่า หลั่งเลือดของเจ้า และเมื่อศพของฮ่องเต้ซวี่หยางสัมผัสสายเลือดของทายาทได้ มิแน่ทางเข้าหลุมฝังศพจะเปิดให้พวกเราก็ได้” คำพูดนั้นทำให้เสียวอู่สะดุ้งโหยง “เจ้าพูดเหลวไหล! เช่นนั้นเลือดข้าคงจะถูกสูบจนแห้งกระมัง!” เฟิ่งจิ่วเหยียนมองคนทั้งสองอย่างเย็นชา “พวกเจ้าเถียงกันพอหรือยัง” เสียวอู่หดคอลง ถานไถเหยี่ยนยิ้มเอ่ย “อายุยังน้อย ย่อมขี้กลัวเป็นธรรมดา” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามเขาอย่างเ
“ปืนมังกรไฟ! เป็นปืนมังกรไฟจริง ๆ !” ในเมืองหลวง เหล่ากองทัพฉีได้ยินเสียงดังสนั่น เดิมคิดว่าเป็นปืนมังกรไฟจากเมืองอู๋โจว แต่กลับเป็นอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป ที่น่าประหลาดใจคือ ในเมืองนั้น ไม่มีกองทัพฉีของพวกเขาอยู่ เซียวอวี้ก็สังเกตเห็นสถานการณ์ที่ผิดปกตินี้เช่นกัน เขารีบสั่งให้คนขึ้นไปบนกำแพงเมือง เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ส่วนคนอื่น ๆ ยังอพยพต่อไป คนที่ออกไปสอดแนมยังไม่ทันกลับมา ก็ได้ยินเสียง “ตูม” ดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง เป็นเสียงที่ดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง! แสงไฟเต็มไปทั่วท้องฟ้า ระเบิดท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ ให้สว่างสดใสราวกับกลางวัน เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่น “ปืนมังกรไฟ” ที่ถานไถเหยี่ยนเตรียมไว้ คิดไม่ถึงว่าจะมีมากกว่าหนึ่งกระบอก! เขาคิดจะทำอะไรกันแน่!? นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม “ปืนมังกรไฟ” ถูกยิงติดต่อกันถึงห้าครั้ง เมืองที่ถูกยึดครอง ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ห่างไกล และกระจัดกระจายอยู่ทุกทิศทาง ผ่านไปพักใหญ่ ทหารสอดแนมก็กลับมา พวกเขารีบทูลรายงานต
สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชาขึ้นเล็กน้อย “หนึ่งเค่ออย่างนั้นหรือ “หากนี่เป็นเรื่องจริง ตามแผนเดิมของเจ้า หลังจากที่พวกเราเข้าสู่จุดศูนย์กลางค่ายกลแล้ว เจ้าจะส่งข่าวให้คนข้างนอกได้อย่างไร? “ฉะนั้น ถานไถเหยี่ยน เจ้าไม่เคยคิดจะให้ฮ่องเต้ฉีมีชีวิตรอดอยู่แล้ว!” ถานไถเหยี่ยนค่อย ๆ แย้มยิ้ม “เจ้าพูดถูก แต่เจ้ามีเวลาเพียงหนึ่งเค่อ จะส่งข่าวออกไปทันหรือ?” จากเมืองโยวถึงเมืองหลวง อย่างน้อยต้องใช้เวลาสองวัน เสียวอู่ได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง ก็ร้อนใจดุจไฟเผา “ศิษย์พี่สะใภ้ พวกเราจะทำอย่างไรดี!” พวกศิษย์พี่กำลังตกอยู่ในอันตราย! นั่นคือปืนมังกรไฟ มันสามารถทำลายล้างทั้งเมืองเชียว! เฟิ่งจิ่วเหยียนค่อนข้างสุขุม ไม่เป็นไร ยังมีทางลับ “ใยแมงมุม” อยู่ นางเชื่อว่าเซียวอวี้จะสามารถเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้ ตูม! พลันมีเสียงดังสนั่นขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ทันได้ตอบสนอง พลันร่วงหล่นลงเบื้องล่าง พร้อมกับถานไถเหยี่ยน... พื้นดิน แยกออกอย่างไม่คาดคิด! ทุกคนต่างก็ตกลงไปในรอยแยกนั้น…… เมืองหลวง กองทัพฉีส่วนให