LOGINณ วังหลวงดวงอาทิตย์ร้อนแรงอยู่เหนือศีรษะ บนประตูเมืองมีศพจำนวนหนึ่งแขวนอยู่ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาซากศพ จนส่งกลิ่นเหม็นออกมาเป็นระยะ...ชาวบ้านที่เข้าออกประตูเมือง ไม่มีผู้ใดไม่อกสั่นขวัญแขวนณ สถานที่พักแรมนอกเมืองเสี่ยวเอ้อร์กำลังต้อนรับแขกเข้ามาด้านใน“แม่นางเชิญด้านใน! จะรับอะไรดีขอรับ?”หญิงสาวในชุดขาว สวมผ้าคลุมหน้า ดูพลิ้วไหวราวกับเทพเซียนทว่า ด้วยกระบี่ที่ถืออยู่ในมือ ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้หลังจากนางมองไปรอบ ๆ ก็นั่งลงที่ตำแหน่งมุมห้อง——ที่มองเห็นได้ทั่วทั้งบริเวณ“บะหมี่น้ำสามชาม”เสี่ยวเอ้อร์ถามด้วยความสอดรู้: “แม่นาง ท่านคนเดียวหรือ?”หญิงสาวกินบะหมี่สามชามใหญ่ จะกินไหวหรือ?หญิงสาวเงยหน้ามองด้วยสายตาเย็นเยียบ เสี่ยวเอ้อร์รีบยิ้มเจื่อน ๆ: “ได้เลย! บะหมี่น้ำสามชาม!”แขกที่อยู่โต๊ะกลางดื่มสุราไปมาก ก็เริ่มพูดจาขาดสติ“ครั้งนี้ตายไปแล้วอีกกี่คน?”“ทางเข้าประตูเมืองก็แขวนอยู่สิบเจ็ดศพแล้ว เบื้องหลังของแต่ละศพ ก็คือตระกูลหนึ่งที่ถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ! บาปกรรมจริง ๆ!”“ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทรงโหดเหี้ยม ต้าโจวก่อตั้งได้ไม่ถึงครึ่งปี ขุนนางในราชสำนักก็เปลี่ยน
ครึ่งเดือนต่อมาด้านหลังเขาตงฟางซื่อยืนอยู่เพียงลำพังหน้าหลุมศพของภรรยา ราวกับร่างหนึ่งที่ไร้วิญญาณเฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้ามา“ข้าจะไปแล้ว”นัยน์ตาของตงฟางซื่อฉายแววผิดแปลกจากเดิมวูบหนึ่ง จากนั้นก็กลับสู่ความสงบ“ไปกันให้หมดเถอะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หลายวันก่อน ข้าพบอู๋เซียงแล้ว แต่... ข้าก็ยังฆ่าเขาไม่ได้ ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกครั้ง”ตงฟางซื่อหันมามองนาง ด้วยแววตาร้อนรุ่ม“เขาอยู่ที่ใด!!”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีสุขุมเยือกเย็น“ตอนนี้เขาไปที่ใดแล้ว ข้าไม่รู้“แต่ข้าเชื่อว่า หากท่านไม่ลุกขึ้นสู้ ท่านจะไม่มีวันหาเขาเจอ ความแค้นของพี่สะใภ้ ท่านจะไม่มีวันล้างแค้นได้”ตงฟางซื่อยิ้มอย่างขมขื่น“ซูฮ่วน จนถึงตอนนี้ เจ้ายังคิดว่าข้าไม่ผิดใช่หรือไม่?”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง“ความผิดไม่ได้อยู่ที่ท่าน พี่น้องสองคนนั้นของอู๋เซียง เป็นข้ากับท่านที่ร่วมกันฆ่า ท่านมีพี่สะใภ้ ส่วนข้างกายข้า... ก็มีหร่วนฝูอวี้ อู๋เซียงไม่กล้าจับหร่วนฝูอวี้ แต่จับแค่พี่สะใภ้ไป นั่นแสดงว่าเขากลัวคนที่แข็งแกร่งและรังแกคนที่อ่อนแอ ท่านตงฟาง ท่านกับข้าได้ฆ่าสองคนนั้น ก็เท่ากับได้ช่
หลังจากอู๋เซียงหลบหนีไป พันธมิตรอู่หลินยังไม่สามารถจับตัวเขาได้วันนี้ ขณะเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังพักรักษาตัวอยู่ในห้อง เหล่าฝานก็วิ่งเข้ามา“ซูฮ่วน! พี่สะใภ้ถูกจับตัวไป!”เฟิ่งจิ่วเหยียนสายตาเย็นเยียบ “รู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทำ”“ต้องเป็นอู๋เซียงแน่ ๆ! เขาต้องการล้างแค้นพวกเรา!”เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงรีบตรงไปยังหอประชุมหร่วนฝูอวี้เพิ่งจะปรุงหนอนพิษเสร็จออกมาหนึ่งตัว เตรียมจะให้ซูฮ่วนใช้บำรุงร่างกาย พอเห็นเขาเดินออกไป ก็รีบตามไปทันที“มีอะไร? จะออกไปอีกแล้วหรือ?”พอรู้ว่าฮูหยินตงฟางถูกจับตัวไป หร่วนฝูอวี้กลับมีท่าทีเมินเฉย“ในพันธมิตรอู่หลินมีคนตั้งมากมาย เหตุใดต้องเป็นเจ้าที่ออกหน้าด้วยเล่า? แขนของเจ้ายังไม่หายดีเลยนะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวเดินไม่หยุด ทิ้งหร่วนฝูอวี้ไว้ข้างหลังที่หอประชุมตงฟางซื่อนั่งอยู่ที่นั่น สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะเดินเข้ามา กำลังจะถามว่ามีร่องรอยเบาะแสของอู๋เซียงหรือไม่ ก็มีคนวิ่งเข้ามา“ท่านผู้นำพันธมิตร! ท่านผู้นำพันธมิตร! พบสิ่งนี้ที่ทางเข้าหมู่บ้าน! ด้านบนมีกระดาษข้อความ บอกให้ท่านเปิดดูด้วยตัวเอง!”ตงฟ
การประลองที่ภูเขาฉงหัว ตงฟางซื่อพร้อมคณะรวมสามคน ต้องต่อสู้กับสามจอมโฉดนั่นตามกฎของยุทธภพ ไม่คำนึงถึงเรื่องเป็นหรือตายทั้งสามคนชั่วเห็นซูฮ่วน ก็เยาะเย้ยเสียงดังลั่น“ตัวผอมบางเท่านี้ คนพวกนั้นของหอเฟิ่งหวง ตายด้วยน้ำมือของเจ้าหนุ่มน้อยนี่จริงหรือ?”“อู๋เซียง เจ้าหนุ่มน้อยนั่นยกให้เจ้า ไม่มีปัญหากระมัง!”อู๋เซียงยิ้มเยาะ: “ข้าจะสู้กับคนที่เก่งที่สุดผู้นั้น”พูดจบ นิ้วมือก็ชี้ไปที่ตงฟางซื่อตงฟางซื่อยิ้มตาหยี “ยินดีร่วมสู้จนถึงที่สุด”ทั้งสามแยกย้ายกันต่อสู้ ตงฟางซื่อหันไปบอกคนทางซ้ายและขวา“เหล่าฝาน ซูฮ่วน พวกเจ้าระวังตัวด้วย”ฝานจิ้นยิ้มเยาะ: “วางใจเถอะ แค่พวกเศษสวะนี่ ข้าจัดการด้วยหมัดละคน!”สายตาภายใต้หน้ากากของเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้นเฉียบคม และระแวดระวัง“เหล่าฝาน อย่าประมาทศัตรู สามคนนี้ไม่ใช่คนชั่วธรรมดาทั่วไป”การต่อสู้พร้อมจะเริ่มขึ้นทุกเมื่อคนอื่น ๆ ของพันธมิตรอู่หลินต่างอยู่ที่เชิงเขา ไม่อาจแทรกแซงการประลองครั้งนี้ได้ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียง “ตูม” ดังสนั่นจากนั้นก็เห็นเศษหินกับฝุ่นฟุ้งกระจายบนยอดเขากลุ่มคนของพันธมิตรอู่หลินอุทานด้วยความตกใจ: “นี่เกิดอะไรขึ้น!
หลังจากพรรคเทียนหลงล่มสลาย การคัดเลือกผู้นำพันธมิตรอู่หลิน ก็อยู่ระหว่างตงฟางซื่อกับซูฮ่วนคนหนึ่งคือผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงมายาวนาน และมีอำนาจบารมีในยุทธภพ ส่วนอีกคนคือผู้น้อยที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และมีศักยภาพอย่างยิ่งที่จะเป็นคลื่นลูกใหม่แซงหน้าคลื่นลูกเก่าได้สุดท้ายยังคงเป็นตงฟางซื่อที่เหนือกว่าขั้นหนึ่ง เพราะเดิมทีเขาก็เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของยุทธภพอยู่แล้วอีกอย่าง ผู้นำพันธมิตรที่มีภรรยาแล้ว ได้สร้างครอบครัวและสร้างเนื้อสร้างตัว ย่อมมีความเข้าอกเข้าใจมากกว่าสุดท้ายตงฟางซื่อก็ถูกผลักดันขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำพันธมิตร ส่วนซูฮ่วนก็เป็นรองผู้นำพันธมิตรไปโดยปริยายพันธมิตรอู่หลินก็ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการตามมา โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองตงซิ่น——หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่สำนักต่าง ๆ ในยุทธภพต่างยอมรับการเป็นผู้นำของพันธมิตรอู่หลินตงฟางซื่อได้เป็นผู้นำพันธมิตร ก็หาได้วางท่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่นเขายังคงปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนพี่น้อง ทุกคนกินข้าวโต๊ะเดียวกัน เหมือนกับคนในครอบครัวในมื้ออาหารค่ำคืนนี้“ข้ามีข้อเสนอ พวกเราควรจะมีฉายาที่ดังกึกก้อง! อย่างเช่นรองผู้นำพัน
หร่วนฝูอวี้นิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ ราวกับถูกก้างปลาทิ่มคอ อ้าปากแล้ว กลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวซูฮ่วน... เขาชอบบุรุษอย่างนั้นหรือ?!!นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจว่าหร่วนฝูอวี้จะตกใจมากเพียงใด หลังจากทิ้งท้ายประโยคนั้น ก็หันหลังเดินจากไปในคืนนั้นขณะตงฟางซื่อกำลังหวานชื่นอยู่กับฮูหยินใหม่ จู่ ๆ หร่วนฝูอวี้ก็ถือดาบเล่มใหญ่บุกเข้ามา ทำเอาฮูหยินตงฟางกรีดร้องไม่หยุด“หร่วนฝูอวี้! เจ้าจะทำอะไร!” ตงฟางซื่อรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วพุ่งออกมาจากม่านมุ้งเขาจับแขนของหร่วนฝูอวี้ที่ถือดาบไว้ แล้วใช้กำลังปลดดาบในมือของนางออกหร่วนฝูอวี้ดื่มสุราไปมาก สายตาดูพร่าเลือน แต่ยังแฝงความดุดันถึงขั้นทำลายฟ้าถล่มดินได้นางพุ่งเข้าใส่ตงฟางซื่อแล้วถาม“ใช่เจ้าหรือไม่!!”ตงฟางซื่อแสดงสีหน้างุนงง: “อะไรคือใช่ข้าหรือไม่? เจ้าเป็นอะไรไปกันแน่? ซูฮ่วนเล่า? เจ้าออกไปกับเขามิใช่หรือ?”เจ้าหนุ่มซูฮ่วนนั่น ทำอะไรกับแม่นางคนนี้อีกแล้ว!คืนนี้เป็นถึงค่ำคืนแต่งงานของเขา! พวกเจ้าแต่ละคน ยังสามารถพึ่งพาได้บ้างหรือไม่!ห้องหอของเขาเหตุใดถึงบุกรุกเข้ามาได้ง่ายดายเช่นนี้!ภายในม่านมุ้ง ฮูหย







