แชร์

บทที่ 961

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
อารมณ์ของนายหญิงเฟิ่งซับซ้อนอย่างมาก พลันน้ำตาไหลพรากออกมา

กลับได้ยิน หยวนเส่ากล่าวต่อ

“แม้นหลิวอิ๋งจะตั้งท้องลูกของคุณชาย ฮูหยินเฒ่ายังไม่ยอมดังเดิม

“นางให้เงินตระกูลหลิวไปก้อนหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาได้กินอยู่อย่างสุขสบาย แต่มีข้อแม้อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือให้หลิวอิ๋งเอาเด็กออก และอย่าได้คิดที่จะเข้ามาในจวนตระกูลเฟิ่ง ส่วนอีกอย่างคือ…”

นางมองนายหญิงเฟิ่ง “ต้องตัดความสัมพันธ์กับท่าน”

นายหญิงเฟิ่งไม่คิดเลยว่า เรื่องมันจะเป็นเช่นนี้

คำพูดต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นคนเล่าเอง

“เงินเหล่านั้น เดิมทีมากพอให้ตระกูลหลิวมีกินมีใช้ แต่น่าเสียดายที่บุตรชายของพวกเขาไม่เอาไหน เอาแต่เที่ยวกินติดพนัน จนกิจการตระกูลล่มจมหมดตัว

“ส่วนน้าหญิง นางไม่ได้ทำแท้งตามที่ตระกูลเฟิ่งบอกในตอนนั้น แต่พาลูก พร้อมสินสมรสมากมาย ไปแต่งงานกับพ่อค้าผู้หนึ่ง ณ ที่ห่างไกล

“ยามที่ตระกูลหลิวอับจนหนทาง เพราะหนี้สิน เคยไปขอความช่วยเหลือที่เจียงโจว แต่กลับถูกปฏิเสธไล่ตะเพิดออกมานอกประตู”

นี่คือเรื่องที่นางส่งคนไปสืบที่เจียงโจว

เมื่อนายหญิงเฟิ่งรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมด บริเวณหน้าอกพลันบีบรัด ในหูมีเสียงอื้ออึงดังขึ้นมาไม่หย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Nitting Panya
ตอนละ 6 หน้า เฮ้อ!!
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1418

    เซียวอวี้เป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งจิ่วเหยียน แม้รุ่ยหลินจะขวางม้าไว้ ก็ไม่อาจทำให้เขาสั่นคลอนแม้แต่น้อยเขาใช้ขากระแทกข้างท้องม้า ทำให้ม้ายกกีบเท้าขึ้นและพุ่งออกไปทันทีรุ่ยอ๋องมิได้หลบหลีกแม้แต่น้อยในช่วงเวลาสำคัญ หร่วนฝูอวี้ก็พุ่งเข้ามา และดึงเขาออกไปทว่า ถึงแม้ไม่มีหร่วนฝูอวี้ ม้าที่เซียวอวี้ขี่ก็วิ่งเบี่ยงออกไป เฉียดผ่านตำแหน่งที่รุ่ยอ๋องยืนอยู่เดิมพอสมควรม้าเตะฝุ่นจนฟุ้งกระจายทั่วบริเวณท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของทุกคน เสียวอู่ตาไวมือไว กระโดดขึ้นหลังม้าไปแต่แรก โดยนั่งอยู่ด้านหลังของเซียวอวี้ ทั้งสองคนขี่ม้าตัวเดียวกันเฉินจี๋กับเหล่าองครักษ์เงาก็รีบตามไปอย่างรวดเร็วรุ่ยอ๋องมีสีหน้างงงัน ไม่อาจเรียกสติกลับมาได้เป็นเวลาเนิ่นนานหร่วนฝูอวี้จึงเรียกเขา“รุ่ยหลิน เมื่อครู่ท่านบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว!”เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่า ฮ่องเต้ฉีทรงห่วงใยเฟิ่งจิ่วเหยียนมากเพียงใดรุ่ยอ๋องค่อย ๆ หันมา มองไปที่หร่วนฝูอวี้เขามองใบหน้าที่พุพองของนาง ได้แต่เจ็บปวดใจจึงยกมือขึ้น อยากจะสัมผัสหร่วนฝูอวี้เอียงศีรษะทันที เพื่อหลบมือของเขา“รีบจัดหาที่พักให้พวกมนุษย์โอสถเหล่านั้น ฮองเฮาทร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1417

    ตำแหน่งเดิมที่หยวนตั๋วถูกมัดอยู่ ตอนนี้เหลือเพียงเชือกเท่านั้น รุ่ยอ๋องตำหนิตนเอง “เป็นความผิดของข้าเอง!” เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่โทษใครเลย ตอนนั้นสถานการณ์ซับซ้อน ไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าทุกอย่างจะราบรื่น อีกทั้ง ยากที่จะคาดเดาได้ว่า หยวนตั๋วจะถูกช่วยเหลือ นางนั่งยอง ๆ ลงไปเพื่อตรวจสอบร่องรอยรอบด้าน พบรอยเท้าซึ่งไม่ใช่ของรุ่ยอ๋อง และยังมีรอยเท้าของคนอื่นอีกหลายรอย เห็นได้ชัดว่า ทันทีที่เขาจากไป ก็มีกก็มีคนมาช่วยหยวนตั๋ว เมื่อสังเกตจากทิศทางของรอยเท้า พบว่ามุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเสียงลุ่มลึก “คงจะเป็นชาวแคว้นตงซาน” ตอนนี้ยังไม่สายที่จะตามทัน นางรีบขึ้นหลังม้า กำชับรุ่ยอ๋องก่อนจากไป “คุ้มกันพวกฝ่าบาทกลับไปก่อน!” พลันตวัดแส้ม้าออกไปทันที รุ่ยอ๋องยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น คิ้วขมวดแน่น ให้ฮองเฮาไล่ตามไปเพียงลำพัง จะดีหรือ? อย่างไรก็ตาม เขาย้อนกลับไปก่อนดีกว่า ระหว่างทางเขาได้พบกับหลิวหวาและองครักษ์อื่น ๆ รวมถึงพวกจางฉี่หยาง “ท่านอ๋อง!” หลิวหวาเป็นคนแรกที่แสดงความเคารพ ก่อนหน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1416

    ตงฟางซื่อผลักเซียวอวี้อย่างแรง “ฝ่าบาท พวกเขามาแล้ว!” ดวงตาของเซียวอวี้มองอยู่ข้างบน ครั้นตงฟางซื่อตะโกนเช่นนั้น พลันเลื่อนสายตาลงมา จากนั้นเขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคย เป็นจิ่วเหยียนของเขา ไม่ผิดแน่! แต่นางไม่ควรกลับมาอีก แววตาของเซียวอวี้เผยความยินดีของการได้พบกันอีกครั้ง และความกังวลในความปลอดภัยของนาง สายตาของเขามีเพียงเฟิ่งจิ่วเหยียน จึงไม่เห็นว่ารุ่ยอ๋องก็มาด้วย พวกเขาขี่ม้าเข้ามา “ไป!” เฟิ่งจิ่วเหยียนยกแส้ม้าขึ้น ห้อตะบึงไปหาเซียวอวี้ด้วยความเร็วสูง จากนั้น นางไม่พูดให้มากความ และไม่แม้แต่จะหยุด ก้มตัวลงและยื่นมือออกไปทันที เซียวอวี้ยื่นมือออกไปตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็ถูกเฟิ่งจิ่วเหยียนดึงขึ้นบนหลังม้า นั่งลงอย่างมั่นคงที่ด้านหลังของนาง เวลานั้น เขากอดเอวนางไว้แน่น พลางซุกศีรษะลงที่คอของนาง “ไยจึงกลับมา เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่อันตรายมากเพียงใด...” เฟิ่งจิ่วเหยียนกระตุ้นม้าไปข้างหน้า ด้านหลังเป็นเพลิงไฟพวยพุ่งเหมือนกระแสน้ำหลาก นางไม่มีเวลาเอ่ยกับเซียวอวี้มากนัก “จับให้แน่น!” ในเวลาเดียวกัน รุ่ยอ๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1415

    ครั้นหร่วนฝูอวี้นำกู่ราชาเข้าสู่ร่างกายของตนเอง ไม่ว่านางหรือหยวนตั๋ว ต่างก็ทนทรมานอย่างยิ่งยวด ความเจ็บปวดแทรกซึมเข้าสู่ไขกระดูก เหมือนกระดูกทั้งร่างแตกสลายและประกอบขึ้นใหม่ เนื้อหนังคล้ายจะถูกยืดออก มีสิ่งลึกลับนับไม่ถ้วนแทรกผ่านช่องว่างนั้น ทำให้เจ็บปวดจนยากจะทนไหว หร่วนฝูอวี้รู้สึกว่าผิวหนังใกล้จะระเบิดอย่างรวดเร็ว คันมาก และเจ็บแสบเหมือนเข็มทิ่ม นางอดไม่ได้ที่จะเกา พลางร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เฟิ่งจิ่วเหยียนและรุ่ยอ๋องต่างก็รีบรุดไปข้างหน้า หร่วนฝูอวี้กลับงอตัว หันหลังให้พวกเขา และตะโกนอย่างแข็งกร้าว “อย่าเข้ามา!” พวกเขาทั้งสอง ต่างก็เป็นคนที่นางให้ความสำคัญที่สุด นางไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นตนเองในสภาพนี้ รุ่ยอ๋องหยุดชะงัก ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก สีหน้าปวดร้าวอย่างยิ่ง ลำคอของเขาเหมือนจะเต็มไปด้วยดินตะกอน ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทำได้เพียงมองหร่วนฝูอวี้อย่างหมดหนทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนปลดถุงใส่น้ำออกจากเอว รีบรุดไปข้างหน้า เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันเจ็บปวดบนผิวหนังของหร่วนฝูอวี้ โดยราดน้ำใส่หน้า และแขนของนาง... ด้วยระย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1414

    ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเผยให้เห็นไอพยาบาทที่ไม่อาจบรรยายได้ ราวกับนางอยู่ในสนามรบ ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น หยวนตั๋วสูญเสียพละกำลังเพราะฝ่ามือนั้น หร่วนฝูอวี้ตามมาทันที ใช้แส้รัดรอบคอของเขา แล้วดึงกลับมา ใบหน้าของหยวนตั๋วเขียวคล้ำ พยายามเอื้อมมือไปปลดแส้ที่รัดคอออก ทว่าครู่ต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดมือทั้งสองของเขาออก เลือดพิษสาดกระเซ็นทั่วพื้นทันที มีบางหยดกระเด็นใส่ใบหน้าของนาง แต่นางไม่แสดงอาการใด ๆ แม้แต่กะพริบตาก็ไม่ หร่วนฝูอวี้ตื่นตกใจ “ถอยออกไป! เลือดของเขามีพิษ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดี ทว่านางไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้ว เพราะนางรู้ว่าเลือดของเขามีพิษ จึงไม่ตัดมือเขาระหว่างต่อสู้กันในเมือง ด้วยกลัวว่านางและเซียวอวี้จะสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ เซียวอวี้ถูกข่วนเข้าแล้ว นางยังจะต้องกลัวอะไรอีก หยวนตั๋วเจ็บปวดมาก จนพูดไม่ออก หร่วนฝูอวี้รัดคอจนเขาหมดสติ แต่ไม่ได้ฆ่าเขา เพราะหากต้องการล่อกู่ราชาออกมา จะปล่อยให้เขาตายไม่ได้ นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียน สตรีทั้งสอง มีแววตาที่เด็ดเดี่ยวเป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1413

    เพลิงโหมเผาไหม้เมือง หยวนตั๋วควบคุมมนุษย์โอสถเหล่านั้นปิดกั้นที่ประตูเมือง ล้อมเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้ไว้ หยวนตั๋วยืนอยู่นอกเมือง เอ่ยอย่างเย็นชา “มนุษย์โอสถไม่กัดพวกท่าน แต่สามารถขวางทางรอดของพวกท่านได้ “หลังจากวันนี้ พวกท่านจงสูญสลายเป็นเถ้าถ่าน ไปพร้อมกับเมืองนี้!” เอ่ยจบเขาก็เดินจากไป ไฟที่อยู่ข้างหลังโหมกระพือรุนแรง เปลี่ยนก้อนเมฆบนฟ้าเป็นสีแดงฉาน ภายในประตูเมือง ฝูงมนุษย์โอสถเสมือนผีร้าย ปิดล้อมเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้เหมือนน้ำป่า ไม่ช้าก็ปิดกั้นทางออกไว้สนิท เซียวอวี้ยังไม่ได้กลายเป็นมนุษย์โอสถ เพียงรู้สึกตัวร้อนผ่าว เขาผลักเฟิ่งจิ่วเหยียนออก “รีบไป!” เขารู้ว่า ลำพังนางคนเดียว จะหนีออกไปได้แน่นอน ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อาจทอดทิ้งเขา นางพยายามจะแบกเขาไว้บนหลัง แต่เพลิงแผดเผาเมืองฝานหลู จนกลายเป็นเตาเผา ควันหนาทึบ ทำให้นางมองเห็นไม่ชัดเจน ทันใดนั้น มีคนคว้าจับแขนของนางไว้ “ฝ่าบาทปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง!” นางจำเสียงนี้ได้ว่า เป็นของตงฟางซื่อ ตอนที่ไฟลุกลาม ตงฟางซื่อก็ตื่น เขาสงสัยว่าไฉนตน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status