บทที่ 8 ตัวจริง เกวลินที่สงบสติอารมณ์ได้ในที่สุดหลังจากขอน้ำแข็งประคบตาให้หายบวมก็แยกย้ายกับเพื่อนเพื่อกลับไปยังบ้านพักที่ตนเองอาศัย แต่ยามที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เธอก็พบว่ามีคนรอเธออยู่ก่อนแล้ว คนที่ทำให้ใจเธอสลายไม่มีชิ้นดีกับอีกคนในข่าวที่เธอเห็น คนแรกคือ คเชนทร์เจ้าสัวหนุ่มผู้เลี้ยงดูของเธอ กับอีกคน หญิงสาวในภาพข่าวสังคม ฟ้า...ลลัลดา เขมสิริ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวเหมราช เขมสิริ โดยลลัลดาคือ คู่หมาย ว่าที่คู่หมั้นของคเชนทร์ ทั้งสองโตมาด้วยกัน จนกระทั่งฝ่ายหญิงบินไปเรียนที่ต่างประเทศและทำงานที่นั่นพักหนึ่งและตอนนี้บินกลับมาพร้อมเข้าพิธีหมั้นและแต่งงานกับว่าที่เจ้าบ่าว มือที่หิ้วข้าวของของเกวลินสั่นจนเจ้าของต้องกำแน่นให้เล็บจิกลึกเพื่อเตือนสติว่าอะไรเป็นอะไร “นั่นใครคะ พี่เชน” ลลัลดาหันไปถามคเชนทร์ว่าที่คู่หมั้นหนุ่มและว่าที่สามี “ลูกสาวของแม่บ้านที่ป่วยน่ะ ตอนนี้มาทำงานแทน” คเชนทร์ตอบแบบเฉยชา ไม่แม้แต่จะชายตาแลมาทางเกวลินด้วยซ้ำ เสมือนเธอไม่ต่างจากอากาศธาตุ ตอกย้ำความสัมพันธ์ของพวกเธอก่อนหน้าก็แค่ทางกายเท่านั้น “อ่อ แต่หน้าตาดีไปนะคะ คงไม่ได้ทำหน้าที่อื่นด้วยใช่ไหมคะพี่เชน” ลลัลดาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “คิดมาก พี่ก็มีแต่ฟ้ามาแต่ไหนแต่ไร คนอื่นก็แค่เล่น ๆ” คำว่าเล่น ๆ ไม่ต่างจากมีดโกนที่กรีดลงกลางใจของเกวลินทำให้เจ็บปวดหลั่งเลือดไม่หยุด “รู้ก็ดีค่ะ ฟ้าไม่ชอบให้พี่มั่วไปทั่วอีกแล้วยิ่งเฉพาะพวกไร้หัวนอนปลายเท้า ส่วนแม่บ้านคนนี้ฟ้าขอเปลี่ยนนะคะ ฟ้าไม่ชอบ” เกวลินที่อยู่ดี ๆ ก็โดนไล่ออกกลางอากาศก็ตระหนก เธอยังมีแม่ที่ยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรวพยาบาลอีกสักพัก ยังต้องใช้เงิน ถ้าออกไปตอนนี้ เธอจะทำอย่างไร หญิงสาวหันไปมองขอความช่วยเหลือกับชายหนุ่มแต่ไม่เพียงชายหนุ่มไม่มองยังตกลงเออออเห็นดีงามไปกับลลัลดาอีกด้วยอีกด้วย “ได้ครับ ฟ้าไม่ชอบก็ให้ออกไป พี่จะจ้างคนใหม่มาให้ อยู่บ้านหลังนี้ไปก่อนจะได้สบายใจ” เกวลินมองคนสองคนง้อปลอบกันโดยเธอเป็นส่วนเกินด้วยใจที่เจ็บหนึบ ทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ “ไปเก็บของกันครับ ผมจะพาออกไป” ชิดเป็นคนมาบอกกับเธอที่สติหลุดไปแล้วแต่ก็พยายามรวบรวมตัวเองที่แตกสลายให้เก็บข้าวของ เธอเอาไปแค่ของที่เธอเอามาเท่านั้นส่วนของที่คเชนทร์ซื้อให้เธอไม่เอาไปซักชิ้นแม้ว่าถ้าเธอเอาไปขายมันจะได้เงินก้อนจำนวนหนึ่งก็ตามอาจจะช่วยให้เธอสบายไปได้สักพักแต่เธอไม่อยากเห็นมันอีก เกวลินก้าวขึ้นรถก่อนที่รถจะขับออกไปจากบริเวณบ้าน ส่วนชิดที่นั่งด้านหน้าก็มาส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อนจะไปได้กล่าวกับเธอว่า “เรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่ของคุณเกว เจ้านายบอกว่าเป็นไปตามสัญญา ขอให้คุณสบายใจได้” เกวลินรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของคเชนทร์แต่ก็เจ็บปวดเหลือเกินเป็นความหวังดีที่เธอไม่อยากรับไว้เลยจริง ๆ “ฝากขอบคุณคุณคเชนทร์ด้วยนะคะ” “บัตรนี้ใส่เงินค่าจ้างหกเดือนไว้ครับเพราะทางเราให้คุณออกเองโดยไม่สมัครใจ รับไว้นะครับ” สมเป็นเจ้าสัวคเชนทร์ทำอะไรไร้ช่องโหว่หมดจดไร้ที่ติ แม้เธอก็ไม่อาจไปฟ้องกรมแรงงานได้ “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เกวลินรับบัตรที่ใส่เงินสดมาก่อนจะเดินหันหลังเข้าไปในโรงพยาบาล แต่เธอยังไม่ขึ้นไปพบแม่ทันที เพราะว่าถ้าเห็นหน้าแม่ เธอตอนนี้ต้องร้องไห้ออกมาแน่ ๆ และเรื่องก็จะแตก เธอไม่อยากให้แม่รู้ว่าเธอขายตัวเพื่อแลกการรักษาของแม่ แม่ของเธอต้องโทษตัวเองและดึงดันออกจากโรงพยาบาลไม่รักษาต่อ ส่วนงานที่แม่เสียไป เธอคงพอจะโกหกไปได้จนกว่าแม่จะออกจากโรงพยาบาลและเงินที่ได้มาครั้งแรกล้านหนึ่งเธอก็ยังไม่ได้ใช้อะไรพอมีอะไรให้ไปตั้งตัวสองคนแม่ลูก จะว่าไปแล้วคเชนทร์ก็ดีกับเธอสองคนแม่ลูกไม่น้อยแต่ว่าเธอกับเขา เราไร้วาสนาเส้นทางบรรจบ เธอกับเขาเกิดและอยู่คนละโลก เธอไม่อาจช่วยเขาในด้านธุรกิจการงานได้แบบคุณลลัลดาที่เป็นลูกสาวเจ้าสัวเหมือนกัน เกวลินคิดแล้วก็ปลง ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาจนสาแก่ใจ เมื่อร้องพอแล้วก็ลุกขึ้นสู้ใหม่ เธอต้องไม่ลืมว่า แม้ไม่เหลือใครก็ยังมีแม่อยู่อีกคนที่รักเธอและเธอต้องรักตัวเองให้มาก ค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอก็ยังต้องหาทางสำรองเอาไว้ล่วงหน้าอะไรก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น คืนนั้นเกวลินเลือกพักในโรงแรมที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลแทนการไปนอนกับแม่ เธอถือบัตรเงินสดไปกดดูยอดเงิน พบว่าคเชนทร์ใส่เงินให้เธอเพิ่มจากเงินเดือนหกเดือนมาไม่น้อย คงเป็นค่าชดเชยการเลิกสัญญาแบบที่เธอเคยได้ยินมา ขณะที่เธอกำลังจะเดินทางกลับโรงแรม ชายสามคนท่าทางไม่น่าไว้ใจสักทั้งตัว ดูก็รู้ว่าเจตนาไม่ดีเดินเข้ามาล้อมเธอเอาไว้ " สวยว่ะ แม่งน่าเอาชิบหาย " หนึ่งในพวกมันพูดขึ้นพลางทำสีหน้าหื่นกามใส่ ทำเอาเกวลินรู้สึกขยะแขยง " จริง แต่ก่อนล่อแม่นี่ เอาเงินมาก่อนไหมพวกมึง " เกวลินคิดว่าเธอถูกดักปล้นเสียแล้ว หน้าจึงซีด ยามนี้ค่อนข้างดึก ไม่มีใครผ่านไปมาเท่าไหร่แต่ถึงมีจะใครจะมาสอดเสือกเรื่องชาวบ้านกันเล่า " อย่าเข้ามานะ ฉันจะแหกปากและโทรแจ้งตำรวจ " เกวลินพยายามขู่ " เหอะ! ตำรวจ กว่าจะมาแกคงโดนพวกฉันปาดคอไปแล้วล่ะว่ะ " เกวลินนึกถึงสภาพตำรวจอันเป็นเอกลักษณ์ว่ากว่าจะมาถึงที่เกิดเหตุก็ล่อไปยี่สิบสามสิบนาที ดังนั้นเธอต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองก่อน เสียดายเธอไม่มีสเปรย์พริกไทยหรือที่ช็อตไฟฟ้าติดตัวไม่งั้นคงไม่ตกในสภาพลำบากขนาดนี้ ปกติเธอจะพกติดตัวไว้เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวเผื่อทำงานกลับดึกก็ต้องพึ่งพามันในการช่วยตัวเองให้ปลอดภัย " โอ๊ะ คุณชิด ช่วยด้วยค่ะ " เกวลินแหกปากร้องเสียงดังจนเจ้าโจรสามคนตกใจหันไปมองด้านหลังทางที่เธอส่งเสียงเรียกแต่ก็พบกับความว่างเปล่า จึงรู้ว่าถูกหลอกเข้าแล้ว " แม่งอีนี่มันร้าย ตามโว้ย " โจรสามคนสิ่งไล่ตามหญิงสาวตัวเล็กที่วิ่งจนหอบหายใจเธอพยายามวิ่งไปในย่านที่มีคนมากหรือร้านที่ยังเปิดแต่เสียดายที่ไม่มีสักนิด ขณะที่กำลังจะโดนไล่ทัน แสงไฟรถยนต์คันหนึ่งก็ขับปาดเข้ามาทำท่าจะชนโจรสามคนที่ไล่ตามเธออย่างเอาจริง " เห้ย ๆๆๆ จะชนคนตายห่าหรือไงวะ! " พวกโจรโวยวาย ส่วนเธอลงไปนั่งแปะที่พื้นอย่างหมดแรงทั้งจากการวิ่งหนีและตกใจ " ผมโทรเรียกตำรวจแล้วถ้ายังไม่ไสหัวไปก็เตรียมตัวไปเข้าคุกได้ผมว่าพวกคุณมีคดีติดตัวไม่มากก็น้อย ผมมั่นใจว่าตำรวจคงดีใจที่จะได้ผลงานใหม่ " เจ้าโจรสามคนที่ไม่ต่างจากวัวสันหลังหวะก็พากันมองหน้าไปมาและรีบวิ่งหนีไป พวกมันต่างมีคดีติดตัวจากต่างจังหวัดและในเมืองกรุงถ้าถูกจับตัวได้นอนซังเตยาวแบบไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี เงินจ้างทนายก็ไม่มี แบ็กอัพก็ไม่มี ดังนั้นจะอยู่รอให้พ่อมาจับทำไม! แสงไฟสว่างจ้าจากหน้ารถทำให้เกวลินไม่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่เข้ามาช่วย ได้ยินแต่เสียงที่คุ้นหูอยู่บ้างแต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน " น้องเกวใช่ไหม พี่หมอนนเองครับ " เกวลินงง หมอนนไหนกัน ก่อนที่ร่างกายจะถูกพยุงขึ้นมาและมองใบหน้าหล่อเหลาแบบนุ่มละมุนสวมแว่นกรอบทองของเจ้าชายขี่ม้าขาว " คะ คุณหมอ " เกวลินเห็นหน้าก็พลันจำได้ว่าคนผู้นี้คือแพย์ที่ดูแลอาการป่วยของแม่เธอที่โรงพยาบาล แต่เธอจำไม่ได้ว่าเธอไปสนิทสนมกับเขาตอนไหนกัน " ขึ้นรถก่อนแล้วค่อยคุย " นนทกรพยุงหญิงสาวพาไปที่รถก่อนจะเล่าทุกอย่างให้ฟังว่าแม่ของเธอนั้นชอบเล่าเรื่องลูกสาวซึ่งก็คือเธอให้ฟัง แต่นนทกรไม่ได้โง่จนไม่รู้ว่าการที่เด็กสาวอายุยี่สิบยังไม่จบและทำงานแค่งานแม่บ้านจะมีเงินส่งแม่รักษาตัวในโรงพยาบาลที่ค่ารักษาต่อวันแพงหูฉี่ได้อย่างไรแบบสบาย ๆ " ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือดิฉันเอาไว้ " เกวลินประนมมือไหว้ขอบคุณ " แล้วนี่ตำรวจ ต้องรอไหมคะ " เกวลินถามออกไป แต่ถึงตำรวจมาเธอก็ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันใช้แจ้งความนอกจากพยานบุคคลที่มาเห็นแค่ชั่วครู่ว่าเธอถูกไล่ตามเท่านั้น " พี่ไม่ได้แจ้งตำรวจหรอกครับ ขู่ไปงั้น " ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มหวาน เธอพึ่งอกหักช้ำรัก ต่อให้ชายหนุ่มหล่อปานเทพบุตรมาขายขนมจีบตอนนี้เธอก็ไม่สน " อ่อค่ะ งั้นดิฉันกลับก่อนนะคะ " เธอทำท่าจะผละเดินจากไปก่อนจะโดนจับข้อมือไว้ " ให้พี่ไปส่งดีกว่าครับ ดึกแล้วอันตราย " เกวลินฟังแล้วก็ชั่งใจก่อนจะพยักหน้า " อืม แต่จะให้ไปส่งที่ไหนครับ " เกวลินบอกชื่อโรงแรมก่อนที่นนทกรจะขับรถไปส่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรเป็นการถามซักไซ้ต่อทำให้เธอโล่งใจและรู้สึกดีว่าอย่างน้อยคนดี ๆ ก็ยังมีเหลือในโลกให้เธอบ้าง หลังจากที่เจอเรื่องย่ำแย่มาทั้งวันชีวิตก็ไม่ได้โหดร้ายกับเธอนัก
บทที่ 20ส่งท้ายลานกิจกรรมของคณะเต็มไปด้วยนักศึกษาในชุดครุย ชุดครุยดำขลิบขอบสีฟ้า บ่งบอกว่าเป็นของคณะบริหารฯ หญิงสาวผู้หนึ่งร่างเล็กอวบอัดในมือถือช่อดอกไม้ราคาแพงเด่นเป็นสง่า ข้างกายมีเหล่าเพื่อนและรุ่นน้องต่างมารอขอถ่ายรูปไม่ว่างเว้น ส่วนตากล้องไม่ใช่ใครที่ไหนคือคนรักที่เป็นเจ้าสัวผู้ร่ำรวยยามนี้รับจ็อบพิเศษ ถ่ายไปก็กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันไปเพราะความหึงหวง " มึงกัดจนฟันจะแตกแล้วไหมไอ้เชน "ฉัตรชัยที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเมียของเพื่อนที่รับปริญญาสังเกตสภาพเพื่อนที่กัดกรามแน่น" มึงจะทนไหวไหมถ้าเมียโดนมองแบบจ้องงาบตลอดเวลา "ฉัตรชัยส่ายหน้า เขาเข้าใจดี นับวันเกวลินที่ได้รับการดูแลดียิ่งสวยวันสวยคืนบวกกับรูปร่างเซ็กซี่ขยี้ใจชายทำให้ได้รับแจกขนมจีบจากเพศตรงข้ามไม่จำกัดวัย" แล้วนี่หมอนนยังไม่มาอีกหรอ "ฉัตรชัยถาม ปัจจุบันพวกเขาสามคนเกิดถูกคอจนร่วมก๊วนกันสังสรรค์รวมถึงลงทุนด้วยกันหลายกิจการและเสริมกันโดยปริยาย เมียของนนทกร...ออมสินก็เป็นเพื่อนรักกับเกวลินเมียของคเชนทร์ มีแค่ฉัตรชัยที่ยังโสดคนเดียวในกลุ่ม" นี่แกจะแต่งเลยหรอหลังจบ "ฉัตรชัยถือโอกาสถามเพราะงานแต่งได้กำหนดวันไว้เรียบร้อยรวมถึ
บทที่ 19หลบหนีเกวลินและออมสินถูกพาตัวมายังบ้านพักต่างจังหวัดห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางอีสานสามร้อยกิโลเมตร เพื่อไม่ให้การตามตัวเจอโดยง่าย อีกทั้งตำรวจท้องที่ก็ไม่พรั่งพร้อมแบบตำรวจในเมืองหลวงการเดินทางยาวนานหลายชั่วโมงทำให้สองสาวทั้งหิวและเพลีย แต่ก็โดนบังคับให้เดินเข้าไปในบ้านที่คาดว่าน่าจะเป็นที่กักขังของพวกเธอในอนาคตต่อไประหว่างทางพวกเธอถูกคาดผ้าสีดำปิดตาเอาไว้ตลอดเพื่อไม่ให้จำเส้นทางได้ ต้องยอมรับว่าคนที่ลักพาตัวเป็นมืออาชีพอย่างมาก และเกวลินไม่คิดว่าวิชิตจะเป็นหนึ่งในลูกน้องของศัตรูของคเชนทร์“คุณวิชิต ดิฉันกับเพื่อนหิวแล้วค่ะ รบกวนหาอะไรให้ทานได้ไหมคะ”เกวลินขอร้องอย่างสุภาพไม่โวยวายไปกระตุ้นต่อมอารมณ์พวกลักพาตัว“แน่นอนครับ ทางเราเตรียมอาหารไว้ให้พวกคุณแล้ว เชิญด้านในเลยครับ”ออมสินและเกวลินถูกล้อมหน้าล้อมหลงพาเดินไปด้านใน หมดสิทธิ์แม้แต่จะหาช่องโหว่หนีออกไปหรือขอความช่วยเหลือ อีกทั้งบ้านที่ถูกมาพามาก็เหมือนจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรสร้างใหม่นอกเมือง ไม่ค่อยมีคนอยู่อาศัยมากนักอาหารถูกเตรียมพร้อมไว้บนโต๊ะ เกวลินและออมสินจึงได้โอกาสเติมพลังให้ร่างกายที่ทั้งหิวและเหนื่อยล้า ยามที่ร่
บทที่ 18ลงมือรุกฆาตข่าวไฮโซสาวชื่อดังถูกยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทและละเมิดความเป็นส่วนตัวดังไปทั่ววงสังคมชั้นสูง ที่สำคัญศาลรับฟ้องอย่างเป็นทางการ ผู้ยื่นฟ้องคือ เกวลินและคเชนทร์ ส่วนผู้ถูกยื่นฟ้องคือ ลลัลดา ส่วนผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข่าวลือผิด ๆ ต่าง ๆ ก็โดนรวบยอดไปด้วยตามกัน ตอนนี้ในโซเชียลต่างรีบทยอยลบโพสต์ลบคลิปกันจ้าละหวั่น ทันก็ดีไม่ทันก็ถือว่าโชคร้ายไป และจะไปอยู่ในรายชื่อการถูกยื่นฟ้อง“กรี๊ด นังแพศยานั่น แล้วพี่เชนอีก ทำแบบนี้กับฟ้าได้ยังไง เพล้ง เพล้ง โครม”ลลัลดาที่ถูกเรียกตัวกลับมาที่บ้านใหญ่ขว้างปาข้างของในห้องแบบคนบ้าเสียสติ“หยุดสักทีได้ไหม ฉันรำคาญ ฉันบอกแล้วไงให้แกนิ่งไว้ อย่าไปหาเรื่องไอ้คเชนทร์มันตอนนี้ มันกำลังหลง รอให้เลิกหลงแกค่อยจัดการก็ไม่ฟัง"“เหอะ พ่อก็ดีแต่ว่าหนู แต่ไม่มีน้ำยาช่วยหนูให้สมหวัง”เพี๊ยะ เสียงตบดังขึ้น ฝ่ามือหนาใหญ่ตบลงบนใบหน้างามของลลัลดาสะบัดหงายไปจากแรงกระทบ ปากแตกจนเลือดไหลซึมใบหน้าปูดบวม“อย่ามาลองดีกับฉัน คดีเก่าของแกฉันต้องเสียเงินเยอะฉิบหายวิ่งเต้นให้เรื่องเงียบ มาคราวนี้ยังจะก่อเรื่องในช่วงที่ฉันลำบากอีก”เจ้าสัวเหมราชพูดอย่างเหล
บทที่ 17ข่าวลือน่ารังเกียจช่วงนี้เกวลินถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ จากคนรอบข้าง แถมไม่ใช่สายตาที่ดีอีกด้วย มองแล้วก็จับกลุ่มซุบซิบ ทำเอาเกวลินรู้สึกไม่ดีอย่างมาก แต่จะให้เดินไปถามโดยตรงก็ไม่ใช่ที่อาจจะโดนหาว่าสำคัญตัวผิดว่าเด่นจนคนเขาสนใจได้ แม้จะอยากรู้แต่สามสี่วันนี้ก็ไม่เจอคำตอบจนกระทั่งตอนนี้มีผู้หญิงคนที่เธอจำได้ว่าเป็นดาวคณะอักษรฯ เดินมาหยุดที่หน้าเธอก่อนจะเปิดปากด่าว่ามันหน้าไม่อายแย่งผัวชาวบ้าน“เธอนี่มันหน้าด้านชะมัด เดินเชิดฉายไม่มีจิตสำนึก”“คุณ พูดแบบนี้หมายความว่าไง”เกวลินแม้จะดูเงียบ ๆ แต่ก็ไม่ได้ยอมคน“ใช่ พูดจาอะไรให้ชัดเจน ใส่ความฉันถ่ายคลิฟไลฟ์สดไปแจ้งความที่สน.เอานะยะ”ออมสินเตรียมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอคตอตอของตัวเองเตรียมถ่ายคลิปหลักฐานแจ้งตำรวจ“หยุด ฉันพูดความจริงถามเพื่อนเธอดูสิว่าไปทำอะไรมา”ดาวคณะอักษรฯ พูดกับออมสินด้วยน้ำเสียงอ่อนลงแต่พอหันมามองเกวลินก็สายตากลับมาแข็งกร้าวตามเดิมออมสินกับเกวลินมองหน้ากัน ต่างคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เธอน่ะ พูดให้ชัดสิว่าเพื่อนของฉันไปทำอะไรมา ไม่งั้นจะรู้ไหม”ดาวคณะอักษรฯ ไม่พูดต่อแต่กดอะไรที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะ
ตอนที่ 16การตามจีบของเจ้าสัวคเชนทร์การเห็นรถหรูนำเข้าสีแดงคันหนึ่งพร้อมชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาที่สักปรากฏในข่าวเศรษฐกิจและข่าวสังคมยืนพิงรถถือดอกไม้ช่อใหญ่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสายตาของเหล่านักศึกษาแต่ไม่ว่าจะเห็นกี่ทีหลายคนก็ยังตื่นเต้น เจ้าสัวคนดังที่พึ่งเป็นข่าวว่าประกาศว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันกับลลัลดา ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวใหญ่อย่างเหมราชคนรุ่นลูกตบหน้าคนรุ่นพ่อ แถมตอนนี้ยังมาตามจีบใครบางคนในมหาลัยฯ ของพวกเธออีกมีเด็กสาวบางคนที่ใจกล้าเดินมาขอเบอร์ติดต่อบ้างหรือเข้ามาขอทำความรู้จักพูดคุยบ้าง บางทีหนักถึงขั้นอ่อยเลยก็มีแต่คเชนทร์ก็จัดการทั้งหมด“เกว ผัวมามารอโน่นแล้ว”“เพี๊ยะ เดี๋ยวเถอะ พูดอะไรนะ ผัวเผออะไรกัน แฟนยังไม่ใช่เลย แค่อยู่ในช่วงทดลองงานต่างหาก”เกวลินพูดไปหน้าแดงซ่านไปกับคำแซวของเพื่อนอันที่จริงออมสินก็เห็นด้วยกับเกวลินที่ให้สถานะแบบนี้กับคเชนทร์ไปก่อน เพราะแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ไว้ใจคเชนทร์ เสือน่ะ สันดานมันทิ้งง่ายที่ไหนกัน ยิ่งคิดจะถอดเขี้ยวเล็บยิ่งยากเข้าไปใหญ่“รีบไปได้แล้ว นั่น ยัยดาวอักษรกำลังจะเข้าไปวอแวกับผู้ชายของแกแล้วน่ะ”ออมสินเอ่ยเตือนพร้อมบุ้ยใบ้
บทที่ 15เป็นเมียพี่เถอะหนูเกวลินตื่นขึ้นมาด้วยสภาพร่างกายที่ปวดเมื่อยขบไม่ต่างจากยามแรกที่มีความสัมพันธ์ทางกายกับคเชนทร์ เมื่อคืนทั้งสองเรียกได้ว่าเต็มที่สุดเหวี่ยงกันมากไปหน่อย เธอที่โดนเร้าและหลอกล่อจนลืมถูกผิดไปหมด พอตื่นขึ้นมา ก็หน้าซีดเผือดปากบอกไม่อยากเป็นชู้แต่พฤติกรรมของเธอกลับตรงข้าม พลันเธอรีบยืน แต่แกนกายกลางลำตัวที่บอบช้ำตามความรุนแรงทำให้เธอต้องลงไปนั่งแปะบนเตียงตามเดิม“ไอ้คนเฮงซวย”เกวลินด่าออกมาอย่างเหลืออด“ด่าผัวแบบนี้ไม่ดีนะหนู”เกวลินหันไปตามที่มาของเสียงก่อนจะพบคเชนทร์ ชายหนุ่มตัวต้นเหตุถือถาดอาหารเข้ามาในห้อง“คุณคเชนทร์พอใจหรือยังคะ พอใจแล้วก็ปล่อยดิฉันไปได้แล้ว”“ไม่ คนอย่างพี่ครั้งเดียวจะไปพออะไร อีกอย่างบอกให้เรียกพี่เชนกับแทนตัวเองว่าหนูไง”เกวลินอยากตบหน้าที่แสดงความเหนือกว่านั่น“หนูมีเรียนนะคะ”เธอเอาเรื่องเรียนมาอ้าง“คงไม่ทันแล้วล่ะ ดูเวลาก่อนไหม”เกวลินรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูก่อนจะพบว่ายามนี้เป็นเวลาค่ำไปแล้ว คาบเรียนก็จบไปนานแล้ว แถมเธอยังขาดโดยไม่ได้บอกกล่าวเพื่อนอย่างออมสิน แต่แปลกทำไม่มีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับ“พี่โทรบอกเพื่อนของหนูแล้ว