Share

บทที่8 คุณชายบนชั้นสอง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-21 17:34:34

สีหน้าของเสิ่นอวี้เจาเคร่งขรึม นางเงยหน้าขึ้นมองรอบตัวทันที แต่พบว่าโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ล้วนเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังดื่มกินและหัวเราะสนุกสนาน ไม่มีใครดูเหมือนจะเป็นคนลอบโจมตี

"มีมือสังหารอยู่ที่นี่หรือ?"

"ข้าว่าคงมีคนจงใจล้อเล่นเสียมากกว่า" ฉู่หยุนชิงไม่ได้แสดงความไม่พอใจแม้แต่น้อย เขาหยิบถ้วยใหม่มาแทนถ้วยเดิม และรินเหล้าลงไปใหม่ "อย่าใส่ใจเลย หากอีกฝ่ายมีจุดประสงค์ซ่อนเร้น เดี๋ยวก็ต้องสร้างปัญหาอีก เราค่อยรอดูตามสถานการณ์ก็พอ"

เสิ่นอวี้เจาพยักหน้าเห็นด้วย แต่จู่ๆ นางกลับรู้สึกไม่สบายใจ ความรู้สึกวูบไหวบางอย่างเกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ ไม่นานนักคำตอบก็ปรากฏ เพราะนางยังไม่ได้ดื่มเหล้าจากถ้วยให้หมดดี ก็ได้ยินเสียงดังโครมครามขึ้นมาทันที และในสายตาของเสิ่นอวี้เจาก็ปรากฏร่างของสตรีสองคนที่แต่งหน้างดงาม พวกนางเดินตรงมาที่โต๊ะและนั่งลงข้างๆ ฉู่หยุนชิง

"คุณชาย เป็นท่านใช่หรือไม่ ที่จ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อเชิญพวกเราให้มาขับร้องเพลง?"

"..." สีหน้าของฉู่หยุนชิงดูอึดอัดเล็กน้อย เขาขยับถอยห่างจากสตรีทั้งสอง "แม่นางทั้งสองอาจเข้าใจผิด ข้าคงไม่ใช่คนที่พวกเจ้าตามหา"

หญิงคนซ้ายทำท่าประหลาดใจ "คุณชายในชุดขาวที่นั่งอยู่ใกล้หน้าต่าง ไม่ผิดแน่นอน"

"อย่าบอกนะว่าคุณชายเปลี่ยนใจ เงินมัดจำก็จ่ายมาแล้ว ยังจะอายอะไรอีกเล่า" สตรีทางขวาพูดพร้อมใช้มือลูบมือฉู่หยุนชิงอย่างสนิทสนม ท่าทางเย้ายวนเผยออกมาชัดเจนในแววตา "ไม่ต้องห่วง พวกเรามาจาก ฉิงลั่วหว่าน เชี่ยวชาญนัก รู้กฎเป็นอย่างดี วันนี้รับรองว่าจะทำให้คุณชายพึงพอใจอย่างที่สุด"

ฉิงลั่วหว่าน...ไม่ใช่โรงสุราที่อยู่ข้างๆ หอเทพเซียนเมามายหรือ? นี่นั่นเต็มไปด้วยสิ่งเริงรมย์!

โชคดีที่ฉู่หยุนชิงมีอารมณ์อ่อนโยน ไม่ได้โกรธเคืองในทันที แต่เสิ่นอวี้เจากลับไม่ได้อดทนเช่นนั้น นางคว้าตะเกียบขึ้นมา แล้วฟาดลงไปบนหลังมือของสตรีทั้งสอวอย่างแรง 

"พวกเจ้าไม่มีตาหรือ? มองไม่เห็นหรือว่าที่นี่มีคนอยู่? คุณชายท่านนี้ไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะมาล่วงเกินได้"

สตรีสองนางนั้นสะดุ้งร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด รีบดึงมือกลับไปทันที หลังมือของพวกนางปรากฏรอยแดงสองเส้นชัดเจน โกรธจนหน้าแดง "เจ้าเป็นใครกัน? มาจากที่ใดถึงได้มาแย่งที่ทำกินพวกข้า!"

เสิ่นอวี้เจาตอบด้วยใบหน้านิ่งสงบ "ข้าน่ะ เป็นที่แม่สื่อของคุณชายท่านนี้ ถ้าคุณชายบอกว่าพวกเจ้ามาหาผิดคน ก็คือผิดคน ถ้ายังพูดจาเหลวไหลอีก อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!"

แม้แต่คนในใจของนาง ยังมีคนกล้ามาล้อเล่นกันแบบนี้ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง!

แววตาของเสิ่นอวี้เจาเต็มไปด้วยความข่มขู่ จนสตรีทั้งสองหวาดกลัว รีบลุกขึ้นจากที่นั่ง แต่ก่อนจะไปพวกนางยังชี้ไปยังจุดหนึ่งอย่างลังเล

"เอ่อ...ที่จริงแล้วเป็นแขกท่านนั้นที่บอกให้พวกเรามา บอกว่าคุณชายเป็นคนเลือกพวกเรา ให้มาขับร้องเพลงเพื่อสร้างความรื่นรมย์..."

ฉู่หยุนชิงหันไปมองตามที่พวกนางชี้ และทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป "พี่สาม?"

ตามที่คาดไว้ ที่ริมราวระเบียงบนชั้นสอง มีบุรุษผู้หนึ่งในชุดสีน้ำเงิน เส้นผมถูกมัดไว้ด้วยปิ่นหยก ใบหน้างดงามผสานความเจ้าเล่ห์ในรอยยิ้ม จะเป็นใครไปได้เล่าหากไม่ใช่ ฉู่มู่ฉือ!

ในที่สุดเสิ่นอวี้เจาก็เข้าใจ ว่าความรู้สึกวูบไหวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาจากอะไร นางอยากจะพลิกโต๊ะ แล้วลุกขึ้นไปจัดการใครบางคนให้รู้แล้วรู้รอด แต่พอนึกถึงการรักษาภาพลักษณ์ต่อหน้าชายในฝัน ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้

เจ้าคนสารเลวนี่ วันๆ ไม่มีอะไรทำหรือไร? สนุกนักหรือที่คอยป่วนข้าเล่น! มื้ออาหารสุดประทับใจของข้าถูกทำลายยับเยิน!

ฉู่มู่ฉือเดินลงมาอย่างไม่รีบร้อน โบกมือส่งสัญญาณให้หญิงสาวจากฉิงลั่วหว่านกลับไป จากนั้นทำท่าเคร่งขรึมเหมือนจริงจัง พร้อมเอ่ยกับฉู่หยุนชิง "สตรีที่นั่นงดงามทุกคน หากน้องห้าสนใจ สามารถไปเยี่ยมเยียนได้บ่อยๆ ข้ารู้จักกับเถ้าแก่เนี้ยของที่นั่น รับรองว่าน้องห้าจะได้ส่วนลดแน่นอน"

"พี่สาม ข้าไม่จำเป็น..."

"ถ้าเจ้าไม่ชอบ ก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกในภายหน้าก็แล้วกัน" ฉู่มู่ฉือรีบตอบปัดทันที แล้วนั่งลงข้างเสิ่นอวี้เจาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับได้รับเกียรติ ไม่มีท่าทีใดที่สำนึกว่าตนเองเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ "พวกเราสามคนไม่ได้เจอกันมานาน วันนี้ได้พบกันก็นับว่าเป็นวาสนา ดื่มด้วยกันสักหน่อยดีหรือไม่?"

เสิ่นอวี้เจาควรจะตบโต๊ะแล้วชมว่าหน้าด้านจริงๆ!

"ฝ่าบาท อาหารมื้อนี้หม่อมฉันเชิญองค์ชายห้า หากพระองค์อยากเสวย ต้องจ่ายส่วนของพระองค์เอง"

"เจ้าลำเอียงนัก ทำเอาข้ารู้สึกเสียใจยิ่ง" เขายกถ้วยขึ้นบังใบหน้า ทำท่าจะร้องไห้ "เจ้าบอกว่าจะช่วยเป็นแม่สื่อให้ข้า แต่กลับมานั่งสนุกสนาน ดื่มเหล้ากับผู้อื่น เจ้ามีความสุขมากหรือ?"

"หม่อมฉันไม่เข้าใจเรื่องที่ฝ่าบาทตรัส ส่วนเรื่องเป็นแม่สื่อ หม่อมฉันว่าพระองค์เองก็ไม่ได้ร้อนรนอะไรนักมิใช่หรือ? เมื่อครู่ยังเห็นกอดสตรีตัวน้อยอย่างรื่นรมย์อยู่เลย"

ฉู่มู่ฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "นั่นข้าทำเพื่อช่วยน้องห้า ข้ารู้ว่านิสัยน้องห้านั้นอ่อนโยนเกินไป ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสตรีบ้างถึงจะเติบโต"

"ขอบคุณพี่สาม" ฉู่หยุนชิงไม่สามารถดื่มเหล้าถ้วยนี้ได้ แต่อีกใจก็ปฏิเสธไม่ได้ จึงได้แต่วางมือลังเลอยู่กลางอากาศ คิดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า เขาควรอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อย "พี่สาม ข้ากับท่านหญิงเสิ่น บังเอิญพบกันระหว่างทาง เลยแวะที่หอเทพเซียนเมามาย เพื่อนั่งพูดคุยกันเท่านั้น"

ฉู่มู่ฉือยกคิ้วขึ้น "พูดคุยกัน? ถึงขั้นไหนหรือ?"

"ที่จริงเรายังไม่ได้คุยอะไรกันมาก พอเจอพี่สามก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน"

"ฟังจากที่เจ้าพูด ดูเหมือนเจ้าโทษข้าว่ามาผิดเวลาใช่หรือไม่?"

ฉู่หยุนชิงเข้าใจนิสัยพี่สามของเขาดี รู้ว่าหากอีกฝ่ายตั้งใจจะหาเรื่องจริงๆ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ก็ไม่มีทางทำให้เลิกหาเรื่องได้ ดังนั้นจึงยิ้มอย่างอ่อนโยน ยกถ้วยเหล้าขึ้น เพื่อเปลี่ยนหัวข้อ "ข้าย่อมดีใจที่ได้พบพี่สาม เช่นนั้นเอาตามที่พี่สามบอกก็ดี พวกเราดื่มและพูดคุยกันพร้อมหน้าก็ไม่เลว"

"..." เสิ่นอวี้เจาที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัดไปทั้งกาย นางจ้องมองฉู่มู่ฉือด้วยสายตาเคืองแค้น อยากจะกดหัวเขาลงไปในชามน้ำแกงผักแล้วจุ่มขึ้นลงหลายๆ ครั้งเพื่อระบายความโกรธ

เดิมทีควรเป็นการพบปะสองต่อสองระหว่างข้ากับองค์ชายห้า แต่มาถึงกลางทานกลับมีอุกกาบาตเข้ามาขัด ทุกอย่างเลยพังหมด!

"ท่านหญิงเสิ่นเหม่ออะไรอยู่? มีของกินแต่ไม่กิน แบบนี้มิใช่นิสัยของเจ้าเลย" ฉู่มู่ฉือกล่าวพลางคีบขิงและกระเทียมออกจากจานปลานึ่งอย่างใส่ใจ ก่อนจะหยิบสองสิ่งนั้นใส่ลงในชามของนาง "กินขิงกับกระเทียมเยอะๆ สมองจะได้ดีขึ้น"

เสิ่นอวี้เจาจ้องเขาด้วยสายตาคม แล้วหยิบไก่ต้มชาในจานขึ้นมาคีบใส่ถ้วยของเขาแทน "นี่ดีต่อไตฝ่าบาท เหมาะกับพระองค์มาก"

ฉู่มู่ฉือหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น "ดูเหมือนว่าท่านหญิงเสิ่นจะไม่ชอบอาหารพวกนี้ เช่นนั้นลองอย่างอื่นดีกว่า น้ำแกงถ้วยนี้ดูน่าอร่อยมาก..." พูดจบเขาหยิบช้อนตักน้ำแกงขึ้นมาดื่มเองครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็นำส่วนที่เหลือยื่นไปที่ปากของนางด้วยท่าทีสงบนิ่ง

ใครบางคนทันทีที่เห็นภาพนั้น ก็พลันนึกถึงเหตุการณ์ อันน่าสะพรึงกลัวในคืนนั้น นางรีบหลบสายตาเขา แล้วเริ่มหยิบอาหารใส่จานให้ฉู่หยุนชิงด้วยสีหน้าจริงจัง พยายามหลีกเลี่ยงการป่วนอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่าฉู่มู่ฉือเองก็ไม่ได้คิดจะปล่อยนางไปง่ายๆ

"ท่านหญิงเสิ่นนี่ลำเอียงนัก รู้จักแต่ดูแลน้องห้า ทั้งที่คืนนั้นเรายังดื่มโจ๊กจากช้อนเดียวกัน นับว่าใกล้ชิดยิ่งนัก"

"..." 

เสิ่นอวี้เจาเผชิญหน้ากับสายตาตกตะลึงของฉู่หยุนชิง ก่อนจะตบโต๊ะอาหารดัง ปัง! ด้วยฝ่ามือ นางหันไปมองด้วยท่าทีสงบ และยกมือขึ้นส่งสัญญาณ ให้เจ้าของร้านที่รีบวิ่งมาดูสถานการณ์

"โต๊ะของร้านเจ้านี่คุณภาพแย่มาก ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดยิ่งนัก"

เถ้าแก่เบิกตากว้างและอ้าปากค้าง "..." นี่ข้าผิดด้วยหรือ?!

ไท่จื่อองค์นี้ เกิดมาเพื่อป่วนโดยแท้!!!

แม่สื่อข้าใครอย่าแตะ จะตามเป็นราวีเหมือนผีเกาะไหล่!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่48 ช่วยคนตกน้ำ

    "เหตุใดเจ้าจึงมายืนเพียงลำพัง?""ออกมารับลม" นางตอบอย่างเป็นธรรมชาติ "ที่นี่เย็นสบายและเงียบสงบ อีกทั้งเมื่อครู่องค์หญิงดื่มไปหลายจอก เอะอะโวยวายอยู่ข้างหูตลอดเวลา หม่อมฉันกลัวว่านางจะหาเรื่องทำอะไรแปลกๆ อีก"ฉู่มู่ฉือหัวเราะเบาๆ "ข้าก็ทนเสียงอึกทึกไม่ไหวเช่นกัน เลยตั้งใจจะมาบอกเจ้าสักคำ ใครจะคิดว่าเพียงหันไปมองอีกที เจ้ากลับหายตัวไปเสียแล้ว"เสิ่นอวี้เจาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง "หม่อมฉันต้องอาศัยจังหวะที่พวกเขาไม่ทันสังเกต ถึงจะแอบออกมาได้ ไม่เช่นนั้นพวกนั้นคงร่วมมือกันกดหม่อมฉันลงพื้นแน่ๆ"ไท่จื่อหัวเราะลึกกว่าเดิม ขณะที่กำลังจะเอ่ยแซวนางต่อ กลับอยู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับก้มตัวลงใช้มือกดที่ท้องของตนเอง"อย่าบอกนะว่าฝ่าบาททรงปวดกระเพาะอีกแล้ว?" นางรีบเข้ามาพยุงเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "พวกนั้นนี่จริงๆ เลย ให้ฝ่าบาทดื่มเรื่อยๆ แบบนั้น ใครจะทนไหว?""เจ้าดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ ช่างพูดจายืดยาวขึ้น นับเป็นเรื่องแปลกจริงๆ" เขาพิงตัวกับราวเรือ มืออีกข้างกอดนางเอาไว้พร้อมพูดเสียงต่ำ "ไม่ต้องห่วงมาก แค่เจ้าช่วยนวดให้สักหน่อยก็หายแล้ว"ริมฝีปากของฉู่มู่ฉือเผยรอยยิ้มแบบออดอ้อน จนทำให้นางอ

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่47 เดินทางไปเจียงหนาน

    "ฝ่าบาทคิดซื้อของพรรค์นี้มาได้อย่างไร...""เพราะต่างหูของเจ้าเริ่มเก่าแล้ว" เขาพูดเสียงดังฟังชัด "ต่างหูหยกหุ้มทองที่เจ้าใส่มันเก่ามาก อย่าใส่มันอีกเลย ถอดออกเถอะ"เสิ่นอวี้เจาเริ่มเข้าใจ ของตอบแทนอะไรกัน! คนผู้นี้ก็แค่หึงที่นางใส่ต่างหูที่ฉู่หยุนชิงเคยให้มาต่างหาก!"หม่อมฉันแทบไม่เคยซื้อเครื่องประดับ ฝ่าบาทก็ทราบอยู่แก่ใจ" นางปรายตามองเขา ท่าทีงดงามจนใจคนสั่นไหว แฝงด้วยอารมณ์น้อยใจเล็กๆ"ที่หม่อมฉันใส่ก็แค่เพราะไม่อยากเสียเวลาเปลี่ยน ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นของที่องค์ชายห้าให้มา"ฉู่มู่ฉือพยักหน้าอย่างจริงจัง "ข้าเข้าใจดี""จริงหรือ?""ก็ได้ ข้ายอมรับ" เขายิ้มพลางยกต่างหูขึ้นมาระดับสายตานาง "แค่เห็นเจ้าสวมของที่น้องห้าให้ ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ" แววตาของเขาอ่อนโยนยิ่งขึ้น "แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ข้าอยากให้เจ้าสวมสิ่งที่ข้ามอบให้ อยากให้บนตัวเจ้ามีแต่ของๆ ข้าเท่านั้น"

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่46 รบเร้า

    ทว่าความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดตื้นเกินไป นิสัยติดตามของฮ่องเต้ จะปล่อยให้คนหนีรอดไปง่ายๆ ได้อย่างไร?หลังปฏิเสธไปเมื่อวาน เช้าวันนี้กองทัพใหญ่ก็มาถึงประตูจวนแล้วฉู่ซั่วกู่ยังมาไม่ถึง แต่เสียงเขาลอยมาก่อน "พี่สาม! ท่านหญิงเสิ่น! ได้ยินมาว่าพวกท่านไม่มีแผนจะไปเจียงหนานหรือ? ที่นั้นงดงามมาก แสงอาทิตย์ยามเช้า ส่องสะท้อนดอกท้อแดงระยับบนผืนน้ำ ท้องฟ้าช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิร่วงโปรยเหมือนสายฝน กลายเป็นพรมชมพูปกคลุมผืนดิน ช่างเหมาะแก่การพูดคุยเรื่องรักใคร่ยิ่งนัก! ทุกคนตกลงไปกันหมดแล้ว เหลือแต่พวกท่าน ไม่รู้สึกอึดอัดในใจบ้างหรือ?"คำพูดยังไม่ทันจบถ้วยน้ำชาก็ลอยมาตรงหน้าผากฉู่ซั่วกู่ ฉู่มู่ฉือเดินออกมาด้วยใบหน้าขุ่นเคืองจ้องเขาเขม็ง"เช้าตรู่เช่นนี้ใยมาส่งเสียดังเอะอะ! นิสัยพูดมากของเจ้าถ้าไม่เลิก วันหน้าข้าจะตีเจ้าทุกครั้งที่พบ!""เพราะนิสัยพูดมากของข้าอย่างไรเล่า เสด็จพ่อจึงให้ข้ามาโน้มน้าวพี่สามกับท่านหญ

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่45 ศึกษาดูใจ

    ฮ่องสร้างภาพลักษณ์ "จักรพรรดิผู้ทรงธรรม" ให้กับตนเองได้สำเร็จ จนกล่าวได้ว่าการกระทำของพระองค์นั้น "ยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว" แต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทราบดีว่า พระองค์ช่างไร้ยางอายถึงเพียงใด จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพระองค์ถึงให้กำเนิดโอรสอย่างฉู่มู่ฉือและฉู่ซั่วกู่ได้ผลสรุปของการคัดเลือกบรรดานางสนมในครั้งนี้ คือตกม้าตายกันทั้งขบวน แม้เรื่องราววุ่นวายนั้นจะเป็นที่กล่าวขาน แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับข่าวการหมั้นหมายกันระหว่างฉู่มู่ฉือและเสิ่นอวี้เจา ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ที่ยิ่งทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงยิ่งกว่าแม้แต่องค์หญิงฉู่เหม่ยหลินเองก็ยังงุนงง เมื่อเห็นเสิ่นอวี้เจาที่อยู่ๆ กลับไปปรากฏตัวในตำหนักของรัชทายาท นางคิดในแง่ร้ายว่าไท่จื่ออาจใช้วิธีบังคับลักพาตัว แต่เมื่อรีบไปช่วยเหลือกลับพบว่า ทั้งสองนั่งจิบชาอย่างสบายใจในศาลา ชวนคุยราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"พี่หญิง! พี่ได้ยินข่าวในวังแล้วหรือไม่?""ได้ยินแล้ว" เสิ่นอวี้เจา พยักหน้ารับอย่างสงบน

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่44 คำขอโทษของไท่จื่อ

    "ค่ำคืนอากาศหนาวเย็น ฝ่าบาทรีบกลับตำหนักไปเถิด ถ้าโดนลมหนาวจนป่วย หม่อมฉันคงมิอาจรับผิดชอบได้"แม้ในใจนางจะรู้สึกว่าควรจะดีใจที่ได้เจอฉู่มู่ฉือ แต่กลับห้ามตนเองไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อเขาเอ่ยถึงฉู่หยุนชิไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามนางอยากจะฟาดหน้าเขาสักทีทำไมถึงไม่เคยพูดจากกันดีๆ ถ้าชอบใครสักคน ต้องตามเกี้ยวแบบนี้หรือ? นางไม่ค่อยฉลาดกับความรู้สึกของตนเองเท่าไร และเขาเองก็รักอย่างโง่เง่าไม่ต่างกันแต่โชคดีที่ครั้งนี้ฉู่มู่ฉือไม่ได้ทำตัวงี่เง่าเกินไป เพราะทันทีที่นางหมุนตัว เขาก็คว้ามือของนางไว้ ใช้แรงเพียงข้างเดียวดึงเสิ่นอวี้เจาเข้ามาในอ้อมกอด"ข้าไม่หนาว แต่ถ้าท่านหญิงเสิ่นหนาว ข้ายินดีมอบอ้อมกอดอบอุ่นให้""...ขอร้องล่ะฝ่าบาท อย่าพูดอะไรน่าชวนขนลุกเช่นนี้อีกหม่อมฉันฟังแล้วไม่ชิน"คิ้วดกหนาของเขาขมวดเล็กน้อย "หรือว่าท่านหญิงเสิ่นอยากจะทะเลาะกั

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่43 แผนการสำเร็จ

    แผนนี้ได้ผลดียิ่งนักเสิ่นอวี้เจาแอบชื่นชมในความชาญฉลาดของตนเอง ก่อนจะแสดงสีหน้าจริงจัง "สมแล้วที่คนไม่เหมือนชื่อ อ่อนโยนเรียบร้อย ที่แท้เป็นเพียงเปลือกนอก ต่อหน้าข้ายังเสียกิริยาเยี่ยงนี้ หากได้พบฝ่าบาทจะเป็นเช่นไร สำหรับคนที่เสียมารยาทเมื่อครู่ทั้งหมด นำตัวไปยังห้องราชกิจ รับรางวัลแล้วกลับบ้านไปเถิด"เมื่อเป็นเช่นนี้ รายชื่อหญิงงามที่เหลืออยู่จึงลดลงไปเกือบครึ่ง เสิ่นอวี้เจาพอใจกับผลงานตนเองเป็นอย่างยิ่งเมื่อสถานที่กลับมาสงบลงอีกครั้ง รอบตัวเหลือเพียงสองคน นางอดไม่ได้ที่จะหันไปมองฉู่หยุนชิง"องค์ชายห้า ข้าทำเกินไปหรือไม่?" แม้นางไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดอะไร แต่ในฐานะหญิงผู้คัดเลือก เมื่อมองย้อนกลับไปยังหน้าที่ที่ตนเองทำสำเร็จ เสิ่นอวี้เจาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดช่างเหลวไหล"ตอนนี้มองดูอาจเหมือนใจร้าย แต่ภายหลังพวกนางจะรู้สึกขอบคุณเจ้า" ฉู่หยุนชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status