Share

บทที่9 คัดเลือกพระชายา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-22 17:34:54

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาหารมื้อนี้นั้น จบลงด้วยการที่เสิ่นอวี้เจาจงใจทำลายบรรยากาศ นางโยนตั๋วเงินให้เถ้าแก่เพื่อชดเชยความเสียหาย จากนั้นก็หันหลังออกจากหอสุราอย่างไม่รีรอ

แน่นอนว่าทันทีที่ลุกขึ้นเดิน ไม่ลืมที่จะรักษามาดสง่างาม ด้วยการประสานมือคำนับอำลาฉู่หยุนชิงที่พยายามห้ามนางเอาไว้ เสิ่นอวี้เจาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจากนี้ไป หากที่ไหนมีรัชทายาทฉู่มู่ฉือปรากฏตัว นางจะไม่อยู่ที่นั่นเกินครึ่งก้านธูปเด็ดขาด แม้แต่องค์ชายห้าจะอยู่ด้วยก็ตาม!

แต่ความคิดก็คือความคิด ความจริงนั้นกลับห่างไกลออกไปมาก เพราะสุดท้ายนางก็ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกับไท่จื่อ การนัดหมายล่ม อาหารก็กินไม่อิ่มท้อง พอกลับถึงตำหนัก ยังต้องฟังคำเทศนาจากองค์รัชทายาทที่หาเรื่องมาอบรมอีก

"เจ้าสาบานต่อฮ่องเต้แล้วว่าจะช่วยเรื่องหาพระชายาให้ข้าอย่างเต็มใจ แต่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน เจ้ากลับอยากจับมือร่วมรบกับน้องห้า แล้วถอดใจไปเช่นนั้นหรือ?"

"ฝ่าบาทโปรดแก้ไขให้ถูกต้อง หม่อมฉันบอกเพียงว่าจะลองดูเท่านั้น เพราะไม่มีความมั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาชีวิตคู่ของฝ่าบาทได้สำเร็จ" เสิ่นอวี้เจานั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงลูกแพร์ ปอกส้มด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "ยิ่งไปกว่านั้น หม่อมฉันกับองค์ชายห้าก็เพียงพบกันตามปกติ ไม่ได้ 'ร่วมรบ' และยิ่งไม่ได้ 'กลายเป็นคู่รัก' ส่วนเรื่อง 'ถอดใจ' นั้นตรงกันข้าม ฝ่าบาทต่างหากที่ไปฉิงลั่วหว่านหาความสำราญเอง ขาดความจริงใจเช่นนี้ ท้ายที่สุดฝ่าบาทยังคิดจะตัดสัมพันธ์ที่ดีนี้อีกหรือ?"

ฉู่มู่ฉือที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับนาง ยิ้มพร้อมใช้มือเท้าคาง จ้องมองเสิ่นอวี้เจาด้วยสายตาส่องประกาย "ท่านหญิงเสิ่นปกปิดความคิดชั่วร้ายไว้มาโดยตลอด ไยต้องพยายามปิดบังเล่า? ใครก็ตามที่ไม่โง่เขลา ก็เดาได้ว่าเจ้าคิดเช่นไรกับองค์ชายห้า แต่ก็มิใช่เรื่องน่าอับอาย เจ้าเป็นแม่สื่อมานานจนเปล่าเปลี่ยวแล้ว มันย่อมเป็นเรื่องปกติ"

"หม่อมฉันไม่อาจเปรียบเทียบกับฝ่าบาทได้เลย ฝ่าบาทไม่เคยเปล่าเปลี่ยว เพียงแค่กวักนิ้ว สตรีงามก็วิ่งเข้ามาหา...อ้อ หม่อมฉันเกือบลืมไป นั่นเพราะเงื่อนไขคือ อีกฝ่ายไม่รู้ฐานะของฝ่าบาท มิเช่นนั้นคงวิ่งหนีไปเหมือนเจองูพิษ เพื่อปกป้องชีวิตและวงศ์ตระกูล"

"ท่านหญิงเสิ่นนี่ช่างแทงใจดำข้าจริงๆ นิสัยไม่อ่อนโยน และไม่ชวนให้หลงรักเลย" น้ำเสียงของเขาฟังเหมือนต่อว่า แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ แถมยังมีเวลาหยอกเย้าอีก "ข้าคิดว่าท่านหญิงเสิ่นอยู่ในตำหนักข้าได้ดีทีเดียว ไม่เสียแขนเสียขา บางทีชะตาของเราอาจเข้ากันได้ดี ในอนาคตหากหาพระชายาที่เหมาะสมไม่ได้จริงๆ ก็ให้ท่านหญิงเสิ่นมาเติมเต็มก็แล้วกัน!"

เบื้องหน้าชายรูปงามประดุจภาพวาด หากเป็นหญิงสาวทั่วไปคงไม่อาจต้านทานได้ แต่โชคร้ายที่เป้าหมายของเขาคือเสิ่นอวี้เจา นางรู้จักเขามาสิบปีแล้ว และชินชากับใบหน้านี้มานาน มีแต่จะยิ่งรำคาญเมื่อมองนานขึ้น และไม่มีอานุภาพใดๆ ให้รู้สึกใจอ่อนเลย

"ฝ่าบาท ไม่ควรตรัสคำหยาบเช่นนี้ เรื่อง 'ชะตา' เป็นเรื่องเหลวไหล ฝ่าบาทควรรู้ว่าหม่อมฉันมีชะตาที่จะได้เสวยสุขความมั่งคั่ง มิเช่นนั้นไยหม่อมฉันจึงเป็นแม่สื่อได้?" เสิ่นอวี้เจาโยนเปลือกส้มที่ปอกเป็นกลีบวางลงบนโต๊ะ ก่อนจะยัดทั้งลูกใส่ปากของเขา แล้วลุกขึ้นยืนเดินออกไปโดยไม่แยแส ทิ้งไว้เพียงประโยคเรียบๆ ว่า "ฝ่าบาทมิต้องทรงกังวล พรุ่งนี้หม่อมฉันจะเริ่มพิจารณาเลือกพระชายาให้ฝ่าบาทเอง โปรดทรงรออย่างสงบเถิด"

ฉู่มู่ฉือจ้องมองร่างบอบบางที่หายลับไปหลังประตู รอยยิ้มบนใบหน้างามยังคงไม่จาง เขาลูบคางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำเบาๆ

"ไม่ว่ามองอย่างไร ก็เห็นชัดว่ามีเพียงท่านหญิงเสิ่นเท่านั้นที่ถูกใจข้า"

เสิ่นอวี้เจาที่เดินเล่นอยู่ในตำหนัก เผลอคิดในใจขึ้นมา "หรือจะเป็นเพราะแกล้งข้ามานานจนรู้สึกว่า 'แต่งงานกับข้าก็คงไม่แย่' หรอกหรือ?"

ในเช้าวันรุ่งขึ้น

เสิ่นอวี้เจาก็รักษาสัญญา เริ่มปฏิบัติการคัดเลือกพระชายาให้รัชทายาทอย่างจริงจัง ด้วยท่าทีที่ดูจริงใจเหมือนแม่สื่อที่ตั้งใจทำงาน แต่ในฐานะองครักษ์ผู้ภักดี และช่างสังเกตอย่างยิ่งเจียงเฉิน กลับพบประเด็นที่ชวนให้สงสัย

หากดูจากรายชื่อที่คัดเลือกไว้ล่วงหน้า สาวงามเหล่านี้ล้วนมาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงที่ยังไม่เคยแต่งงาน ซึ่งดูสมเหตุสมผลดี เพียงแต่...บุคคลที่อยู่ในรายชื่อนั้น กลับเป็นสตรีที่แทบไม่มีความน่าเอ็นดูให้กล่าวถึง พวกนางล้วนมีลักษณะภายนอกแปลกประหลาด จนไม่มีใครกล้าหันไปมองซ้ำ

เจียงเฉินขมวดคิ้วพลางคิดในใจว่า เจ้านายแน่ใจแล้วหรือว่านี่ไม่ใช่ความตั้งใจ จะบีบคอรัชทายาทให้ขาดใจตาย?

"ท่านหญิง การเลือกสตรีจากตระกูลเหล่านี้ ดูเหมือนท่านมิได้ตั้งใจเลยสักนิด"

"ตรงไหนที่ว่าข้าเลือกส่งๆ ข้าตัดสินใจหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วต่างหาก" เสิ่นอวี้เจาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "สาวงามเหล่านี้ล้วนเป็นยอดพธูที่เลิศล้ำ เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพวกนางถึงยังไม่แต่งงาน? เพราะพวกนางรอคอยช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ต่างหาก พวกนางเกิดมาเพื่อองค์รัชทายาทโดยแท้"

อย่าพูดจาจริงจังอย่างเหลวไหลแบบนี้ได้หรือไม่?!

เจียงเฉินแทบจะล้มทั้งยืน ต้องสูดหายใจลึกอยู่หลายครั้งเพื่อสงบสติ "ท่านหญิง ข้าว่าองค์รัชทายาทคงไม่เห็นด้วยแน่ๆ เพราะว่า..."

เพราะว่าผู้ชายปกติคนไหนก็คงไม่เห็นด้วย!

น้ำชาหมิงเยว่

เสิ่นอวี้เจายืนอยู่หน้าประตูโรงน้ำชาหมิงเยว่ สถานที่นัดพบกับสาวงามจากตระกูลขุนนาง แม่สื่อเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว

"เฉินเฉิน เจ้าไม่เข้าใจความหวังดีของข้าเลย ข้าไม่อาจปล่อยให้สตรีที่งดงามเหล่านี้ ต้องตกอยู่ในทะเลแห่งทุกข์ได้หรอก"

"...เช่นนั้นท่านหญิงจึงเลือกแต่สตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า 'งดงาม' มาอย่างนั้นหรือ?"

"จริงๆ แล้ว ข้าคิดว่าการมีคนยอมเข้าตำหนักรัชทายาทสักคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องตาบอดแค่ไหนถึงจะยอมรับได้? ฝ่าบาทควรพอใจนะ" นางพูดด้วยน้ำเสียงธรรมชาติ เหมือนคุยเรื่องกินข้าวดื่มน้ำ "ตั้งแต่แรกข้ากำหนดมาตรฐานไว้แค่สองข้อ หนึ่งคือเป็นสตรี สองคือต้องยังมีชีวิตอยู่"

เจียงเฉินน้ำตาแทบไหล องค์รัชทายาทที่ได้รับการยกย่อง ว่าเป็นบุคคลสูงส่งและยอดเยี่ยม ไยต้องถูกปฏิบัติเหมือนคนข้างถนนที่ไม่มีใครสนใจเช่นนี้? นายหญิงของเขา ช่างเป็นคนที่เอาเรื่องส่วนตัว มาปะปนกับงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ!

เมื่อเจ้าของโรงน้ำชานำทาง ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว และทันทีที่เข้าประตูมา ก็รู้สึกได้ถึงแสงจ้าประหลาดที่ส่องมากระทบจนแทบลืมตาไม่ขึ้น เจียงเฉินรู้สึกว่าช่วงเวลานั้นเขาไม่ได้หมดสติไป และยังสามารถยืนอยู่กับที่ได้อย่างมั่นคง เขาช่างเป็นชายที่มีจิตใจแข็งแกร่งจริงๆ!

ใครอธิบายได้บ้างว่าสตรีเหล่านี้มาจากไหน?

คนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายคนแรก ใบหน้าอ้วนกลมจนไม่เห็นดวงตา ไขมันหน้าท้องส่วนเกินพับซ้อนกันสามชั้น คนที่สองทางด้านซ้าย มีใบหน้าหยาบกร้านประหนึ่งซาลาเปาไส้งา เมื่อยิ้มยังเผยให้เห็นฟันเหลืองไม่เป็นระเบียบ คนที่หนึ่งด้านขวาแต่งหน้าหนาประหนึ่งสวมหน้ากาก แม้เครื่องประทินผิวจะเยอะ ก็ปกปิดโครงหน้าที่บิดเบี้ยวโดยกำเนิดไม่ได้ ส่วนคนที่นั่งตรงกลางมีดวงตาเรียวเล็กเป็นสามเหลี่ยม และหน้าผากที่เหมือนผมถูกจับรวมกันเป็นกระจุก...

นี่สินะที่เขาบอก สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!

เจียงเฉินอดคิดไม่ได้ว่า ท่านหญิงของเขารวมปีศาจจากทั้งใต้หล้ามาได้จริงๆ

ในทางกลับกัน เสิ่นอวี้เจากลับดูสงบนิ่งมาก นางกวัดแกว่งพัดไหมในมือ ด้วยท่วงท่าสง่างาม ก่อนจะยกมือขึ้นดึงความสนใจ และกล่าวคำชมที่ทำให้คนฟังตะลึงเหมือนฟ้าผ่า

"ไม่ได้พบกันเสียนาน คุณหนูทุกท่านช่างดูงดงาม และมีเสน่ห์ขึ้นมากนัก หากข้าเป็นองค์ไท่จื่อ คงตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นพวกท่าน สวยจนดวงดาวและพระจันทร์ต้องหมองเลยทีเดียว"

หลังจากนั้น เหล่าคุณหนูทั้งหลายก็เป็นกันเองและร่าเริงขึ้นมาทันที ต่างพากันรายล้อมเสิ่นอวี้เจา พร้อมพูดคุยอย่างเป็นมิตร บรรยากาศดูสนุกสนานจนเรียกได้ว่า "แม่ทัพมา ทหารสู้ น้ำมา ดินสกัด" ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก นางสามารถทำให้เหล่าสตรีใจเต้นแรง ราวกับกำลังอยู่ในงานเทศกาล

ความสามารถในฐานะแม่สื่อ ของนางเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน จนใครๆ ก็อดชื่นชมไม่ได้

แอบสงสารองค์รัชทายาทอยู่นะ 5555555555 คู่นี้เขาเกิดมาเพื่อฟาดฟันกันจริงๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่48 ช่วยคนตกน้ำ

    "เหตุใดเจ้าจึงมายืนเพียงลำพัง?""ออกมารับลม" นางตอบอย่างเป็นธรรมชาติ "ที่นี่เย็นสบายและเงียบสงบ อีกทั้งเมื่อครู่องค์หญิงดื่มไปหลายจอก เอะอะโวยวายอยู่ข้างหูตลอดเวลา หม่อมฉันกลัวว่านางจะหาเรื่องทำอะไรแปลกๆ อีก"ฉู่มู่ฉือหัวเราะเบาๆ "ข้าก็ทนเสียงอึกทึกไม่ไหวเช่นกัน เลยตั้งใจจะมาบอกเจ้าสักคำ ใครจะคิดว่าเพียงหันไปมองอีกที เจ้ากลับหายตัวไปเสียแล้ว"เสิ่นอวี้เจาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง "หม่อมฉันต้องอาศัยจังหวะที่พวกเขาไม่ทันสังเกต ถึงจะแอบออกมาได้ ไม่เช่นนั้นพวกนั้นคงร่วมมือกันกดหม่อมฉันลงพื้นแน่ๆ"ไท่จื่อหัวเราะลึกกว่าเดิม ขณะที่กำลังจะเอ่ยแซวนางต่อ กลับอยู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับก้มตัวลงใช้มือกดที่ท้องของตนเอง"อย่าบอกนะว่าฝ่าบาททรงปวดกระเพาะอีกแล้ว?" นางรีบเข้ามาพยุงเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "พวกนั้นนี่จริงๆ เลย ให้ฝ่าบาทดื่มเรื่อยๆ แบบนั้น ใครจะทนไหว?""เจ้าดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ ช่างพูดจายืดยาวขึ้น นับเป็นเรื่องแปลกจริงๆ" เขาพิงตัวกับราวเรือ มืออีกข้างกอดนางเอาไว้พร้อมพูดเสียงต่ำ "ไม่ต้องห่วงมาก แค่เจ้าช่วยนวดให้สักหน่อยก็หายแล้ว"ริมฝีปากของฉู่มู่ฉือเผยรอยยิ้มแบบออดอ้อน จนทำให้นางอ

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่47 เดินทางไปเจียงหนาน

    "ฝ่าบาทคิดซื้อของพรรค์นี้มาได้อย่างไร...""เพราะต่างหูของเจ้าเริ่มเก่าแล้ว" เขาพูดเสียงดังฟังชัด "ต่างหูหยกหุ้มทองที่เจ้าใส่มันเก่ามาก อย่าใส่มันอีกเลย ถอดออกเถอะ"เสิ่นอวี้เจาเริ่มเข้าใจ ของตอบแทนอะไรกัน! คนผู้นี้ก็แค่หึงที่นางใส่ต่างหูที่ฉู่หยุนชิงเคยให้มาต่างหาก!"หม่อมฉันแทบไม่เคยซื้อเครื่องประดับ ฝ่าบาทก็ทราบอยู่แก่ใจ" นางปรายตามองเขา ท่าทีงดงามจนใจคนสั่นไหว แฝงด้วยอารมณ์น้อยใจเล็กๆ"ที่หม่อมฉันใส่ก็แค่เพราะไม่อยากเสียเวลาเปลี่ยน ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นของที่องค์ชายห้าให้มา"ฉู่มู่ฉือพยักหน้าอย่างจริงจัง "ข้าเข้าใจดี""จริงหรือ?""ก็ได้ ข้ายอมรับ" เขายิ้มพลางยกต่างหูขึ้นมาระดับสายตานาง "แค่เห็นเจ้าสวมของที่น้องห้าให้ ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ" แววตาของเขาอ่อนโยนยิ่งขึ้น "แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ข้าอยากให้เจ้าสวมสิ่งที่ข้ามอบให้ อยากให้บนตัวเจ้ามีแต่ของๆ ข้าเท่านั้น"

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่46 รบเร้า

    ทว่าความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดตื้นเกินไป นิสัยติดตามของฮ่องเต้ จะปล่อยให้คนหนีรอดไปง่ายๆ ได้อย่างไร?หลังปฏิเสธไปเมื่อวาน เช้าวันนี้กองทัพใหญ่ก็มาถึงประตูจวนแล้วฉู่ซั่วกู่ยังมาไม่ถึง แต่เสียงเขาลอยมาก่อน "พี่สาม! ท่านหญิงเสิ่น! ได้ยินมาว่าพวกท่านไม่มีแผนจะไปเจียงหนานหรือ? ที่นั้นงดงามมาก แสงอาทิตย์ยามเช้า ส่องสะท้อนดอกท้อแดงระยับบนผืนน้ำ ท้องฟ้าช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิร่วงโปรยเหมือนสายฝน กลายเป็นพรมชมพูปกคลุมผืนดิน ช่างเหมาะแก่การพูดคุยเรื่องรักใคร่ยิ่งนัก! ทุกคนตกลงไปกันหมดแล้ว เหลือแต่พวกท่าน ไม่รู้สึกอึดอัดในใจบ้างหรือ?"คำพูดยังไม่ทันจบถ้วยน้ำชาก็ลอยมาตรงหน้าผากฉู่ซั่วกู่ ฉู่มู่ฉือเดินออกมาด้วยใบหน้าขุ่นเคืองจ้องเขาเขม็ง"เช้าตรู่เช่นนี้ใยมาส่งเสียดังเอะอะ! นิสัยพูดมากของเจ้าถ้าไม่เลิก วันหน้าข้าจะตีเจ้าทุกครั้งที่พบ!""เพราะนิสัยพูดมากของข้าอย่างไรเล่า เสด็จพ่อจึงให้ข้ามาโน้มน้าวพี่สามกับท่านหญ

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่45 ศึกษาดูใจ

    ฮ่องสร้างภาพลักษณ์ "จักรพรรดิผู้ทรงธรรม" ให้กับตนเองได้สำเร็จ จนกล่าวได้ว่าการกระทำของพระองค์นั้น "ยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว" แต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทราบดีว่า พระองค์ช่างไร้ยางอายถึงเพียงใด จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพระองค์ถึงให้กำเนิดโอรสอย่างฉู่มู่ฉือและฉู่ซั่วกู่ได้ผลสรุปของการคัดเลือกบรรดานางสนมในครั้งนี้ คือตกม้าตายกันทั้งขบวน แม้เรื่องราววุ่นวายนั้นจะเป็นที่กล่าวขาน แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับข่าวการหมั้นหมายกันระหว่างฉู่มู่ฉือและเสิ่นอวี้เจา ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ที่ยิ่งทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงยิ่งกว่าแม้แต่องค์หญิงฉู่เหม่ยหลินเองก็ยังงุนงง เมื่อเห็นเสิ่นอวี้เจาที่อยู่ๆ กลับไปปรากฏตัวในตำหนักของรัชทายาท นางคิดในแง่ร้ายว่าไท่จื่ออาจใช้วิธีบังคับลักพาตัว แต่เมื่อรีบไปช่วยเหลือกลับพบว่า ทั้งสองนั่งจิบชาอย่างสบายใจในศาลา ชวนคุยราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"พี่หญิง! พี่ได้ยินข่าวในวังแล้วหรือไม่?""ได้ยินแล้ว" เสิ่นอวี้เจา พยักหน้ารับอย่างสงบน

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่44 คำขอโทษของไท่จื่อ

    "ค่ำคืนอากาศหนาวเย็น ฝ่าบาทรีบกลับตำหนักไปเถิด ถ้าโดนลมหนาวจนป่วย หม่อมฉันคงมิอาจรับผิดชอบได้"แม้ในใจนางจะรู้สึกว่าควรจะดีใจที่ได้เจอฉู่มู่ฉือ แต่กลับห้ามตนเองไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อเขาเอ่ยถึงฉู่หยุนชิไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามนางอยากจะฟาดหน้าเขาสักทีทำไมถึงไม่เคยพูดจากกันดีๆ ถ้าชอบใครสักคน ต้องตามเกี้ยวแบบนี้หรือ? นางไม่ค่อยฉลาดกับความรู้สึกของตนเองเท่าไร และเขาเองก็รักอย่างโง่เง่าไม่ต่างกันแต่โชคดีที่ครั้งนี้ฉู่มู่ฉือไม่ได้ทำตัวงี่เง่าเกินไป เพราะทันทีที่นางหมุนตัว เขาก็คว้ามือของนางไว้ ใช้แรงเพียงข้างเดียวดึงเสิ่นอวี้เจาเข้ามาในอ้อมกอด"ข้าไม่หนาว แต่ถ้าท่านหญิงเสิ่นหนาว ข้ายินดีมอบอ้อมกอดอบอุ่นให้""...ขอร้องล่ะฝ่าบาท อย่าพูดอะไรน่าชวนขนลุกเช่นนี้อีกหม่อมฉันฟังแล้วไม่ชิน"คิ้วดกหนาของเขาขมวดเล็กน้อย "หรือว่าท่านหญิงเสิ่นอยากจะทะเลาะกั

  • แม่สื่อผู้นี้ไม่ขอมีสามีเป็นองค์รัชทายาท   บทที่43 แผนการสำเร็จ

    แผนนี้ได้ผลดียิ่งนักเสิ่นอวี้เจาแอบชื่นชมในความชาญฉลาดของตนเอง ก่อนจะแสดงสีหน้าจริงจัง "สมแล้วที่คนไม่เหมือนชื่อ อ่อนโยนเรียบร้อย ที่แท้เป็นเพียงเปลือกนอก ต่อหน้าข้ายังเสียกิริยาเยี่ยงนี้ หากได้พบฝ่าบาทจะเป็นเช่นไร สำหรับคนที่เสียมารยาทเมื่อครู่ทั้งหมด นำตัวไปยังห้องราชกิจ รับรางวัลแล้วกลับบ้านไปเถิด"เมื่อเป็นเช่นนี้ รายชื่อหญิงงามที่เหลืออยู่จึงลดลงไปเกือบครึ่ง เสิ่นอวี้เจาพอใจกับผลงานตนเองเป็นอย่างยิ่งเมื่อสถานที่กลับมาสงบลงอีกครั้ง รอบตัวเหลือเพียงสองคน นางอดไม่ได้ที่จะหันไปมองฉู่หยุนชิง"องค์ชายห้า ข้าทำเกินไปหรือไม่?" แม้นางไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดอะไร แต่ในฐานะหญิงผู้คัดเลือก เมื่อมองย้อนกลับไปยังหน้าที่ที่ตนเองทำสำเร็จ เสิ่นอวี้เจาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดช่างเหลวไหล"ตอนนี้มองดูอาจเหมือนใจร้าย แต่ภายหลังพวกนางจะรู้สึกขอบคุณเจ้า" ฉู่หยุนชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status