Share

บทที่ 3

Author: นครแสงจันทร์
หลังจากพิธีหมั้นจบลงในห้องอาหารไฮคลาสของโรงแรมซิลเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอมิลี่เควสและทอม ซัลลิแวนเดินตามหลังพ่อแม่ลงมาอย่างเบิกบานใจ จากนั้นจึงเดินไปแต่ละโต๊ะเพื่อรับคำอวยพรจากแขกเหรื่อ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน ผู้คนกลอกตาใส่พวกเขาหลังจากที่พวกเขาเดินผ่านไป

น่าเสียดายที่ตระกูลเควสและตระกูลซัลลิแวนไม่ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พวกเขายังต้องฝืนยิ้มเอาไว้

ในขณะเดียวกัน เอมิลี่ เควสที่แต่งหน้าหนาเตอะฉีกยิ้มกว้าง เธอดูภูมิใจกับตัวเองมากซึ่งออร่าความภูมิใจนั่น มีชุดเดรสยาวสีแดงที่มาพร้อมกับเสื้อท่อนบนที่แสนเย้ายวนใจเสริมอยู่

ตระกูลซัลลิแวนเป็นเจ้าของบริษัทอาหารที่ติดห้าอันดับสูงสุดในโลก เทียบกับตระกูลเควส ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ และตระกูลของพวกเขา สถานะทางการเงินของตระกูลซัลลิแวนนั้นดีกว่ามาก ในฐานะคู่หมั้นของตระกูลซัลลิแวน เอมิลี่ทำให้ทุกคนในวงการหญิงสาวแนวหน้าต่างอิจฉาตาร้อนอย่างไม่ต้องสงสัย

ในขณะเดียวกัน การที่ทอม ซัลลิแวนสามารถจัดการหญิงสาวร่างท้วมอย่างไซล่า เควส ไปได้ และหมั้นหมายกับเอมิลี่ เควสที่ร่ำรวยและงดงามอย่างแท้จริงทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจมากยิ่งกว่า

พอบรรดาเหล่าแม่บ้านที่ร่ำรวยได้เห็นข่าวว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ก็ต่างพากันนินทาลับหลังเรื่องของเอมิลี่ เควสและทอม ซัลลิแวนอย่างสนุกปาก

“ฉันก็เคยบอกแล้วไงว่าเอมิลี่ เควสเป็นผู้หญิงอย่างว่า แล้วยังไง เห็นกันแล้วรึยังล่ะทีนี้? ผิดไปจากที่พูดตรงไหนล่ะ”

ทำไมคนที่ดูเหมือนกับเทพบุตรอย่างทอม ซัลลิแวน ถึงเป็นผู้ชายแบบนี้ไปได้? คนเรามันดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริง ๆ นะ”

“ฉันล่ะเห็นใจไซล่า เควสเสียจริง แม้ว่าจะดูน่าเกลียดไปหน่อย แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี น่าเสียดาย เธอดันไปรักคนผิดเสียนี่”

ทันทีที่ไซล่า เควสเดินเข้าไปในประตู สายตาของเธอก็จับจ้องไปยังทอม ซัลลิแวนและตระกูลเควส ในตอนที่เห็นว่าเอมิลี่ เควสดูพอใจมากแค่ไหน เธอมั่นใจว่าคู่รักนั่นยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเป็นแน่ ไซล่าแอบรู้สึกมีความสุขที่คู่รักนั่นไม่รู้ว่าพวกเขากำลังถูกแทงข้างหลังเช่นนี้

ไซล่าในสวมชุดราตรีสีแชมเปญสวยสง่าจนหาคำบรรยายใดมาเปรียบไม่ได้ มีความรู้สึกราวกับว่าหญิงสาวแบบเธอควรจะอยู่ในที่ขาวสะอาด การสัมผัสใด ๆ จากคนอื่นจะถือเป็นการทำให้ความบริสุทธ์ของเธอแปดเปื้อน

ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มน้อยใหญ่ต่างเดินตรงมาหาไซล่าและแนะนำตัวขณะที่พากันชื่นชมความงดงามของเธอ และถามว่าเธอมาจากไหน

ตั้งแต่เธอประสบกับเหตุการณ์นี้เมื่อห้าปีก่อน ไซล่ามีความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน เธอส่งยิ้มอันสงบไปให้ชายหนุ่มเหล่านั้น จากนั้นยกชายกระโปรงชุดราตรีขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเดินอย่างเฉิดฉายไปยังทอม ซัลลิแวนและเอมิลี่ เควส ถึงกระนั้น ทันทีที่ทอม สายตาของซัลลิแวนวาดไปยังเธอ เขาหยุดหายใจและดูเหมือนจะตกใจอย่างมาก

ใครกันน่ะ? ไซล่า…ไซล่า เควสงั้นเหรอ?

เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ้วนเกินจินตนาการคนนั้นหรอกเหรอ? ทำไมตอนนี้เธอถึงดูดีแบบนี้ได้ล่ะ?

ทอม ซัลลิแวนละสายตาจากเธอไม่ได้

เห็นได้ชัดว่า เธอแค่สวมชุดราตรีและแทบไม่ได้แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ ความจริงแล้ว เธอไม่สวมเครื่องประดับใด ๆ เลยสักชิ้น

รัศมีที่เปล่งประกายออกมาชนะเอมิลี่ที่แต่งหน้าหนาเตอะขาดลอย ตอนนี้ไซล่ากลายเป็นจุดสนใจของชายหนุ่มทุกคนในห้อง

แม้ว่าเอมิลี่จะสวยก็จริง แต่เธอไม่มีลักษณะทางใบหน้าที่น่าค้นหา และมีบางอย่างในตัวที่ทำให้เธอค่อนข้างธรรมดา แต่ไซล่านั้นแตกต่างออกไป เธอสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า เช่นเดียวกับงานศิลปะที่ได้รับการแต่งแต้มอย่างพิถีพิถันจากพระหัตถ์ของพระเจ้า ไซล่าสวยงามแต่ไม่เปราะบาง เธอจะเหมือนราวนางฟ้าที่มาเยือนเมืองมนุษย์

จู่ ๆ ทอม ซัลลิแวนก็รู้สึกถึงความเศร้าเข้าถึงจิตใจของเขา ถ้าเขารู้ว่าเธอสามารถคืนความงามแต่เดิมได้ เขาคงจะไม่ทิ้งเธอ

พ่อแม่ของทั้งตระกูลเควสและตระกูลซัลลิแวนดูตกใจพอ ๆ กัน เจเรมี่ เควสจ้องไปที่ลูกสาวสุดสวยคนโปรดของเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “ไซล่า ใช่ลูกจริง ๆ เหรอ? ลูกไปอยู่ไหนมาตั้งสามปี? ทำไมลูกถึงไม่ติดต่อตระกูลกลับมาบ้าง? แล้วลูกเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้ได้ยังไง?”

แม้ว่าเจเรมี่ เควสได้ยินมาว่าไซล่าอาจจะหนีตามชายอื่นไป เขาไม่เชื่อว่านั่นคือความจริงเพราะเขาเข้าใจลูกสาวของเขาที่สุด…

เมื่อไซล่าเห็นพ่อดูสะเทือนใจมากแค่ไหน เธอรู้สึกผิดไม่น้อย ในตอนนั้น เพื่อให้ร่างกายของเธอฟื้นฟูกลับมาโดยไวที่สุด ไซล่าจึงไม่ติดต่อพ่อของเธอเลย “พ่อคะ เรื่องมันยาว ค่อยคุยกันตอนเรากลับบ้านนะ” ไซล่าตอบ

เจเรมี่พยักหน้าซ้ำ ๆ “ได้สิ...ได้...ได้เลย”

“ไซล่า คุณกลับมาแล้ว…” สายตาของทอม ซัลลิแวนจับจ้องไปที่เธอขณะที่มือของเขาสั่นอยู่ข้าง ๆ เล็กน้อย

ถ้าจะบรรยายหญิงสาวคนหนึ่งเป็นดอกไม้ ไซล่าคงจะเป็นดอกโบตั๋นสีขาวบริสุทธิ์และสูงส่ง ในขณะที่เอมิลี่เควสเป็นกุหลาบป่า หลังจากที่ไม่เห็นดอกโบตั๋นสีขาวมาสัจนชินตา ชายคนหนึ่งอาจจะถูกดอกกุหลาบป่าล่อลวงไป อย่างไรก็ตาม เมื่อดอกโบตั๋นผลิบานอีกครั้ง กุหลาบป่าก็คงไร้ความหมาย

ปฏิกิริยาของทอม ซัลลิแวนทำให้เอมิลี่ระเบิดความโกรธ

ณ ตอนนั้น เอมิลี่นึกถึงช่วงเวลาที่ความงดงามของไซล่ารั้งเธอไว้ในความมืด

ย้อนกลับไปในวันวาน ทอม ซัลลิแวนและบรรดาชายหนุ่มที่ร่ำรวยในแอตแลนติสหลงรักแต่ไซล่า ไม่มีใครเลยคิดที่จะชายตามามองลูกคนรองของตระกูลเควสอย่างเอมิลี่ เควสบ้างเลย

ความอิจฉาริษยาอย่างแรงกล้าแทบจะทำให้เอมิลี่กำหมัดแน่นจนมีเสียงเล็ดลอดออกมา

ไซล่ากลับมาสวยอย่างเดิมได้อย่างไร? มันเป็นไปได้อย่างไร?

ไซล่ามองไปยังทอม ซัลลิแวนอย่างใจเย็น ท่าทีในแววตาของเขาทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง

ผู้ชายคนนี้น่าขยะแขยงเหลือเกิน

ตอนนั้น ผู้คนมากมายสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้และจึงรวมตัวกันรอบพวกเขา

“อ๋อ เมื่อคืนนี้ตอนที่กลับมาจากต่างประเทศ ฉันได้ยินเรื่องการหมั้นของคุณพอดี ฉันก็เลยตัดสินใจมาร่วมงามเพื่อแสดงความยินดีเสียหน่อยนะ” ไซล่าดูสงบและไม่สะทกสะท้าน

ท่าทีของเธอทำให้ทอม ซัลลิแวนผิดหวังเป็นอย่างมาก ในอดีต เธอเคยเป็นคนที่เทิดทูนเขาเพราะว่าเขาเคยเป็นดั่งโลกทั้งใบของเธอ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต่างออกไปแล้วตอนนี้ และทอม ซัลลิแวนกำลังรู้สึกว่ามันยากมากเพียงใดที่ยอมสงบความหยิ่งทะนงของตนได้

“พระเจ้าช่วย ไซล่า เควสกลายกลับมาสวยอีกครั้ง ถ้าเทียบกันเนี้ย เอมิลี่เควสจืดไปเลยแหละเธอ”

“พวกเขาทำกับไซล่าถึงขนาดนี้แล้ว ไซล่าก็ยังมาร่วมอวยพรพวกเขาพร้อมรอยยิ้มแบบนี้ ช่างผู้หญิงที่ใจใหญ่อะไรขนาดนี้”

“ไม่ใช่แค่เอมิลี่ เควสสวยน้อยกว่าไซล่า เควสเท่านั้น แต่ความคิดของเธอยังแย่กว่าไซล่าโขเลยแหละ”

เอมิลี่รู้สึกถึงศักดิ์ศรีของตนกำลังถูกเสียงซุบซิบของผู้คนรอบข้างทำลายลงเรื่อย ๆ ทันใดนั้นเอง ทั้งหมดที่เธอรู้สึกได้คือความโกรธ

เดี๋ยวก่อน ผู้คนกำลังพูดถึงเรื่องที่เอมิลี่ เควสกับทอม ซัลลิแวนกระทำต่อไซล่า เควสนิ? อะไรก็ตามทีเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสาม ไม่น่าจะมีใครรู้นิ

“พวกคุณทั้งหมดกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่คะ? เอมิลี่ เควสเอ่ยถามขณะที่จ้องมองไปยังผู้คนที่มองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม

“ลองดูหัวข้อข่าวยอดนิยมในเน็ตเองสิ” ใครสักคนในฝูงชนโพล่งออกมา

เอมิลี่เปิดเว่ยโบ๋ทันทีและค้นหาหัวข้อยอดนิยมในอินเตอร์เน็ต ทันใดนั้น เอมิลี่ ทอมและพ่อแม่ของพวกเขาต่างพากันตกใจ

“เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? เอมิลี่ อธิบายพ่อมาสิ! ไม่ใช่ว่าลูกกับทอม ซัลลิแวนคบหากันหลังจากที่ไซล่าหนีไปหรอกเหรอ? ลูกหลอกพ่อมาตลอดเลยงั้นเหรอ?” เจเรมี่ เควสดูอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด

“เอาล่ะ ลูกรัก เรามาคุยเรื่องนี้ตอนถึงบ้านเถอะ ลูกคิดว่าตระกูลของเรายังขายหน้าไม่พออีกงั้นเหรอ?” เมย์ คอนเนอร์ดึงมือของเจเรมี่ เควสขณะที่พูดอย่างนุ่มนวล

นอกจากสายตาที่จับจ้องของทุกคนและการนินทาว่าร้ายในอินเตอร์เน็ต เอมิลี่รู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง

นั่นหมายความว่าแขกเหรื่อที่นี่รู้เรื่องนี้มาโดยตลอดสินะ?

ถ้าเป็นเช่นนั้น เอมิลี่และทอมคงทำให้ตัวเองดูโง่ตลอดการเดินรับคำอวยพร ยิ่งเอมิลี่คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกขายหน้ามากยิ่งกว่า

ในขณะเดียวกัน ไซล่าดูสบายใจอย่างมากขณะที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ

เอมิลี่สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าไซล่าคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ทำไมเรื่องบังเอิญเช่นนี้ถึงเกิดขึ้นในตอนที่ไซล่ากลับมาล่ะ?

เอมิลี่ เควสจับข้อมือของไซล่า เควสโดยไม่ลังเลและดึงเธอไปสุดทางเดิน

“แกเป็นคนที่ก่อเรื่องทั้งหมดนี้ใช่ไหม? แกนี่มันไร้ยางอายจริง ๆ ที่ก่อเรื่องนี้ขึ้นทันทีที่กลับมา แผนของแกคือการทำให้ฉันทุกข์ใจมาโดยตลอดใช่ไหม?” เอมิลี่เอ่ยถามพลางกัดฟันแน่น

เอมิลี่เงื้อมมือด้วยความโกรธ พร้อมที่จะตบไซล่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 240

    ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 239

    “ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 238

    ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 237

    “เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 236

    “เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 235

    “ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status