LOGIN06 ฝันร้ายยังตามหลอกหลอน
นานเท่าไหร่ไม่รู้... เมริษากำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยโพรงหญ้าสูงท่วมหัว มองไปทางไหนก็ไม่เจอใครเลยสักคน จนเกิดความงุนงงว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรและที่นี่คือที่ไหน แต่ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินเพื่อหาที่หลบฝน จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศาลาเก่าๆข้างทาง เธอวิ่งเข้าไปหลบตรงนั้นโดยไม่รู้ว่ามีชายคนนึ่งกำลังนั่งหลบฝนอยู่ข้างในนั้นเช่นกัน “ขอหลบฝนด้วยคนนะคะ” เธอบอกกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่อีกฝั่งของศาลา และทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เธอก็กรีดร้องออกมาสุดเสียง เพราะเขาคือผู้ชายที่เคยไล่ข่มขืนเธอเมื่อต้นปี “กรี๊ดดด!!!” “เจอกันอีกแล้วนะ หึ…หึ” เสียงหัวเราะเยือกเย็นบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ และในวินาทีนั้นมันก็กระโจนเข้ามา ทำให้เธอต้องรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที” ชายคนนั้นวิ่งตามมาติดๆโดยที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าหนี แต่จู่ๆแข้งขากลับอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งเหนื่อย และในที่สุดมันก็ตามมาทัน หมับ!! มือหยาบกระชากคอเสื้อจนชุดนักศึกษาขาดหวิ่นก่อนที่มันจะล็อคร่างของเธอแล้วลากเข้าไปในโพรงหญ้าข้างทาง เธอกรีดร้องสุดเสียง ทั้งแตะ ทั้งถีบ แต่ทว่าแข้งขากลับไม่มีเรี่ยวแรง “กรี๊ดดด!!! อย่าทำฉัน…อย่า!!” พรึ้บ!! “เมย์!เมย์! เกิดอะไรขึ้น!!” เสียงเข้มอันแสนคุ้นเคยปลุกให้เมริษาตื่นจากฝันร้าย พอตั้งสติได้เธอก็รีบโผเข้ากอดร่างหนาทันที “มะ…เมย์ฝันร้ายค่ะ ฮึก!” “ฝันว่าอะไรหรอครับ” อีริคดึงร่างสั่นระริกเข้ามาสวมกอด ตอนแรกเขานั่งรับลมชมวิวอยู่หลังห้อง แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องเลยรีบวิ่งเข้ามาดู เห็นคนตัวเล็กนอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงเหมือนกำลังฝันร้าย “ฝันว่ามันตามมาอีกแล้วค่ะ มันกำลังไล่เมย์ ฮื้อๆๆ” มันที่ว่าก็คือคนร้ายโรคจิตที่เคยไล่ข่มขืนเธอเมื่อต้นปี จนทำให้เธอได้เจอกับอีริค เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เธอสอบเสร็จแล้วไปเลี้ยงฉลองกับกลุ่มเพื่อนที่ร้านอาหาร จนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน เพื่อนๆที่อาสาว่าจะขับรถไปส่งกลับเมาแอ๋จนลิ้นพันกัน เธอเลยขอตัวกลับก่อนเพราะเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ กระทั่งเดินออกมาเรียกแท็กซี่ที่หน้าปากซอย ในจังหวะปลอดผู้คน ก็มีชายโรคจิตคนหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังแล้วพยายามดึงร่างของเธอเข้าไปในโพรงหญ้าข้างทาง เธอสะบัดร่างออกมาได้แล้ววิ่งหนีสุดชีวิต แต่มันก็วิ่งไล่ตามมาติดๆและเกือบจะถึงตัวเธอแล้ว จู่ๆก็มีรถหรูของใครบางคนสาดไฟใส่ ทำให้มันรีบวิ่งหนีหายเข้าไปในความมืด ในตอนนั้นเธอเสียขวัญไปแล้วจนไม่รู้ว่ามีใครบางคนได้ก้าวลงมาจากรถแล้วใช้มือแตะไหล่ของเธอเบาๆ ‘ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ’ ใช่...ผู้ชายคนนั้นก็คืออีริคนั่นเอง เขาเป็นคนช่วยเธอเอาไว้จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น “ไม่เป็นไรแล้ว พี่อยู่นี่ทั้งคน มันทำอะไรเมย์ไม่ได้หรอก เรื่องนี้มันก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว ยังฝันถึงมันอีกหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนเพราะยังจำเหตการณ์ในวันนั้นได้ดี เมริษาหวาดกลัวจนเสียขวัญไปหลายวันเลยทีเดียว “เมย์เกือบจะลืมมันไปแล้วเชียว แต่จู่ๆทำไมถึงฝันแบบนี้อีก” หญิงสาวปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ร่างสั่นเทิ้มค่อยๆเบาลง “สงสัยเมย์คงดูหนังมากเกินไป อยู่กับพี่ ใครก็ทำอะไรเมย์ไม่ได้หรอก” เขาพรมจูบทั่วศีรษะเล็ก แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง อยากผลักเธอออกไปให้พ้นๆเพราะเขารู้สึกสะเอียดทุกครั้งที่กอดนามสกุลวรโชติเมธี “อยากกลับหรือยังครับ” “ค่ะ เมย์อยากกลับแล้ว” เมริษาจำต้องผละออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นเพราะตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องกลับแล้ว เธอไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟังเพราะถึงเล่าไปก็ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเธออยู่ดี หนำซ้ำอาจจะได้รับถ้อยคำซ้ำเติมจากบิดามากกว่า ทำให้เธอกล้าเล่าเรื่องนี้ให้แค่อีริคฟังเท่านั้นและมีแค่เขาคนเดียวที่คนช่วยเหลือเธอมาตลอด อีริคขับรถมาส่งเมริษาที่หน้าคฤหาสน์หลังโตก่อนสองทุ่มตามที่สัญญาเอาไว้ ร่างเล็กก้าวเท้าลงจากรถก่อนจะหันหลังกลับไปโบกมือลาแฟนหนุ่ม เขาส่งยิ้มกลับแล้วขับรถออกไปทันที และเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน พบว่าบิดากำลังนั่งเช็คเอกสารอยู่ที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน เหมือนกำลังรอว่าเธอจะกลับมาเมื่อไหร่ “ได้ข่าวว่าสอบเสร็จบ่ายสามไม่ใช่หรอ หายไปไหนมาตั้งหลายชั่วโมง” วิศรุตวางเอกสารลงแล้วตวัดตาดุมองลูกสาวคนเล็กซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาของมหวิทยาลัยชื่อดัง “เมย์อยู่ติววิชาสุดท้ายกับเพื่อนที่คณะค่ะ” มือเล็กทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น รู้สึกผิดทุกครั้งที่ต้องโกหกท่าน แต่ถ้าพูดความจริงไปก็กลัวว่าแฟนหนุ่มของเธอจะเดือดร้อน “ให้มันจริงเถอะ อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกออกไปเถลไถลกับผู้ชาย ไม่อย่างนั้นมันได้หัวหลุดจากบ่าแน่” วิศรุตชี้หน้าด่าลูกสาวเพราะเขาชักเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้เมริษาชอบกลับบ้านดึก “มะ…เมย์อยู่ติวกับเพื่อนจริงๆค่ะ เมย์ไม่ได้ออกไปเถลไถลกับผู้ชายแน่นอน คุณพ่อไม่ต้องกังวลนะคะว่าเมย์จะไปทำเรื่องไม่ดี” เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงด้วยความกระอักกระอ่วนใจ “เรื่องนั้นฉันไม่ได้กังวลเลยสักนิด เพราะถ้าแกจะมีแฟนจริงๆ แกต้องเรียกค่าสินสอดไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน” “พ่อคะ! มะ…เมย์ว่ามันมากเกินไปไหม ตั้งร้อยล้านเลยนะคะ” “ที่ฉันต้องการร้อยล้าน เพราะฉันจะได้เอาเงินมาอุ้มบริษัทไง อย่างแกมันจะไปเข้าใจอะไรว่าตอนนี้บริษัทกำลังฟื้นตัว” “เยอะขนาดนั้น เมย์ว่ามันมากเกินไป” “แล้วทำไมพี่สาวแกทำได้!" วิศรุตเริ่มมีน้ำโหที่ลูกสาวคนเล็กทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ “แกจำไม่ได้หรอ ที่บริษัทยังดำเนินต่อไปได้ก็เพราะใคร...เพราะพี่แกไง” “แต่พี่มีนาหลอกเงินผู้ชายนะคะ พ่อไม่คิดหรอว่าทำแบบนี้แล้วคนอื่นจะเดือดร้อน” “หุบปากเดี๋ยวนี้! มีนาไม่ได้หลอกไอ้หนุ่มนั่น มันเต็มใจให้เพราะมันรักมีนา” “แต่พี่มีนาไม่ได้รักอาร์เธอร์!” เป็นครั้งแรกที่เมริษากล้าขึ้นเสียงใส่ผู้เป็นบิดาเพราะเธอไม่พอใจที่พี่สาวแท้ๆกับบิดารวมหัวกันสูบเงินจากอาร์เธอร์จนหมดตัว “นี่แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันหรอ นังลูกไม่เอาไหน แน่จริงแกก็ทำให้ได้เหมือนพี่แกสิ” “เมย์ไม่ทำ และจะไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด เมย์จะไม่มีวันหลอกลวงใครเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแน่นอน สักวันพ่อกับพี่มีนาจะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด” “ไสหัวออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยนะอีลูกอกตัญญู ถ้าไม่ใช่เพราะมีนา ป่านนี้แกกับฉันได้ไปไนอนใต้สะพานลอยไปแล้ว คนไม่เอาไหนอย่างแกจะไปตายไหนก็ไป!” เมริษาน้ำตาไหลอาบใบหน้าทันทีที่ผู้เป็นพ่อปรามาสด้วยถ้อยคำเกลียดชังต่างๆนาๆ ทุกครั้งเวลาทะเลาะกันท่านก็ไล่ให้เธอไปตายตลอด เหมือนโกรธแค้นที่เธอเป็นต้นเหตุทำให้ท่านเสียภรรยาสุดที่รักไป ร่างหันหลังวิ่งขึ้นชั้นสองของบ้านแต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงบิดาก่นด่าไล่หลัง พร้อมกับเปรียบเทียบว่าเธอไม่ได้เรื่องเหมือนพี่สาว “ลูกฉันแม่แค่มีนาคนเดียวเท่านั้น ส่วนลูกกาฝากอย่างแกฉันไม่นับว่าเป็นลูกหรอก!” —————09 เปลี่ยนไปทางด้านเมริษาเริ่มกระวนกระวายใจเข้าไปทุกทีเพราะเธอติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า“หายไปไหนนะ” เมริษาโทรย้ำอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะติดต่อได้สักที ตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าจะไปตามแฟนหนุ่มที่คอนโดดีไหมเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับเขาจะได้ช่วยทันและในจังหวะที่เธอกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดี ก็มีข้อความจากวาสิตาส่งเข้ามา แต่พอเปิดเข้าไปแล้วเจอภาพนั้น มือถือเครื่องเล็กก็ร่วงหล่นบนพื้นทันทีอีริคอยู่ในผับกับผู้หญิง!“มะ…ไม่จริง” เธอส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่เชื่อสายตาว่าภาพนั้นคืออีริค เขาเคยบอกว่าไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แล้วภาพนั้นคืออะไร “พะ…พี่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ต้องไม่ใช่พี่แน่นอน พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”อาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้ เธอเชื่อว่าอีริคไม่ใช่คนแบบนั้น คนบ้างานอย่างเขาไม่มีทางอยู่ในสถานที่แบบนั้นหรอกติ้ง!!ครั้งนี้วาสิตาส่งเป็นวีดิโอมาพร้อมกับซูมเข้าไป แต่พอเห็นสร้อยที่ผู้ชายคนนั้นสวมอยู่ มันคือสร้อยเส้นเดียวกับที่อีริคชอบใส่“ไม่จริง!!” เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก อีริคหายไปทั้งวันแต
08 เลิกเล่นละคร@หลายวันต่อมาเสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์หลายคนก้าวเข้ามาภายในบ้านก่อนที่ชายชรารูปร่างผอมโซค่อยๆก้าวเท้าลงมาจากรถตู้ โดยมีลูกน้องคนสนิทช่วยประครองร่างเอาไว้ เหตุผลที่ร่างกายของเขาผอมโซ เป็นเพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กจนตรอมใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเกือบสองปีแล้ว แต่ความแค้นของคนเป็นพ่อยังฝังลึกอยู่ในใจ“ความจริงพ่อไม่ต้องมาก็ได้นะครับ ฮ่องกงอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปก็ได้”“ที่พ่อมาเพราะพ่ออยากมาดูให้เห็นกับตาว่าแผนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” อีวานค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหรูภายในบ้านหลังใหญ่ที่อีริคเป็นคนซื้อเอาไว้ แม้กระทั่งเมริษาเองก็ไม่รู้ว่าเขามีบ้านที่เมืองไทย เพราะเขาตั้งใจให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น“ก็เหมือนที่ผมรายงานพ่อทุกวันนั่นแหละครับ”“แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วนะ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบๆทำให้จบแล้วรีบกลับฮ่องกงซะ”“ผมพยายามแล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมพาผมไปเจอที่บ้านสักที” ที่เขาคะยั้นคะยออยากให้เมริษาพาไปเปิดตัวกับที่บ้านเพราะเขาจะได้ถือโอกาสนี้ตามสืบว่าเงินทั้งหมดที่พวกมันสูบจากอาร์เธอร์ไป อยู่ที่ไหน“ไม่ใช่ว่
07 กลัวจะเสียคุณไป ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ดังระงมดังทั่วห้อง ในตอนนี้เมริษาไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครดี เธอไม่อยากเล่าปัญหาทั้งหมดภายในบ้านให้แฟนหนุ่มฟังเพราะกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไปอีกคน เธอไม่เหลือใครแล้วจริงๆ …อีริคคือที่พึ่งทางใจที่สุดท้ายตอนนี้เธอคิดถึงอีริคเหลือเกิน ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆก็คงดี เธอจึงตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่ม“พี่อีริคกลับถึงคอนโดหรือยังคะ”(ครับ พี่เพิ่งถึงเมื่อกี้เลย เสียงดูแปลกๆนะครับ เมย์เป็นอะไรหรือเปล่า) “เปล่าค่ะ” เมริษาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ กลัวเขารู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ แต่สุดท้ายปลายสายก็ยังได้ยินอยู่ดี(นี่เมย์ร้องไห้หรอ ร้องไห้เรื่องอะไรบอกพี่ได้ไหมครับ)“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมย์แค่…คิดถึงพี่)“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับคนเก่ง งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยว เผื่อเมย์อารมณ์ดีขึ้น”เมริษานิ่งไปพักนึ่ง ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อ ถ้าหากอีริครู้ว่าบิดาของเธอเรียกค่าสินสอดถึงร้อยล้าน เขายังจะรักเธออยู่หรือเปล่า เธอไม่อยากตีค่าความรักเป็นเงินเลยด้วยซ้ำ เพราะรักที่เธอให้เขามีค่ามากกว่าเงินร้อยล้านเสียอีก “ก็ได้ค่ะ แต่เมย์ข
06 ฝันร้ายยังตามหลอกหลอนนานเท่าไหร่ไม่รู้...เมริษากำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยโพรงหญ้าสูงท่วมหัว มองไปทางไหนก็ไม่เจอใครเลยสักคน จนเกิดความงุนงงว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรและที่นี่คือที่ไหนแต่ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินเพื่อหาที่หลบฝน จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศาลาเก่าๆข้างทาง เธอวิ่งเข้าไปหลบตรงนั้นโดยไม่รู้ว่ามีชายคนนึ่งกำลังนั่งหลบฝนอยู่ข้างในนั้นเช่นกัน“ขอหลบฝนด้วยคนนะคะ” เธอบอกกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่อีกฝั่งของศาลา และทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เธอก็กรีดร้องออกมาสุดเสียง เพราะเขาคือผู้ชายที่เคยไล่ข่มขืนเธอเมื่อต้นปี “กรี๊ดดด!!!”“เจอกันอีกแล้วนะ หึ…หึ” เสียงหัวเราะเยือกเย็นบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ และในวินาทีนั้นมันก็กระโจนเข้ามา ทำให้เธอต้องรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที”ชายคนนั้นวิ่งตามมาติดๆโดยที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าหนี แต่จู่ๆแข้งขากลับอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งเหนื่อย และในที่สุดมันก็ตามมาทันหมับ!!มือหยาบกระชากคอเสื้อจนชุดนักศึกษาขาดหวิ่นก่อนที่มันจะล็อคร่างของเธอแล้วลา
05 หลอกให้ตายใจ@คอนโดหรูของอีริคทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ร่างบางก็ถูกผลักลงบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตามด้วยร่างหนาของอีริคขึ้นมาคร่อมทับเอาไว้“พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่ขอทำเลยนะ”“เดี๋ยวก่อนสิคะ” เมริษายกมือดันร่างสูงเอาไว้ “อาบน้ำก่อนนะคะ”"ไม่ทันแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว เรามีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ห้าชั่วโมงเองนะ” อีริคแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทั้งๆที่ตอนนี้เขาอยากจับเจ้าหล่อนกระแทกเต็มทน ไม่รู้จะเล่นตัวอะไรนักหนาบางครั้งเขาเองก็เริ่มหงุดหงิดที่เธอไม่ค่อยได้ดั่งใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเล่นละครต่อไปเพราะถึงอย่างไรเป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่เมริษาอยู่แล้ว “เมย์ไม่เห็นใจพี่หรอ เราไม่เคยค้างคืนด้วยกันเลยนะ”“เมย์ก็อยากทำแบบนั้นนะคะ แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ เมย์กลัวที่บ้านเป็นห่วง”“เมย์ก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ที่บ้านจะหวงอะไรนักหนา” ไม่พูดเปล่า มือร้อนเคลื่อนเข้าไปใต้ร่าง ใช้นิ้วใหญ่เกี่ยวปลดตะขอชุดชั้นในอย่างชำนาญ “เมย์ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงค่ะ อ้ะ!” หญิงสาวเผลอเปล่งเสียงออกมาด้วยความกระสันเมื่อถูกนิ้วใหญ่บีบขยี้ยอดหน้าอก ทำให้ความต้องการพุ่งทะยานขึ้นมาทันที“อยู่กับพี่ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น” เขาไม่พูดเปล่
04 หลงเชื่อจนสนิทใจหลังสอบเสร็จอีริคขับรถมารับเมริษาที่มหาวิทยาลัยแต่เขาไม่ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เส้นทางที่เขาไปก็คือคอนโดหรูของเขานั่นเอง“พี่อีริคคะ วันนี้เมย์ขอไม่ไปคอนโดพี่ได้ไหมคะ”“อ่าว ทำไมล่ะ” อีริคหันมาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทุกวันหลังเลิกเรียนเขามักขับรถมารับเมริษาแล้วพาไปที่คอนโด“คือว่าช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งค่ะ เมย์ต้องรีบกลับไปเคลียร์งานช่วยคุณพ่อค่ะ” แต่ความจริงบิดาของเธอเริ่มสงสัยแล้วต่างหากว่าทำไมพักนี้ถึงกลับบ้านดึก ทั้งๆที่ช่วงนี้คือช่วงสอบ เข้าใจว่าอีริคคงใช้เวลาด้วยกันกับแฟน แต่ที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าเธอมีแฟนและเธอก็ยังไม่กล้าบอกใคร“แต่เมย์เพิ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ กลับไปทำงานแบบนี้ เดี๋ยวจะเครียดเอานะ” ชายหนุ่มที่อยากใช้เวลาส่วนตัวกับสาวน้อย หว่านล้อมทุกวิถีทางเพราะเขาเชื่อว่ายังไงเมริษาก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน “เมย์แค่ไม่อยากให้พ่อทำงานเยอะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสบายค่ะ”“เอางี้ งั้นพี่จะไปส่งเมย์ก่อนสองทุ่ม ตกลงไหม”เมริษาปรายตามองนาฬิกาดิจิตอลที่โชว์อยู่บนคอนโซลรถ บอกเวลาบ่ายสามนิดๆนั่นก็เท่ากับว่าเธอมีเวลาอยู่กับแฟนหนุ่มราวๆห้าชั่วโมง ด้วยความที่เธอเองก็ต







![คนดีของเฮียมังกร [ผัวเอวดุ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)