ログインจ้าวตงหยางเดินไปส่งอู๋อิงที่เรือนของนาง ด้วยเห็นว่าเป็นเวลาเย็นค่ำมากแล้ว นางเดินกลับลำพังอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาได้“สรุปวันนี้เราก็ไม่ได้ไปเยี่ยมแม่หม้ายชุน”“ไปพรุ่งนี้ก็ไม่สาย เจ้าอย่าห่วงนางนักเลยอู๋อิง ข้าลงยันต์ป้องกันเรือนนางเอาไว้แล้ว เจ้าหน่ะควรห่วงตนเองมากกว่า ของที่จะต้องนำส่งเข้าราชสำนัก จะผิดพลาดไม่ได้ เรื่องอื่นใดหาใช่หน้าที่ควรนำมาใส่ใจไม่”“รู้แล้ว ๆ พี่ตงหยาง ท่านนี่นะนับวันก็ยิ่งเหมือนท่านพ่อ เอาแต่ดุข้าอยู่ได้”“ข้าไม่ได้ดุ ข้าแค่เป็นห่วงเจ้า เอาล่ะ เข้าบ้านเจ้าได้แล้ว” อู๋อิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย นางยอมเดินเข้าบ้านโดยดี เมื่อเห็นทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีอะไรผิดปกติ ชายหนุ่มถึงเดินกลับเรือนของตนแม่นางลู่เสี่ยนและสาวใช้จากบ้านเฉิง นำอาหารมาส่งให้กับจางลี่ตรงขอบแดนสระเหมันต์ ด้วยเป็นเขตแดนต้องห้ามมิให้ผู้อื่นล่วงล้ำ คนจากบ้านเฉิงจึงทำได้แค่มาหยุดอยู่ในจุดนี้“คุณชายเป็นอย่างไรบ้าง ฮูหยินแม่เฒ่า ให้ข้าฝากมาบอกว่า มีข่าวดีจากชายแดน วันไหนคุณชายสะดวก นางต้องการพบเขาสักครั้ง”“ได้ลู่เสี่ยน ข้าจะแจ้งคุณชายตามนี้” ชายหนุ่มมองดูใบหน้าหญิงคนรักด้วยความเป็นกังวล“ใบหน้าข้า
จ้าวตงหยางต้มยาสมุนไพรจนส่งกลิ่นหอมกรุ่นคลุ้งไปทั่วเรือนพัก อู๋อิงเห็นว่าเย็นมากแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เห็นไปตามหาเธอที่โรงย้อมผ้า จึงได้มาตามหาที่เรือนพัก เพราะไปที่ร้านแล้วแต่ไม่พบเขา“พี่ตงหยาง เกิดอะไรขึ้น ท่านต้มยาทำไมกัน”หญิงสาวพรวดพราดเข้าเรือนมา ด้วยไม่คิดว่า เรือนชายโสดจะมีผู้อื่นอยู่ด้วย“กรี๊ด…”“อ๊าก…นี่…นี่เจ้าเป็นใครกัน เข้ามา ทำไมไม่เคาะประตู…” ลี่ฉุนที่กำลังนอนแช่น้ำสมุนไพร ตกใจลนลาน คว้าหยิบได้เพียงผ้าขัดตัวผืนน้อย ที่ขอบอ่างมาปิดของสงวนหญิงสาวเห็นบุรุษร่างใหญ่นอนเปลือยกายแช่อยู่ในอ่างน้ำ ไร้ซึ่งฉากกั้นบังตา หรือมีอะไรบดบัง ต่างฝ่ายต่างร้องสุดเสียงด้วยความตกใจ จ้าวตงหยางที่กำลังเก็บสมุนไพรอยู่ด้านหลังเรือนพัก ได้ยินเสียงร้อง ก็ถึงกับตกตะลึง ด้วยเพิ่งคิดได้ว่า ตนเองลืมทำบางอย่างไป“ท่านเป็นใคร เข้ามาในเรือนพี่ตงหยางของข้าได้อย่างไร”“เจ้านั่นแหละ แม่นางน้อยเจ้าเป็นใครกัน เข้ามาในเรือนชายหนุ่มเช่นนี้ คิดหวังสิ่งใด”“ที่นี่เป็นเขตบ้านข้า เหตุใดข้าจะเข้านอกออกในไม่ได้ เจ้านั่นแหละ เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”จ้าวตงหยางรีบวิ่งเข้ามาภายในเรือนพัก เห็นแม่นางอู๋อิงยืนเท้าเอวเ
“เจ้าหนุ่ม คนผู้นี้มันเดนตาย เจ้าแน่ใจรึว่าต้องการเลือกคนผู้นี้จริง ดูแล้วรูปร่างอย่างเจ้า น่าจะเอามันผู้นี้ไม่อยู่” สายตาทุกคู่มองมายังชายหนุ่มหน้าหวาน แม้ในมือของเขาจะถือดาบ แต่สำหรับทุกคน ก็มองว่าเขาดูบอบบางเกินกว่าจะควบคุมทาสพยศผู้นี้ได้ “ข้าต้องการซื้อทาสเช่นนี้ ข้าต้องการนักฆ่า มิใช่บ่าวรับใช้” เสียงหัวเราะดังขึ้น เหมือนเห็นเป็นเรื่องขบขัน“เอาเถอะ ในเมื่อคุณชายต้องการ ข้าก็จะขายให้ ค่าตัวเขาคือ ทองคำ 2 จิน ท่านมีหรือไม่ ถ้ามีก็เอาเขาไปได้เลย”เสียงพูดคุยฮือฮาขึ้น “ทองคำ 2 จิน มากเกินไปแล้ว แค่ทาสปางตายผู้หนึ่งไยราคาสูงขนาดนี้” เสียงซุบซิบดังขึ้นข้างตัวของจ้าวตงหยาง ชายหนุ่มครุ่นคิดเพียงอึดใจ“ตกลง ข้าซื้อ…” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง กับคำตอบตกลงของชายหนุ่ม พ่อค้าทาสบนเวที ร้องเรียกความสนใจของทุกคน ให้กลับไปที่หน้าเวทีอีกครั้ง ปล่อยให้ชายหนุ่ม ต่อรองราคาทาสกับผู้ค้าด้านล่างต่อไปบุรุษแปลกหน้าภายใต้เสื้อคลุมสีดำ ปรากฏตัวขึ้นข้างจ้าวตงหยาง “คุณชาย ราคานี้มันสูงไปนะ ดูสภาพเขาสิ ท่านได้ไปจะรอดหรือตายก็ยังไม่รู้" ชายหนุ่มแปลกหน้า เหลือบมองไปทางพ่อค้าทาสด้วยสายตาเย็นชา "นี่เจ้าหน่ะ ร
จ้าวตงหยาง เลือกเก็บใบไม้แก่ชนิดหนึ่ง โยนใส่ตะกร้าสานที่สะพายอยู่บนหลัง สายตาก็คอยจับจ้องไปที่อู๋อิง ที่เลือกเก็บใบไม้แก่จากต้นใกล้เคียงกัน รวมทั้งเฝ้าระวังกับบรรยากาศรอบตัว ที่ดูไม่ค่อยน่าวางใจ“อู๋อิง เจ้าเร่งมือหน่อย”“อะไรกันพี่ตงหยาง ท่านสั่งข้า ดูในตะกร้าตัวเองด้วย ท่านยังเก็บได้ไม่เท่าข้าเลย แต่เอาเถอะ ข้ารู้ ๆ นี่ก็เร่งจนมือข้าจะพันกันอยู่แล้ว วันนี้เราได้แค่คนล่ะครึ่งตะกร้าก็พอ"ป่าทั้งป่าเงียบสงัด แม้กลิ่นอายปีศาจจะไม่รุนแรง แต่ก็หาวางใจได้ไม่จ้าวตงหยางเอาตะกร้าของหญิงสาว เทใบไม้ที่ได้รวมกับของตน แล้วยกขึ้นสะพาย อู๋อิงสังเกตว่าช่วงนี้ ดูเหมือนจ้าวตงหยางจะจับดาบอยู่ตลอดเวลา ผิดกับเมื่อก่อน ที่เขามักเก็บมันไว้ที่ห้องนอนหรือห้องทำงาน“พี่ตงหยาง พักนี้มีเรื่องอันใดร้ายแรงใช่หรือไม่ สองวันมานี้พี่ไม่ห่างจากดาบเลย ตกลงพี่เป็นชาวยุทธหรือหมอดูกันแน่”“ข้าเป็นทุกอย่าง เจ้าอยากให้เป็นอะไรข้าก็เป็นอันไหน ไป…เรารีบกลับโรงย้อมผ้ากันได้แล้ว แถวนี้ไม่ปลอดภัย เราไม่ควรอยู่นาน”“ข้าอยากให้พี่เป็นเจ้าบ่าวของข้า พี่จะเป็นไหม”“เด็กน้อยนี่ เจ้าพูดเหลวไหลอันใด ทะเล้นขึ้นทุกวัน” “คุณชายจ้าว ข้า
นางปีศาจพังพอนถูกราชาปีศาจซีห่าว จับกุมตัวกลับมายังห้องของนาง ณ วิมารใต้ดินของราชาปีศาจพังพอนซีห่าว ปีศาจหนุ่มมีความโกรธเคืองเกรี้ยวกราดเป็นอันมาก แต่ทำได้แค่เพียงจับกุมและกักบริเวณนางเท่านั้น“ซีห่าว เจ้าทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้นะ ซีห่าว…ได้ยินข้าหรือไม่…ไอ้คนหยาบคาย ซีห่าว…”“ฟ่านเมิ่น ที่ผ่านมาข้าเอาใจเจ้าสารพัด เฝ้าดูแลทะนุถนอมเจ้า มิใช่เผื่อให้เจ้า ออกไปวิ่งเข้าหาความตายเช่นนั้น เจ้ามิเห็นรึว่าเจ้าหนุ่มนั่น หาใช่เด็กน้อยดั่งอดีต ฮึ…ต่อให้มันยังเป็นเพียงเด็กน้อย เจ้าคงลืมไปแล้ว ว่าเจ้าเองก็เคยเกือบดับสูญเพราะเจ้าเด็กจ้าวตงหยางมาแล้วครั้งหนึ่ง”“ข้าไม่เคยลืม ต่อให้มันจะเหลือเพียงร่างเน่าเปลื่อย กลิ่นของมันข้าก็ไม่ลืม แต่เจ้าก็เห็น ว่าเมื่อคืนเจ้านั่นมันอยู่เพียงผู้เดียว ซีห่าวเจ้าก็รู้ ว่าข้าเที่ยวตามหามันมาโดยตลอด โอกาสเช่นนี้หาใช่จะมีได้บ่อย ๆ แต่เจ้าก็ทำมันพัง” นางปีศาจพูดด้วยความโมโหถึงขีดสุดราชาปีศาจพังพอน ร่ายมนต์ปิดผนึกปากทางเข้าห้องของพระชายา ด้วยไม่ต้องการให้นางออกไปก่อกวนจนเสียการใหญ่“ซีห่าว เจ้าจะขังข้าเช่นนี้มิได้นะ”“ฟังข้าให้ดี จ้าวตงหยาง แตกต่างกับอดีต การที่เจ้าบุ่มบ
แววตาของอู๋อิงแน่วแน่มั่นคง ไม่ว่าเรื่องใด นางก็ไม่เคยโกหกปกปิดเขา “เจออะไร กระต่ายภูเขา หรือไก่ป่า เอามาฝากข้าหรือไม่”“พี่ตงหยาง นี่ข้าจริงจังนะ ท่านอย่าเอาแต่เล่นได้หรือไม่ แปลกจริง ปกติท่านก็ไม่เคยพูดเล่นเช่นนี้ มีอะไรหรือไม่” พอนางออกเสียงดุ เขาก็ได้แต่เกาหัวกับหัวเราะกลบเกลื่อน“ไม่มี ๆ ก็ข้าเห็นเจ้าเครียด เป็นแบบนี้ข้าไม่สบายใจนะ น้องอู๋อิงของข้าเป็นคนอารมณ์ดี น้อยนักที่จะเห็นเจ้าเป็นเช่นนี้”“พี่ตงหยาง บนเขา ข้าพบศพผู้ชาย บนหัวไหล่และลำคอ มีรอยโดนกัดเหมือนหลานชายของท่านป้าชุนไม่มีผิด ห่างกันไปไม่ไกลนัก คนงานที่ไปกับข้า ก็พบกับศพผู้ชายอีกคน เขาทั้งสองต่างก็มีรอยเขี้ยวแบบนั้นเช่นกัน พี่ตงหยาง นี่ไม่ใช่เรื่องดีแล้วนะ”จ้าวตงหยางมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูไปแล้วการปรากฏตัวของปีศาจพังพอนในครั้งนี้ น่าจะไม่ได้มีแค่เพียงนางเหมือนเช่นที่เคยพบกันในอดีต เล่นออกฆ่าผู้บริสุทธิ์เช่นนี้ ช่างเป็นปีศาจที่ดุร้ายเสียจริง“อู๋อิง ใบไม้ชนิดนี้ เจ้าต้องใช้อีกมากเท่าไหร่”“อีกแค่ถังเดียวแล้ว สีนี้ขาดอีกไม่มาก ข้าแค่ต้องการนำมาต้มอีกแค่ถังเดียวเท่านั้น”“ดี เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า เสร็จแล้ว







