ตอนที่ 9
เจ้าบ่าว...เต่าตัวหนึ่ง?
ภายใต้ผ้าคลุมเจ้าสาวนั้นไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวภายใต้ผ้าปิดหน้ามงคลนั้นกำลังรู้สึกอย่างไรแต่ก็คงคาดเดากันได้ไม่ยากเจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีกับเต่าตัวหนึ่งจะไปมีสีหน้าแบบใดได้อีก...
“เริ่มพิธีได้” เสียงของผู้นำพิธีดังขึ้นเมื่อเจ้าสาวและตัวแทนเจ้าบ่าวอย่างเต่ามงคลเข้าถึงโถงทำพิธีแล้ว “บ่าวสาวทำพิธีคำนับฟ้าดิน”
พิธีคำนับเริ่มขึ้นแล้วหลิงฉงหลงเข้าพิธีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นางในยามนี้รู้สึกห่อเหี่ยวนักแต่ก็ต้องตามน้ำไปทั้งอย่างนี้
“หนึ่งคำนับฟ้าดิน”
ฉงหลงถูกอาจินประครองให้เตรียมหันหลังไปทำพิธีคำนับที่หนึ่ง นางเตรียมโค้งคำนับครั้งแรก ทว่ายังไม่ทันจะได้โค้งคำนับกับมีเสียงดังมาจากด้านนอกโถงพิธีเสียงก่อน
“ช้าก่อน รีบหยุดพิธีก่อน!!!”
แขกเหรื่อมากมายที่ยืนมุงดูพิธีแต่งงานอยู่ด้านนอกห้องโถงต่างพา กันหันไปมองตามเสียงที่ดังขัดพิธีขึ้นมาเช่นเดียวกับคนซึ่งอยู่ในโถงทำพิธี
“ผู้ใดกล้ามาขัดงานมงคลสกุลกู้” นายท่านกู้เป็นผู้เอ่ยขึ้นเสียงดัง
“หากมาก่อกวนข้าจะตีสักสอนให้หนัก” ครั้งนี้เป็นกู้ฮูหยินที่เอ่ย ออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ด้านฉงหลงเองก็แม้อยากจะเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกดูเหตุการณ์เหลือเกินแต่ก็ถูกอาจินกระซิบกำชับเอาไว้อย่างรู้ทัน
“เหมือนมีคนกำลังถูกประคองเข้ามาทั้งที่บาดเจ็บใช่หรือไม่” เสียง ของแขกผู้หญิงซึ่งอยู่ด้านนอกห้องโถงทำพิธีเอ่ยขึ้น
“มีเลือดเต็มตัวไปหมด งานมงคลจะเห็นเลือดเช่นนี้ได้อย่างไร”
“มองไปแล้วคนที่ถูกประคองเข้ามาคล้ายคุณชายใหญ่กู้มาก ทีเดียว”
“ไม่ใช่แค่คล้ายเป็นคุณชายใหญ่กู้เลยต่างหาก”
เสียงของผู้คนเริ่มดังขึ้นไม่ขาดช่วง จนกระทั่งคนที่พวกเขากล่าวถึงนั้นถูกประคองมาถึงหน้าห้องโถงทำพิธีแล้วแขกต่างๆ จึงพากันหลีกทางให้เมื่อแน่ใจแล้วว่าผู้ที่ถูกประคองเข้ามาคือเจ้ากู้ซืออันซึ่งก็คือเจ้าบ่าวในพิธี มงคลในวันนี้
“ลูกแม่เหตุใดเจ้าจึงเป็นเช่นนี้” ฮูหยินใหญ่กู้รีบลุกไปดูบุตรชาย คนโตของนางที่ถูกประคองเข้ามา
“ระหว่างทางเกิดเหตุไม่คาดฝันเล็กน้อย” เสียงแหบพร่าเอ่ยตอบ “ท่านแม่ให้คนไปนำชุดมงคลของลูกมาทีเถิดขอรับ”
“ยังจะเอาชุดมงคลอะไรมาอีก ควรตามหมอมาดูอาการเจ้าก่อนเป็นอันดับแรกจึงจะถูก” ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้น
“นั้นสิเรียกหมอมารักษาเจ้าก่อน งานแต่งยกเลิกไปก่อนได้” กู้ฮูหยินแม้จะอยากให้งานแต่งงานสำเร็จลุล่วงเพียงใดแต่เห็นบุตรชายบาดเจ็บถึงเพียงนี้แล้วก็ไม่อาจฝืนต่อไปได้จริงๆ อีกทั้งแขกเหรื่อมากมายก็เห็นกันพร้อมเพียงแล้วว่ากู้ซืออันบุตรชายนางบาดเจ็บไม่ใช่หนีงานแต่ง วันนี้หากงานยกเลิกไปก่อนก็จะไม่ถูกนำไปลือในด้านเสียหายแน่
“ลูกยังทนไหวขอรับ ให้คนไปนำชุดมงคลของลูกมาด้วย” ชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิม “กู้ซือเฉินไปนำชุดมาให้ข้า” เขาตั้งใจเอ่ยสั่งน้องชายตนอย่างเจาะจง
“แต่...” กู้ซือเฉินอยากจะแย้งขึ้น
“ทำตามที่ข้าสั่ง”
เมื่อกู้สั่งย้ำกู้ซือเฉินจำต้องรีบไปทำตามคำสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
“รีบประคองคุณชายไปนั่งพักก่อน” กู้ฮูหยินเอ่ยสั่งคน
กู้ซืออันถูกประคองไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้างในทันที
“หมอ...รีบส่งคนไปตามหมอมาด้วย” นายท่านกู้เอ่ยสั่ง “หน้าคุณชายใหญ่เลอะไปเตรียมน้ำกับผ้าสะอาดมาด้วย”
รอบข้างของฉงหลงยามนี้ค่อนข้างวุ่นวายทีเดียว นางเงียบมองพื้นเพื่อดูสถานะการณ์อยู่นางจึงสั่งให้อาจินประคองนางไปนั่งที่ด้านข้างของกู้ซืออัน
“เจ้าบาดเจ็บหรือ บาดเจ็บมากหรือไม่” นางเอ่ยถามเขาเสียงค่อนข้างดังเล็กน้อยเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ยินเสียงของนางที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมมงคล
“ก็ไม่มาก...” แต่ก็ไม่น้อย ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวที่สวมชุดมงคลเต็มยศเพื่อเขาในวันนี้
“จริงหรือ...เช่นนั้นเหตุใดคนอื่นๆ ถึงดูตื่นตระหนกกันนัก เจ้าต้อง หลอกข้าอยู่แน่น้ำเสียงของเจ้าก็ดูอ่อนแรงต้องบาดเจ็บหนักแน่” นางไม่เชื่อ ที่เขาบอกตั้งใจจะเปิดผ้าคลุมหน้าออกเพื่อมองให้ชัดด้วยตัวเอง
กู้ซืออันเองก็รู้ทันว่านางอยากจะเปิดผ้าคลุมหน้าออก จึงได้คว้ามือ ของนางเอาไว้ก่อน
“เจ้ายังเปิดผ้าคลุมหน้าไม่ได้”
“แต่ข้าอยากเห็นเจ้า…เจ้าไม่ยอมให้ข้าเห็นแสดงว่าต้องเจ็บหนัก แน่ เช่นนั้นไม่สู้ยกเลิกงานแต่งวันนี้ไปก่อน เอาไว้เจ้าหายแล้วพวกเราค่อยให้ท่านป้าหาวันมงคลให้ใหม่”
“บาดแผลของข้าไม่กระทบการเข้าพิธีแต่งงานไม่จำเป็นต้อง ยกเลิกงานแต่ง”
“หรือไม่เอาอย่างนี้ดีหรือไม่เจ้านั่งอยู่ตรงนี้ก็พอ ส่วนข้ายืนเข้าพิธีกับเต่าที่เป็นตัวแทนของเจ้าก็พอ”
“มีเจ้าบ่าวตัวเป็นๆ อยู่ต่อหน้าเจ้า...หลิงฉงหลงเจ้ายังกล้าจะเลือกแต่งกับเต่าตัวหนึ่งแทนข้า”
“ไม่ใช่นะข้าแค่กลัวเจ้าบาดเจ็บทำพิธีจะกระทบกับบาดแผลมากไป”
“ถึงแผลจะกระทบก็ไม่ต้องใช้เต่าเป็นตัวแทนข้าหรอก” ไม่เพียงเอ่ยเปล่า ชายหนุ่มยังมองไปทางพ่อบ้านของจวนซึ่งในมือยามนี้ยังอุ้มเต่าตัวหนึ่งซึ่งเกือบจะได้เป็นตัวแทนเขาเข้าพิธีแต่งงานกับนางแทนไปแล้วหากเขามาขัดขวางพิธีเอาไว้ไม่ทัน
ชายหนุ่มสะบัดมือไล่ไปทางที่พ่อบ้านอุ้มเต่าอยู่และเอ่ยออกมาโดยไม่มีเสียงว่า นำมันออกไปซะ
ซึ่งก็แน่นอนว่าพ่อบ้านประจำจวนส่งเต่าให้สาวใช้นำออกไปจากที่โถงพิธีในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ผู้เป็นนายน้อยเอ่ยสั่งซ้ำอีก
ไม่เพียงแค่พ่อบ้านของจวนเท่านั้นที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้อย่างชัดเจนทั้งแขกเหรื่อและทุกคนในสกุลกู้ต่างก็ได้ยินการสนทนาของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจนเนื่องด้วยทุกคนนั้นย่อมอยากได้ยินเรื่องของผู้อื่นอย่างต้องการใส่ใจอยู่แล้วจึงได้พากันเงียบเพื่อฟังการสนทนาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างตั้งใจ
บรรยากาศและเหตุการณ์งานแต่งของสกุลกู้เป็นอย่างไรแน่นอนว่าพรุ่งนี้คงรู้กันไปทั่ว งานแต่งที่แต่เดิมถูกสงสัยว่าถูกบังคับก็ถูกสยบลงด้วยคำยืนกรานจะเข้าพิธีแต่งงานให้ได้ของคุณชายใหญ่กู้ที่ถึงแม้จะบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวแต่ก็ดึงดันจะเข้าพิธีแต่งงานให้เสร็จสิ้นให้ได้
อีกทั้งระหว่างพิธีที่มีสายตาจับจ้องมากมายจากทุกคนทั่วบริเวณก็มองออกมาได้อย่างชัดเจนว่าคุณชายใหญ่กู้นั้นมีความสัมพันธ์กับเจ้าสาวที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมมงคลไม่ธรรมดาเลย
“หนึ่งคำนับฟ้าดิน”
“สองคำนับบิดามารดา”
“สามสามีภรรยาคำนับกันและกัน”
“ส่งตัวเข้าห้องหอ”
พิธีดำเนินจนเสร็จสิ้น นายท่านกู้และบุตรชายคนรองรับหน้าที่ดูแลเลี้ยงต้อนรับแขกที่มาร่วมงานตามมารยาทของเจ้าภาพ
ส่วนกู้ฮูหยินนั้นตามไปดูอาการของบุตรชายที่ถูกพาไปรักษาตัวทันทีเมื่อถูกส่งตัวเข้าห้องหอ
ห้องหอถูกใช้เป็นสถานที่รักษาของกู้ซืออัน ยามนี้ห้องด้านหน้ามีหลิงฉงหลงกับกู้ฮูหยินรออยู่อย่างร้อนใจ
“ท่านหมอบุตรชายข้าเป็นอย่างไรบ้าง” นางเอ่ยถามทันทีที่ท่าน หมอเดินออกมา
“บาดแผลตามร่างกายไม่สาหัสนัก มีจุดเดียวที่บาดเจ็บหนักหน่อย คือที่ไหล่ซ้ายซึ่งถูกฟันเป็นทางยาวระวังอย่าให้ถูกน้ำต้องใส่ยาและเปลี่ยนผ้าทำแผลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้ง ข้าจะสั่งยาสำหรับดื่มและทาแผลให้”
ตอนพิเศษ : ข่าวดีครั้งใหม่เรือนใหญ่สกุลกู้ในยามเช้าอากาศปลอดโปร่ง แสงแดดอุ่นสาดต้องใบไม้เขียวชอุ่ม ด้านในเรือนหรู หลิงฉงหลงนั่งพิงหมอนอิงอยู่บนตั่ง ดวงหน้าอิ่มเอิบแฝงรอยแดงระเรื่อเพราะอาการแพ้ท้อง มือบอบบางลูบหน้าท้องแบนราบที่เพิ่งเริ่มมีกำลังจะมีชีวิตใหม่เติบโตอยู่ในนั้นกู้ซืออันก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าเปี่ยมยิ้ม ดวงตาคมดุที่ปกติแฝงความเข้มงวดกลับอ่อนโยนอย่างที่สุดยามทอดมองภรรยา“วันนี้อาการดีขึ้นบ้างหรือไม่ เจ้ายังกินข้าวเช้าได้น้อยนัก ข้าห่วง”“ข้าเพียงเวียนศีรษะเล็กน้อย…ไม่เป็นอะไรหรอกท่านพี่”หลิงฉงหลงเอ่ยเสียงแผ่วแต่แววตาเต็มไปด้วยความสุข นางก้มมองหน้าท้องตนเองพลางยกยิ้มอ่อนหวาน“ครั้งนี้ ข้ามั่นใจว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นสตรีน้อยแน่ ๆ”กู้ซืออันหัวเราะเบา ๆ มือใหญ่ลูบเส้นผมนางอย่างเอ็นดู“จะเป็นบุตรชายหรือบุตรสาวก็ล้วนเป็นสายเลือดของเรา ข้าไม่ปรารถนาอื่นใดนอกจากให้เจ้าแข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก”ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ดังใกล้เข้ามา เด็กชายวัยห้าขวบผู้เป็นบุตรคนโตวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น“ท่านแม่! นี่จริงหรือไม่ ข้าจะมีน้องจริง ๆ หรือ!?”หลิงฉงหลงยกยิ้มพลางอ้าแขนรับลูกชายเข้ามากอด“จร
ตอนพิเศษ : ความฝันที่ไม่อยากฝันยามราตรีเงียบสงัด แสงจันทร์ลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานเล็ก กู้ซืออันนอนหลับตาพริ้มเคียงข้างภรรยาอย่างที่เคยทุกคืน แต่คืนนี้…กลับต่างออกไปภายในความฝัน เขาพบว่าตนเองยืนอยู่ในเรือนว่างเปล่า ทุกสิ่งที่เคยอบอุ่นกลับเย็นเยียบไร้ผู้คน เสียงหัวเราะที่คุ้นหูหายไปจนหมดสิ้น เขาเดินไปทั่วทั้งเรือนแต่กลับไม่พบเงาของนางแม้แต่น้อยแล้วภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า — หลิงฉงหลงยืนอยู่กลางลาน แต่ใบหน้างดงามกลับเย็นชา แววตาไร้แววอ่อนโยนที่เคยมีให้เขา“ซืออัน…ข้ามิได้รักท่านอีกต่อไปแล้ว”หัวใจของเขาราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ มือใหญ่เอื้อมไปคว้าแต่กลับว่างเปล่า ร่างของนางถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเลือนหายไปกับหมอกจาง“ฉงหลง! อย่าไป… อย่าทิ้งข้า!” เสียงตะโกนของเขาแตกพร่า สะท้อนก้องไปทั่วความว่างเปล่าความหนาวเหน็บบีบรัดจนหายใจไม่ออก ความหวาดกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนถาโถมเข้ามาในใจชายผู้ไม่เคยยอมแพ้แก่สิ่งใดกู้ซืออันสะดุ้งตื่นในยามดึก เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก เขาหันไปมองคนข้างกายทันทีหลิงฉงหลงยังคงนอนหลับสนิท แสงจันทร์อาบไล้เรือนร่างบอบบางในอ้อมผ้า
ตอนที่ 36เพื่อนางข้าไม่เกี่ยงหากต้องโหดเหี้ยมหนี้ที่นายอำเภอฉางต้องชดใช้ถูกเรียกเก็บเป็นก้อนๆ เพราะอีกฝ่ายมีหนี้สิ้นมากหลายแห่ง แน่นอนว่าเงินเพียงเล็กน้อยไม่ได้สำคัญถึงกับที่กู้ซืออันจะรอไม่ได้ มีลูกหนี้เป็นนายอำเภอถือเป็นการดีเสียอีก อีกทั้งอำนาจและเส้นสายของนายอำเภอฉางตั้งหากที่พอจะสำคัญในสายตากู้ซืออันอยู่บ้างเรื่องของฉางกู๋เขาให้คนตามดูจนแน่ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายออกไปจากเมืองต้าไห่แล้วจริงๆ อีกทั้งเหมือนจะลงใต้เพื่อเดินทางไปที่บ้านเดิมของสกุลฉาง แม้ฉางกู๋จะยอมจากไปแต่โดยดีทว่ากู้ซืออันย่อมไม่อาจวางใจได้ว่าในอนาคตคนผู้นี้จะคิดหวนกลับมาทำร้ายฮูหยินตัวน้อยของตนอีกหรือไม่แน่นอนว่าเขาย่อมต้องลงมือก่อนที่จะนั่งรออีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาแก่แค้นหรือไม่และจะใช้วิธีการใดและเวลาใดเพราะฉะนั้นในคืนหนึ่งกู้ซืออันจึงมีคำสั่งการหนึ่งให้จางจงคนสนิทไปทำนั่นก็คือหามือดีสักหายคนไปจัดการหันแขนหักขาฉางกู๋ผู้นั้นซะ โดยให้ทำให้เหมือนว่าเป็นฝีมือของพวกโจรที่ต้องการปล้นชิงทรัพย์คนที่คิดร้ายกับฮูหยินของเขา แม้ชายหนุ่มจะไม่คิดเอาชีวิตแต่ก็ไม่คิดให้คนผู้นั้นอยู่ครบสามสิบสองส่วนในร่างกายอยู่แล้ว“อย่าให้เห
ตอนที่ 35ทำผิดก็ต้องชดใช้คืนนั้น หลังจากขับไล่ฉางกู๋ออกไปแล้ว นายอำเภอฉางมิอาจข่มตาหลับได้ทั้งคืน ความคิดถึงชื่อเสียงและเกียรติยศของตระกูลฉางวนเวียนอยู่ไม่หยุดสุดท้ายเมื่อฟ้าเริ่มสว่าง เขาจึงตัดสินใจพาตัวเองไปยัง จวนสกุลกู้ ด้วยท่าทีที่ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาที่หน้าจวน คนใช้ของสกุลกู้ต่างประหลาดใจที่เห็น ขุนนางผู้ทรงอำนาจแห่งเมืองนี้ ยอมก้าวลงจากเกี้ยวด้วยตนเอง แถมยังไม่แสดงอำนาจข่มใด ๆ ดั่งเคย หากแต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังเมื่อกู้ซืออันก้าวออกมาต้อนรับ เขาเห็นชัดว่านายอำเภอฉางโค้งคำนับลึก แววตาที่เคยเชิดชูศักดิ์ศรีบัดนี้เต็มไปด้วยการยอมอ่อนข้อ“คุณชายกู้… ข้ามาครานี้เพื่อกล่าวคำขออภัยต่อท่านและฮูหยินโดยตรง เรื่องที่หลานโง่เขลาของข้าได้ก่อไว้ ข้าขอยอมรับผิดทั้งหมด”เสียงของเขาหนักแน่น แต่ฟังออกชัดเจนว่าฝืนกล้ำกลืนความอับอายเอาไว้เต็มที่กู้ซืออันยกยิ้มจาง ๆ ไม่ได้แสดงความโกรธเคืองหรือรีบร้อนตอบรับ เพียงเอ่ยช้า ๆ ราวกับให้ถ้อยคำของอีกฝ่ายก้องสะท้อนอยู่ในโถง “นายอำเภอฉาง…ถ้อยคำนี้ ข้าเฝ้ารอมาเนิ่นนานแล้ว”ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งจวน ทุกคนจับตามองการเผชิญหน้าของสองตระกูลอย่างระทึ
ตอนที่ 34 เริ่มลงมือ หลายวันต่อมา ในเรือนของนายอำเภอฉาง บรรยากาศกลับไม่ สงบดังเดิมเสียงฮูหยินใหญ่ตวาดลั่นออกมาจากห้องโถง “ท่านไปเล่นการ พนันอีกแล้วใช่หรือไม่! ข้าถึงได้ยินข่าวว่ามีเจ้ามือจากนอกเมืองมาตามทวง หนี้ถึงหน้าประตูเรือน!”นายอำเภอฉางขมวดคิ้ว หน้าดำแดงเพราะทั้งโกรธและอับอาย “พวกนั้นมันใส่ความข้า! ข้ามีหน้าที่การงานทั้งตำแหน่ง ใครจะกล้าออกมาเอาเรื่องกับข้าอย่างเปิดเผยเล่า”“แต่คนทั้งเมืองเขาเริ่มซุบซิบนินทาแล้วว่า นายอำเภอฉางเป็นหนี้ บ่อนจนหัวโต หากเรื่องนี้ลามไปถึงผู้ตรวจการ เจ้าคิดหรือว่าตำแหน่งของ เจ้าจะมั่นคง!”คำพูดนั้นทำให้เขาหน้าซีดลงเล็กน้อย แม้จะพยายามข่มอารมณ์ แต่เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นตรงขมับในขณะเดียวกัน คนสนิทของเขารีบเข้ามารายงานเบา ๆ“ท่านนายอำเภอ…มีข่าวว่ามีคนลือกันว่า ท่านรับสินบนจากพ่อค้าหลายราย ทั้งยังเกี่ยวพันกับการลักลอบสมุนไพรต้องห้าม”นายอำเภอฉางสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้าง “เรื่องนี้…ใครเป็นคนปล่อย!”คนสนิทก้มศีรษะต่ำ “ข้าน้อยยังไม่รู้แน่ชัด เพียงแต่ได้ยินว่าข่าวลือเริ่มแพร่ไปตามโรงเตี๊ยมกับตลาด คนพูดกันหนาหูนัก…”เขากำหมัดแน่น กัดฟันกรอด “เป็นใคร…เป็นใ
ตอนที่ 33 เฝ้ารอโอกาส กว่าที่หลิงฉงหลงจะตั้งตัวตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็กินเวลาไปกว่าสามวันเต็มๆ แล้ว กู้ซืออันยังไม่ยอมให้นางออกไปดูที่ร้านฮวาเซียงด้วยตนเอง นางรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นห่วงกลัวว่านางไปเห็นด้วยตาตนเองแล้วจะเกิดอารมณ์อ่อนไหวอีกแต่ถึงอย่างนั้นแม้นางไม่ได้ไปด้วยตัวเองแต่ก็ต้องเรียกสวีมี่อิงผู้ดูแลร้านเข้ามารายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเพลิงที่เผาไหม้มี่อิงรายงานกับนางว่าทุกอย่างในส่วนของร้านและที่เก็บของภายในร้านที่เก็บสินค้าเอาไว้เป็นส่วนใหญ่นั้นถูกเผาจนเหลือเพียงแค่เศษซาก ทุกอย่างเสียหายจนหมดสิ้น รายการความเสียหายเล่มหนึ่งถูกยื่นมาพร้อมกับการรายงานให้ฟัง แน่นอนว่าหญิงสาวรับรายงานนี้เอาไว้ด้วยใจที่สั่น หากไม่ติดว่ามีผู้เป็นสามีคอยกุมมือให้กำลังใจอยู่ทุกขณะหญิงสาวก็คงไม่อาจกลั้นน้ำตาหรือความอ่อนไหวนี้เอาไว้ได้อีกโชคดีที่ส่วนของบ้านเล็กๆ ของนางที่ถนนหมายเลขสิบสามไม่ได้รับความเสียหายไปด้วย เพราะกำแพงกั้นระหว่างกันนั้นค่อนข้างจะแน่นหนาแข็งแรงอีกทั้งไม่มีหลังคาหรือส่วนใดของเรือนที่ยื่นใกล้ชิดกันจนเพลิงจะสามารถลุกลามมาถึงได้หลิงฉงหลงอดคิดไม่ได้หากนางต้องสูญเสียบ้านหลั