"ไสหัวไปได้แล้ว มาทำตัวเป็นโรคจิตหน้าบ้านคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงหา!"
หญิงสาวในชุดนอนสีขาวสายเดี่ยวลายการ์ตูนแบบเจ้าหญิง เธอเปิดฉากต่อว่าชายหนุ่มคนเดิมทันที เขายังอยู่ในชุดเดิมเมื่อตอนเย็น นี่คงจะมานั่งเฝ้าจนถึงตอนนี้สินะ คงจะว่างน่าดูล่ะสิท่า...
"พี่มาขอโทษวิวกับลูก"
เขารู้ว่าตอนนี้วิวกำลังโกรธเขามาก เพียงแค่คำขอโทษคำเดียวไม่สามารถชดเชยความเจ็บปวดและเรื่องร้าย ๆ ที่เขาทำไว้ได้ อันนี้เขาย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี เขาถึงต้องพยายามเข้าหาสองแม่ลูกและไถ่โทษกับความผิดที่เคยกระทำ
"เพื่อ? กลับไปได้แล้วรบกวนเวลานอนลูก" เธอรำคาญตาจนแทบไม่อยากมองหน้าเขาด้วยซ้ำ แต่ถ้าเขาไม่ไปวินก็จะไม่ยอมนอนเป็นแน่
"พี่ขอเข้าไปก่อนได้ไหม พี่ยังมีเรื่องต้องคุยกับวิวนะ"
ดวงตาภายใต้กรอบแว่นยังคงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร เขาอยากอยู่ใกล้ ๆ เธอกับลูก หกปีแล้วที่เขาต้องอยู่กับความโดดเดี่ยว วิวกับลูกเองก็คงไม่ต่างกัน เขาอยากรู้ว่าสองคนแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่อย่างไรในช่วงเวลาที่ไม่มีเขา
"มีอะไรค่อยคุยกันวันหลังวันเดียวจบ พรุ่งนี้แปดโมงหนูจะไปรอที่ร้าน___ร้านกาแฟหน้ามหาลัย ไม่อยากคุยต่อหน้าลูก"
เธอรู้นิสัยของเขาดี ก็ในเมื่อก่อนเธอเป็นแฟนเขานี่ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจและถ้าอยากได้อะไรอยากทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ หากเธอไม่ใจเย็นและใช้อารมณ์ เกิดลูกได้ยินหรือเข้ามาเจอพ่อกับแม่มีปัญหากัน เธอก็กลัวลูกจะเสียใจและคิดมาก เธอขอไปเคลียร์กับเขาเองดีกว่า
"งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปนะ" เขายอมตอบตกลงแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายทำตาละห้อยแอบเสียดายอยู่หลายส่วน
"อือ" วิวเตรียมตัวจะกลับเข้าบ้านไป รู้สึกโชคดีที่อย่างน้อยเขายอมไปง่าย ๆ
"วิวไปไหน เปิดประตูให้พี่ก่อนสิครับ"
"ว่าไงนะ!"
เธอนึกว่าเขาจะถอดใจแล้วยอมกลับไปดี ๆ ใครจะคิดว่าเขายังคงหน้าด้านยืนกรานจะเข้ามาให้ได้ เธออยากจะหักคอไอ้ผู้ชายคนนี้ซะจริง ๆ
"วินเรียกพี่ด้วย นั่นไง ๆ "
"......"
ท่าทางดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมา เขาเขย่งตัวโบกมือไปยังด้านหลังของเธอ หากไม่ติดว่าประตูหน้าบ้านเธอสูงมากเขาคงปีนเข้ามาแล้ว ทำไมเขาถึงไม่ทำตัวให้สมกับสภาพหน้าตาตัวเองบ้างนะ ภายนอกดูสุภาพเป็นผู้ใหญ่มีความคิด แต่สิ่งที่เธอเห็นต่างจากคนอื่นก็คือแค่เหมือน นิสัยที่แท้จริงของเขานะเหรอ? เรียกว่าหาดีไม่ได้
"วิวครับเปิดประตูหน่อยพี่อยากเข้าไปหาวิน พี่อยากบอกลูก" ชายหนุ่มอ้อนวอนแม่ของลูกตาละห้อย
"บอกว่าอะไร ถ้าบอกว่าพี่เป็นพ่อน่ะไม่ต้อง บอกให้แล้ว" เธอหมุนตัวกลับจากมองตามเขาไปยังระเบียงบ้านที่มีเจ้าเด็กไม่ยอมนอนมาโบกมือหยอย ๆ อยู่
"จริงเหรอ วิวยอมบอกลูกแล้วใช่ไหม"
เขาดีใจจนหุบยิ้มไม่อยู่ ตอนแรกยังกังวลกลัวว่าเธอจะเกลียดเขาจนไม่อยากให้ลูกรู้ว่าเขาเป็นพ่อด้วยซ้ำ พอได้ยินแบบนั้นจากปากเธอก็โล่งใจไปได้เปราะหนึ่งแล้ว อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาส
"ก็เออน่ะสิ" เธอพูดจาไม่ดีกับเขา แต่เขาดันยิ้มให้เธอนี่นะ ประสาท!
"ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริง ๆ พี่ขอเข้าไปหาวินหน่อยได้ไหม?"
ใจหนึ่งเธอก็ไม่อยากให้เขาเข้ามาเหยียบบ้านเธออยู่แล้ว แต่เพราะลูกชายของเธอยืนมองและส่งยิ้มให้นั่นแหละที่ทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธ วินคงตื่นเต้นที่จะได้เจอพ่อเขาสินะ ใช่ว่าเธอไม่รู้ วินรอเขามาตลอดเพียงแค่เธอพาเขามาไม่ได้ก็เท่านั้น ต่อให้เธอกับเขาจะไม่ได้อยู่ในสถานะคนรัก แต่วินกับเขาก็คือสถานะที่ตัดกันไม่ขาดอยู่แล้ว
"วินหลับก็กรุณาไสหัวกลับไปด้วย"
เธอตัดสินใจเปิดประตูบ้านให้เขา แต่แทนที่เขาจะรีบเข้าบ้านกลับรีบวิ่งไปค้นอะไรซักอย่างในรถ หาอยู่ไม่นานก็หอบกระเป๋าเป้มาใบหนึ่ง วิ่งหน้าบานเข้าบ้านเธอพร้อมกับเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ และไม่เพียงขอบคุณปากเปล่าเท่านั้น เขายังถือวิสาสะยกมือขึ้นลูบศรีษะคนตัวเล็กกว่า อย่างที่เคยทำในวันวานที่คบกัน
"ขอบคุณนะครับตัวเล็ก" เขาเอ่ยสรรพนามเดิม ๆ ออกมา ทำเอาหญิงสาวอึ้งไปชั่วขณะ แววตาสั่นไหวเล็กน้อยแต่เพียงไม่นานก็ปรับให้เป็นอย่างปกติ
"เสนียด อย่ามาแตะ" เธอปัดมือเขาออกให้ดูไม่รุนแรงมากนัก นั่นเพราะมีคนจับตามองการกระทำทั้งเธอและเขาอยู่ตลอดเวลา เธอทำได้เพียงกัดฟันฝืนยิ้มเอ่ยรอดไรฟัน
"ขอโทษครับ"
เขาดูสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังก้าวเท้าตามเธอเข้าบ้านไป เขากลัวเธอจะทนไม่ไหวแล้วหันมาซัดเขาอยู่เหมือนกัน อย่างวันนี้ตอนเย็นปากเขายังไม่หายช้ำเลือดเลยด้วยซ้ำ แต่จะให้ทำอย่างไรได้นอกจากยอมรับผิด เขาเสียใจและโทษตัวเองซ้ำ ๆ มาตลอดทางที่แอบตามเธอกับลูกมา
หลังจากอาละวาดเขาแล้วมีวินเข้ามาขัดจังหวะ วิวก็พาลูกออกมาทันที เธอหลบเข้าไปอยู่ในบ้านจนดึกดื่น ส่วนเขาเองก็นั่งรอไม่ยอมไปไหน พรุ่งนี้จึงจะหาโอกาสเข้าไปที่ร้านเพื่อบอกความจริงกับเพื่อนเขา และเพื่อนวิวที่ต่างก็งงเป็นไก่ตาแตก
เวลานี้เขาขออยู่กับลูกกับเมียก่อนแล้วกัน
"พ่อครับ พ่อมานอนกับวินเหรอ?"
วินดีใจวิ่งตาตื่นลงมาจากชั้นบน วินาทีที่ได้ยินคำว่า"พ่อ" มาจากปากเด็กชายตัวน้อย หัวใจของเขารู้สึกอุ่น ๆ ขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาดีใจที่ลูกไม่เกลียดเขา แถมยังตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอเขาอีกต่างหาก เขาสัญญากับตัวเองเลยว่า ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาจะอยู่เพื่อทำให้สองคนแม่ลูกมีแต่ความสุข เขาจะไม่ทำตัวหมาไม่รับประทานและเเสนเฮงซวยเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
"วินหล่อไหมครับพ่อ?""อื้อหื้อ หล่อได้ครึ่งของพ่อแล้วครับ"สองพ่อลูกแต่งตัวหล่อเหลาแข็งกันไม่มีใครยอมใคร เขาที่สวมชุดสูทเรียบหรูตามแบบฉบับ ส่วนลูกชายคนเดียวซึ่งโตขึ้นก็ยิ่งหล่อได้พ่อมาเต็ม ๆวินที่ตอนนี้เริ่มโตขึ้นมาแล้ว เขาสวมชุดแบบเดียวกับพ่อเพียงต่างกันที่ขนาดไซส์ แต่ใจเขานั้นเป็นหนุ่มกว่าพ่อในเวลานี้ด้วยซ้ำ วินในวัยแปดขวบยืนเสยผมเก๊กหล่อจนพอใจ ผู้เป็นพ่อเองกลับไม่ได้ห้ามเอาแต่หัวเราะจะห้ามได้อย่างไรกันก็เขาเป็นคนสอนลูกให้ทำแบบนี้เองหากวิวของเขามาเห็นเข้าคงเกิดอาการปวดหัวเป็นแน่ เขาเคยเป็นคนจอมเนี๊ยบและเจ้าระเบียบเข้าขั้น แต่พอมีลูกมีเมียความเจ้าระเบียบนั้นกลับหายไป เหลือไว้ให้เมียเขาเป็นคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"พอๆ ไปกันเถอะครับเดี๋ยววิวจะรอนานนะ""ครับพ่อ"วินพยักหน้ารับพร้อมกับเดินคู่กับผู้เป็นพ่ออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้เป็นวันสำคัญของวิว เป็นวันที่เธอนั้นเรียนจบ ความฝันที่เธอตั้งใจนั้นเป็นจริงแล้ว เธอเคยถูกดับฝันเพียงเพราะเขาคนนี้ และเขาเองนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเธอ
"อื้อ"เธอเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา นั่นก็เพียงพอกับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ขออะไรนอกจากชีวิตลูกกับวิวหลังจากนี้มีเพียงรอยยิ้มแห่งความสุขเจ้าของร่างบางซึ่งสวมเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีขาวตัวบางแบบที่เธอนั้นชอบใส่ ท่ามกลางลมทะเลในช่วงตอนกลางคืน ทำเอาเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยชวนเธอกลับเข้าไปยังห้องพักด้านใน"วิวหนาวไหม กลับเข้าข้างในดีกว่านะ""ไม่ค่ะ อากาศกำลังดีเลย หนูอยากอยู่ตรงนี้สักพัก "เธอหันกลับมาบอกเขา พร้อมกับเหยียดกายนอนลงมองท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน ภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน บรรยากาศโดยรอบให้ความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ คนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนแบบสบาย ๆ กลับจ้องมองคนตัวเล็กตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มและนอนลงเบียดเข้ากับร่างของเธอ"อยากอยู่สองต่อสองก็ไม่บอก" เขาเล่นมุกกรุ่มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนตัวเล็ก"จะบ้าเหรอ อยากอยู่อะไรกันเล่า""แล้วอมยิ้มทำไม""หน้าพี่ตลกนี่"เธอก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงแล้วเขาหล่อมากต่างหาก หล่อแบบมองแล้วอดยิ้มชื่นชมไม่ได้ สายตาชื่นช
"ฮือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ"เสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจเมื่อรู้ความจริงว่าลูกในท้องไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย ทุกการสูญเสียล้วนแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงเธอทำงานหนักมานานหลายปี แม้คุณหมอจะบอกแล้วว่าที่เธอแท้งนั้นตัวเด็กเองก็ไม่แข็งแรงและไม่สมบูรณ์ ต่อให้เก็บไว้อย่างไรก็ต้องยุติการตั้งครรภ์อยู่ดี แต่เธอกลับหลีกหนีความเจ็บปวดและเสียใจไม่ได้"แม่วิวอย่าร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ถ้าแม่วิวเเข็งเเรงน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราแน่นอน อย่าร้องนะครับ โอ๋ๆ"แต่ทว่าความเจ็บปวดกลับถูกปลอบประโลมด้วยดวงใจอีกดวงของเธอ อ้อมกอดจากลูกชายตัวน้อยที่นอนกอดแม่บนเตียงคนไข้ด้วยกัน พร้อมกับคำพูดปลอบโยนแววตาใสซื่อนั้น ทำให้เธอพยายามหยุดร้องไห้และเพ่งมองเด็กน้อยที่เป็นลูกชายคนโตของเธอ วินเวลานี้เองก็มองแม่ด้วยดวงตาสั่นน้อย ๆ หากเป็นปกติเด็กตัวเท่านี้ควรที่จะร้องไห้งอแง ซึ่งก่อนหน้านี้วินเป็นแบบนั้นแต่พอเห็นพ่อกับแม่อ่อนแอลงพร้อมกันวินน้อยกลับเข้มเเข็ง เพราะความรักและสงสารพ่อกับแม่ แม้จะเสียใจและแอบเสียดายที่ไ
หมอและพยาบาลต่างวิ่งมาพาร่างหลับไหลเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขามองตามด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกบีบเจ็บจนหายใจไม่ออก ขาสองข้างต่างพร้อมใจกันอ่อนแรงทรุดฮวบลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเขาเพิ่งจะขอบคุณเทวดาฟ้าดินขอบคุณวิวที่มอบโอกาสให้เขา แต่ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเขานัก หรือนี่เขากำลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำงั้นหรือ?จะโหดร้ายได้เพียงนี้เชียวหรือ? ลงโทษเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องลงกับคนที่เขารักด้วย!"ฮือ พ่อครับพ่อ"เสียงลูกชายตัวน้อยที่ร้องไห้ตาแดงโอบกอดเขาไว้ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงแม่กับน้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ที่พึ่งเดียวก็คืออ้อมกอดแข็งแกร่งและอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ"ครับวิน"แม้จะอ่อนแรงและปวดร้าวแค่ไหน แต่เพราะคำว่าพ่อเขาต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อโอบกอดและปกป้องลูกไว้ เขาออกแรงกอดลูกมากขึ้นสองพ่อลูกกอดกันกลมหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงประตูกั้นระหว่างเขากับเธอไว้ เขาทำได้เพียงแค่รอ รออย่างมีความหวังว่าเธอกับลูกจะปลอดภัย"แม่เป็นอะไร ฮือ แม่กับน้องเป็นอ
ทำไมเขาถึงทั้งเจ็บจี๊ด และดีใจแปลก ๆ ดีใจที่เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับจ้องมองมาด้วยแววตายากเกินจะคาดเดา และที่ทำเขาเจ็บจี๊ดนั่นก็คือประโยคที่เธอเอ่ยใช่แล้ว หากวิวเป็นคนแบบนั้นเขาคงไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ วิวที่เขารักคือผู้หญิงอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อก่อนเธออาจจะดูหัวอ่อนก็จริง แต่พอมีลูกเธอกลับสู้ชีวิตและผ่านมันมาได้หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่กลับมาเจอเขาเธอก็คงจะใช้ชีวิตกับลูกตามลำพังต่อไป แต่เพราะโลกเหวี่ยงให้เขากลับมา ร้องขอเทวดาก็ไม่สนใจจะพาเขากลับออกไป ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกระหว่างทิ้งอดีตและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบัน หรือเลือกที่จะมีระยะห่างเช่นเดิม และจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย"พี่โชคดีมากเลยที่เจอวิว"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่กลับหนักแน่น เขามันเป็นคนเลวก็จริง แต่ดันเป็นคนเลวที่โชคเข้าข้างให้มาเจอกับผู้หญิงที่เเสนดีเช่นเธอ"อื้อ โชคดีเป็นของพี่เถอะ โชคร้ายให้เป็นของหนูแล้วกัน"หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง เธอพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าและแววตากับปรากฏรอยยิ้มกริ่ม เขาเป็นโชคร้ายที่เธอยินดีรับอย่างเต็มใจ..."ฟังดูหดหู่จัง"
แต่ทว่าเธอกลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจนเขายังอึ้งตาโต จู่ ๆ วิวก็อารมณ์เสียและตวาดเขากลับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหน้ามืดอีกครั้ง ดีที่เขาอยู่ข้างกายและประคองร่างเธอไว้ได้ทัน"วิว! วิว หนูไหวไหม? ไปหาหมอกับพี่ดีกว่านะ"คนตัวโตไม่สนว่าจะโดนเธอหงุดหงิดใส่แม้แต่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผิดอะไรแต่เขาจะรับไว้เอง สิ่งเดียวที่สนใจและเป็นห่วงคือวิวกับลูก ยิ่งเห็นวิวสีหน้าดูไม่ดีแถมยังเป็นแบบนี้อีก เขาก็ยิ่งคิดหนักและอดเป็นห่วงไม่ได้"ไหว ไหว "น้ำเสียงจากที่แข็งกระด้างก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างคนอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายมีหลายอย่างที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย สักพักก็กลายเป็นโมโหและเหนื่อยมาก จนถึงขั้นเกือบจะเป็นลม หากไม่มีเขาหน้าเธอคงได้จุ่มลงหม้อน้ำซุปแทนเจ้าขาหมูเป็นแน่"วิวเป็นอะไรเหรอครับ"วินน้อยที่วิ่งกลับมาพร้อมกับถุงขนมในมือเข้ามาเจอแม่ในสภาพอิดโรยก็ตกใจ รีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งเข้าช่วยพ่อพยุงแม่ไปนั่งพัก แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็อยากดูแลและปกป้องแม่เช่นกัน"แม่หน้ามืดอีกแล้วครับ"