"วินคือลูกพี่ใช่ไหม?" เมื่อเธอให้วินไปรับพี่นนท์พร้อมกับรถเมย์ คำถามแรกที่ถามเธอก็คือคำถามสิ้นคิดนี่ไง
"ขอคำถามแบบมีสมองหน่อยสิคะ" เธอตอบกลับเสียงเรียบ ต่างจากอีกคนที่อารมณ์สูงปรี๊ดจนหน้าแดงตัวแดงไปหมด
"วิว พี่ถามดี ๆ "
"สนิทกันขนาดที่จะต้องเรียกแบบนี้แล้วเหรอคะ?" เธอตอบไม่ตรงคำถามเลยสักนิด ยิ่งเหมือนจุดฉนวนระเบิดอารมณ์ของเขาให้ลุกฮือ
"เธอเก็บวินไว้ เธอเก็บเด็กคนนั้นไว้ คนที่เธอบอกว่าเป็นลูกพี่!"
"นี่จบนอกมาได้ไงเนี่ย ก็บอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ลูกใครก็ไม่รู้จะให้มารับผิดชอบ ไล่ตะเพิดเหมือนหมูเหมือนหมาอยู่ไม่ใช่เหรอ"
เธอก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เป็นเขาเองแท้ ๆ ที่ไม่ต้องการเธอกับลูกตั้งแต่เเรก
"ตอนนั้น ตอนนั้น…"
พอเจอประโยคคำพูดของเธอสาดใส่หน้าจัง ๆ เขากลับพูดไม่ถูก มันก็จริงอย่างที่เธอบอกนั่นแหละ วันนั้นเขาเองที่ไล่เธอกับลูกไปให้ไกล เขาในตอนนั้นเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เหมือนยืมร่างกายเพื่อให้ดูเหมือนคนแต่จิตใจกลับดำมืด
แม้แต่ความสงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยังไม่มี แค่เพราะตอนนั้นเขาคิดว่าเธอต้องการจะจับเขาหรือใครก็ตามมารับผิดชอบเด็กในท้อง เขามั่นใจว่าตัวเองป้องกันอย่างดีแต่ก็อาจจะมีโอกาสพลาดตอนไหนก็ได้ เพราะคืนสุดท้ายที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงและบอกเลิกกัน ตอนนั้นเขาเองก็เมามากและก็เผลอข่มเหงคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนก่อนจะมอบตำแหน่งอดีตแฟนให้เธอในวันต่อมา หรืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาต้องมายืนเถียงกับเธอ นั่นก็เพราะเขารู้สึกได้ว่าวินมีบางอย่างที่คล้ายเขา
"จะตอนนั้นตอนไหนก็ไม่ต้องสนใจแล้ว ต่างคนต่างอยู่"
เธอไม่อยากวุ่นวายแล้วจริง ๆ เธอโกรธและยังแค้นใจไม่หาย แต่อีกใจก็อยากเลิกแล้วกับคนแบบนี้เสียที เธอไม่ได้เรียกร้องอย่างเช่นเมื่อก่อน ตอนนี้เธอดูแลวินได้โดยไม่ต้องมีเขาในชีวิต
"ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ เพราะถ้านั่นเป็นลูกพี่พี่ก็ต้องรับผิดชอบไง"
นั่นเขาคิดไหมนะ ก่อนจะพ่นคำพูดเหล่านั้นออกมา รับผิดชอบงั้นเหรอ? แล้ววันที่เธอต้องการให้เขาทำแบบนั้น เขาทำมันไหม? ก็ไม่...
"มั่นใจเหรอว่าลูกตัวเอง ถ้าเป็นลูกคนอื่นล่ะ แล้วถ้าจะรับผิดชอบทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก สะเหล่ออยากรับผิดชอบตอนนี้ไม่สายไปเหรอคะ?"
"......"
ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก มันก็จริงอย่างที่เธอด่าเขานั่นแหละ ทำไมไม่แสดงความรับผิดชอบออกมาตั้งแต่แรก เขาไม่กล้าเถียงเธอหรือตอบโต้เลยด้วยซ้ำ หากจะบอกว่าตอนนั้นเขาไม่เชื่อเธอ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันเพียงแค่เขาเจอวินครั้งแรก เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ดึงดูดเขาละวิน จะดีแค่ไหนหากเขาเป็นพ่อของเด็กคนนั้น
"วิว พี่จะไม่โกรธวิวเลยถ้าวิวจะตบจะตีพี่ยังไงก็_"
เพียะ! ขอมาเธอก็จัดให้ อดทนรอวันนี้มาตั้งหกปี วันที่นิ้วทั้งห้าเรียงชิดและฟาดเข้าเต็มแรงจนใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นแดงเถือกพร้อมกับรอยมือเด่นชัด เธบตบเขาจนหน้าชาไปทั้งแถบ แต่กลับยังไม่สะใจเลยสักนิด
"วะ วิวจะ"
ผัวะ! ไม่หนำใจเพียงแค่เขาขยับปากเธอก็ซัดเข้าอีกหนึ่งกำปั้น ใจเธออยากซัดเขาให้น่วม ให้สมกับที่ทำเธอเจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ให้สมกับที่ทิ้งลูกเธอให้ไร้พ่อมีเพียงแม่ที่ต้องเลี้ยงเขามาโดยลำพัง ส่วนคนเห็นแก่ตัวอย่างเขากลับไปใช้ชีวิตสุขสบายที่เมืองนอก คนแบบนี้ไม่ควรเสนอหน้ามาให้เธอได้เจอจนเป็นเสนียดตาเลยสักนิด
"ถ้าไม่อยากนอนจมกองเลือดก็กลับไปซะ! อย่าเสนอหน้ามาให้หนูกับลูกเห็นอีก!" ต่อให้เธอจะโกรธเขาแค่ไหน สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองกลับไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด นั่นเพราะแท้จริงแล้ว เธอหาใช่คนป่าเถื่อนไร้เหตุผลเสียที่ไหน
"หึ วินเป็นลูกพี่จริง ๆ" ชายหนุ่มขยับแว่นที่เกือบหลุดออกให้เข้าที่ พร้อมกับยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือดที่ซึมตรงมุมปาก เขาโดนเธอทั้งตบทั้งต่อยแต่กลับยิ้มได้ ตรงข้ามกับสายตาที่หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอนั้นกลับไม่สนใจและคล้ายกับความคุมอารณ์เดือดพล่านไม่อยู่ จึงตะโกนใส่หน้าเขาจัง ๆ
"คิดว่าลูกใครหา! ออกมาจากไข่ตัวเองแท้ ๆ ยังจะมาถามว่าลูกตัวเองไหม เฮงซวยที่สุด โง่เอ้ย!" เธอโกรธจนหน้าส่ัน วินาทีนั้นหากมีอาวุธใกล้มือโซ่ได้กลายเป็นศพอย่างแน่นอน
"วิวครับ~ "
บุคคลแห่งสวรรค์มาช่วยชีวิตผู้เป็นพ่อได้ทันเวลา เขาดีใจจนไม่อาจเก็บรอยยิ้มนี้ได้อีก ชายหนุ่มยิ้มหน้าบานโดยไม่สนความเจ็บ เขามองแม่ของลูกที่กำลังรีบปรับอารมณ์ให้เย็นลง สลับกับมองเจ้าตัวน้อยหน้าหล่อที่วิ่งเข้าหาแม่อย่างไม่รู้เรื่องราว
"ครับ วินกลับมาแล้วเหรอ? ลุงนนท์ล่ะครับ" เชื่อเลยว่ามนุษย์แม่สามารถอดทนต่ออารมณ์ทุกอย่าง และเผยส่วนที่จะทำให้ลูกสบายใจและรู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ โซ่ที่เคยทำพลาดเห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกผิดเขายิ้มทั้งน้ำตาคลอ
"ลุงนนท์ยังคุยธุระไม่เสร็จครับ เลยให้วินมาดูแลลุงโซ่ต่อ" วินตอบกลับพลางยิ้มกว้างอย่างคนดีใจ ดีใจที่จะได้ดูแลผู้ชายคนนั้นงั้นหรือ?
"อึก"
คนตัวสูงทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาโผลเข้ากอดเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองด้วยความคิดถึงและรู้สึกผิด เขารู้สึกเหมือนเป็นตราบาปในใจ แต่ก็บังคับตัวเองไม่ได้ หากวินรู้ว่าพ่อเขาเลือกที่จะทิ้งเขากับแม่ไปเพราะความหูเบาและขี้ขลาด วินยังจะอยากอยู่ใกล้หรือจ้องมองเขาด้วยสายตาแบบนี้อยู่ไหม? ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งกอดลูกแน่นขึ้น
"ปล่อยวินนะ!" วิวที่พอเห็นคนเลววิ่งเข้ามากอดลูกเธอแบบนั้นก็เกิดฉุนขึ้นอีกหน เธอพยายามดึงชายหนุ่มออกแต่ร่างนั้นกลับไม่ขยับเลยสักนิด
"ฮึก พี่ขอกอดวินหน่อยเถอะนะ พี่ขอ~" ปลายเสียงดูแผ่วและเบาลงพร้อมกับหยาดน้ำตาลูกผู้ชายไหลริน เขาไม่อายเลยสักนิดหากลูกและเมียจะเห็นความอ่อนแอของเขาวันนี้ เขายอม และจะยอมทุกอย่าง...
"วินหล่อไหมครับพ่อ?""อื้อหื้อ หล่อได้ครึ่งของพ่อแล้วครับ"สองพ่อลูกแต่งตัวหล่อเหลาแข็งกันไม่มีใครยอมใคร เขาที่สวมชุดสูทเรียบหรูตามแบบฉบับ ส่วนลูกชายคนเดียวซึ่งโตขึ้นก็ยิ่งหล่อได้พ่อมาเต็ม ๆวินที่ตอนนี้เริ่มโตขึ้นมาแล้ว เขาสวมชุดแบบเดียวกับพ่อเพียงต่างกันที่ขนาดไซส์ แต่ใจเขานั้นเป็นหนุ่มกว่าพ่อในเวลานี้ด้วยซ้ำ วินในวัยแปดขวบยืนเสยผมเก๊กหล่อจนพอใจ ผู้เป็นพ่อเองกลับไม่ได้ห้ามเอาแต่หัวเราะจะห้ามได้อย่างไรกันก็เขาเป็นคนสอนลูกให้ทำแบบนี้เองหากวิวของเขามาเห็นเข้าคงเกิดอาการปวดหัวเป็นแน่ เขาเคยเป็นคนจอมเนี๊ยบและเจ้าระเบียบเข้าขั้น แต่พอมีลูกมีเมียความเจ้าระเบียบนั้นกลับหายไป เหลือไว้ให้เมียเขาเป็นคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"พอๆ ไปกันเถอะครับเดี๋ยววิวจะรอนานนะ""ครับพ่อ"วินพยักหน้ารับพร้อมกับเดินคู่กับผู้เป็นพ่ออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้เป็นวันสำคัญของวิว เป็นวันที่เธอนั้นเรียนจบ ความฝันที่เธอตั้งใจนั้นเป็นจริงแล้ว เธอเคยถูกดับฝันเพียงเพราะเขาคนนี้ และเขาเองนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเธอ
"อื้อ"เธอเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา นั่นก็เพียงพอกับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ขออะไรนอกจากชีวิตลูกกับวิวหลังจากนี้มีเพียงรอยยิ้มแห่งความสุขเจ้าของร่างบางซึ่งสวมเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีขาวตัวบางแบบที่เธอนั้นชอบใส่ ท่ามกลางลมทะเลในช่วงตอนกลางคืน ทำเอาเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยชวนเธอกลับเข้าไปยังห้องพักด้านใน"วิวหนาวไหม กลับเข้าข้างในดีกว่านะ""ไม่ค่ะ อากาศกำลังดีเลย หนูอยากอยู่ตรงนี้สักพัก "เธอหันกลับมาบอกเขา พร้อมกับเหยียดกายนอนลงมองท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน ภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน บรรยากาศโดยรอบให้ความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ คนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนแบบสบาย ๆ กลับจ้องมองคนตัวเล็กตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มและนอนลงเบียดเข้ากับร่างของเธอ"อยากอยู่สองต่อสองก็ไม่บอก" เขาเล่นมุกกรุ่มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนตัวเล็ก"จะบ้าเหรอ อยากอยู่อะไรกันเล่า""แล้วอมยิ้มทำไม""หน้าพี่ตลกนี่"เธอก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงแล้วเขาหล่อมากต่างหาก หล่อแบบมองแล้วอดยิ้มชื่นชมไม่ได้ สายตาชื่นช
"ฮือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ"เสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจเมื่อรู้ความจริงว่าลูกในท้องไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย ทุกการสูญเสียล้วนแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงเธอทำงานหนักมานานหลายปี แม้คุณหมอจะบอกแล้วว่าที่เธอแท้งนั้นตัวเด็กเองก็ไม่แข็งแรงและไม่สมบูรณ์ ต่อให้เก็บไว้อย่างไรก็ต้องยุติการตั้งครรภ์อยู่ดี แต่เธอกลับหลีกหนีความเจ็บปวดและเสียใจไม่ได้"แม่วิวอย่าร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ถ้าแม่วิวเเข็งเเรงน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราแน่นอน อย่าร้องนะครับ โอ๋ๆ"แต่ทว่าความเจ็บปวดกลับถูกปลอบประโลมด้วยดวงใจอีกดวงของเธอ อ้อมกอดจากลูกชายตัวน้อยที่นอนกอดแม่บนเตียงคนไข้ด้วยกัน พร้อมกับคำพูดปลอบโยนแววตาใสซื่อนั้น ทำให้เธอพยายามหยุดร้องไห้และเพ่งมองเด็กน้อยที่เป็นลูกชายคนโตของเธอ วินเวลานี้เองก็มองแม่ด้วยดวงตาสั่นน้อย ๆ หากเป็นปกติเด็กตัวเท่านี้ควรที่จะร้องไห้งอแง ซึ่งก่อนหน้านี้วินเป็นแบบนั้นแต่พอเห็นพ่อกับแม่อ่อนแอลงพร้อมกันวินน้อยกลับเข้มเเข็ง เพราะความรักและสงสารพ่อกับแม่ แม้จะเสียใจและแอบเสียดายที่ไ
หมอและพยาบาลต่างวิ่งมาพาร่างหลับไหลเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขามองตามด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกบีบเจ็บจนหายใจไม่ออก ขาสองข้างต่างพร้อมใจกันอ่อนแรงทรุดฮวบลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเขาเพิ่งจะขอบคุณเทวดาฟ้าดินขอบคุณวิวที่มอบโอกาสให้เขา แต่ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเขานัก หรือนี่เขากำลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำงั้นหรือ?จะโหดร้ายได้เพียงนี้เชียวหรือ? ลงโทษเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องลงกับคนที่เขารักด้วย!"ฮือ พ่อครับพ่อ"เสียงลูกชายตัวน้อยที่ร้องไห้ตาแดงโอบกอดเขาไว้ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงแม่กับน้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ที่พึ่งเดียวก็คืออ้อมกอดแข็งแกร่งและอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ"ครับวิน"แม้จะอ่อนแรงและปวดร้าวแค่ไหน แต่เพราะคำว่าพ่อเขาต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อโอบกอดและปกป้องลูกไว้ เขาออกแรงกอดลูกมากขึ้นสองพ่อลูกกอดกันกลมหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงประตูกั้นระหว่างเขากับเธอไว้ เขาทำได้เพียงแค่รอ รออย่างมีความหวังว่าเธอกับลูกจะปลอดภัย"แม่เป็นอะไร ฮือ แม่กับน้องเป็นอ
ทำไมเขาถึงทั้งเจ็บจี๊ด และดีใจแปลก ๆ ดีใจที่เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับจ้องมองมาด้วยแววตายากเกินจะคาดเดา และที่ทำเขาเจ็บจี๊ดนั่นก็คือประโยคที่เธอเอ่ยใช่แล้ว หากวิวเป็นคนแบบนั้นเขาคงไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ วิวที่เขารักคือผู้หญิงอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อก่อนเธออาจจะดูหัวอ่อนก็จริง แต่พอมีลูกเธอกลับสู้ชีวิตและผ่านมันมาได้หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่กลับมาเจอเขาเธอก็คงจะใช้ชีวิตกับลูกตามลำพังต่อไป แต่เพราะโลกเหวี่ยงให้เขากลับมา ร้องขอเทวดาก็ไม่สนใจจะพาเขากลับออกไป ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกระหว่างทิ้งอดีตและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบัน หรือเลือกที่จะมีระยะห่างเช่นเดิม และจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย"พี่โชคดีมากเลยที่เจอวิว"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่กลับหนักแน่น เขามันเป็นคนเลวก็จริง แต่ดันเป็นคนเลวที่โชคเข้าข้างให้มาเจอกับผู้หญิงที่เเสนดีเช่นเธอ"อื้อ โชคดีเป็นของพี่เถอะ โชคร้ายให้เป็นของหนูแล้วกัน"หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง เธอพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าและแววตากับปรากฏรอยยิ้มกริ่ม เขาเป็นโชคร้ายที่เธอยินดีรับอย่างเต็มใจ..."ฟังดูหดหู่จัง"
แต่ทว่าเธอกลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจนเขายังอึ้งตาโต จู่ ๆ วิวก็อารมณ์เสียและตวาดเขากลับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหน้ามืดอีกครั้ง ดีที่เขาอยู่ข้างกายและประคองร่างเธอไว้ได้ทัน"วิว! วิว หนูไหวไหม? ไปหาหมอกับพี่ดีกว่านะ"คนตัวโตไม่สนว่าจะโดนเธอหงุดหงิดใส่แม้แต่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผิดอะไรแต่เขาจะรับไว้เอง สิ่งเดียวที่สนใจและเป็นห่วงคือวิวกับลูก ยิ่งเห็นวิวสีหน้าดูไม่ดีแถมยังเป็นแบบนี้อีก เขาก็ยิ่งคิดหนักและอดเป็นห่วงไม่ได้"ไหว ไหว "น้ำเสียงจากที่แข็งกระด้างก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างคนอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายมีหลายอย่างที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย สักพักก็กลายเป็นโมโหและเหนื่อยมาก จนถึงขั้นเกือบจะเป็นลม หากไม่มีเขาหน้าเธอคงได้จุ่มลงหม้อน้ำซุปแทนเจ้าขาหมูเป็นแน่"วิวเป็นอะไรเหรอครับ"วินน้อยที่วิ่งกลับมาพร้อมกับถุงขนมในมือเข้ามาเจอแม่ในสภาพอิดโรยก็ตกใจ รีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งเข้าช่วยพ่อพยุงแม่ไปนั่งพัก แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็อยากดูแลและปกป้องแม่เช่นกัน"แม่หน้ามืดอีกแล้วครับ"