"วิว วิว แกเป็นอะไร?"
"วิวครับ วิวตื่น ๆ "
เธอกลับมาได้สติอีกครั้งเมื่อมือน้อยแตะ ๆ ตรงแก้มของเธอ เรียกสติที่หลุดลอยออกไปไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนให้กลับเข้าที่เข้าทาง เธอไม่คิดว่าจะเป็นเขาคนนั้น อุตส่าห์ตั้งใจจะอยู่ให้ห่างแต่เบื้องบนกลับไม่เป็นใจ ส่งเขามาอยู่นั่นแหละแถมมาตอนที่เธออยู่กับลูกอีก เธอไม่อยากให้เขารู้เรื่องวิน แต่คิดอีกทีเขาไม่สนใจอยากรับผิดชอบตั้งแต่แรก คงไม่มีอะไรให้กังวลสินะ...
"อะ เอ่อ เปล่า ๆ ไม่ได้เป็นอะไร แล้วนี่แกเข้ามาทำไมไม่เคาะประตู" วิวเปลี่ยนเรื่องโดยการหันไปติงเพื่อนแทนการมองหน้าเขา
"ก็พวกเรารอแกไม่มาสักที ฉันก็เลยพาหุ้นส่วนคนใหม่มาซะเลย นี่พี่โซ่ เป็นเพื่อนพี่นนท์ เดี๋ยวพี่นนท์จะตามมาอีกสักพัก แกล้างมือแล้วก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพี่เขาก่อน"
"ไม่!" เธอเผลอตะโกนเสียงดังอย่างลืมตัว
"มะ ไม่อะไร แกเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?" รถเมย์ตกใจจนหน้าเหวอ โดยปกติวิวจะพูดจาดีมาตลอดไม่เคยตะโกนหรือใช้อารมณ์เหนือเหตุผลมาก่อน ทำเอาเธออดแปลกใจไม่ได้
"ไม่ ๆ มีอะไรขอโทษนะวิวเบลอ ๆ หน่อย" พอตั้งสติได้เธอก็รู้ตัวว่าพลาดแล้ว จึงรีบปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้เป็นปกติ
"สวัสดีดีค่ะ วิวนะคะ" เธอเอ่ยทักทายชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มแบบฝืนสุดชีวิต รถเมย์อาจจะไม่ได้สังเกตแต่เขากลับดูออก แต่ก็ไม่อยากแสดงออกอะไรมาก เลยทำได้เพียงพยักหน้าและรับไหว้หญิงสาว
"วินครับ สวัสดีคุณลุงหน่อยสิครับ" รถเมย์สะกิดเด็กน้อยที่เอาแต่จ้องมองผู้มาใหม่อย่างไม่คลาดสายตา
"สวัสดีครับคุณลุง" เด็กชายยกมือไหว้
"สวัสดีดีครับสุดหล่อ ชื่อวินเหรอ ลุงชื่อโซ่นะ มานี่หน่อยสิ" โซ่รีบกวักมือเรียกเด็กน้อยให้เข้ามาหาทันที เขารู้สึกถูกชะตาและถูกใจเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
"วิน" เธอเผลอจับตัวลูกชายไว้อีกแล้ว แววตากังวลฉายขึ้นมาวูบหนึ่ง เธอกลัวอะไรงั้นหรือ?
"ครับวิว?"
"มะ ไม่มีอะไรครับ แต่วิวว่าตัววินเลอะแป้ง ล้างมือล้างตัวก่อนแล้วค่อยไปหาคุณลุงดีกว่า เมย์แกพาคุณโซ่เข้าไปนั่งก่อนดีกว่าไหม?"
"หึ"
ชายหนุ่มสวมแว่นหัวเราะในลำคอทีหนึ่ง ตอนแรกเขาตั้งข้อสงสัยบ้างแล้ว แอบตกใจและอีกหนึ่งความรู้สึก ตอนนี้เขาเริ่มคิดอะไรบางอย่างได้ เหลือแค่รอคำตอบเท่านั้น
"ไม่เป็นไรพี่ไม่ถือ สุดหล่อออกไปรอพร้อมลุงไหมครับ" ปกติแล้วเขานับคำพูดในแต่ละวันได้ แต่มาครั้งนี้กลับพูดเก่งและหาเหตุผลจะพาเจ้าเด็กน้อยคนนี้มาให้ได้
"ให้วินออกไปอยู่กับพี่เขาก่อนก็ได้ วินรับแขกเก่งจะตาย คนที่ต้องล้างเนื้อล้างตัวน่าจะเป็นแกมากกว่านะวิว เดี๋ยวพวกเราไปรอนะ ไปครับวิน"
"วินไปได้ใช่ไหมครับวิว" วินจ้องเธอพร้อมกับรอคำตอบ เห็นแววตาอันใสซื่อของลูกเธอก็ไม่กล้าขัด เขาคงไม่รู้อะไรเยอะขนาดนั้นหรอกใช่ไหม? คิดได้ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าพร้อมกับปล่อยลูกไป
"ได้ครับ"
"มานั่งใกล้ ๆ ลุงหน่อยสิครับ"
พอเข้ามานั่งพักในห้องรับแขกที่เจ้าของร้านซึ่งเป็นภรรยาเพื่อนสนิทเขาเตรียมไว้ให้ ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวรีบเรียกเด็กน้อยคนนั้นเข้ามาหาทันที
"ครับคุณลุง" วินตอบตกลงอย่างว่านอนสอนง่าย
"หนูชื่ออะไรนะครับ" คนตัวสูงก้มลงถามด้วยน้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน บวกกับภายนอกเขาดูสุภาพเป็นผู้ใหญ่ จึงทำให้เด็กน้อยไม่ขัดขืนหากต้องเข้าใกล้เขา
"วินครับ ผมชื่อวิน"
"เป็นน้องชายของพี่วิวเหรอครับ?" ได้จังหวะโซ่ก็เปิดประเด็นคำถามที่อยากรู้ทันที
"เปล่าครับ วินเป็นลูกของวิวครับ" วินตอบกลับเสียงใส มือสองข้างวางอยู่ตรงระหว่างขาเดี๋ยวยืดตัวเดี๋ยวห่อตัว พร้อมกับจ้องมองชายสวมแว่นที่ดูหล่อเหลาน่ามองจนเด็กน้อยทนไม่ไหว
"ลูก เหรอ?~ ละ แล้วทำไมถึงเรียกวิว ไม่เรียกแม่ละครับ?"
เขารู้สึกหน้าชาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแต่ก็ยังยิงคำถามไม่หยุด เขาอยากรู้จริง ๆ เรื่องของสองคนนี้ และเขาต้องรู้ให้ได้
"เรียกแม่กลัววิวจะหาพ่อให้ไม่ได้ครับ" เด็กน้อยก็ช่างพูดช่างจา แถมยังไม่หยุดมองหน้าเขาแม้แต่วินาทีเดียว
"แล้วพ่อหนูล่ะครับ เขาไปอยู่ไหน?"
ในขณะที่ถามคำถามนั้น ใจเขาแทบจะหยุดเต้นเมื่อรอคำตอบ เขาไม่ได้เตรียมใจมาโดยเฉพาะ แต่เชื่อได้ว่าเขาเตรียมพร้อมหากสิ่งที่เขาต้องการรู้เป็นไปตามที่เขานั้นต้องการ
"ไม่รู้ครับ วิวไม่เคยบอกแต่คุณลุงอย่าถามถึงพ่อวินนะ เดี๋ยววิวร้องงอแงอีก วินโอ๋ไม่ไหว"
"อึก เหอะ"
เขาขำไม่ออกเลยสักนิด แต่เพราะอะไรทำไมเขาต้องฝืนยิ้มให้เด็กน้อยตรงหน้า นั่นก็เพื่อให้เด็กน้อยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของเขา เพราะแววตาชื่นชมอย่างเปิดเผยในดวงตากลมคู่นั้นอย่างไรเล่า
"คุณลุงรวยไหมครับ?" จู่เด็กน้อยก็ขยับเข้าใกล้เขา และถามเขาอย่างรอคำตอบ ทำเอาคนถูกจ้องถึงกับพูดตะกุกตะกัก
"หะ หา? รวย ๆ พอใช้ได้ครับ" เขาจะตอบอย่างไรดี ก็พอมีพอใช้ชนิดที่ตายเกิดใหม่สิบชาติก็ใช้ไม่หมด
"งั้นคุณลุงอยากเป็นพ่อผมหรือเปล่าล่ะ?"
"……"
"วิน!"
คนที่เข้ามาคั่นสถานการณ์ตกตะลึงและอึ้งจนหน้าเหวอนั่นก็คือวิว เธอรีบเข้ามาพร้อมกับเรียกชื่อลูกชายติดจะเสียงดัง เรียกสายตาทั้งสองคู่ให้มองตามทันที
"ขอโทษนะคะ ขอวินคืน"
เธอเดินเข้ามาพร้อมกับก้มลงทำท่าจะอุ้มลูกขึ้น แต่คงเพราะอุ้มไม่ไหวเลยเปลี่ยนเป็นการดึงเข้ากอดแทน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองจับแขนเด็กคนนั้นไว้อย่างลืมตัว พอตั้งสติได้ก็เห็นว่าเธอนั้นมองเขาตาแข็ง ตรงข้ามกันกลับพูดจาสุภาพกับเขา
"รบกวนคุณอยู่กับวินสักพักแล้ว งั้นขอพาวินกลับไปนอนนะคะ เดี๋ยวอีกไม่นานพี่นนท์ก็จะมาแล้วเชิญคุยกันตามสะดวกได้เลยค่ะ ไม่รบกวน"
"งั้นพี่รบกวนวิวหน่อยได้ไหม?" สรรพนามที่เปลี่ยนไปจนน่าขนลุก เธออยากจะอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แต่กลับต้องฝืนกลืนลงในอก
"วันนี้วิวไม่สะดวกค่ะต้องขอโทษจริง ๆ ต้องพาวินไปนอน"
"งั้นพี่จะนอนด้วย"
"…!!…"
หน้าไม่มียางอายบ้างเลยหรือไงกัน เขาพูดบ้า ๆ ออกมาแบบนี้ได้อย่างไร เธอแทบจะอดกลั้นตัวเองไม่ให้เผลอมือฟาดปากพล่อย ๆ ของเขาไม่ไหว อยู่ดี ๆ เกิดบ้าอะไรขึ้นมากันแน่!
"จะให้ถามต่อหน้าวิน หรือยอมไปคุยกันดี ๆ "
เธออยากจะเอามีดมาแทงแล้วควักไส้ไอ้ผู้ชายคนนี้จริง ๆ !
"วินหล่อไหมครับพ่อ?""อื้อหื้อ หล่อได้ครึ่งของพ่อแล้วครับ"สองพ่อลูกแต่งตัวหล่อเหลาแข็งกันไม่มีใครยอมใคร เขาที่สวมชุดสูทเรียบหรูตามแบบฉบับ ส่วนลูกชายคนเดียวซึ่งโตขึ้นก็ยิ่งหล่อได้พ่อมาเต็ม ๆวินที่ตอนนี้เริ่มโตขึ้นมาแล้ว เขาสวมชุดแบบเดียวกับพ่อเพียงต่างกันที่ขนาดไซส์ แต่ใจเขานั้นเป็นหนุ่มกว่าพ่อในเวลานี้ด้วยซ้ำ วินในวัยแปดขวบยืนเสยผมเก๊กหล่อจนพอใจ ผู้เป็นพ่อเองกลับไม่ได้ห้ามเอาแต่หัวเราะจะห้ามได้อย่างไรกันก็เขาเป็นคนสอนลูกให้ทำแบบนี้เองหากวิวของเขามาเห็นเข้าคงเกิดอาการปวดหัวเป็นแน่ เขาเคยเป็นคนจอมเนี๊ยบและเจ้าระเบียบเข้าขั้น แต่พอมีลูกมีเมียความเจ้าระเบียบนั้นกลับหายไป เหลือไว้ให้เมียเขาเป็นคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"พอๆ ไปกันเถอะครับเดี๋ยววิวจะรอนานนะ""ครับพ่อ"วินพยักหน้ารับพร้อมกับเดินคู่กับผู้เป็นพ่ออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้เป็นวันสำคัญของวิว เป็นวันที่เธอนั้นเรียนจบ ความฝันที่เธอตั้งใจนั้นเป็นจริงแล้ว เธอเคยถูกดับฝันเพียงเพราะเขาคนนี้ และเขาเองนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเธอ
"อื้อ"เธอเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา นั่นก็เพียงพอกับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ขออะไรนอกจากชีวิตลูกกับวิวหลังจากนี้มีเพียงรอยยิ้มแห่งความสุขเจ้าของร่างบางซึ่งสวมเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีขาวตัวบางแบบที่เธอนั้นชอบใส่ ท่ามกลางลมทะเลในช่วงตอนกลางคืน ทำเอาเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยชวนเธอกลับเข้าไปยังห้องพักด้านใน"วิวหนาวไหม กลับเข้าข้างในดีกว่านะ""ไม่ค่ะ อากาศกำลังดีเลย หนูอยากอยู่ตรงนี้สักพัก "เธอหันกลับมาบอกเขา พร้อมกับเหยียดกายนอนลงมองท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน ภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน บรรยากาศโดยรอบให้ความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ คนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนแบบสบาย ๆ กลับจ้องมองคนตัวเล็กตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มและนอนลงเบียดเข้ากับร่างของเธอ"อยากอยู่สองต่อสองก็ไม่บอก" เขาเล่นมุกกรุ่มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนตัวเล็ก"จะบ้าเหรอ อยากอยู่อะไรกันเล่า""แล้วอมยิ้มทำไม""หน้าพี่ตลกนี่"เธอก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงแล้วเขาหล่อมากต่างหาก หล่อแบบมองแล้วอดยิ้มชื่นชมไม่ได้ สายตาชื่นช
"ฮือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ"เสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจเมื่อรู้ความจริงว่าลูกในท้องไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย ทุกการสูญเสียล้วนแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงเธอทำงานหนักมานานหลายปี แม้คุณหมอจะบอกแล้วว่าที่เธอแท้งนั้นตัวเด็กเองก็ไม่แข็งแรงและไม่สมบูรณ์ ต่อให้เก็บไว้อย่างไรก็ต้องยุติการตั้งครรภ์อยู่ดี แต่เธอกลับหลีกหนีความเจ็บปวดและเสียใจไม่ได้"แม่วิวอย่าร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ถ้าแม่วิวเเข็งเเรงน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราแน่นอน อย่าร้องนะครับ โอ๋ๆ"แต่ทว่าความเจ็บปวดกลับถูกปลอบประโลมด้วยดวงใจอีกดวงของเธอ อ้อมกอดจากลูกชายตัวน้อยที่นอนกอดแม่บนเตียงคนไข้ด้วยกัน พร้อมกับคำพูดปลอบโยนแววตาใสซื่อนั้น ทำให้เธอพยายามหยุดร้องไห้และเพ่งมองเด็กน้อยที่เป็นลูกชายคนโตของเธอ วินเวลานี้เองก็มองแม่ด้วยดวงตาสั่นน้อย ๆ หากเป็นปกติเด็กตัวเท่านี้ควรที่จะร้องไห้งอแง ซึ่งก่อนหน้านี้วินเป็นแบบนั้นแต่พอเห็นพ่อกับแม่อ่อนแอลงพร้อมกันวินน้อยกลับเข้มเเข็ง เพราะความรักและสงสารพ่อกับแม่ แม้จะเสียใจและแอบเสียดายที่ไ
หมอและพยาบาลต่างวิ่งมาพาร่างหลับไหลเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขามองตามด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกบีบเจ็บจนหายใจไม่ออก ขาสองข้างต่างพร้อมใจกันอ่อนแรงทรุดฮวบลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเขาเพิ่งจะขอบคุณเทวดาฟ้าดินขอบคุณวิวที่มอบโอกาสให้เขา แต่ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเขานัก หรือนี่เขากำลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำงั้นหรือ?จะโหดร้ายได้เพียงนี้เชียวหรือ? ลงโทษเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องลงกับคนที่เขารักด้วย!"ฮือ พ่อครับพ่อ"เสียงลูกชายตัวน้อยที่ร้องไห้ตาแดงโอบกอดเขาไว้ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงแม่กับน้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ที่พึ่งเดียวก็คืออ้อมกอดแข็งแกร่งและอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ"ครับวิน"แม้จะอ่อนแรงและปวดร้าวแค่ไหน แต่เพราะคำว่าพ่อเขาต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อโอบกอดและปกป้องลูกไว้ เขาออกแรงกอดลูกมากขึ้นสองพ่อลูกกอดกันกลมหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงประตูกั้นระหว่างเขากับเธอไว้ เขาทำได้เพียงแค่รอ รออย่างมีความหวังว่าเธอกับลูกจะปลอดภัย"แม่เป็นอะไร ฮือ แม่กับน้องเป็นอ
ทำไมเขาถึงทั้งเจ็บจี๊ด และดีใจแปลก ๆ ดีใจที่เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับจ้องมองมาด้วยแววตายากเกินจะคาดเดา และที่ทำเขาเจ็บจี๊ดนั่นก็คือประโยคที่เธอเอ่ยใช่แล้ว หากวิวเป็นคนแบบนั้นเขาคงไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ วิวที่เขารักคือผู้หญิงอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อก่อนเธออาจจะดูหัวอ่อนก็จริง แต่พอมีลูกเธอกลับสู้ชีวิตและผ่านมันมาได้หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่กลับมาเจอเขาเธอก็คงจะใช้ชีวิตกับลูกตามลำพังต่อไป แต่เพราะโลกเหวี่ยงให้เขากลับมา ร้องขอเทวดาก็ไม่สนใจจะพาเขากลับออกไป ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกระหว่างทิ้งอดีตและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบัน หรือเลือกที่จะมีระยะห่างเช่นเดิม และจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย"พี่โชคดีมากเลยที่เจอวิว"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่กลับหนักแน่น เขามันเป็นคนเลวก็จริง แต่ดันเป็นคนเลวที่โชคเข้าข้างให้มาเจอกับผู้หญิงที่เเสนดีเช่นเธอ"อื้อ โชคดีเป็นของพี่เถอะ โชคร้ายให้เป็นของหนูแล้วกัน"หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง เธอพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าและแววตากับปรากฏรอยยิ้มกริ่ม เขาเป็นโชคร้ายที่เธอยินดีรับอย่างเต็มใจ..."ฟังดูหดหู่จัง"
แต่ทว่าเธอกลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจนเขายังอึ้งตาโต จู่ ๆ วิวก็อารมณ์เสียและตวาดเขากลับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหน้ามืดอีกครั้ง ดีที่เขาอยู่ข้างกายและประคองร่างเธอไว้ได้ทัน"วิว! วิว หนูไหวไหม? ไปหาหมอกับพี่ดีกว่านะ"คนตัวโตไม่สนว่าจะโดนเธอหงุดหงิดใส่แม้แต่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผิดอะไรแต่เขาจะรับไว้เอง สิ่งเดียวที่สนใจและเป็นห่วงคือวิวกับลูก ยิ่งเห็นวิวสีหน้าดูไม่ดีแถมยังเป็นแบบนี้อีก เขาก็ยิ่งคิดหนักและอดเป็นห่วงไม่ได้"ไหว ไหว "น้ำเสียงจากที่แข็งกระด้างก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างคนอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายมีหลายอย่างที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย สักพักก็กลายเป็นโมโหและเหนื่อยมาก จนถึงขั้นเกือบจะเป็นลม หากไม่มีเขาหน้าเธอคงได้จุ่มลงหม้อน้ำซุปแทนเจ้าขาหมูเป็นแน่"วิวเป็นอะไรเหรอครับ"วินน้อยที่วิ่งกลับมาพร้อมกับถุงขนมในมือเข้ามาเจอแม่ในสภาพอิดโรยก็ตกใจ รีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งเข้าช่วยพ่อพยุงแม่ไปนั่งพัก แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็อยากดูแลและปกป้องแม่เช่นกัน"แม่หน้ามืดอีกแล้วครับ"