21.00 น.
ณัฐนิชาเตรียมตัวเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊คเลื่อนดูไอเดียต่างๆก่อนนอนนิดหน่อยจู่ๆก็มีรูปภาพรูปหนึ่งทำที่เธอเห็นแล้วต้องรีบปิดโน๊ตบุ๊คทันทีเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะหาไอเดียอะไรต่อหญิงสาวหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อยภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่มันเป็นภาพร็อคเก็ตสีเงินที่เหมือนกับของเธออย่างมากมันทำเธอนึกถึงวันที่เธอได้ทำมันหายไป
เมื่อสามปีก่อนตอนที่เลี้ยงฉลองกับพวกป๋อมแป๋มเธอก็โดนท้าให้ดื่มน้ำเมาไปเป็นจำนวนมากทั้งที่เธอไม่เคยดื่มมาก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหวก็เลยพยายามที่จะพาตัวเองมาที่ห้องพักที่ลูกค้าเป็นคนจัดห้องไว้ให้ทีมของพวกเธอ
แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินสะเปะสะปะไปมาเพื่อที่จะกลับห้องพักนั้นจู่ๆก็มีผู้ชายมาลากเธอเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องมืดเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาของเขาเธอก็จำไม่ได้เพราะวันนั้นเธอเมาจนแทบไม่มีสติและไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านคนที่กำลังทำร้ายเธอ
เมื่อเรื่องเลวร้ายจบลงตอนนี้เธอก็รีบคว้าสิ่งที่มันปิดบังร่างกายเธอได้มาคลุมที่ตัวพยายามมองหาคีย์การ์ดห้องของเธอเมื่อเจอแล้วเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียวเธอรีบออกมาจากห้องบ้านั่นแล้วกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างเร็วที่สุดที่เธอโมโหตัวเองมากๆก็คือเธอดันขึ้นมาผิดชั้นทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น
เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่คิดที่จะบอกใครส่วนใครจะถามว่าใครเป็นพ่อของเจ้าสองแสบเธอก็จะเลี่ยงที่จะตอบตลอดเวลาแม้กระทั่งน้องสาวและเพื่อนของเธอที่ถามจนไม่อยากจะถามจนทุกวันนี้ก็หยุดถามไปเอง
วันต่อมา
ท่าอากาศยานภูเก็ต
หลังจากที่สองสาวพร้อมสองแสบนั่งเครื่องมาจากเชียงใหม่ในช่วงเกือบเที่ยงก็ถึงภูเก็ตในช่วงบ่ายนิดๆตอนนี้ทั้งสองแสบนอนหลับกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อลงเครื่องได้ป๋อมแป๋มก็เป็นคนอุ้มใยไหมส่วนณัฐนิชานั้นก็อุ้มลูกชายของเธอเดินมารอจุดนัดพบที่เมฆานั้นบอกกับป๋อมแป๋มเอาไว้
“โชคดีของเรานะที่เจ้าสองแสบไม่ร้องเลย...นี่ขนาดขึ้นเครื่องครั้งแรกนะเนี่ย”
ป๋อมแป๋มยืนกระซิบกับเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการโล่งใจที่การขึ้นเครื่องครั้งแรกของสองแสบนั้นเป็นไปได้ด้วยดี
“ตอนแรกฉันก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกัน...”
ณัฐนิชาเองคราแรกก็กังวลเหมือนกันแต่เมื่อทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดีก็นับว่าการมาครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการมาทำงานแล้วหละ
“คุณป๋อมแป๋ม..”
ธาดาคนสนิทของเมฆาเข้ามาทักทายหญิงสาวทั้งสอง
“อ้าวคุณเวสวัสดีค่ะ”
ป๋อมแป๋มหันมาทางเสียงเรียกเห็นว่าเป็นชายหนุ่มก็รีบสวัสดีทักทายเพราะเธอก็ไม่ได้เจอชายหนุ่มนานแล้วเหมือนกัน
“เชิญทางนี้เลยครับรถรออยู่ด้านหน้า”
ธาดารีบช่วยสองสาวยกกระเป๋าขึ้นรถแล้วพาขึ้นรถตู้คันหรูดิ่งตรงไปที่คฤหาสน์ทันที
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์
เมื่อรถแล่นเข้ามาในตัวคฤหาสน์ณัฐนิชาถึงกับละสายตาที่จะมองรอบๆตั้งแต่ทางเข้ามาไม่ได้เพราะมันช่างใหญ่โตสวยงามจนไม่น่าละสายตาตั้งแต่ปากทางเข้าเป็นสวนหย่อมขนาดกว้างที่จัดได้อย่างสวยงามร่มรื่นสบายตาเมื่อรถแล่นเข้ามาจนสุดคฤหาสน์หลังใหญ่ตระหง่านก็ปรากฏแก่สายตาของเธอด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเธอ
จึงหันไปหาป๋อมแป๋มที่นั่งข้างๆแต่ดูท่าเพื่อนของเธอนั้นดูจะตื่นเต้นกว่าเธอเสียอีกเล่นมองแทบจะทะลุกระจกรถเสียขนาดนั้นจนเธอเองต้องสะกิดให้ป๋อมแป๋มเลิกทำท่าทางแบบนั้นเสียที
ธาดาขับรถเลยคฤหาสน์หลังใหญ่มาด้านหลังเพื่อไปที่เรือนรับรองชายหนุ่มจอดรถได้หญิงสาวทั้งสองก็อุ้มเจ้าสองแสบที่กำลังหลับเพลินลงมาจากรถพร้อมเดินตามชายหนุ่มที่กำลังยกกระเป๋าพวกเธอเข้าไปในบ้าน
“คุณเมฆไปที่เกาะก่อนแล้วครับวันนี้คุณทั้งสองเดินทางมาไกลคุณเมฆบอกว่าให้พวกคุณพักที่เรือนรับรองที่นี่ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไปที่เกาะพร้อมผมนะครับ...ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะครับผมอยู่บ้านข้างๆ...พักผ่อนกันตามสบายนะครับ”
เมื่อธาดาดูแลเรื่องที่พักให้หญิงสาวและเด็กๆเรียบร้อยแล้วก็เสร็จหน้าที่ของเขาชายหนุ่มบอกกับทั้งสองว่าหากขาดเหลืออะไรให้ไปเรียกเขาได้ก่อนจะหันหน้าไปทางบ้านที่เขาพักให้ทั้งสองรู้ว่าเขาอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณนะคะ”
หลังจากที่ธาดาเดินออกไปแล้วป๋อมแป๋มกับณัฐนิชาก็พาเด็กๆมานอนในห้องที่ด้านในจัดเป็นฟูกปูเอาไว้ให้ลูกของเธออย่างดีทั้งสองจึงวางเด็กๆลงแล้วเดินออกมาคุยกันด้านนอก
“ที่นี่ร่มรื่นมากเลยนะ”
ป๋อมแป๋มเดินออกมาชมบรรยากาศด้านนอกเธออดเอ่ยปากชมไม่ได้ว่าที่นี่สวยงามและร่มรื่นมากจริงๆดูออกเลยว่าคนที่อยู่ที่นี่ต้องเป็นคนที่รักธรรมชาติอย่างมากเพราะต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ
“ลูกค้าเรานี่ดูแลเราดีจริงๆนะรู้ว่ามีเด็กๆมาด้วยก็จัดเตรียมที่พักให้อย่างดี”
ณัฐนิชายืนกอดอกอยู่ข้างๆกับป๋อมแป๋มเธอไม่คิดว่าลูกค้าที่ติดต่อให้ป๋อมแป๋มมาดูงานจะดูแลเทคแคร์ดีขนาดนี้
“ฉันบอกแล้วว่าลูกค้าเราคนนี้เพอเฟคที่สุดที่ฉันเคยเจอมาแล้วหละ”
ป๋อมแป๋มหันมายิ้มพร้อมใช้ไหล่ชนเพื่อนสาวเธอเล็กน้อยให้รู้ว่าที่เธอพูดมันไม่ผิด
“ขาดเหลืออะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ”
มัทนาเห็นรถที่ธาดาไปรับแขกมาที่เรือนรับรองเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาต้อนรับแขกด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าจะขาดเหลืออะไรแล้วเธอจะเป็นเจ้าบ้านที่บริการแขกไม่ดี
“คุณมัทสวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ”
ทั้งสองสาวกล่าวทักทายหญิงวัยห้าสิบกว่าด้วยท่าทีที่นอบน้อมและเป็นมิตร
“นี่นิชาเป็นคนออกแบบงานค่ะ”
ป๋อมแป๋มถือโอกาสแนะนำตัวเพื่อนรักกับลูกค้าที่จ้างพวกเธอมาทำงานให้ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเสียที
“หนูเองเหรอพึ่งเห็นตัวจริงก็วันนี้ฉันชื่นชมผลงานหนูมากเลยนะจ้ะ”
มัทนาหันไปยิ้มให้กับณัฐนิชาเธอคิดว่าคนที่ออกแบบฝีมือดีที่เธอชื่นชมผลงานจะอายุเยอะกว่านี้เสียอีกแต่เมื่อเห็นว่าตัวจริงเธอยังสาวยังสวยอยู่ก็เลยอดชื่นชมไม่ได้
“ขอบคุณค่ะคุณมัท”
ณัฐนิชาจะรู้สึกมีพลังในการทำงานทุกครั้งเมื่อมีคนชมในผลงานของเธอมันทำให้เธอรู้วึกว่าการจะสร้างผลงานมาแต่ละชิ้นที่เหนื่อยยากนั้นผลตอบแทนมันคุ้มค่า
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง