Masukมันเป็นเช้าที่แสนสวยงามเหลือเกิน...
กริชตื่นมาด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มหลังจากนอนหลับฝันร้ายมาหลายปี ลูกสาวตัวน้อยตื่นมากินนมแล้วหลับปุ๋ยต่ออีกทีเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการเล่นสนุกจนเกือบค่ำของเมื่อวาน ส่วนคนเป็นแม่ เขาเห็นเธอเดินออกไปรับลมภายนอกบ้าน แล้วเดินเปลือยเท้าไปบนหาดทราย โบกมือเล่นกับสายลมชวนให้นึกถึงนกน้อยที่รักความอิสรเสรี
กริชเดินตามหลังหญิงสาวมาเรื่อย ๆ ระมัดระวังไม่ให้เหยียบรอยเท้าเล็ก ๆ ที่เธอทิ้งไว้ เขารู้ว่าเมลานีเหมือนงานศิลปะที่พระเจ้าประณีตเป็นพิเศษ หรือเป็นใจรักของเขาลำเอียงจนมองเห็นแต่ความงดงามของเธอมากกว่าผู้หญิงทุกคนในโลก
แต่ก่อนเขาอาจเคยตั้งคำถามกับความรู้สึกของตนเองที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ด้วยความสับสนว่าโกรธ ผิดหวัง สงสาร รู้สึกผิด หรือแค่เสียดาย ถามตัวเองซ้ำ ๆ และวนเวียนหาคำตอบอยู่แต่เรื่องของเมลานีจนเหมือนคนยึดติดกับความแค้น
แต่วันนี้เขารู้แล้วว่าถ้ามีผู้หญิงสักคนที่ทำให้เขามีความรู้สึกได้หลากหลายและจมจ่อได้ขนาดนี้ เข้าใกล้ก็ว้าวุ่นไปหมด แต่ก็ไม่อยากผละออกหนีห่าง มันก็มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นก็คือความรัก
เมลานีหยุดลงที่ใต้ทิวสนเรียงรายราวกับเป็นปราการให้ขอบฝั่ง สายตาของเธอมองหาลูกสนเล็ก ๆ ที่อาจหล่นร่วงอยู่บ้าง แต่เช้าวันนี้ผืนทรายกลับสะอาด ไร้ร่องรอยของสิ่งอื่นปะปน
“หานี่หรือเปล่าคะ” กริชหงายฝ่ามือที่มีลูกสนเม็ดเล็ก ๆ ในถุงซิปล็อก “ลูกสนนี่เมลให้พี่ในวันเกิด พี่เก็บติดตัวไว้ตลอด เมลจำได้ไหมคะ”
“จำได้ค่ะ ลูกสนแห่งชัยชนะ” เมลานีสบตาของชายหนุ่ม มันมีทั้งรอยเจ็บช้ำและหวานซึ้งคลุกปนกันจนเป็นหนึ่งเดียว “พี่กริชเลยเอาชื่อ ไพน์ ที่แปลว่าต้นสนไปตั้งชื่อบริษัท”
“มันเป็นชื่อที่ดี ไพน์” ชายหนุ่มกำเก็บลูกสนในมือไว้เหมือนเรียกกำลังใจ
“พี่กริชเก่ง ชอบรถแล้วก็ทำตามฝันสำเร็จจนได้” หญิงสาวใช้เท้าเขี่ยทรายเหมือนกำลังวาดเล่น เธอไม่แปลกใจเลยที่เขาจะไปได้ไกลถึงจุดนี้ เขามีทั้งความสามารถและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
“พี่ทำรถยนต์ไฟฟ้าก็เพราะเมล คัปบอร์ดคาร์ เจ้ารถตู้กับข้าวของเมลไง” ชายหนุ่มมองตาเธอลึกซึ้ง อ่อนโยน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนของโลก เขาก็ยังเฝ้าคิดถึงแต่เธอ เมื่อครั้งที่ประชุมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์เรื่องโมเดลรถตัวใหม่ เขาก็นึกถึงวันที่เธอจับมือเขาแล้วออดอ้อนอยากมีรถเล็ก ๆ รูปร่างเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเหมือนตู้กับข้าว
ที่แท้ความฝันของเขาก็คือได้ทำตามฝันของเธอ...
ตอนที่อนุมัติโมเดลเจ้าคัปบอร์ดคาร์ เขาเคยจินตนาการด้วยซ้ำว่าเมลานีคงจะเห็นมันบ้างจากบนถนนหรือที่ไหนสักแห่ง และมันอาจจะทำให้หญิงสาวสะดุดใจหรือหวนคิดถึงผู้ชายเลว ๆ คนนี้ น่ารังเกียจเหลือเกินที่เขาอยากอยู่ในความคิดฝันของเมลานี อยากมีความสำคัญทั้งที่ไม่คู่ควรเอาเสียเลย
“เดี๋ยวพี่จะเอาเจ้าคัปบอร์ดคาร์มาให้เมลไว้ใช้สักคัน เมลฝันอยากมีรถน่ารัก ๆ แบบนี้นี่นะ” ชายหนุ่มเสียงอ่อนแต่ก็วาดหวัง ในขณะที่เมลานีเพียงยิ้มอ่อน ๆ ปฏิเสธ
“ตั้งแต่โดนจับปืนคารถ เมลก็ไม่เคยฝันถึงการมีรถอีกเลย”
ชายหนุ่มตัวชาเหมือนโดนคำสาปตรึงให้เป็นหินใต้พิภพ หนาวเย็นและมืดมิดไปกับคำตอบที่ได้รับ เป็นเขาเอง...เขาที่ทำร้ายเธอทุกอย่าง แม้แต่ความฝันเล็ก ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาก็บดขยี้จนเธอไม่กล้าฝัน
“เมล พี่อยากขอโทษกับทุกอย่าง พี่ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไง วันที่เดินเข้ามาในชีวิตเมลครั้งแรกมันอาจจะมีแต่ความคิดร้ายกาจ ความแค้นและการหลอกลวง แต่ขอให้เชื่อพี่เถอะว่าพี่รักเมลจริง ๆ ต่อให้อยากจะร้ายแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยทนได้ ทนไม่ได้เลย” เสียงทุ้มต่ำขาดห้วงในตอนท้าย ด้วยความเสียใจและรวดร้าว
“เมล พี่อยากดูแลเมล อยากดูแลลูก” เขากลัวเหลือเกิน ใต้ทิวสนวันนี้ไม่เหมือนวันก่อนนั้น
“หนูพายต้องการพี่กริช เมลรู้ว่าพี่จะเป็นพ่อที่น่ารัก”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







