LOGINซ่อน 2
“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ
“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบ
ติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”
“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
เมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต่กริชกลับเร่งจังหวะเข้าออกของนิ้วทั้งสองให้เร็ว ถี่และลึกขึ้น บดเน้นไปที่จุดอ่อนไหวภายในจนความฉ่ำชื้นของเธอไหลทะลัก เรียวขาทั้งสองแยกออกกว้างขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ทั้งยังขยับสะโพกรับจังหวะนิ้วของเขา ปากก็ไม่อาจจะสะกดกลั้นเสียงครางหวานไว้ได้อีก
“ดื้อนัก” เสียงคำรามลอดไรฟันมาจากคนที่ส่งเธอถึงฝั่งฝันด้วยนิ้วของเขา จากนั้นหมุนร่างบางที่แทบยืนไม่อยู่ให้หันหน้าไปชิดกับบานประตู ถลกกระโปรงไปกองที่เอวคอด รั้งแพนตี้สีหวานลงมาพ้นสะโพกกลมแน่น ส่งตัวตนแกร่งร้อนผ่าวเข้าไปแทนที่นิ้วที่นำร่องไปก่อน เสียบเสยจนสุดลำในคราวเดียว
“อ๊ะ เดี๋ยว” เมื่อบั้นเอวถูกกดให้ต่ำลง สองมือหนาของชายหนุ่มดึงสะโพกสาวให้เชิดขึ้นเพื่อโจนจ้วงได้เต็มรักและรุนแรงจนถึงแก่นเข้าไปอีก สองแขนเรียวเท้าบานประตูไว้เพื่อต้านทานแรงกระแทกเข้าออกไม่ยั้ง ยิ่งเขาสาวตัวตนเข้าออกยาว หนักหน่วง เธอยิ่งผวาร่างตาม เหมือนจะรับแรงรักครั้งนี้ในท่ายืนไม่ไหวอีก ร่างบางจึงหันกลับไปหวังขอร้องให้เขาทุเลาการสอดเสยลงบ้าง ไม่ทันได้เปล่งเสียงก็ถูกปากร้อนรุ่มครอบครองและดูดกลืนคำร้องขอทั้งหมด เหลือแต่เสียงอู้อี้ในลำคอ กริชตั้งใจจะลงโทษและปรนเปรอเธอให้แดดิ้นไปพร้อม ๆ กัน
จังหวะการบีบรัดของหญิงสาวถี่กระชั้นและชื้นแฉะเข้าไปอีก เอวบางพยายามส่ายดิ้นหนีด้วยความเสียวซ่านหวามไหว แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งล็อกแน่น กระแทกถี่ ๆ ซ้ำ จนจวนเจียนจะขาดใจ เข่าอ่อนยวบ เขาก็ปล่อยปากจากเธอ กระแทกจนสุดลำและรอฟังเสียงกรีดร้องที่ไพเราะที่สุด
“พี่กริช เมลไม่ไหว ขาอ่อนหมดแล้ว” หญิงสาวซบหน้าผากกับแผงประตู หายใจหอบสะท้าน ที่ยังทรงตัวอยู่ได้เพราะมีคนเบื้องหลังช้อนเอวหิ้วอยู่ แต่แล้วร่างก็ลอยขึ้นมาในอ้อมแขนของกริช ปลายทางของเขาคือเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ วางหญิงสาวลงได้ก็จัดการแยกขาเรียวขาวผ่องออกกว้าง มองกุหลาบชุ่มน้ำหวานตาวาว
“ไม่เอานะ” คำสั่งกึ่งอ้อนวอนของเมลานีมักได้ผลตรงข้ามเสมอเวลาอยู่บนเตียง เมื่อเรียวลิ้นร้ายของชายหนุ่มละเลงรัวไปบนเกสรที่แสนอ่อนไหวจากอารมณ์สูงสุดเมื่อครู่ พอถูกโจมตีอีกครั้งจึงเหมือนจะทนทานกับความหวานแหลมไม่ไหวอีก หญิงสาวสะบัดเอวหนี แต่กลับถูกช้อนสะโพกลอยขึ้นเพื่อให้เขาดื่มกินเธอได้ถนัดปาก
“อือ เสียว พี่กริช” สองมือของเมลานีผลักไสใบหน้าที่คลุกเคล้า ทรมานเธอจนตัวแอ่นออก แต่กลับไม่มีประโยชน์เมื่อชายหนุ่มมุ่งมั่นอยู่กับการตวัดเลีย ฉกฉวยความหวานราวน้ำผึ้งที่หลั่งไหลจากจุดกำเนิด ยิ่งดูดดื่มยิ่งทะลักทลายและสร้างความกระหายให้กับเขาอย่างไม่เคยพอ
“ไม่ พอแล้ว” หญิงสาวเกินกว่าเสียว ส้นเท้ากดจิกฟูกจมลึก ระบายความซ่านทรมาน จึงยิ่งเหมือนดีดเนินเนื้อสามเหลี่ยมร่อนหราเข้าหาปากของเขา เย้ายวน และงดงามจนชายหนุ่มแทบคลั่ง เร่งดูดเน้นติ่งเนื้อสีหวานจนเกิดเสียง สันจมูกโด่งตลอดจนใบหน้าคมคายคลุกเคล้า บดขยี้ไม่ปรานีกับร่างที่ดิ้นเร่า ๆ จนผมยาวสลวยหลุดลุ่ย สยายบนเตียง
หน้าหวานยามนี้แดงและเห่อร้อน หยาดน้ำตาซึมออกด้วยไม่อาจจะกดกลั้นความไหวหวาม จนจังหวะของการครางกระเส่าเสียงสะท้าน ร่างบางก็เกร็งกระตุก หวีดร้องเสียงหลง ส้นเท้าที่กดฟูกจมไร้เรี่ยวแรง ทั้งร่างคลายเขม็งด้วยความสุขสมไปอีกครั้ง
“หวาน” ชายหนุ่มเงยหน้าระรื่นขึ้นมามองหญิงสาวที่ระทดระทวยอยู่บนเตียง เขาปาดเลียรอบริมฝีปากตนเองที่ยังหลงเหลือคราบน้ำหวาน
...ยังหรอก เขายังไม่อิ่มเลยสักนิด เมลานีหวานจนเขาคลั่งทุกครั้ง และยิ่งหลงใหลเธอมากขึ้นทุกวินาที
กริชค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกจากตัวช้า ๆ ใช้โอกาสนี้ให้เมลานีพักช่วงสั้น ๆ จากนั้นสลัดอาภรณ์ท่อนล่างให้พ้นตัวไปลวก ๆ แล้วคร่อมตัวไปยังร่างภรรยา จัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน
“ท่าไหนก่อนดีคะ หืม” น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาขัดกับมือใหญ่ที่เคล้นคลึงอกอวบอิ่ม สลับกับขยำจนเนื้อขาวทะลักล้นออกมาตามซอกนิ้ว เม็ดทับทิมอีกข้างก็ถูกขบกัดปลุกอารมณ์สยิวขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่าแกล้ง อ๊ะ”
ความแข็งร้อนผ่าวค่อย ๆ แทรกซอยเหมือนหยอกเอินให้ยิ่งหวามไหวเข้าไปอีก หญิงสาวจึงเหยียดสะโพกขึ้นรับตัวตนของเขาด้วยตัวเอง เพราะทนความใจเย็นที่แสนยั่วยวนของเขาไม่ไหว ชายหนุ่มเกร็งรับกัดฟันกับความเสียวซ่าน ช้อนตัวเมลานีขึ้นมานั่งทั้งที่ช่วงล่างสอดประสานเชื่อมต่อ
“ร่อนเอวรับได้แบบนี้แสดงว่ายังแรงดี ควบหน่อยที่รัก”
กริชอ้อนเสียงแหบพร่า ยกสะโพกกระเด้งแทงสวนเป็นการท้าทายและกระตุ้นจนคนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหวีดร้อง ส่วนตัวเขาก็หัวเราะร้ายเมื่อถูกร่างเย้ายวนที่คร่อมขี่อยู่ทุบเข้าที่อก
“อยู่เฉย ๆ ค่ะ”
“ว้าว เอาเลย บรรเลงเองค่ะ”
เมลานีจัดการจูบปิดปากสามีเอาซะเลย ไม่อยากได้ยินเสียงหยอกของเขาให้ยิ่งเขินไปกันใหญ่ ตั้งใจจะเอาคืนโดยการควบขย่มให้เขาดิ้นแบบเธอบ้าง
“โอ๊ย ช้า ๆ เมล เดียวหักกันพอดี” เมลานีจะทำเขาแตกพ่ายตอนนี้ไม่ได้ เขายังอยากมีความสุขกับเธอให้นานกว่านี้ก่อน หน้าคมสากระคายจึงซุกลงคลุกที่ภูเขาหิมะขาวละเอียด ขบเม้มยอดทับทิมจนเธอหน้าเหย สองมือหนาก็ประคองสะโพกผายของหญิงสาวให้เคลื่อนคว้างวน ชะลอความเสียวซ่านของตัวเองแต่กลับเพิ่มแรงกระสันให้หญิงสาว
“หือ เมลจะตายอยู่แล้ว อ๊ะ”
นอกจากปากจะร้ายกาจ ตอนนี้เขายังใช้นิ้วบดขยี้ให้เธอได้ถึงฝั่งอีกครั้ง สลับกับการกระแทกสวนขึ้น พอหญิงสาวครางสะท้านเพราะเสร็จไปอีกรอบ เขาก็พลิกร่างอรชรลงเตรียมจัดการขั้นเด็ดขาด
“คนบ้า”
กริชขยับโยกแบบไม่ออมแรง ทุกจังหวะของการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับแรงกระเพื่อมของอกอวบอิ่มและเสียงครางอ่อนหวาน เล็บเรียวจิกเข้าที่แขนแข็งแรงแน่น ยามเขาจ้วงถี่กระชั้นจนเธอหวีดร้อง รอยเล็บก็กระชากข่วนตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
หยาดเหงื่อไหลหยดจากร่างหนาลงมาผสมกับน้ำตาแห่งความซ่านเสียว จนไฟรักร้อนระอุถึงที่สุด ลาวาสวาทก็พวยพุ่งออกมามากมาย...
“ดี ดีเหลือเกินเมล” แม้ลมหายใจของทั้งคู่จะยังเร็วแรงกว่าปกติด้วยความเหนื่อยและอารมณ์สุดยอด แต่ความสุขที่ล้นปรี่จากความรักและพิศวาสก็ทำให้กริชก้มลงมอบจุมพิตหวานอันยาวนานอีกครั้งแล้วจึงค่อยพลิกตัวลงเคียงข้าง ดึงร่างน้อยของภรรยาเข้ามากอดแนบอก ลูบหลังชื้นเหงื่อปลอบประโลมให้คลายอ่อนเพลียลง
“พี่รักเมลมาก รักจนอยากจะกลืนลงท้อง กกไว้กับอกแบบนี้แล้วยังรู้สึกว่าไม่พอ เมลรู้บ้างไหม ว่าพี่รัก รักจนคลั่ง”
“เมลก็รักพี่กริชค่ะ รักมาก”
“พี่ว่าเรามีน้องให้หนูพายกันดีไหมคะ หืม” กริชชวนเสียงกระเส่าเพราะเนื้อนุ่ม ร่างหอมของเธอยั่วราคะเขาอีกแล้ว ขึ้นง่ายเหลือเกินกับผู้หญิงคนนี้ อยากฟัดให้จมเตียงไม่หยุดหย่อน
“พอก่อน” หญิงสาวเสียงแข็ง หยิกกล้ามท้องเป็นลอนของเขาเพราะรู้สึกถึงความตื่นตัวด้านล่างอีกครั้ง เธอช้ำไปหมดทั้งตัว รับมือคนหื่นแล้วยังอึดไม่ไหวแน่
“โอเค ๆ แต่มีลูกกันอีกนะครับ ถ้ามีลูกชาย คราวนี้พี่จะตั้งชื่อว่าน้องเทียน ดีไหม”
“ก็ดีนะคะ ให้แสงสว่าง” เมลานียิ้มรับอย่างอ่อนหวานให้กับความคิดของสามี เทียนเป็นทั้งตัวแทนของความรู้และความดี ถือว่าชื่อเหมาะสมกับลูกหากถือกำเนิดมาในวันหน้า
“ที่ไหนเล่า ชื่อเทียนเพราะแม่น่ะไวไฟ จุดเมื่อไร ลุกพรึ่บเมื่อนั้น” กริชหยอกภรรยานัยน์ตาพราว แล้วก็โดนกำปั้นน้อยๆ ของหญิงสาวทุบเข้าที่อกจนได้ แต่ก็ไม่เจ็บอะไรนักหรอก เมลานีรักเขา เธอจึงยั้งมือ เหมือนที่เขาก็ไม่เคยทำร้ายเธอเต็ม ๆ ได้นั่นแหละ
เพราะหัวใจของเราทั้งคู่ถูกโซ่แห่งความรักล่ามเอาไว้ด้วยกัน...
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







