แชร์

บทที่ 197

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ หรงจือจือย่อมไม่กล้าถามอีก นางย่อเข่าพูดว่า “เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน หากวันหน้าพบเจอเบาะแสใดๆ เกี่ยวกับแคว้นเจาจะส่งคนไปแจ้งให้ท่านทราบ”

เฉินเยี่ยนซู “อืม”

หลังจากที่หรงจือจือจากไป

แววตาเย็นยะเยียบของเฉินเยี่ยนซูพลันหม่นลง เขาสั่งอย่างราบเรียบว่า “บอกให้ขันทีอาวุโสหยางค้นตำหนักบรรทมของฝ่าบาทให้ทั่ว หากยังมีตำราไร้สาระหลงเหลือก็ทำลายทิ้งให้หมด”

เซิ่งเฟิง “…ขอรับ”

ฝ่าบาทช่างน่าสงสารยิ่งนัก! หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทบอกให้ใส่อัญมณีลงไป คุณหนูสกุลหรงก็คงไม่พูดว่าสมบัติมีราคาแพงเกินไปจนอยากส่งคืนให้กับเจ้าของเช่นนี้

ดูแล้วท่านราชเลขาธิการน่าจะเข้าใจหรงจือจือมากกว่า หากมีเพียงพวงบุปผา นางก็คงไม่พูดเช่นนี้

แต่เพราะฝ่าบาทที่อ่านตำราไร้สาระที่ทำให้นายท่านเสียความมั่นใจและใส่อัญมณีลงไป ครานี้เป็นอย่างไรเล่า? กระทั่งฝ่าบาทก็ยังถูกลงโทษไปด้วย

เฉินเยี่ยนซู “ยึดจิ้งหรีดที่ฝ่าบาทเพิ่งได้รับมาด้วย”

เซิ่งเฟิงรู้สึกสงสารฮ่องเต้ “ข้าน้อยรับบัญชา!”

การเล่นจิ้งหรีดเป็นงานอดิเรกเพียงอย่างเดียวของฮ่องเต้ ท่านราชเลขาธิการมีการดูแลและควบคุมอย่างเข้มงวด ทุกๆ สิบวันจะอนุญาตให้เล่นเพียงแ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 454

    มหาราชครูหรงได้ยินดังนี้ ไม่ต้องรอให้เฉินเยี่ยนซูบันดาลโทสะ เขาก็พูดหน้าบึ้งตึงว่า “อุดปากนางไว้! โบยเพิ่มอีกยี่สิบไม้ โบยให้หนัก! ไม่ต้องปรานี!”เขากลัวว่าหากตัวเองพูดช้าอีกนิด เฉินเยี่ยนซูจะตัดลิ้นของหรงเจียวเจียวจริงๆ!เห็นมหาราชครูหรงออกคำสั่งรวดเร็วเช่นนี้ เฉินเยี่ยนซูเพียงแต่มีสีหน้าดำทะมึนแต่ไม่ได้พูดอะไร หากไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายแม้เพียงนิด รอเขากลับไปแล้ว เกรงว่ามหาราชครูหรงจะทำให้หรงจือจือลำบากใจเขาแค่นเสียงเย็นเพียงว่า “ท่านพ่อตา หากวันหน้ามิอาจควบคุมคุณหนูสาม ข้าสามารถช่วยสอนสั่งให้แทนได้”มหาราชครูหรงรู้สึกขายหน้ามาก เรื่องภายในบ้านตัวเอง จะชอบให้เฉินเยี่ยนซูเข้ามายุ่งได้อย่างไร? ถึงอย่างไรเสีย ลูกเขยก็ไม่ใช่คนสกุลหรงแต่หรงเจียวเจียวทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ เขาจึงพูดได้เพียงว่า “นางจะปรับปรุงตัวแน่นอน ข้าจะจับตาดูอย่างดี!”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า จากนั้นเดินไปทางสวนบุปผาด้วยกันกับหรงจือจือยืนใต้ต้นไม้หรงจือจือถาม “ท่านราชเลขาธิการอยากพูดอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ?”เฉินเยี่ยนซูจ้องมองมาที่นาง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เรื่องของท่านแม่ เป็นความผิดของข้าเอง”วันนี้นางไม่มีท่าทีจะ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 453

    “ส่วนเรื่องที่บอกว่าเป็นน้องหญิงแท้ๆ? ข้าดูจากการกระทำของคุณหนูสามแล้วเหมือนนางมองท่านหญิงเป็นศัตรูมากกว่า ยังเหลือความเป็นพี่น้องที่ใดกัน?”“ท่านมหาราชครูลงโทษเบามากแล้ว หากให้ข้าลงมือ เกรงว่าคงถึงขั้นตัดลิ้น”หรงจือจือรู้สึกซับซ้อนภายในใจ นั่นเพราะตั้งแต่ที่นางกลับมาอยู่จวนเพื่อสืบคดี นางจะได้ยินทุกคนตำหนิตัวเองทุกครั้งที่เกิดเรื่องเสมือนว่านางไม่ใช่คนในครอบครัวนี้อย่างไรอย่างนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่หรงเจียวเจียวพูดจาดูหมิ่นแล้วนางไม่ต้องพูดเองแม้แต่ครึ่งคำ นางอวี๋กับเฉินเยี่ยนซูก็ช่วยออกหน้าให้แล้วนางหวังได้ยินว่าจะตัดลิ้นก็กลัวจนหน้าซีด ต้องเกาะโต๊ะนั่งลงอย่างสั่นเทา “เหตุใดต้องทำถึงเช่นนั้น เหตุใดต้อง…”บัดนี้นางเข้าใจแล้ว ตัวเองจะขอร้องอย่างไรก็เปล่าประโยชน์หากยังพูดให้เฉินเยี่ยนซูโมโหมากกว่านี้ เกรงว่าบทลงโทษจะยิ่งรุนแรงขึ้นนางกงซุนพึมพำเสียงเบา “ไม่อย่างนั้น…”พอแค่นี้เถิด?นางค่อนข้างชอบหรงเจียวเจียวเลยทีเดียวนึกไม่ถึงว่านางเพิ่งจะพูดแค่สามคำ สายตาอันว่องไวของนางอวี๋ก็จะมองมาที่นางพร้อมกับการเตือนแววตาเย็นยะเยียบของเฉินเยี่ยนซูมองมาที่นางเช่นกันใบหน้าของนางก

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 452

    สีหน้าของเฉินเยี่ยนซูดำทะมึนทันทีที่ฟังจบมหาราชครูหรงเบิกตาโพลงอย่างไม่เชื่อหูเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าบุตรสาวของตัวเองจะกล่าววาจาโง่เขลาเช่นนี้ครั้นเห็นประกายสังหารในแววตาเฉินเยี่ยนซู มหาราชครูหรงก็รีบชิงเข้าไปตบหน้าหรงเจียวเจียวหนึ่งฉาด!การตบนี้ไม่ใช่เบาๆ เลย ใส่แรงลงไปเต็มที่หรงเจียวเจียวถูกตบเซไปชนกับกำแพง หน้าผากถูกกระแทกอย่างแรงก่อนจะล้มลงพื้น “ท่านพ่อ…”มหาราชครูหรงพูดอย่างเดือดดาล “เจ้าลูกสารเลว พูดจาอะไรของเจ้า!”จากนั้นหันกลับไปหาเฉินเยี่ยนซู “ราชเลขาธิการ ข้าสั่งสอนบุตรสาวไม่ดีเอง เอาไว้ข้าจะสั่งสอนอย่างหนักในภายหลัง!”เฉินเยี่ยนซูเข้าใจความหมายของมหาราชครูหรงอีกฝ่ายหวังว่าเขาจะช่วยไว้หน้า อย่าได้ลงโทษหรงเจียวเจียวสถานหนักแต่นึกไม่ถึงว่าหรงเจียวเจียวไม่หวาดกลัวที่ถูกตบแม้แต่น้อย นางกุมหน้าตัวเองเงยหน้าพูดด้วยความโมโห “ท่านพ่อ ข้าพูดประโยคใดผิดหรือเจ้าคะ?”นางโต้เถียงกับมหาราชครูหรงจบแล้วยังไม่เพียงพอ แต่ยังหันไปพูดกับเฉินเยี่ยนซูด้วยว่า “ท่านราชเลขาธิการ ข้าพูดด้วยความหวังดี พูดเพราะหวังดีต่อท่าน เหตุใดท่านจึงไม่เข้าใจ?”เฉินเยี่ยนซูยิ้มเยาะแล้วเอ่ยเสียงเย็น “หวั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 451

    นางยิ้มและกล่าวว่า “ดีๆๆ นี่เยี่ยมยอดมาก!”ทว่าเฉินเยี่ยนซูกลับรู้สึกประหลาดใจเขามองว่าตัวเองพอจะเข้าใจหรงจือจืออยู่บ้าง ท่านแม่กล่าววาจาเช่นนั้น นางไม่ควรไม่ใส่ใจแบบนี้ หรือว่าจะมีอะไรที่เขาไม่รู้เกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?นางอวี๋รีบถอดกำไลข้อมือของตัวเองเพื่อสวมให้หรงจือจือ “นี่เป็นกำไลที่แม่ของข้าทิ้งไว้ ส่งต่อให้เพียงสตรีไม่ส่งต่อให้บุรุษ”“แม้จะไม่ใช่ของล้ำค่าหายากอะไร แต่มันก็เป็นของที่ข้าหวงแหนที่สุด บัดนี้ขอมอบแด่เจ้า!”หากรับกำไลนี้ไว้ก็เท่ากับว่าจะตอบตกลงที่จะแต่งงานหรงจือจือจะแต่งงานอยู่แล้ว กระนั้นนางก็ยังคงพูดว่า “กำไลนี้มีคุณค่าต่อท่านยิ่ง จะให้ข้ารับไว้ได้เยี่ยงไรเจ้าคะ?”นางอวี๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสมอบของให้ ห้ามปฏิเสธ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะดูแคลนเยี่ยนซูของพวกข้า!”อีกฝ่ายพูดเช่นนี้ หรงจือจือก็ยิ้มรับ “เช่นนั้นก็ขอขอบคุณท่านผู้อาวุโสด้วยเจ้าค่ะ”จากนั้นกำไลสีมรกตวงนั้นก็ถูกสวมลงบนข้อมือของหรงจือจือนางกงซุนมองแล้วไม่สบอารมณ์นัก ตัวนางมีกำไลเนื้อดีกว่านี้หลายวงก็จริง แต่นางอวี๋ไม่ได้มอบของสิ่งนี้ให้ตัวเอง หมายความว่าฮูหยินผู้เฒ่ายอมรับในตัวหรงจือจือ แต่ไม่ยอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 450

    มหาราชครูหรงพูดด้วยรอยยิ้ม “ไปเชิญคุณหนูใหญ่มา!”มหาราชครูหรงย่อมไม่พอใจในคำพูดที่นางกงซุนมาพูดก่อนหน้านี้เช่นกัน กระนั้นอีกฝ่ายก็มาหาถึงบ้านหลายวัน นับว่าแสดงความจริงใจมากพอแล้วครานี้ แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังมาด้วยตัวเองหากยังไม่ยอมยกโทษให้อีก สกุลหรงของพวกเขาคงกลายเป็นฝ่ายที่ไร้เหตุผลบ่าวรับใช้ “ขอรับ”ตอนที่หรงจือจือรู้ว่านางอวี๋มาพบ นางก็ตกใจเช่นกัน เดิมทีแค่นางกงซุนผู้เป็นแม่สามีในอนาคตมายอมมาขอโทษก็ถือว่าเป็นเรื่องที่หายากมากแล้วนึกไม่ถึงว่าแม้แต่นางอวี๋ก็จะมาด้วย?ครั้นนึกถึงการตัดสินใจเมื่อคืนของตัวเอง นางก็ลุกขึ้นยืน เมื่อเดินไปถึงประตูก็พลันนึกอะไรได้บางอย่าง สั่งเจาซีว่า “นำพัดที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านราชเลขาธิการก่อนหน้านี้มาด้วย”เจาซี “เจ้าค่ะ”มาถึงเรือนหน้า นางอวี๋เห็นหรงจือจือแล้วหุบยิ้มไม่ได้ “ที่แท้นี่ก็คือท่านหญิงหนานหยาง!”ด้วยรูปโฉมและกิริยามารยาทเช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่หลานชายของนางจะพึงใจ ขนาดนางที่เป็นยายแก่ก็ยังชื่นชอบมาก นับว่าเป็นใบหน้าที่ทั้งชวนให้งามล่มเมือง ทั้งชวนให้ชาติบ้านเมืองสงบสุขหรงจือจือทำความเคารพพวกเขาอย่างสุภาพจากนั้นก็สัมผัสได้ถึงสายตา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 449

    นางจ้องไปที่นางเซี่ยพร้อมพูดด้วยความโมโห “เจ้าคงอยากบีบให้บุตรชายตัวเองตายก่อนจึงจะพอใจสินะ! เจ้าลองคิดดูให้ดี ก่อนที่เจ้าจะสร้างปัญหามากมายขนาดนี้ อู๋เหิงเคยเป็นเช่นไร แล้วตอนนี้เขามีสภาพเช่นไร?”นางเซี่ยมองบุตรชายที่มีสภาพเศร้าซึม ครั้นนึกย้อนกลับไปเมื่อก่อน บุตรชายของนางเป็นผู้ที่มีความประพฤติสุภาพเรียบร้อย หล่อเหลาสะอาดสะอ้าน เวลาออกจากบ้านจะมีหญิงสาวคอยตามแอบมองเสมอทั้งที่ผ่านมาแค่ช่วงสั้นๆ แต่กลับผอมจนหนังติดกระดูก รูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปหมดในที่สุดนางเซี่ยถึงได้ค่อยปิดตาร้องไห้อย่างเจ็บปวด “หรือว่าข้าจะทำผิดจริงๆ หรือ? ข้าเองก็ทำไปเพื่อรักษาหน้าของครอบครัวนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง…”พระชายาอ๋องเฉียนมีหรือจะไม่รู้จักนิสัยของลูกสะใภ้ตัวเอง?ถอนหายใจว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าห่วงหน้ามาโดยตลอด แต่เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ จือจือมีบุญคุณต่อข้า”“ครอบครัวพวกเราสามารถอ้างได้ว่าไม่ถือสาที่จะให้แต่งนางเข้ามาเพราะข้าต้องการตอบแทนนาง ให้นางแต่งงานเข้ามาเป็นภรรยาของอู๋เหิง มอบที่พึ่งพิงในอนาคตให้กับนาง”“เช่นนี้แล้วจะได้รับความชื่นชมจากมหาราชครูหรง และโลกภายนอกเองก็จะได้พูดว่าจวนอ๋องเฉียนของเรารู

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status