Se connecter02
ไอ้หมาบ้าน้ำลาย
“อะ..”
ใบหน้าหล่อเหยเกบิดเบี้ยวครั้นรู้สึกเจ็บบริเวณเอวร้าวไปถึงสะโพก ก่อนจะสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังของตนเองนอนอยู่บนพื้นแข็ง ๆ เย็น ๆ แทนที่จะเป็นที่นอนนุ่มอุ่น
มาก่อนค่อย ๆ หยัดกายให้ลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ตายังไม่ลืม เอื้อมมือไปจับเอวตัวเองตรงส่วนที่เจ็บ ยังมึนหัวไม่หาย เมื่อคืนคงดื่นจนเพลินไปหน่อยถึงขนาดขับรถกลับมาเองไม่ไหว ลำบากเชนทร์ที่แบกมาโยนไว้หน้าบ้านก่อนที่จะกลับไป
“!!!”
จู่ ๆ ภาพในหัวก็เด่นชัดขึ้นมาราวกับ Full HD ไอ้อาการปวดหลังนี่เขาก็จำได้แล้วว่าเกิดจากอะไร เปลือกตาหนักลืมขึ้นก่อนที่ดวงตาคมจะมองไปรอบ ๆ ห้อง
ไม่ผิดแน่.. ภาพในหัวเมื่อกี้คือเรื่องจริง
เหตุการณ์เมื่อคืน
หลังจากที่เชนทร์มาส่งมาก่อนที่หน้าบ้านแล้วกลับไป เจ้าของบ้านก็พยุงตัวเองเข้ามาถึงชั้นบน แต่แทนที่จะกลับไปนอนห้องตัวเองกลับเดินไปยังอีกห้อง ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องลืมล็อกประตูหรือเปล่าเขาถึงเข้ามาง่ายขนาดนี้
ภายในห้องมืดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงไฟจากส่วนใดของห้องเปิดสักดวง ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออกแสงจากภายนอกสาดส่องเข้าไปทำให้เห็นร่างบางภายใต้ชุดนอนผ้าลื่นสีกรม กางเกงขาสั้นร่อนขึ้นมาเกือบถึงสะโพกอวบ แม้แสงสว่างจากโถงทางเดินที่เล็ดลอยเข้าไปจะน้อยนิดแต่ก็ทำให้เห็นผิดขาวเนียนชัดเต็มสองตา นั่นเพราะคนโปรดนอนไม่ห่มผ้าเนื่องจากเป็นคนขี้ร้อน ต่อให้แอร์ในห้องจะลดเหลือยี่สิบองศาเจ้าตัวก็ไม่รู้สึกเย็นสักเท่าไร
คนเมากลืนน้ำลายลงคอเสียงดังอึก ภาพยั่วยวนที่คุ้นตาแบบนี้เขาไม่ได้เห็นมานานหลายปีแล้วสินะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
ร่างสูงโปร่งเดินเซเข้ามาในห้องไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างเบามือ ก่อนที่จะพาตัวเองไปทิ้งตัวลงนอนซ้อนหลังเจ้าของห้องบนเตียง สติที่มีอยู่น้อยนิดสั่งการให้ทำตามใจอย่างไม่อาจห้าม
แขนแกร่งยกขึ้นโอบกอดอีกฝ่าย ขยับกายเข้าแนบชิด ใช้หัวถูกไถแผ่นหลังเล็กผ่านเนื้อผ้าลื่นเย็น
คนโปรดสะดุ้งตื่นตกใจนึกว่าตัวเองถูกผีอำตั้งแต่มานอนที่บ้านหลังนี้คืนแรกเสียอีก ที่ไหนได้เป็นแฟนเก่าตัวดีที่แอบเข้ามานี่เอง
กลิ่นเหล้าโชยเตะจมูกจนนึกหงุดหงิด ปกติคนโปรดไม่ชอบกลิ่นเหม็นพวกนี้นักรู้สึกแสบจมูกทุกครั้งที่สูดดมเข้าไป เมื่อก่อนที่ยังเป็นแฟนกันเขาก็ห้ามมาก่อนอยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยนิสัยรักสังสรรค์อีกทั้งเป็นคนที่มีเพื่อนมีสังคมใครชวนไปเที่ยวก็ไปมันเสียทุกครั้ง จนหลัง ๆ คนโปรดก็เหนื่อยที่จะห้าม
แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว! ตอนนี้เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย ถึงจะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ใช่ว่าจะเข้ามารุกรานพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้
“ปล่อยกู!”
“อือ ที่รักจ๋า~”
ให้ตายเถอะไอ้เวรนี่! เมาแล้วเรื้อนขนาดนี้จะไปดื่มหาพระแสงอะไรของมัน!
“ปล่อย!”
“ม่ายปล่อย”
นอกจากไม่ปล่อยอย่างที่พูดแล้วยังกอดรัดแน่นกว่าเดิมอีกต่างหาก
“ไม่ปล่อยใช่ไหม”
“ม่ายปล่อยหรอก ฮ่า ๆ”
ไม่ว่าจะตอนเมาหรือไม่เมามาก่อนก็ยังกวนประสาททำให้คนโปรดหัวเสียได้ทุกครั้ง และครั้งนี้ก็ด้วย
“ได้!”
คนโปรดใช้แรงที่มีพลิกตัวให้หัวหน้ามาประจันกับอีกฝ่าย ก่อนจะยันเท้าถีบเข้าท้องมาก่อนเต็มแรง คนเมากลิ้งตกลงจากเตียงอย่างน่าเวทนา
เสียงร้องอู้อี้ไม่เป็นคำดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบไป คนโปรดลุกขึ้นนั่งเปิดไฟตรงหัวเตียงชะโงกหน้ามาดูก็เห็นว่าอีกคนหลับไปแล้ว ไม่รู้ว่าดื่มไปมากขนาดไหนถึงได้เมาแอ๋ขนาดนี้
“เล่นกับใครไม่เล่น สมน้ำหน้า!”
มาก่อนคงจะลืมไปว่าแฟนเก่าของตัวเองคนนี้เคยเรียนเทควันโดจนได้สายดำมาแล้ว ตื่นมาเจ็บตัวก็คงต้องโทษตัวเองนั่นแหละที่ผลีผลามเข้าห้องคนอื่นเขาโดยไม่ขออนุญาตทั้งยังมาตัวรุ่มร่ามใส่อีก
“เจ็บฉิบหายไอ้เหี้ย ถีบมาได้!”
ครั้นนึกเหตุการณ์เมื่อคืนออกทั้งหมดก็ร้องโอดครวญขึ้นมาทันที ถึงเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ ก็ไม่น่าถึงขึ้นต้องถีบก็ได้ไม่ใช่หรือไง
เมื่อคืนในห้องยิ่งมืด ๆ อยู่ด้วยถ้าเกิดถีบผิดไม่ใช่หน้าท้องแต่เป็นเจ้าหนอนน้อยไซซ์ยักษ์ของเขาจะทำยังไง ขาที่สามพิการขึ้นมามันจะแย่เอานะ
“เกือบไปแล้วลูกพ่อ” ว่าพลางก็ลูบหนอนยักษ์อย่างโล่งใจ
ตั้งสติอยู่พักหนึ่งก็พาตัวเองกลับไปที่ห้องนอน ล้างหน้าล้างตาก่อนจะลงมาชั้นล่าง เจอกับภรรยาตัวแสบที่กำลังนั่งทานข้าวอย่างสบายใจเฉิบ
“ทำไมตื่นแล้วไม่เรียกกูด้วย”
“ขี้เกียจ”
ตอบกลับสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ทำเอามาก่อนถึงกับเบ้ปากถอนหายใจ ขมุบขมิบปากทำเป็นล้อเลียน ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวตักข้าวต้มใส่ถ้วยถือออกมานั่งฝั่งตรงข้ามกับอีกคน
“วันนี้ไปทำงานไหม”
“อืม”
“มึงนี่ขยันเนอะ”
“ใครจะขี้เกียจตัวเป็นขนเหมือนมึง” ตอบกลับทันควันแบบไม่ต้องคิดไตร่ตรองอะไรให้มากมาย เพราะที่รู้มาแฟนเก่าไม่เอาไหนคนนี้ไม่มีงานมีการเป็นหลักเป็นแหล่ง วัน ๆ ก็เที่ยวเล่นกับเพื่อนสนิทสองคนนั้นที่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว
หมายถึงเพื่อนมันน่ะเป็นฟ้า ส่วนมันเป็นเหว
“ขี้เกียจอะไรกูก็มีงานมีการเหมือนกัน” มาก่อนมองหน้าอีกฝ่ายทว่าดูเหมือนจะไม่เชื่อที่เขาพูดสักเท่าไร “นี่มึงไม่เชื่อกูหรือไง”
“เรื่องของมึงเถอะ”
พูดจบก็ลุกขึ้นเอาถ้วยไว้ในครัวก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน เขารู้ดีเลยละว่าถ้ามาก่อนไม่ได้คำตอบที่ตรงตามใจตัวเองก็จะเซ้าซี้ถามต่อจนกว่าจะพอใจ เพราะงั้นหนีไปทำงานที่บริษัทดีกว่า ขี้เกียจจะสนทนาหมาบ้าน้ำลายกับมันมากนัก
----- โปรดอย่าหย่าก่อน -----
Talk Talk
สภาพ555555555555 ขำไอ้ก่อนไม่ไหว ตอนแรกก็อยากจะสงสารอยู่หรอกที่ถูกถีบตกเตียง แต่ก็อดขำไม่ได้5555555
ช่วงเที่ยงคนโปรดลงไปหาซื้ออะไรมาทานที่โรงอาหารบริษัทเพราะขี้เกียจออกไปนั่งทานที่ร้านข้างนอก เลือกเป็นของกินง่าย ๆ เพื่อเอาไปทานที่ห้องทำงานจริง ๆ เขาไม่จำเป็นต้องลงมาซื้อเองก็ได้ ในเมื่อสามารถสั่งให้เลขาหรือพนักงานคนอื่นซื้อขึ้นมาให้ได้ ทว่าเขาก็ไม่ใช่คนจำพวกรบกวนคนอื่นมากนักหากไม่จำเป็น ยิ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยของตัวเองก็ควรจะรับผิดชอบตัวเองใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีในเดินเลือกซื้อของกินในโรงอาหาร ก่อนจะกลับขึ้นมาที่ห้อง ใบหน้าเรียบนิ่งยิ่งบึ้งตึงครั้นเห็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมานอนไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟามุมห้อง“มาทำไม”“ก็แค่อยากมาเห็นสภาพแวดล้อมที่เมียตัวเองทำงาน”“ใครเมียมึง”“ไม่ทันแก่ความจำก็ไม่ดีเสียแล้วเหรอที่รัก แบบนี้ก็แย่นะสิ”ทั้งคำพูดทั้งท่าทางที่แสนจะกวนประสาทของมาก่อนทำเอาอาหารมื้อเที่ยงของเขาไม่น่ากินขึ้นมาทันทีคนโปรดเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคนสติไม่ดีจึงเลือกที่จะนั่งลงเงียบ ๆ เลิกให้ความสนใจกับอีกคน ตามใจมันเถอะจะทำอะไรก็ปล่อยไปแค่ไม่ยุ่งวุ่นวายตอนเขาทำงานก็พอแต่มีเหรอที่จะซื้อหวยถูกแบบที่คิดไว้ ตั้งแต่ที่เขาเงียบไปอีกคนก็เริ่มเดินสำรวจในห้องจนตอนนี้ลามมาถึงโต๊ะของเขาแล
02ไอ้หมาบ้าน้ำลาย“อะ..”ใบหน้าหล่อเหยเกบิดเบี้ยวครั้นรู้สึกเจ็บบริเวณเอวร้าวไปถึงสะโพก ก่อนจะสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังของตนเองนอนอยู่บนพื้นแข็ง ๆ เย็น ๆ แทนที่จะเป็นที่นอนนุ่มอุ่นมาก่อนค่อย ๆ หยัดกายให้ลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ตายังไม่ลืม เอื้อมมือไปจับเอวตัวเองตรงส่วนที่เจ็บ ยังมึนหัวไม่หาย เมื่อคืนคงดื่นจนเพลินไปหน่อยถึงขนาดขับรถกลับมาเองไม่ไหว ลำบากเชนทร์ที่แบกมาโยนไว้หน้าบ้านก่อนที่จะกลับไป“!!!”จู่ ๆ ภาพในหัวก็เด่นชัดขึ้นมาราวกับ Full HD ไอ้อาการปวดหลังนี่เขาก็จำได้แล้วว่าเกิดจากอะไร เปลือกตาหนักลืมขึ้นก่อนที่ดวงตาคมจะมองไปรอบ ๆ ห้องไม่ผิดแน่.. ภาพในหัวเมื่อกี้คือเรื่องจริงเหตุการณ์เมื่อคืนหลังจากที่เชนทร์มาส่งมาก่อนที่หน้าบ้านแล้วกลับไป เจ้าของบ้านก็พยุงตัวเองเข้ามาถึงชั้นบน แต่แทนที่จะกลับไปนอนห้องตัวเองกลับเดินไปยังอีกห้อง ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องลืมล็อกประตูหรือเปล่าเขาถึงเข้ามาง่ายขนาดนี้ภายในห้องมืดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงไฟจากส่วนใดของห้องเปิดสักดวง ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออกแสงจากภายนอกสาดส่องเข้าไปทำให้เห็นร่างบางภายใต้ชุดนอนผ้าลื่นสีกรม กางเกงขาสั้นร่อนขึ้นมาเกือบถึงสะโพกอวบ แม้แสง
ทางด้านของมาก่อนก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกันนั่นคือการนัดเพื่อนออกไปทำกิจกรรมยามว่าง เชนทร์กับจีซุนแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเพราะเจ้าตัวไปรับถึงที่บ้านวันนี้มาก่อนเลือกที่จะพาเพื่อนไปสนามยิงปืน เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้ไป อยากทดสอบฝีมือสักหน่อยว่ายังแม่นเหมือนเดิมหรือเปล่า โดยมีเพื่อนสนิทสองคนที่อยู่ข้างกันคนละฝั่งฝั่งซ้ายคือจีซุนหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่พูดเกาหลีนับคำได้อาจจะเพราะอยู่ที่ไทยมาตั้งแต่เด็กเลยคุ้นชินกับมันมากกว่าภาษาบ้านเกิด คนนี้ไม่ค่อยถนัดเรื่องปืนเท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าแม่นใช้ได้เลยทีเดียวส่วนฝั่งขวาคือเชนทร์รายนี้ที่บ้านมีสนามยิงปืนจึงเป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากเพราะคลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดที่มาก่อนยิงปืนเป็นก็ต้องขอบคุณเชนทร์ แม้เพื่อนคนนี้จะชอบทำหน้าอมทุกข์ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะสอนแต่สุดท้ายก็ทำให้มาก่อนยิงปืนตรงเป้าได้อย่างไม่มีพลาด“ไม่ได้มายิงด้วยกันตั้งนาน มาก่อนกับเชนทร์ยังยิงแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ”“ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือปะวะ” มาก่อนยกไหล่อย่างไม่ยี่หระ ภูมิใจในฝีมือของตัวเอง “มึงเถอะเมื่อไรจะเลิกพูดเพราะกับพวกกูสักที”“ยังไม่ชินอีกเหรอครับ?”“ไอ
01ลิ้นกับฟันเจอกันทีไรก็เรื่องใหญ่จากที่เคยอยู่บ้านตัวเองดี ๆ กลับกลายเป็นถูกไล่ออกมาให้อยู่บ้านหลังใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากในตัวเมืองไม่มากนัก ซึ่งเป็นของขวัญหลังแต่งงานที่พ่อของคนโปรดและพ่อมาก่อนร่วมกันหุ้นซื้อให้เป็นชื่อของลูกชายทั้งสองคนแม้ว่าคนโปรดไม่ได้เต็มใจที่จะมาอยู่เท่าไรนัก แต่ก็ไม่อาจขัดใจพ่อได้จึงจำใจยอมขนข้าวขนของมาที่นี่ระหว่างที่กำลังยกกระเป๋าลงจากท้ายรถ ก็มีเสียงท่อรถดังกระหึ่มแล่นมาถึงบริเวณหน้ารั้วบ้านก่อนจะเลี้ยวเข้ามา รถสปอร์ตคันสีแดงจอดเทียบข้างรถของคนโปรด ชายหนุ่มเปิดประตูลงมาจากรถด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่ชายร่างสูงราว ๆ ร้อยเก้าสิบเห็นจะได้ก้าวเท้าเดินมาหยุดอยู่อีกฝั่งใกล้กับคนโปรด พอมาเทียบกันจริง ๆ คนโปรดก็เพิ่งจะสังเกตว่าตัวเองเตี้ยกว่าอีกฝ่ายเยอะพอสมควรทั้งที่เขาเองก็สูงถึงร้อยเจ็ดสิบใบหน้าคมเข้มยกยิ้มให้คล้ายทักทายกัน พลางดึงมือข้างหนึ่งที่ล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อถอดแว่นตาดำที่ตนเองใส่อยู่คงจะคิดว่าตัวเองเท่มากอย่างนั้นสินะ?คนโปรดยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับมาก่อน พลางยกกระเป๋าใบสุดท้ายลงจากรถก่อนจะใช้กุญแจที่พอให้มาไขประตูเข้าไปพร้อมกระเป๋าลาก
งานมงคลสมรสถูกจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวชื่อดังติดอันดับหนึ่งในห้าของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเธียรเมธา ภายในห้องโถงกลางกว้างขวางหรูหรา สามารถรองรับแขกได้จำนวนมาก บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยมวลของความสุขสันต์ แขกเหรื่อที่มาต่างมอบคำอวยพรให้คู่บ่าวสาวครองคู่กันไปนานแสนนาน บ้างก็ว่าให้ถือไม้เฒ่ายอดทอง กระบองยอดเพชร โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่านี่คือการคลุมถุงชนดี ๆ นี่เองเสียงจอแจของเหล่าแขกที่พากันมาร่วมยินดีให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกปลื้มปริ่มไปตาม ๆ กัน ทว่าคนที่ไม่ยินดีกลับเป็นฝ่ายเจ้าสาว ที่เผลอทำหน้าเบื่อหน่ายและเอือมระอาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าไม่อยากแต่ง”เจ้าบ่าวโน้มตัวลงกระซิบข้างหูภรรยา ครั้นเห็นสีหน้าไม่รับแขกหากใครเห็นเข้าก็ต้องพากันไปนินทาตามหลังอย่างแน่นอนไหนจะพวกช่างภาพนักข่าว ที่คอยเก็บบรรยากาศอยู่แทบตลอดเวลา หากใบหน้าซังกะตายของเจ้าสาวหลุดออกไปมีหวังได้ขึ้นเทรนทวิตเตอร์พอดีพลันดวงตาคู่สวยเหลือบมองกันด้วยหางตาก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จะมีใครสักคนในงานหรือเปล่าที่รู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ถูกกันท







