Se connecterทางด้านของมาก่อนก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกันนั่นคือการนัดเพื่อนออกไปทำกิจกรรมยามว่าง เชนทร์กับจีซุนแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเพราะเจ้าตัวไปรับถึงที่บ้าน
วันนี้มาก่อนเลือกที่จะพาเพื่อนไปสนามยิงปืน เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้ไป อยากทดสอบฝีมือสักหน่อยว่ายังแม่นเหมือนเดิมหรือเปล่า โดยมีเพื่อนสนิทสองคนที่อยู่ข้างกันคนละฝั่ง
ฝั่งซ้ายคือจีซุนหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่พูดเกาหลีนับคำได้อาจจะเพราะอยู่ที่ไทยมาตั้งแต่เด็กเลยคุ้นชินกับมันมากกว่าภาษาบ้านเกิด คนนี้ไม่ค่อยถนัดเรื่องปืนเท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าแม่นใช้ได้เลยทีเดียว
ส่วนฝั่งขวาคือเชนทร์รายนี้ที่บ้านมีสนามยิงปืนจึงเป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากเพราะคลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด
ที่มาก่อนยิงปืนเป็นก็ต้องขอบคุณเชนทร์ แม้เพื่อนคนนี้จะชอบทำหน้าอมทุกข์ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะสอนแต่สุดท้ายก็ทำให้มาก่อนยิงปืนตรงเป้าได้อย่างไม่มีพลาด
“ไม่ได้มายิงด้วยกันตั้งนาน มาก่อนกับเชนทร์ยังยิงแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือปะวะ” มาก่อนยกไหล่อย่างไม่ยี่หระ ภูมิใจในฝีมือของตัวเอง “มึงเถอะเมื่อไรจะเลิกพูดเพราะกับพวกกูสักที”
“ยังไม่ชินอีกเหรอครับ?”
“ไอ้ว่าชินมันก็ชิน แต่ได้ยินทีไรแสลงหูแปลก ๆ ใช่ไหมไอ้เชนทร์?” หันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา
“มันพูดเพราะก็ดีแล้ว ใครเขาจะหยาบคายปากหมาเหมือนมึง”
นอกจากเสียงเรียบ ๆ ที่ตอบกลับเพื่อนแล้ว ใบหน้าก็ยังเรียบนิ่งอีกด้วย คนนอกมองมาอาจจะดูปกติ แต่ทว่าคนที่เป็นเพื่อนกันมานานเกือบยี่สิบปีอย่างมาก่อนดูออกได้ทันทีว่าไอ้นี่มันกวนตีน หาเรื่องจะด่าเขาชัด ๆ
“เอ้า! ไอ้นี่” มาก่อนแกว่งปลายเท้าเตะเท้าอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเห็นมุมปากเชนทร์ยกยิ้มเล็กน้อย หมดคำจะด่ามันจริง ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
จีซุนหัวเราะชอบใจที่เห็นเพื่อนสองคนตีกันจนกลายเป็นเรื่องชินตาของกลุ่มไปเสียแล้ว
“แล้วกับคนโปรดเป็นไงบ้าง มึงสองคนดีกันหรือยัง” เชนทร์เอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเท่าที่เห็นในงานแต่งสายตาที่มองกันราวกับคนเกลียดกันอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าบอกบุญไม่รับของคนโปรดนั่นก็ด้วย
“เฮอะ! คิดว่ามันจะดีกับกูง่าย ๆ หรือไง หรือต่อให้มันดีกับกูกูก็ไม่ดีด้วยหรอกเว้ย!”
“ปากเก่ง”
“กูพูดจริง”
มาก่อนทำหน้าทำตาจริงจังเพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้พูดเล่น ให้เขาไปญาติดีกับแฟนเก่าน่ะเหรอไม่มีทางเสียหรอก ยิ่งเป็นแฟนเก่าที่บอกเลิกเขาแล้วหนีหน้ากันไปตั้งสี่ปีกว่าเกือบพอ ๆ กับระยะเวลาที่เป็นแฟนกัน ยังไงเสียเขาก็ไม่ให้อภัยง่าย ๆ แน่
จำไว้!!!
“กูจะคอยดูว่าจริงของมึงนี่จะจริงแค่ไหนกันเชียว”
เพราะเป็นเพื่อนกันมานานเชนทร์คิดว่าตัวเองเดาเพื่อนตัวเองไม่ผิดไปมากนักหรอก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาไม่ได้หนักแน่นอย่างที่พูดสักนิด
ไอ้ก่อนยังไงก็ยังเป็นไอ้ก่อน ทำเป็นปากเก่งไปอย่างนั้น
.
.
หลังจากยิงปืนแข่งกันอยู่นาน ตกเย็นก็พากันไปขับรถเล่นก่อนจะแวะไปที่ร้านรุ่นพี่อย่างบาสที่เปิดสถานบันเทิงให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้ใช้เสน่ห์ของตัวเองในเวลากลางคืนท่ามกลางเสียงเพลงและแสงสี
อาหารตาดี ๆ ทั้งชายทั้งหญิงสามารถหาดูได้ในร้านนี้ แน่นอนว่าคนรักการสังสรรค์อย่างมาก่อนเข้าออกร้านนี้แทบทุกคืน อาจจะเพราะว่าสนิทกับเจ้าของร้านเนื่องจากเคยเป็นพี่รหัสของคนโปรด
ช่วงที่คบกันนัดกันไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่บ่อย ๆ ด้วยไลต์สไตล์คล้าย ๆ กันเลยคุยกันถูกคอ จากนั้นก็สนิทสนมกันมาเรื่อย ๆ จนบาสเริ่มเปิดร้านเหล้า เวลาจะกินเลี้ยงอะไรก็พากันมาที่ร้านนี้เป็นประจำ
“กูนึกว่ามึงอยู่บ้านนอนกอดเมียเสียอีก”
“เพ้อเจ้ออะไรของพี่มึง”
บาสยิ้ม ๆ พลางเบ้ปากใส่คนอายุน้อยกว่าอย่างหมั่นไส้ ตั้งแต่ที่มาก่อนเลิกกับคนโปรดร้านของเขาก็แทบเป็นบ้านหลังที่สองของมัน ก็เล่นเอาดื่มเหล้าทุกวันจนเพื่อนกลัวว่ามันจะตับแข็งตายก่อนได้รับเงินคนแก่กันพอดี ทว่าผ่านไปปีกว่า ๆ อาการหกหักรักคุดเพราะถูกเมียทิ้งก็ดีขึ้น แต่ก็ยังเทียวไปเทียวมาที่ร้านอยู่บ่อย ๆ
“มึงมาที่นี่ไอ้โปรดมันรู้ไหม ไม่กลัวว่ามันโกรธมึงอีกหรือไง”
“ผมเนี่ยนะกลัวมัน เฮอะ! ตลกน่ะพี่คนอย่างมันมีอะไรให้ผมต้องกลัว”
“ปากเก่งไปเถอะมึง เดี๋ยวก็ได้มานั่งร้องน้ำหูน้ำตาเช็ดหัวเข่าที่ร้านกูอีก”
“ไม่มีทาง ครั้งนี้คนที่ต้องร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าคือมันนู่นไม่ใช่ผม”
มาก่อนพูดอย่างไม่ยี่หระ เขาจะไม่ร้องไห้ให้แฟนเก่าเป็นครั้งที่สองแน่ คนที่ต้องเสียใจคือคนที่เคยทิ้งเขาไปต่างหาก
เชนทร์มองเพื่อสนิทพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา เบื่อไอ้ปากเน่า ๆ ที่พ่นคำพูดแต่ละคำออกมาอย่างไม่คิดของมันจริง ๆ
“ก่อนอยากให้ซุนเตรียมอาหารเม็ดไว้รอไหมครับ”
“ไอ้ซุน! นี่มึงจะบอกว่ากูเป็นหมาเหรอวะ!”
“ซุนเปล่าพูดนะครับ” จีซุนตีหน้าซื่อ ยกมือขึ้นทั้งสองข้างราวกับผู้ร้ายที่กำลังถูกจับได้
ดูจากดาวอังคารก็รู้ว่าแม่งกวนตีน!
นั่งดื่มมาได้สักพักก็นึกอะไรสนุก ๆ ออก หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศครึกครื้นภายในผับส่งไปให้แชตของคนโปรด ตามด้วยรูปที่ตัวเองโอบไหล่เด็กชงเหล้านมเบิ้ม ๆ คนหนึ่งในร้านที่เพิ่งกวักมือเรียกมา
ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่หน้าจอมือถือ จนในที่สุดก็ขึ้นอ่าน จากนั้นเขาถึงได้ส่งข้อความไปบอกว่าส่งผิด แต่แล้วก็ไม่มีข้อความใด ๆ ตอบกลับมา ไม่มีแม้แต่สายโทรเข้า
“เฮอะ!”
มุมปากยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ ตอนนี้คงกำลังหึงจนหน้าขึ้นเลือดอยู่ล่ะซิ คงจะโกรธมากถึงขั้นทำอะไรไม่ถูกแน่ ๆ
“เชนทร์ว่าเพื่อนเรายังปกติดีอยู่ไหมครับ?” จีซุนขยับเข้าไปกระซิบถามเพื่อนหนุ่มอีกคนที่ดูจะเป็นผู้เป็นคนที่สุดในกลุ่ม
“เคยเห็นมันปกติดีด้วยหรือไง” ตอบกลับนิ่ง ๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติทั่วไป
“ก็จริงครับ”
จีซุนพยักหน้าเห็นด้วย ดูท่าแล้วมาก่อนคงจะอาการหนักจนกู่ไม่กลับจริง ๆ
คนโปรดเดินไปหยิบหนังสือมาอ่านอย่างสบายอารมณ์ ไม่ได้รู้สึกทุกร้อนใจร้อนกายใด ๆ กับรูปภาพที่อดีตคนรักส่งมา คิดว่าเขารู้ไม่ทันหรือยังไงกันว่าจงใจแกล้งจะยั่วให้เขาโมโห
ทำไมเขาจะต้องรู้สึกอะไรอย่างนั้น ไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องมานั่งหึงหวง ยังไงเสียการแต่งงานของเราก็ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจจากทั้งสองฝ่าย เป็นเพียงการคลุมถุงชนก็เท่านั้น
กับไอ้แค่แฟนเก่าคนหนึ่งทำไมเขาต้องให้ความสำคัญขนาดนั้น!
ปึง!!
หนังสือเล่มหนาถูกปิดและวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงเสียงดัง ก่อนที่เจ้าของห้องจะปิดไฟ พร้อมทิ้งตัวลงนอน
เขาก็แค่ง่วง ง่วงจนไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือ ดึกดื่นป่านนี้แล้วนอนเสียให้จบเรื่อง พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำอีก
“นอนเดี๋ยวนี้คนโปรด!” เสียงหวานกัดฟันพูดกับตัวเองพร้อมกับข่มตาหลับ
อา.. ให้ตายเถอะ! หงุดหงิดชะมัด
----- โปรดอย่าหย่าก่อน -----
Talk Talk
คนปากเก่ง กับคนเก่งมาเจอกันจะไปกันรอดไหมน้ออออ คนโปรดแม่ให้พูดใหม่อีกที ไม่หึงไม่หวง? แน่ใจนะ? เอาดี ๆ ลูกเราเป็นคนสวยนิ่งเข้าไว้ แล้วแม่ ๆ คิดว่าใครจะเป็นฝ่ายยอมใครก่อน ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก
ช่วงเที่ยงคนโปรดลงไปหาซื้ออะไรมาทานที่โรงอาหารบริษัทเพราะขี้เกียจออกไปนั่งทานที่ร้านข้างนอก เลือกเป็นของกินง่าย ๆ เพื่อเอาไปทานที่ห้องทำงานจริง ๆ เขาไม่จำเป็นต้องลงมาซื้อเองก็ได้ ในเมื่อสามารถสั่งให้เลขาหรือพนักงานคนอื่นซื้อขึ้นมาให้ได้ ทว่าเขาก็ไม่ใช่คนจำพวกรบกวนคนอื่นมากนักหากไม่จำเป็น ยิ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยของตัวเองก็ควรจะรับผิดชอบตัวเองใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีในเดินเลือกซื้อของกินในโรงอาหาร ก่อนจะกลับขึ้นมาที่ห้อง ใบหน้าเรียบนิ่งยิ่งบึ้งตึงครั้นเห็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมานอนไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟามุมห้อง“มาทำไม”“ก็แค่อยากมาเห็นสภาพแวดล้อมที่เมียตัวเองทำงาน”“ใครเมียมึง”“ไม่ทันแก่ความจำก็ไม่ดีเสียแล้วเหรอที่รัก แบบนี้ก็แย่นะสิ”ทั้งคำพูดทั้งท่าทางที่แสนจะกวนประสาทของมาก่อนทำเอาอาหารมื้อเที่ยงของเขาไม่น่ากินขึ้นมาทันทีคนโปรดเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคนสติไม่ดีจึงเลือกที่จะนั่งลงเงียบ ๆ เลิกให้ความสนใจกับอีกคน ตามใจมันเถอะจะทำอะไรก็ปล่อยไปแค่ไม่ยุ่งวุ่นวายตอนเขาทำงานก็พอแต่มีเหรอที่จะซื้อหวยถูกแบบที่คิดไว้ ตั้งแต่ที่เขาเงียบไปอีกคนก็เริ่มเดินสำรวจในห้องจนตอนนี้ลามมาถึงโต๊ะของเขาแล
02ไอ้หมาบ้าน้ำลาย“อะ..”ใบหน้าหล่อเหยเกบิดเบี้ยวครั้นรู้สึกเจ็บบริเวณเอวร้าวไปถึงสะโพก ก่อนจะสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังของตนเองนอนอยู่บนพื้นแข็ง ๆ เย็น ๆ แทนที่จะเป็นที่นอนนุ่มอุ่นมาก่อนค่อย ๆ หยัดกายให้ลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ตายังไม่ลืม เอื้อมมือไปจับเอวตัวเองตรงส่วนที่เจ็บ ยังมึนหัวไม่หาย เมื่อคืนคงดื่นจนเพลินไปหน่อยถึงขนาดขับรถกลับมาเองไม่ไหว ลำบากเชนทร์ที่แบกมาโยนไว้หน้าบ้านก่อนที่จะกลับไป“!!!”จู่ ๆ ภาพในหัวก็เด่นชัดขึ้นมาราวกับ Full HD ไอ้อาการปวดหลังนี่เขาก็จำได้แล้วว่าเกิดจากอะไร เปลือกตาหนักลืมขึ้นก่อนที่ดวงตาคมจะมองไปรอบ ๆ ห้องไม่ผิดแน่.. ภาพในหัวเมื่อกี้คือเรื่องจริงเหตุการณ์เมื่อคืนหลังจากที่เชนทร์มาส่งมาก่อนที่หน้าบ้านแล้วกลับไป เจ้าของบ้านก็พยุงตัวเองเข้ามาถึงชั้นบน แต่แทนที่จะกลับไปนอนห้องตัวเองกลับเดินไปยังอีกห้อง ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องลืมล็อกประตูหรือเปล่าเขาถึงเข้ามาง่ายขนาดนี้ภายในห้องมืดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงไฟจากส่วนใดของห้องเปิดสักดวง ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออกแสงจากภายนอกสาดส่องเข้าไปทำให้เห็นร่างบางภายใต้ชุดนอนผ้าลื่นสีกรม กางเกงขาสั้นร่อนขึ้นมาเกือบถึงสะโพกอวบ แม้แสง
ทางด้านของมาก่อนก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกันนั่นคือการนัดเพื่อนออกไปทำกิจกรรมยามว่าง เชนทร์กับจีซุนแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเพราะเจ้าตัวไปรับถึงที่บ้านวันนี้มาก่อนเลือกที่จะพาเพื่อนไปสนามยิงปืน เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้ไป อยากทดสอบฝีมือสักหน่อยว่ายังแม่นเหมือนเดิมหรือเปล่า โดยมีเพื่อนสนิทสองคนที่อยู่ข้างกันคนละฝั่งฝั่งซ้ายคือจีซุนหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่พูดเกาหลีนับคำได้อาจจะเพราะอยู่ที่ไทยมาตั้งแต่เด็กเลยคุ้นชินกับมันมากกว่าภาษาบ้านเกิด คนนี้ไม่ค่อยถนัดเรื่องปืนเท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าแม่นใช้ได้เลยทีเดียวส่วนฝั่งขวาคือเชนทร์รายนี้ที่บ้านมีสนามยิงปืนจึงเป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากเพราะคลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดที่มาก่อนยิงปืนเป็นก็ต้องขอบคุณเชนทร์ แม้เพื่อนคนนี้จะชอบทำหน้าอมทุกข์ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะสอนแต่สุดท้ายก็ทำให้มาก่อนยิงปืนตรงเป้าได้อย่างไม่มีพลาด“ไม่ได้มายิงด้วยกันตั้งนาน มาก่อนกับเชนทร์ยังยิงแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ”“ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือปะวะ” มาก่อนยกไหล่อย่างไม่ยี่หระ ภูมิใจในฝีมือของตัวเอง “มึงเถอะเมื่อไรจะเลิกพูดเพราะกับพวกกูสักที”“ยังไม่ชินอีกเหรอครับ?”“ไอ
01ลิ้นกับฟันเจอกันทีไรก็เรื่องใหญ่จากที่เคยอยู่บ้านตัวเองดี ๆ กลับกลายเป็นถูกไล่ออกมาให้อยู่บ้านหลังใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากในตัวเมืองไม่มากนัก ซึ่งเป็นของขวัญหลังแต่งงานที่พ่อของคนโปรดและพ่อมาก่อนร่วมกันหุ้นซื้อให้เป็นชื่อของลูกชายทั้งสองคนแม้ว่าคนโปรดไม่ได้เต็มใจที่จะมาอยู่เท่าไรนัก แต่ก็ไม่อาจขัดใจพ่อได้จึงจำใจยอมขนข้าวขนของมาที่นี่ระหว่างที่กำลังยกกระเป๋าลงจากท้ายรถ ก็มีเสียงท่อรถดังกระหึ่มแล่นมาถึงบริเวณหน้ารั้วบ้านก่อนจะเลี้ยวเข้ามา รถสปอร์ตคันสีแดงจอดเทียบข้างรถของคนโปรด ชายหนุ่มเปิดประตูลงมาจากรถด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่ชายร่างสูงราว ๆ ร้อยเก้าสิบเห็นจะได้ก้าวเท้าเดินมาหยุดอยู่อีกฝั่งใกล้กับคนโปรด พอมาเทียบกันจริง ๆ คนโปรดก็เพิ่งจะสังเกตว่าตัวเองเตี้ยกว่าอีกฝ่ายเยอะพอสมควรทั้งที่เขาเองก็สูงถึงร้อยเจ็ดสิบใบหน้าคมเข้มยกยิ้มให้คล้ายทักทายกัน พลางดึงมือข้างหนึ่งที่ล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อถอดแว่นตาดำที่ตนเองใส่อยู่คงจะคิดว่าตัวเองเท่มากอย่างนั้นสินะ?คนโปรดยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับมาก่อน พลางยกกระเป๋าใบสุดท้ายลงจากรถก่อนจะใช้กุญแจที่พอให้มาไขประตูเข้าไปพร้อมกระเป๋าลาก
งานมงคลสมรสถูกจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวชื่อดังติดอันดับหนึ่งในห้าของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเธียรเมธา ภายในห้องโถงกลางกว้างขวางหรูหรา สามารถรองรับแขกได้จำนวนมาก บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยมวลของความสุขสันต์ แขกเหรื่อที่มาต่างมอบคำอวยพรให้คู่บ่าวสาวครองคู่กันไปนานแสนนาน บ้างก็ว่าให้ถือไม้เฒ่ายอดทอง กระบองยอดเพชร โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่านี่คือการคลุมถุงชนดี ๆ นี่เองเสียงจอแจของเหล่าแขกที่พากันมาร่วมยินดีให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกปลื้มปริ่มไปตาม ๆ กัน ทว่าคนที่ไม่ยินดีกลับเป็นฝ่ายเจ้าสาว ที่เผลอทำหน้าเบื่อหน่ายและเอือมระอาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าไม่อยากแต่ง”เจ้าบ่าวโน้มตัวลงกระซิบข้างหูภรรยา ครั้นเห็นสีหน้าไม่รับแขกหากใครเห็นเข้าก็ต้องพากันไปนินทาตามหลังอย่างแน่นอนไหนจะพวกช่างภาพนักข่าว ที่คอยเก็บบรรยากาศอยู่แทบตลอดเวลา หากใบหน้าซังกะตายของเจ้าสาวหลุดออกไปมีหวังได้ขึ้นเทรนทวิตเตอร์พอดีพลันดวงตาคู่สวยเหลือบมองกันด้วยหางตาก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จะมีใครสักคนในงานหรือเปล่าที่รู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ถูกกันท







