Share

9.ผีลากเล็บ

last update Last Updated: 2025-03-09 22:12:15

เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้ว ฉันกับเพื่อชื่อหมูพากันไปเที่ยวไปหาเพื่อนชื่อปาโก๋ที่ไปฝึกสอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในโรงเรียนต่างจังหวัด มันพักอยู่บ้านพักในโรงเรียนเพื่อความสะดวก ไม่ต้องกังวลอะไรมากเพราะเป็นผู้ชาย

            บ้านที่ปาโก๋พักเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงหลังเล็กๆ มีห้องนอนห้องหนึ่งกับโถงกว้างๆพอนั่งๆนอนๆได้ ถือว่าไม่คับแคบจนเกินไปมีห้องน้ำแยกอยู่ด้านล่างของตัวบ้านที่เทปูนไว้โล่งๆและวางแคร่ไว้ตัวหนึ่ง น่าจะสร้างมานานมากหลายสิบปี แต่สภาพยังแข็งแรงดีอยู่และโดยรอบก็สะอาดสะอ้านดี เพราะก่อนเข้าอยู่ปาโก๋มันเข้ามาขัดและปัดกวาดเช็ดถูเรียบร้อย มีหลอดไฟให้แสงสว่างสองดวงคือข้างล่างกับข้างบน

            ปาโก๋จัดให้ฉันกับหมูนอนพักในห้องนอน ส่วนตัวมันออกมากางมุ้งนอนที่ด้านนอก

            “มีอะไรเรียกได้ตลอดนะ ห้องน้ำห้องท่าก็รีบเข้าให้เรียบร้อยก่อนนอน ดึกๆจะได้ไม่ต้องลงมา” ปาโก๋ว่า

            “เออน่ะ หนาวขนาดนี้ใครมันจะอยากออกมา” หมูตอบ

            “ไม่ใช่เรื่องหนาวอย่างเดียวหรอก” ปาโก๋พูดต่อ “ผีดุด้วย!”

            ยังพูดไม่ทันจบ หมูก็ขว้างหมอนใส่หน้ามันทันที “ไอ้เพื่อนเฮงซวย!”

เรารู้กันดีว่าหมูกลัวผีเสียยิ่งกว่าอะไร

“เออ แล้วตอนกลางดึกถ้าได้ยินอะไรก็อย่าไปทัก ตอนฉันไม่อยู่ตอนกลางวันก็เหมือนกัน ได้ยินเสียงแปลกๆอย่าโผล่หน้าออกมาดู”

“ยัง! ยังไม่หยุดอีก ไอ้...” หลังจากหมูด่าปาโก๋ไปอีกสองสามประโยค เราก็พากันแยกย้ายเข้านอนทันที

คืนนั้น เรานอนเช็กรูปในโทรสัพท์มือถือกันอย่างสนุกสนานในห้องนอนมืดตื๋อ ฉันกับหมูหัวเราะกันเฮฮาอยู่พอดีตอนที่ด้านนอกมีเสียงหมาหอนดังแว่วสะท้อนเสียงก้องมาจากที่ไกลๆ และหอนรับช่วงกันมาเป็นทอดๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

            เสียงหมาหอนที่เราสองคนได้ยินสดๆเป็นครั้งแรกในชีวิต มันฟังดูโหยหวน เยือกเย็น น่าขนลุกขนพองเสียยิ่งกว่าในหนังสยองขวัญ หมูที่เป็นคนขี้กลัวมากอยู่แล้วถึงกับเอาผ้าห่มผืนใหญ่ที่ปาโก๋เตรียมไว้ให้หากอากาศหนาวมาก ขึ้นมาห่มคลุมทับอีกชั้น และขยับเข้ามานอนเบียดจนฉันรู้สึกร้อน

            หมาจรที่อยู่ในบริเวณบ้านพักปาโก๋สี่ห้าตัวนอนขดกันใต้ถุนพากันหอนรับเสียงดังขึ้นมาอีก บางท่วงทำนองน้ำเสียงเหมือนคนร้องไห้คร่ำครวญด้วยความทุกข์ทรมานมากกว่าเสียงหมา เราสองคนนอนฟังกันด้วยความทุกข์ทรมานพอกัน กว่าเสียงนั้นจะค่อย ๆ เงียบลง

            “แก...” หมูสะกิดฉัน หลังจากมหกรรมหอนครั้งยิ่งใหญ่ผ่านไป

            “จุ๊ๆๆ” ฉันทำเสียงปราม “ไอ้ปาโก๋บอกว่าอย่าไปทักจำได้ไหม ?”

            “ไม่ใช่โว้ย! ฉันปวดฉี่” หมูกระซิบเสียงสั่นๆ คงทั้งหนาว ทั้งกลัว แล้วยังมาปวดฉี่เสียอีก

            เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพากันลุกออกมาทั้งคู่ อากาศเย็นพลอยทำให้ฉันปวดฉี่ไปด้วย เราออกมามองที่มุ้งของปาโก๋ เห็นมันนอนหลับนิ่งดีเลยไม่อยากรบกวน พากันย่องเดินลงมาจากตัวบ้าน แล้วผลัดกันเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

            ตอนเดินออกมากำลังจะกลับขึ้นบ้าน เราสองคนได้ยินเสียงเหมือนใครลากของแข็งๆไปตามพื้น เสียงดัง....ครืด ครืด...เป็นจังหวะก้าวเดิน เหมือนต้นเสียงอยู่ไม่ไกลนัก

            ฉันมองหน้าหมูที่ตอนนี้หน้าตาซีดเซียว ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกัน รีบขึ้นบ้านกลับเข้าห้องอย่างเร็ว

            รอจนถึงเช้า เราสองคนเล่าให้ปาโก๋ฟังก่อนที่มันจะออกไปสอน ปาโก๋พยักหน้านิ่งๆตามสไตล์ของมันแล้วพูดหน้าตาเฉย “ก็บอกแล้วไงว่าผีดุ ดีแล้วที่ไม่ได้ไปทักอะไร เรื่องมันก็...” มันทำท่าจะเล่าแต่หมูเบรกไว้ก่อน

            “หยุดเลย! ไม่ต้องเล่า ฉันกลัว คืนนี้ต้องนอนนี่อีกคืน ถ้ารู้มากมีหวังกลัวจนนอนไม่ได้แน่ๆ”

            วันนั้นทั้งวัน เราพากันเดินสำรวจในโรงเรียนที่ปาโก๋ทำงาน ทั้งโรงเรียนมีครูอยู่หกคน สอนคนละระดับชั้น ชั้นหนึ่งมีเด็ก 15-30 คน เป็นโรงเรียนเล็กๆที่น่าเอ็นดู เด็กๆ ก็น่ารักและเป็นมิตรดี        

จนกระทั่งฉันกับหมูไปเข้าห้องน้ำที่ด้านหลังโรงเรียนใกล้บ้านพักปาโก๋ในตอนบ่าย ตอนนั้นเด็กนักเรียนเข้าเรียนกันหมดแล้วฉันกับหมูเข้าห้องน้ำกันคนละห้อง ซึ่งห้องน้ำที่นี่เป็นแบบนั่งยอง ใช้ขันตักน้ำราดแต่เมื่อเข้าไปได้ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงเหมือนที่ได้ยินเมื่อคืน คือเสียงเหมือนของแข็งครูดพื้น....ครืด ครืด....แต่คราวนี้เหมือนครูดประตูไม้ด้วย เสียงดังมาก คล้ายสัตว์ฝนเล็บกับประตูไม้ มีเสียงกระซิบ “ช่วยด้วย...ฮือ...” ดังแผ่วๆผสมมาอีก

            ฉันกลัวจนมือสั่น หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่กล้าขยับออกไป นึกได้เลยไลน์คุยกับหมู และตกลงกันว่าจะอยู่นิ่งๆจนกว่าเสียงจะเงียบ

            พอเสียงเงียบและเรานัดกันเปิดประตูพร้อมกันออกมาได้ จากนั้นเราก็ต่างวิ่งหน้าตั้งไปที่อาคารเรียน นั่งสงบจิตใจอยู่ในที่ที่มีแสงสว่าง รอให้ปาโก๋สอนเสร็จและมาเล่าให้ฟังว่า

            ...ห้องน้ำนั้นเคยมีเด็กเข้าไปติดอยู่ช่วงปิดเทอมใหญ่ ไม่มีใครหาเจอ มาเจออีกทีก็เห็นเป็นศพแห้งเหี่ยวเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เล็บยาวออกมาเป็นคืบ ที่ประตูมีแต่รอยข่วนเหมือนจะหาทางออก หลังจากนั้นก็มักจะมีคนได้ยินเสียงร้องไห้ เสียงขูดข่วนพื้นและประตู หนักกว่านั้นก็ได้ยินเหมือนเสียงเดินลากเล็บไปทั่วบริเวณนั้นเหมือนไม่ยอมไปไหน...

            ฟังจบฉันกับหมูก็มองหน้ากัน ตกลงใจว่าพรุ่งนี้จะไปทำบุญให้กับเด็กที่น่าสงสารคนนั้น แต่คืนนี้คงไม่นอนที่นี่แล้วละ ไปหาโรงแรมในเมืองเอาดีกว่า

“หนูไม่ไป พวกพี่ไปเอง” หมูว่าเบาๆตอนเก็บกระเป๋าอย่างรีบร้อน.

           

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โรงเรียนผีดุ   25.ที่พื้นสระ

    แถวบ้านเก่าของฉันสมัยเด็กๆ ไม่ค่อยมีสระว่ายน้ำที่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าไปใช้ มีแค่สระของค่ายทหาร กับสระว่ายน้ำโรงแรม สระโรงเรียนเลยกลายเป็นที่พึ่งของเด็กๆที่อยากลงเล่นน้ำในสระแต่ไม่มีที่ไป เราเรียกชื่อสระว่ายน้ำแห่งนั้นตามชื่อโรงเรียน เป็นสระที่สร้างขึ้นในบริเวณโรงเรียนเก่าที่ฉันเรียนอยู่ เมื่อก่อนยังมีสอนว่ายน้ำ แต่พอเกิดเรื่องร้ายขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีใครอยากให้ลูกเรียน เลยปิดวิชาสอนว่ายน้ำ เปิดให้เอกชนมาเช่าแทนสระว่ายน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีโซนน้ำตื้น น้ำลึก มีห้องอาบน้ำและมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย โดยมีค่าลงสระเพียงคนละสิบบาทต่อวัน เล่นได้จนกว่าจะเบื่อ ในความทรงจำของฉันกับพี่ๆน้องๆ ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้พวกเราหัดว่ายน้ำกันเองจนว่ายเป็น และเป็นที่ที่หาความสุขสำราญกันในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ช่วงปิดเทอมเราแทบจะมากันวันเว้นวัน พวกผู้ใหญ่ก็พากันชอบใจที่มีผู้ช่วยเลี้ยงเด็กระหว่างวันโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอันตราย เพราะมีลูกเจ้าของกิจการที่ว่ายน้ำเก่งคอยเฝ้าเป็นไลฟ์การ์ดและขายขนมอยู่ด้วยตลอดทั้งวัน ความพิเศษของสระน

  • โรงเรียนผีดุ   24.เรื่องนี้ผีเล่า

    ผมจะบอกใครได้ยังไงว่าเรื่องที่ผมเขียนมานั้น เป็นเรื่องที่ผีเล่า! พูดไปใครจะเชื่อ ยุคนี้สมัยนี้แล้ว ยังมีเรื่องราวอย่างที่เขาพูดกันว่า ‘ผีบอก’ ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า รุ่นพ่อแม่ผม ได้ยินมาไม่รู้เท่าไหร่ เรื่องยาผีบอก สูตรยาลึกลับที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเลย แต่อยู่ดี ๆ ใครคนหนึ่งก็จะฝัน หรือได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ จากชาวปรโลก บอกว่าส่วนผสมของสมุนไพรชนิดใดบ้างที่จะช่วยเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บที่หมอปัจจุบันรักษาไม่หาย ยาเหล่านี้ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของดวง ถ้าโชคดีกินแล้วหาย ก็ยกความดีความชอบให้ผี แต่ถ้าไม่หาย ญาติพี่น้องคนป่วยก็มักจะโบ้ยให้กับเคราะห์กรรม ถ้าอย่างเพลงผีบอกก็จะคล้าย ๆ กัน มักเกิดขึ้นกับนักดนตรีหรือนักประพันธ์เพลงที่ได้ยินเสียงดนตรี หรือเพลงที่มีเนื้อร้องทำนองในตอนหลับ หรือกำลังอยู่ในสภาวะเคลิ้ม ผมเคยได้ยินเรื่องนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลกคิดท่อนต่อของเพลงไม่ออก พยายามคิดมาเป็นแรมเดือน อดหลับอดนอน แต่พอได้นอนหลับลงในคืนหนึ่ง จู่ ๆ เพลงที่เขาพยายามคิดมาแทบตายก็มาปรากฏในความฝัน ผมเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ครับ นักเขียนนิยายวาย ขายในเว็

  • โรงเรียนผีดุ   23.นักเรียนปีศาจ

    รุ่นพี่ที่เล่าให้ผมฟังแกยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียนหนึ่งทางภาคอีสาน แต่เรื่องราวได้ถูกถ่ายทอดเล่ากันมาปากต่อปาก รายละเอียดในเรื่องราวก็ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้สถานที่และผู้คนในเรื่องนี้ถูกบิดเบือนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่อาจสืบสาวได้แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นที่ไหนกันแน่ ผมเป็นครูพละ เพิ่งมาประจำที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ไม่นานนัก มักได้รับมอบหมายให้อยู่เวรกลางคืนและเพราะยังไม่ได้บ้านพักก็เลยต้องพักในห้องพักครูของโรงเรียนตอนดึกๆบางทีก็เดินสำรวจตรวจตรา ส่องไฟฉายดูตามอาคารเรียนต่างๆแก้เบื่อ แต่ส่วนใหญ่แล้วบรรยากาศจะเงียบจนชวนง่วง ส่วนหนึ่งคงเพราะโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และมีนักเรียนไม่มาก แถมห่างออกมาจากชุมชนพอสมควร รอบโรงเรียนมีแต่ป่าหญ้าป่าพง ในคืนเงียบๆเช่นคืนนี้ครูรุ่นพี่ที่พักอยู่ที่โรงเรียนเหมือนกันจึงมักจะมีเรื่องเล่า แปลกๆบ้าง ขำบ้าง เศร้าบ้าง หรือหลายครั้งก็เป็นเรื่องหลอนๆอย่างเช่นเรื่องนี้ มีเด็กที่ชาวบ้านเจอแล้วมาแจ้งให้ทราบว่าเป็นเด็กในชุดนักเรียน ผู้หญิงผิวขาวซีด เนื้อตัวแห้งเหี่ยว ใบหน้าแทบไ

  • โรงเรียนผีดุ   22.คืนไฟดับที่หอชาย 2

    ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเปิดประตูออกมาจากห้อง มีเสียงพูดคุย และน่าประหลาดมากที่ส่วนใหญ่ฟังดูเหมือนเสียงผู้หญิง!ก็อย่างที่บอกครับ หอที่ผมอยู่แม้จะเป็นหอพักชาย แต่ก็มีบางรายที่แอบพาสาวเข้ามา แต่ส่วนที่จะซุกไว้บ้างเท่าไหร่นี่ก็ไม่รู้ได้ ตอนนั้นผมได้แต่นั่งฟังเสียงหญิงสาวแปลกหน้าคุยกันแถวโถงทางเดินจนเสียงดังเข้ามาในห้องอากาศร้อนในคืนนั้นทำให้ผมเริ่มทนอยู่ไม่ไหว ยิ่งเมื่อพัดลมเปิดไม่ได้ มันก็ยิ่งอบอ้าวหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ทัน หอบเป็นหมาหอบแดด ร้อนเหมือนอยู่หน้าเตาถ่านผมพยายามจะช่วยเหลือตัวเองด้วยการคลำ ๆ ทางเดินไปเปิดหน้าต่างหลังห้องให้กว้างสุด แล้วก็เดินไปเปิดประตูหน้า หวังว่าอาจจะมีลมโชยเข้ามาถ่ายเทช่วยให้ห้องหายร้อนบ้าง แต่เมื่อเปิดจนสุดแล้วก็ไม่มีลมพัดมาสักวูบ มีแต่กลิ่นชวนอาเจียนราวกับหนูเน่าโชยเข้ามาเป็นระลอก ๆผมมาแปลกใจอีกอย่างที่พบว่าในความมืดหลังไฟดับครั้งนี้มันแปลก ๆ คือมันมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด แม้เมื่อเดินออกไปมองทางหน้าต่างห้องผมซึ่งเป็นชั้นหก ก็ไม่เห็นมีแสงสว่างจากท้องฟ้า แสงจันทร์ หรือแสงจากไฟฟ้าที่อื่นที่ยังไม่ดับ...ในใจก็คิดอะไรกันละเนี่ย ไฟดับทั้งกรุงเทพฯ เลยหรื

  • โรงเรียนผีดุ   21.คืนไฟดับที่หอชาย 1

    เมื่อตอนที่ผมอยู่หอเก่าหลังมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่ผมจนสุด ๆ ต้องทำงานหาเงินเรียนและจ่ายค่าหอค่ากินค่าอยู่เองทั้งหมด ก็เลยต้องเลือกหอพักชายที่ราคาถูกสุด ๆ เท่าที่จะหาได้จำได้ว่าวันที่ไปเดินหาหอพัก ผมเดินเข้า ๆ ออก ๆ เกือบทุกซอย จดราคาค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามัดจำของแต่ละหอไว้จนเต็มหน้ากระดาษ จนได้ข้อสังเกตที่ว่า หากเป็นหอพักที่มีหลายชั้นและไม่มีลิฟต์ ยิ่งชั้นบน ๆ จะยิ่งราคาถูกลงเรื่อย ๆ และคำว่าหอพักชาย สภาพจะทุเรศทุรังกว่าหอพักรวม แต่ราคาก็จะถูกลงไปอีก สุดท้ายผมเลยลงเอยที่หอพักชายท้ายซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่สภาพย่ำแย่พอสมควร ในซอยนั้นมีความแปลกอยู่นิดหน่อย คือต้นซอยจะมีหอพักนักศึกษาชุกชุมเหมือนซอยอื่น ๆ นี่แหละ แต่กลางซอยเข้าไปอีกเกือบกิโลฯ จะเป็นบ้านคนและป่ารกร้างสลับกันไป ตึกอพาร์ตเม้นต์และหอพักอีกสี่ตึก มาโผล่อีกทีช่วงท้ายซอย ไกลและเงียบจนผมคงไม่เข้ามาถ้าไม่มีป้าขายน้ำเต้าหู้ที่ได้ยินว่าผมกำลังหาหอถูก ๆ เลยแนะนำให้ผมลองเดินเข้ามาดูวันนั้นผมเดินมากับเพื่อนอีกคนที่บังเอิญเจอกันหน้าปากซอยพอดี แต่พอเพื่อนเห็นสภาพหอแล้วเพื่อนขอบายทันทีโดยไม่รอดูห้องเลย เพราะแค่เดินเข้าตึก ก็

  • โรงเรียนผีดุ   20.วิญญาณปริศนา

    ต้นไผ่มันไม่เชื่อผมเลยทุกคืนกลางดึก ผมเห็นร่างตะคุ่มๆยืนอยู่ที่ระเบียง ทำท่าชะโงกมองอะไรสักอย่าง ก่อนจะเสียหลักพลัดตกลงไปข้างล่าง ในหูได้ยินทั้งเสียงตกกระแทกพื้นดังพลั่ก เสียงหักร้าวของกระดูก และเสียงร้องครางอือในลำคอ แต่เมื่อผมตามไปดูก็ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ“มึงหลอนไปเองแล้วโก้ กูบอกแล้วว่าให้นอนพักเสียบ้าง อ่านหนังสือเตรียมสอบถึงเช้าทุกวันแบบนี้ สมองอ๊องหมดแล้ว” มันว่าทั้งที่ตายังไม่ละออกจากเกมในโทรศัพท์มือถือ “เชื่อกู นอนบ้าง เล่นเกมบ้าง กินเหล้าบ้างก็ดี”ผมรำคาญและหงุดหงิดเสมอเมื่อมันพูดเหมือนไม่เคยใส่ใจปัญหาของผมเลย“ผี ห้องนี้แม่งต้องมีผี กูจะลองหาดู ในข่าวเก่าๆอาจจะมี”ผมลองเข้ากูเกิ้ล เซิร์ชหาข่าวด้วยชื่อตึกและคำว่าเสียชีวิต หาอยู่พักใหญ่จนพบข่าวหนึ่ง เป็นข่าวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ตกจากระเบียงตึกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อราวปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา แต่เมื่อคลิกจะเข้าไปอ่านรายละเอียดกลับเข้าไม่ได้ “เนตเป็นเหี้ยไรวะ!” ผมบ่นอย่างหงุดหงิด “ต้นไผ่ มึงใช้ 4G ป่ะ กูยืมแป๊บดิ ไวไฟแม่งไม่มีสัญญาณ” ไอ้ต้นไผ่ชำเลืองตามามองผมแวบหนึ่ง “มึงเชื่อกู เลิกค้นเรื่องนี้เถอะรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”“

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status