หน้าหลัก / อื่น ๆ / โรงเรียนผีดุ / 10.ต้นมะม่วงหน้าบ้านครูแอ๊ด

แชร์

10.ต้นมะม่วงหน้าบ้านครูแอ๊ด

ผู้เขียน: นทธี ศศิวิมล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-09 22:13:01

สมัยผมอยู่ ป. 5 ครูที่โรงเรียนมีทั้งหมดไม่ถึงสิบคน ทุกคนอาศัยอยู่ที่บ้านพักครูด้านหลังโรงเรียน ซึ่งนอกจากเป็นที่พักแล้ว ยังสร้างติดทางสัญจรเข้าออกโรงเรียนของพวกเด็กๆที่เดินทางมาจากทิศทางนั้นด้วย ดังนั้นครูโรงเรียนผมจึงเรียกว่าหาความเป็นส่วนตัวไม่ได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น เด็กจะเดินคุยกันเสียงดังเซ็งแซ่ บางทีพวกที่อยู่เล่นเตะบอลกับเพื่อนจนถึงค่ำๆ มีปัญหาหกล้มวิ่งชนบาดเจ็บกันก็จะวิ่งมาหาครูที่บ้านพักครู ต้องทำแผลส่งหมอกันวุ่นวายไปอีกแล้วแต่กรณี

            คงจะต้องรอจนถึงช่วงปิดเทอมนี่แหละครับ ที่บ้านพักครูพอจะมีความเงียบสงบบ้าง ครูบางคนก็จะหาวันลาพักร้อนไปเที่ยวกัน แต่ครูบางคนก็พักร้อนอยู่บ้านตัวเองในช่วงที่ไม่ต้องเตรียมงานอะไร

            บ้านครูแอ๊ดเป็นที่หมายตาของกลุ่มพวกผมอันประกอบด้วยผม ไอ้จี๊ด ไอ้ต่อง ตั้งแต่ช่วงสอบปลายภาค วันที่มาฟังผลสอบเราก็มาแอบดูกันอีกรอบ เพราะที่ข้างบ้านครูแอ๊ดมีต้นมะม่วงอกร่องต้นใหญ่มากอยู่ต้นหนึ่ง สูงเป็นสิบเมตร ใบดกหนาให้ร่มเงาครึ้มสบาย แต่ใครเขาจะไปสนใจใบกันล่ะครับ ลูกมะม่วงอวบปลั่งที่ออกดกเป็นพุ่มเป็นพวงห้อยระย้าเต็มต้นนั่นต่างหาก บางลูกดิบ บางลูกห่ามแล้ว บ่มอีกสักหน่อยน่าจะหวานหอม เราคุยกันพลางชี้ชวนจับจองกันสนุกสนานจนน้ำลายแทบไหล

            กระนั้นการจะได้กินมะม่วงบ้านครูแอ๊ดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเขาว่ากันว่าเมียครูแอ๊ดดุและหวงมะม่วงต้นนี้มาก ขนาดที่ไม่ยอมให้เด็กคนไหนเข้าใกล้ เคยจับเด็กที่แอบมาปีนขึ้นได้หลายครั้งก็ฟาดเอาเสียจนน่องลาย เข็ดขยาดไปตามๆกัน ไม่รู้ว่าจะอะไรกันนักหนา ทั้งที่ลูกก็ออกดกขนาดนี้

            พวกผมสามคนวางแผนและนัดหมายกันว่า ช่วงปิดเทอมนี่แหละ ค่อยหาเรื่องมาเล่นกันที่โรงเรียน แล้วเฝ้าดูเอาว่าช่วงไหนครูแอ๊ดกับเมียไม่อยู่บ้าน ก็จะพากันขึ้นมะม่วงบ้านแกแล้วเอากลับไปสักคนละสองสามโล กินดิบจิ้มกะปิก็หวานคอ กินห่ามก็เปรี้ยวๆมันๆ บ่มหน่อยสุกหวาน ยังไงก็อร่อยแน่นอน

            จนถึงวันนั้น พวกเราเห็นครูแอ๊ดกับเมียขนกระเป๋าเดินทางสองใบขึ้นรถแล้วขับออกจากบ้าน พอครูพ้นโรงเรียนก็พากันร้องไชโยดังลั่น วิ่งไปหยิบไม้ตะกร้อ คุน้ำ แล้วก็ผ้ารองคอยรับมะม่วงมาประจำการ

            เริ่มจากลูกที่อวบอ้วนและตะกร้อสอยถึง เราจัดการกระตุกลงมาได้สองสามพวง แต่ก็ไม่ค่อยได้อย่างใจ เพราะลงมาแล้วเขียวดิบกว่าที่ตาเห็น

“อยากได้ห่ามๆบ้างว่ะ เผื่อเอามาบ่มด้วย” ไอ้จี๊ดว่าแล้วขึ้นต้นมะม่วงเป็นคนแรก “พวกมึงคอยบอกกูด้วยว่าเห็นอยู่ทางไหน”

ไอ้จี๊ดขึ้นไปแล้วจัดการเด็ดลูกห่ามที่หมายตาลงมาให้เรารับได้สามลูก แล้วก็ไม่เห็นลูกอื่นอีก เราตะโกนบอกทางกันคอแห้ง แต่มันก็ไม่ได้อย่างใจ แล้วจู่ๆมันก็สะดุ้งเกือบหงายหลังตกลงมา ทำท่าเหมือนคุยอะไรกับใคร แต่เนื่องจากระยะที่สูงและใบดกหนามากเป็นพิเศษ ผมเลยมองไม่เห็น

สักพักมันปีนกลับลงมาบ่นเรื่องมดแดงที่ระดมกัดจนแสบยิบไปทั้งตัว “แม่ง...บนนั้นตรงเกือบยอด มีเด็กผู้หญิงอีกคนนั่งแทะมะม่วงสุกอยู่ว่ะ ไม่รู้ขึ้นไปตอนไหน โผนกิ่งนั้น โจนกิ่งนี้คล่องยังกะลิง”

            ผมมองตามแล้วไม่เห็น แต่ก็นึกอยากจะเห็นเลยอาสาขึ้นไปเด็ดมะม่วงต่อ ระหว่างทางเห็นลูกห่ามๆสวยๆก็แวะเด็ดแล้วตะโกนให้พวกมันรับอีกสองลูก จนกระทั่งหางตาเห็นอะไรแวบๆข้างบน

            มีเด็กผู้หญิงอยู่บนต้นไม้จริงๆด้วย อายุน่าจะเท่าๆพวกเราแต่คล่องและปราดเปรียวมาก โผนกิ่งต่อกิ่งอย่างสนุกสนาน

            “มาขึ้นมะม่วงเหรอ โยนให้เพื่อนเรารับก็ได้นะ อยู่ข้างล่างโน่น” ผมว่า

            เด็กหญิงยิ้มปากกว้างเห็นฟันเรียงยาว ผมใจหายวาบ

หน้าเธอดูแล้วมันดูแห้งๆแปลกๆ ตากระด้างเหมือนไม่มีแวว ผมก็กระเซิง ตัวผอมแลดูเหมือนซากอะไรบางอย่างมากกว่าคนจริงๆเธอชี้ลูกมะม่วงสุกลูกหนึ่งแล้วโผไปทางนั้น

            ทันใดนั้นเอง เท้าของเธอเกาะพลาด พลัดร่วงแล้ววืดลงมาใกล้ตัวผม ผมผวาตกใจรีบพุ่งไปจะคว้าตัว แต่ก็ทำให้มือที่ยึดกิ่งอยู่ลื่นหลุดไปด้วย

            ผมร่วงจากความสูงราวห้าเมตร ระหว่างทางกระแทกกิ่งไม้ทำให้ชะลอความเร็วลงบ้าง ได้ยินเสียงเพื่อนสองคนร้องลั่น และโชคดีที่มันเอาผ้ารองหัวไว้ได้ทัน ผมจึงหักแค่แขน ไม่ใช่คอด้วย

            บุญเก่ายังพอมี ครูแอ๊ดกับเมียลืมกระเป๋าสตางค์แล้วขับรถกลับมาพอดี เลยได้พาผมไปส่งโรงพยาบาลพร้อมบทสวดด่าระหว่างทางยาวเหยียด

            หลังจากเรื่องนั้นวันนั้นแล้ว พวกเราจึงเข้าใจว่ามองเมียครูแอ๊ดผิดไปมาก แกไม่ได้คิดว่าจะหวงมะม่วงเอาไว้กินเองหรอก แต่มันมีเรื่องราวก่อนพวกเราเกิดที่แกเล่าไม่ได้ และกลัวว่าจะเกิดซ้ำรอยอีกต่างหาก

            หลังเปิดเทอมมะม่วงอกร่องบ้านครูแอ๊ดออกเต็มต้น สุกเหลืองส่งกลิ่นหอมทะลุเปลือกไปทั่วบริเวณ ครูแอ๊ดกับเมียช่วยกันเก็บมะม่วง เอามาให้เป็นอาหารกลางวันของนักเรียนได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า บางส่วนแกแยกไว้กินกับข้าวเหนียวมูล ทำใส่บาตรเลี้ยงพระ ที่เหลือขายเอาเงินไปไว้ช่วยเหลือค่าเสื้อผ้าเด็กนักเรียนที่บ้านยากจนได้อีก

            ส่วนผมกับไอ้จี๊ด ไอ้ต่อง พวกเรานัดกันกลับมาทุกปีหลังจากเรียนจบไปแล้ว เพื่อช่วยครูแอ๊ดกับเมียทำข้าวเหนียวมะม่วงขายช่วยน้องๆ และทำบุญให้ยายตัวแสบผู้น่าสงสารที่เราเคยโลดโผนโจนทะยานอยู่บนยอดมะม่วงร่วมกันด้วย

ขอให้ไปสู่สุคตินะ ชาติหน้าเกิดมาขอให้อยู่ในครอบครัวที่มีกิน ไม่ต้องมาอดอยากขโมยเขากินแบบนี้อีก...ผมอธิษฐานเช่นนั้นขณะที่มองไปยังต้นมะม่วง ยิ้มให้กับเงาดำตะคุ่มคล้ายร่างเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักแสนซนคนหนึ่งที่กำลังจ้องมองกลับมาเช่นกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โรงเรียนผีดุ   25.ที่พื้นสระ

    แถวบ้านเก่าของฉันสมัยเด็กๆ ไม่ค่อยมีสระว่ายน้ำที่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าไปใช้ มีแค่สระของค่ายทหาร กับสระว่ายน้ำโรงแรม สระโรงเรียนเลยกลายเป็นที่พึ่งของเด็กๆที่อยากลงเล่นน้ำในสระแต่ไม่มีที่ไป เราเรียกชื่อสระว่ายน้ำแห่งนั้นตามชื่อโรงเรียน เป็นสระที่สร้างขึ้นในบริเวณโรงเรียนเก่าที่ฉันเรียนอยู่ เมื่อก่อนยังมีสอนว่ายน้ำ แต่พอเกิดเรื่องร้ายขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีใครอยากให้ลูกเรียน เลยปิดวิชาสอนว่ายน้ำ เปิดให้เอกชนมาเช่าแทนสระว่ายน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีโซนน้ำตื้น น้ำลึก มีห้องอาบน้ำและมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย โดยมีค่าลงสระเพียงคนละสิบบาทต่อวัน เล่นได้จนกว่าจะเบื่อ ในความทรงจำของฉันกับพี่ๆน้องๆ ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้พวกเราหัดว่ายน้ำกันเองจนว่ายเป็น และเป็นที่ที่หาความสุขสำราญกันในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ช่วงปิดเทอมเราแทบจะมากันวันเว้นวัน พวกผู้ใหญ่ก็พากันชอบใจที่มีผู้ช่วยเลี้ยงเด็กระหว่างวันโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอันตราย เพราะมีลูกเจ้าของกิจการที่ว่ายน้ำเก่งคอยเฝ้าเป็นไลฟ์การ์ดและขายขนมอยู่ด้วยตลอดทั้งวัน ความพิเศษของสระน

  • โรงเรียนผีดุ   24.เรื่องนี้ผีเล่า

    ผมจะบอกใครได้ยังไงว่าเรื่องที่ผมเขียนมานั้น เป็นเรื่องที่ผีเล่า! พูดไปใครจะเชื่อ ยุคนี้สมัยนี้แล้ว ยังมีเรื่องราวอย่างที่เขาพูดกันว่า ‘ผีบอก’ ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า รุ่นพ่อแม่ผม ได้ยินมาไม่รู้เท่าไหร่ เรื่องยาผีบอก สูตรยาลึกลับที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเลย แต่อยู่ดี ๆ ใครคนหนึ่งก็จะฝัน หรือได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ จากชาวปรโลก บอกว่าส่วนผสมของสมุนไพรชนิดใดบ้างที่จะช่วยเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บที่หมอปัจจุบันรักษาไม่หาย ยาเหล่านี้ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของดวง ถ้าโชคดีกินแล้วหาย ก็ยกความดีความชอบให้ผี แต่ถ้าไม่หาย ญาติพี่น้องคนป่วยก็มักจะโบ้ยให้กับเคราะห์กรรม ถ้าอย่างเพลงผีบอกก็จะคล้าย ๆ กัน มักเกิดขึ้นกับนักดนตรีหรือนักประพันธ์เพลงที่ได้ยินเสียงดนตรี หรือเพลงที่มีเนื้อร้องทำนองในตอนหลับ หรือกำลังอยู่ในสภาวะเคลิ้ม ผมเคยได้ยินเรื่องนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลกคิดท่อนต่อของเพลงไม่ออก พยายามคิดมาเป็นแรมเดือน อดหลับอดนอน แต่พอได้นอนหลับลงในคืนหนึ่ง จู่ ๆ เพลงที่เขาพยายามคิดมาแทบตายก็มาปรากฏในความฝัน ผมเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ครับ นักเขียนนิยายวาย ขายในเว็

  • โรงเรียนผีดุ   23.นักเรียนปีศาจ

    รุ่นพี่ที่เล่าให้ผมฟังแกยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียนหนึ่งทางภาคอีสาน แต่เรื่องราวได้ถูกถ่ายทอดเล่ากันมาปากต่อปาก รายละเอียดในเรื่องราวก็ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้สถานที่และผู้คนในเรื่องนี้ถูกบิดเบือนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่อาจสืบสาวได้แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นที่ไหนกันแน่ ผมเป็นครูพละ เพิ่งมาประจำที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ไม่นานนัก มักได้รับมอบหมายให้อยู่เวรกลางคืนและเพราะยังไม่ได้บ้านพักก็เลยต้องพักในห้องพักครูของโรงเรียนตอนดึกๆบางทีก็เดินสำรวจตรวจตรา ส่องไฟฉายดูตามอาคารเรียนต่างๆแก้เบื่อ แต่ส่วนใหญ่แล้วบรรยากาศจะเงียบจนชวนง่วง ส่วนหนึ่งคงเพราะโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และมีนักเรียนไม่มาก แถมห่างออกมาจากชุมชนพอสมควร รอบโรงเรียนมีแต่ป่าหญ้าป่าพง ในคืนเงียบๆเช่นคืนนี้ครูรุ่นพี่ที่พักอยู่ที่โรงเรียนเหมือนกันจึงมักจะมีเรื่องเล่า แปลกๆบ้าง ขำบ้าง เศร้าบ้าง หรือหลายครั้งก็เป็นเรื่องหลอนๆอย่างเช่นเรื่องนี้ มีเด็กที่ชาวบ้านเจอแล้วมาแจ้งให้ทราบว่าเป็นเด็กในชุดนักเรียน ผู้หญิงผิวขาวซีด เนื้อตัวแห้งเหี่ยว ใบหน้าแทบไ

  • โรงเรียนผีดุ   22.คืนไฟดับที่หอชาย 2

    ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเปิดประตูออกมาจากห้อง มีเสียงพูดคุย และน่าประหลาดมากที่ส่วนใหญ่ฟังดูเหมือนเสียงผู้หญิง!ก็อย่างที่บอกครับ หอที่ผมอยู่แม้จะเป็นหอพักชาย แต่ก็มีบางรายที่แอบพาสาวเข้ามา แต่ส่วนที่จะซุกไว้บ้างเท่าไหร่นี่ก็ไม่รู้ได้ ตอนนั้นผมได้แต่นั่งฟังเสียงหญิงสาวแปลกหน้าคุยกันแถวโถงทางเดินจนเสียงดังเข้ามาในห้องอากาศร้อนในคืนนั้นทำให้ผมเริ่มทนอยู่ไม่ไหว ยิ่งเมื่อพัดลมเปิดไม่ได้ มันก็ยิ่งอบอ้าวหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ทัน หอบเป็นหมาหอบแดด ร้อนเหมือนอยู่หน้าเตาถ่านผมพยายามจะช่วยเหลือตัวเองด้วยการคลำ ๆ ทางเดินไปเปิดหน้าต่างหลังห้องให้กว้างสุด แล้วก็เดินไปเปิดประตูหน้า หวังว่าอาจจะมีลมโชยเข้ามาถ่ายเทช่วยให้ห้องหายร้อนบ้าง แต่เมื่อเปิดจนสุดแล้วก็ไม่มีลมพัดมาสักวูบ มีแต่กลิ่นชวนอาเจียนราวกับหนูเน่าโชยเข้ามาเป็นระลอก ๆผมมาแปลกใจอีกอย่างที่พบว่าในความมืดหลังไฟดับครั้งนี้มันแปลก ๆ คือมันมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด แม้เมื่อเดินออกไปมองทางหน้าต่างห้องผมซึ่งเป็นชั้นหก ก็ไม่เห็นมีแสงสว่างจากท้องฟ้า แสงจันทร์ หรือแสงจากไฟฟ้าที่อื่นที่ยังไม่ดับ...ในใจก็คิดอะไรกันละเนี่ย ไฟดับทั้งกรุงเทพฯ เลยหรื

  • โรงเรียนผีดุ   21.คืนไฟดับที่หอชาย 1

    เมื่อตอนที่ผมอยู่หอเก่าหลังมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่ผมจนสุด ๆ ต้องทำงานหาเงินเรียนและจ่ายค่าหอค่ากินค่าอยู่เองทั้งหมด ก็เลยต้องเลือกหอพักชายที่ราคาถูกสุด ๆ เท่าที่จะหาได้จำได้ว่าวันที่ไปเดินหาหอพัก ผมเดินเข้า ๆ ออก ๆ เกือบทุกซอย จดราคาค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามัดจำของแต่ละหอไว้จนเต็มหน้ากระดาษ จนได้ข้อสังเกตที่ว่า หากเป็นหอพักที่มีหลายชั้นและไม่มีลิฟต์ ยิ่งชั้นบน ๆ จะยิ่งราคาถูกลงเรื่อย ๆ และคำว่าหอพักชาย สภาพจะทุเรศทุรังกว่าหอพักรวม แต่ราคาก็จะถูกลงไปอีก สุดท้ายผมเลยลงเอยที่หอพักชายท้ายซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่สภาพย่ำแย่พอสมควร ในซอยนั้นมีความแปลกอยู่นิดหน่อย คือต้นซอยจะมีหอพักนักศึกษาชุกชุมเหมือนซอยอื่น ๆ นี่แหละ แต่กลางซอยเข้าไปอีกเกือบกิโลฯ จะเป็นบ้านคนและป่ารกร้างสลับกันไป ตึกอพาร์ตเม้นต์และหอพักอีกสี่ตึก มาโผล่อีกทีช่วงท้ายซอย ไกลและเงียบจนผมคงไม่เข้ามาถ้าไม่มีป้าขายน้ำเต้าหู้ที่ได้ยินว่าผมกำลังหาหอถูก ๆ เลยแนะนำให้ผมลองเดินเข้ามาดูวันนั้นผมเดินมากับเพื่อนอีกคนที่บังเอิญเจอกันหน้าปากซอยพอดี แต่พอเพื่อนเห็นสภาพหอแล้วเพื่อนขอบายทันทีโดยไม่รอดูห้องเลย เพราะแค่เดินเข้าตึก ก็

  • โรงเรียนผีดุ   20.วิญญาณปริศนา

    ต้นไผ่มันไม่เชื่อผมเลยทุกคืนกลางดึก ผมเห็นร่างตะคุ่มๆยืนอยู่ที่ระเบียง ทำท่าชะโงกมองอะไรสักอย่าง ก่อนจะเสียหลักพลัดตกลงไปข้างล่าง ในหูได้ยินทั้งเสียงตกกระแทกพื้นดังพลั่ก เสียงหักร้าวของกระดูก และเสียงร้องครางอือในลำคอ แต่เมื่อผมตามไปดูก็ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ“มึงหลอนไปเองแล้วโก้ กูบอกแล้วว่าให้นอนพักเสียบ้าง อ่านหนังสือเตรียมสอบถึงเช้าทุกวันแบบนี้ สมองอ๊องหมดแล้ว” มันว่าทั้งที่ตายังไม่ละออกจากเกมในโทรศัพท์มือถือ “เชื่อกู นอนบ้าง เล่นเกมบ้าง กินเหล้าบ้างก็ดี”ผมรำคาญและหงุดหงิดเสมอเมื่อมันพูดเหมือนไม่เคยใส่ใจปัญหาของผมเลย“ผี ห้องนี้แม่งต้องมีผี กูจะลองหาดู ในข่าวเก่าๆอาจจะมี”ผมลองเข้ากูเกิ้ล เซิร์ชหาข่าวด้วยชื่อตึกและคำว่าเสียชีวิต หาอยู่พักใหญ่จนพบข่าวหนึ่ง เป็นข่าวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ตกจากระเบียงตึกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อราวปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา แต่เมื่อคลิกจะเข้าไปอ่านรายละเอียดกลับเข้าไม่ได้ “เนตเป็นเหี้ยไรวะ!” ผมบ่นอย่างหงุดหงิด “ต้นไผ่ มึงใช้ 4G ป่ะ กูยืมแป๊บดิ ไวไฟแม่งไม่มีสัญญาณ” ไอ้ต้นไผ่ชำเลืองตามามองผมแวบหนึ่ง “มึงเชื่อกู เลิกค้นเรื่องนี้เถอะรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”“

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status