มยุรี...เพื่อนเก่าเดินเข้ามานำเสนอ เพื่อนเก่า ชู้รักคนเก่าตั้งแต่กลับมาจากจีนก็ได้มา “หยุมหัว” กันมากเกินหนึ่งครั้ง ต้าร์ ตฤณ เหมาะที่จะเป็นอาหารจานว่างให้หล่อนลิ้มลองและสะสมแต้ม
หล่อนผู้เชื่อว่าเรื่องผู้ชายคือความบันเทิง
คือสีสันชีวิต
คนหนึ่งก็รสหนึ่ง ต้าร์ก็เป็นอีกรส
ที่หล่อนไม่ชอบคือเขาร้องเพลงลูกทุ่ง...หากร้องเพลงอื่นน่าจะดีกว่า
ที่จริงหล่อนอยากให้อีกคนมาด้วย ขึ้นเวทีด้วย
เดชชนะ คูนแคน
พี่ชายของต้าร์ เมญานีสนใจเขามาก เขาดูหล่อใสกว่าต้าร์และที่แน่ๆ หล่อนยังยื่นมือแตะตัวเขาไม่ได้
ไม่เคยได้การโอบกอด
ไม่เคยได้จูบ
ดูเป็นของยาก
แต่ท้าทาย
นี่หล่อนเตรียมตัว...วันนี้หล่อนมีนัดกับต้าร์ก่อนเขามาเปิดการแสดง และเมื่อเจอกัน หล่อนก็ได้รับของฝากที่เขาเอ่ยชวน...
ดื่ม...เมา...เซกส์ บันเทิงกันสุดขีด
และหล่อนเอ่ยถามเมื่อกำลังไต่ขอบสวรรค์ชั้นเจ็ด
“สนใจอยากสามคนกันไหม ต้าร์”
ตฤณชะงัก “ถามอะไร”
“แค่ชวนเดชมาอีกคน...”
“เฮ้ย บ้า ไม่เอาด้วย เมญ่า ให้เดชมันมากระทืบเรากันหรือ มันไม่มาสามคนผัวเมียกับเราหรอกนะ กับเธอด้วย เมญ่า มันเคยมองเธอที่ไหนกันเล่า”
////////////////////////////////////////
“ฉันแวะมาทำงานเรื่องผ้านิดหน่อย” เอกนรีบอกเพื่อนสาวที่ได้ออกมาคุยกัน เมื่อเธอมาเยือนเมืองที่เพื่อนอยู่เห็นเป็นโอกาสอันดี ก๊วนเธอมีด้วยกันสามสาว เธอเอง มยุรีและอีกคนกิตติมา
มยุรีช่วยธุรกิจทางบ้านที่มีบริษัทบัญชีและสำนักงานทนายความ
ส่วนกิตติมาเป็นจิตแพทย์
และที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือสามสาวยังเป็นโสด
มีแต่เอกนรีที่สวยสุดในกลุ่มมีคนรัก เขาชื่ออาทร เป็นหนุ่มไฟแรงในระดับผู้บริหารของกิจการค้า รับปรึกษาออนไลน์ เขาแก่กว่าเอกนรีสิบปี...เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ชายอบอุ่น ที่สำคัญอาทรมีครบถ้วนในสิ่งที่ผู้หญิงปรารถนา
หน้าตา สถานะครอบครัว หน้าที่การงานและตัวเขาเองที่เป็นผู้ชายติดอันดับสามีแห่งชาติได้ ตามคุณสมบัติที่ว่ามาแม้จะไม่เข้าข่ายคนดังระดับดาราหรือศิลปินแขนงใดๆ ก็ตามที
แต่เมื่อเขารักจะคบหากับเอกนรี ที่เป็นสาวรุ่นใหม่มีช่องยูทูปของตัวเอง มีชีวิตตัวเองเต็มรูปแบบ มีคนติดตามในธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าและความงาม และรับรีวิวสินค้าอื่นๆ พร้อมกับคำยกย่องว่าเป็นอินฟลูเรนเซอร์ ผู้มีอิทธิพลนิดๆ
เธอทำงานคนเดียว มีผู้ช่วยอีกสามคน ที่รับงานไปทำต่อโดยมีตัวเธอเป็นส่วนหัวขับเคลื่อน
อาทรเลยได้รับความสนใจ เพราะกระแสความดังของเอกนรี และทุกคนรอการแต่งงานองคนทั้งสองที่จะถือว่าเป็นคู่รักแห่งปีก็ว่าได้
และวันนี้เมื่อนั่งลงเจอกันหน้ากัน มยุรีก็ยังถามเพื่อน
“เมื่อไหร่ จะมีงานแต่ง”
เอกนรีหัวเราะทำตาโต ก่อนจะบอกเสียงอารมณ์ดี
“มีแน่นอน...น่าจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกานี้แหละ”
“อีกสามเดือน”
“ใช่ อีกสามเดือน เพราะทุกอย่างก็แพลนแล้ว ที่ยังเถียงกันมีเรื่องเดียว จะไปฮันนี่มูนที่ไหน ฉันอยากไปทะเล แต่พี่อาทรเขาอยากไปภูเขา ไปปีนเขา เที่ยวน้ำตก”
ซึ่งรู้กันว่าเอกนรีไม่ชอบภูเขา ไม่ชอบน้ำตก เธอชอบทะเล
“ฉันจะได้เตรียมหาเสื้อผ้า เดี๋ยวสวยไม่พอ”
“เพื่อนเจ้าสาวย่ะ ฉันหาให้อยู่แล้ว” เอกนรีบอก “ยัยหมอมาอีกคน เราสามคน ต้องสวยที่สุด”
วาดหวังด้วยดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มมีความสุข
“ก็ดีนะ นี่ๆ อยู่เมืองนี้กี่วัน”
“พรุ่งนี้กลับ” ก่อนจะมองหน้าเพื่อน “มีอะไร”
“มีใครบางคนอยากให้เจอ...”
“ใคร...”
“ลูกของเอื้อยฟ้า”
เสียงเบา แต่เหมือนก้องเข้าไปใยหัวของเอกนรี
“อย่าเอ็ดไป นี่ฉันแอบบอกเธอนะ เพราะฉันเองก็เพิ่งจะแน่ใจ...ว่าใครเป็นแม่นายต้าร์กันแน่”
“ลูกยายแม่มดนรกนั่นแน่หรือ”
“แน่สิ ป้าสะใภ้เธอเคยมาอยู่กับวงนี้...เมื่อยี่สิบสี่ปีก่อนโน้น”
“แล้วลุงฉันไปไหน”
“เอาเรื่องจริงไหม” มยุรียังเอ่ยเบาๆ ต่อไป “ฉันเองก็ไม่อยากพูดมาก แต่ที่พูดนี่เพราะเห็นแก่เธอและฉันเกลียดนายต้าร์มาก”“พูดมา มีอะไรพูดมา”
“แต่อย่าไปพูดกับป้าเธอนะ เก็บเอาไว้เป็นรู้เขา...
รู้เรา”“ลุงน่าจะรู้ จะได้เฉดหัวอีป้านั่นออกจากบ้าน ออกจากชีวิต”
มยุรีส่ายหน้าไปมา “ลุงเธอเคยมาป็นผู้จัดการวงให้คูนแคน”
เอกนรีทำท่าตกใจ และรายละเอียดก็ตามกันมา
น่าขัน...วิลลี่รู้ทุกอย่างและนาทีนี้เธอสรุปได้ว่าลุงรู้เห็นเป็นใจให้กับเอื้อยฟ้า
“พวกเขาสมคบคิดกันมาขโมยเพลงของน้าฉัน...น้าดำรงเสียทุกอย่าง เสียเมีย เสียเพลง...นี่มารับจ๊อบจัดการวงให้เพราะเห็นแก่น้า เห็นแก่เดช”
“หมายความว่ายัยนั่นทิ้งลูกไปกับลุงฉันหรือ”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล