มยุรีพยักหน้ารับ
“โอย...นอกจากจะเป็นแม่นางฟ้านรก ยังเป็นแม่ใจร้ายด้วย นายต้าร์นั่นรู้ไหม...”
มยุรีส่ายหน้าไปมา
“ไม่มีใครบอกเขาหรือ”
“ทุกอย่างเป็นความลับ น้าดำรงมียัยเอ๋ อัจฉรา ที่อุ้มท้องมาให้น้าดำรงรับเป็นพ่อ แล้วมารับนายต้าร์นี่เป็นลูกตอบแทน...ปิดบังฐานะแม่แท้จริงไว้”
เอกนรีตาลอยๆ ลำดับเรื่องราว ก่อนจะออกปากว่า
“ทั้งลุงฉัน และยัยป้านั่นเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลยนะ คนนึงก็ไม่เอาลูกตัวเอง อีกคนก็ยังทำให้ยัยป้าใจดำไม่รับลูกมาดูแล...คนอะไร..กี่ปีแล้ว พูดก็พูดนะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องลูกของยัยเอื้อยฟ้าเลย...นางทำเหมือนไม่เคยเป็นแม่คน หรือเพราะนางเป็นแม่ใครไม่ได้”
เป็นคำสบประมาท หมิ่นแคลนรุนแรงนัก
“ฉันจะเจอนายต้าร์นั่นได้อย่างไร”
“เขาจะมาร้องเพลงเปิดตัวห้องอาหารที่นี่ คืนนี้แหละที่โรงแรมนี้...ห้องอาหารอิสานเปิดใหม่...ได้ยินมาว่าอาหารอร่อยล้ำนัก...หากชอบส้มตำ...ลาบก้อย...อะไรพวกนี้นะ”
และเป็นการพบกันโดยที่เอกนรีบอกว่า
“ไม่ต้องแนะนำฉันนะ ขอดูอยู่ห่างๆ”
เธอบอกเช่นนั้น มยุรีทำตาม...ถึงเวลา ที่ห้องอาหารที่เปิดใหม่ เอกนรีได้โต๊ะด้านข้างเวทีแต่อยู่ด้านหน้าจะมองบนเวทีได้ชัด แถมยังมีมุมเล็กๆ ที่จะหลบหน้าได้ด้วย เธอนั่งอยู่กับมยุรีตราบจนเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา...มยุรีบอกเธอว่า
“ลูกน้าเอ๋ที่น้าดำรงรับเป็นพ่อ พี่นายต้าร์ แต่นายต้าร์ไม่รู้เรื่องนี้นะ”
เธอมองดูผู้ชายคนนั้น จับต้นชนปลายได้ว่าเขาน่าจะเป็นลูกไม่มีพ่อที่เพื่อนบอก....
หน้าตาดี ผิวขาว ดูเหมือนมีออร่า...
ผู้ชายอะไร เห็นผิวสวย ในฐานะที่อยู่กับเครื่องปรุงแต่งความงาม เธอรู้เลยว่าผิวนั้นจะต้องมีพื้นผิวที่ดีและมีการดูแล...หรืออาจจะไม่ได้ดูแลเพิ่ม
ตามวัย...น่าจะวัยเดียวกับเธอ...กับมยุรีไม่น่าจะต่างกันมากนัก
มยุรีขยับตัวลุกไปหา ชั่วแวบเขาหันมามองเธอ...มองหน้ากัน และเมื่อมยุรีไปถึงตัวเขา...เห็นเขาจ้องมา...
โดยที่เธอไม่ได้ยินคำบอกเบาๆ ของเพื่อนกับเขา
“เพื่อนเราเอง ชื่อเอกนรี”
คงจะผ่านไป หากว่ามยุรีไม่ได้เอ่ยต่อ
“หลานของเอื้อยฟ้า หลานทางลุง...เพราะลุงเป็นผัวเอื้อยฟ้า”
เดชชนะมองไปอีกครั้ง หญิงสาววัยเดียวกับเขากำลังนั่งเท้าคาง...กับพื้นโต๊ะ.. สวมหมวกปีกไม่กว้างมากนัก ...
สีออกครีมๆ เช่นเดียวกับชุดกระโปรงออกสีครีม..ท่าทางเชื่อมั่นในตัวเองใส่หมวกมานั่งกินอาหารค่ำ
อาหารอิสานด้วย...ดูเป็นตัวของตัวเอง...
หลานของวิลลี่ ผู้ชายคนนั้น...คนที่พาเมียพ่อไปจากบ้าน
คนที่พา...ผู้หญิงคนนั้นไปจากเขา ตั้งแต่เขายังเป็นทารก แต่เขาก็ยังมองอย่างยุติธรรมว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำผิดคนเดียว แต่ร่วมมือกัน
เธอนั่งเท้าคางมองมา มีรอยยิ้มโดยที่ปากไม่ได้แย้มออกจากกัน
รอยยิ้มนั้น...
ให้ตาย...เดชชนะบอกตัวเอง ราวกับถูกบาดด้วยแสงสว่างที่มากกว่าไฟที่ประดับในร้านนี้
แสงไฟส่องหน้าเธอ...ให้ดูสว่าง
แต่ยังแพ้รอยยิ้มนั่น...และเขาไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั่นส่งความเห็นใจเพราะที่มยุรีได้บอกไว้
ลูกไม่มีพ่อ
เธอเห็นใจเขา
เดชชนะเอ่ยเบาๆ “หลานสาวผู้หญิงคนนั้น...”
“พวกเขาเกลียดกัน”
“อ่ะนะ”
“เพื่อนเราเกลียดเอื้อยฟ้ามาก”
“อย่างนั้นหรือ”
“เอื้อยฟ้าก็เกลียดนรีด้วย”
“อือ อาจจะพอสมกัน แต่ช่างเถิด...ต้าร์มาแล้วนะ แต่ไปอยู่บนห้องของเมญ่า ตะกี้เราไปตามแล้ว...ไม่ได้ผล...ยังนัวเนียกันอยู่” เหมือนหงุดหงิดเล็กน้อย
“อย่าบอกนะ...ว่าเพลงแรกนายจะขึ้นเวทีเสียเอง”
“ก็จนกว่าต้าร์จะลงมา...” เขาถอนใจเบาๆ “คราวนี้ไม่เมายา”
“แน่ใจหรือ อาจจะล่อทั้งยา ทั้งเซกส์”
เดชชนะส่ายหน้าไปมา “เราว่าเมญ่าคงไม่ได้เล่นยาด้วยหรอก...เอาอนาคตดีๆ มาทิ้งกับยาทำไม”
“แหม...เดช ไม่รู้จักยัยเมญ่าแล้วหรือไร”
มยุรีเอ่ยหัวเราะ “สวยรูปจูบหอมที่ไหน...มีแต่นายต้าร์แหละที่หัวปักหัวปำกินกันอยู่น่ะ แต่พูดไปนะ ก็สมกันดี ดอกไม้พลาสติกกับแจกันไม้ไผ่”
“เดี๋ยวเราขึ้นเวทีก่อนต้าร์มา...”
“มีเพลงหรือยัง...”
“เราจะร้องเพลงของพ่อ...ที่ไม่มีใครเคยได้ยิน...”
“เพลงอะไร”
“หัวใจซ่อนชู้”
“อ่ะ...”
“เราค้นเจอจากสมุดของพ่อ...ว่าจะเอาให้ต้าร์ลงแผ่นคราวหน้า”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล