บรรยากาศโดยรอบเงียบสนิท เงียบเสียจนใจที่เต้นอยู่แทบหยุดเต้น สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า ใครกันที่ทำแบบนี้กับฉัน พื้นเย็นเยียบ เสียงน้ำหยด เบา ๆ แต่สะท้อนไปทั่วอาณาบริเวณ
สถานที่แห่งนี้คนปกติไม่เคยย่างกรายเข้ามา เพราะบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเครื่องจักรอุตสาหกรรม รถเก่าที่เหลือแต่โครง ตามพื้นเศษอิฐปูนกระจัดกระจาย ผนังเกิดแตกร้าวเป็นรอยงูเลื้อย เสาค้ำยันบางต้นเอนเอียงไปมา เถาวัลย์เลื้อยปกคลุมไปตามหน้าต่างที่แตกกระจาย คราบตะไคร่เกาะแน่นกลิ่นฝุ่นและเชื้อราอบอวลไปทั่วอากาศ
ที่นี่คือที่ไหน...
ฉันไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แล้วใครกันที่จับฉันมา เขาต้องการอะไรผ้าผืนบางปิดตา ทั้งที่พยายามเบิกมองกลับยิ่งมืดกว่าเดิม
ความเย็นยะเยียกของพื้นกลับไม่เท่าความหนาวในใจ
ไม่นานเสียงของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
ใจที่แทบหมดหวัง กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ปากที่ถูกปิดอยู่ส่งเสียงร้องออกไป แต่ไร้ผล
ความกลัวแล่นผ่านใจ พร้อมกับความเหนื่อยดิ้นรนหาทางรอด
เสียงฝีเท้ามาหยุดตรงหน้า...
ฟุบ!
เสียงเข็มขัดฟาดลงที่พื้นข้าง ๆ กาย ก่อนมันฟาดเข้าที่ตัวฉันเต็มแรง ความเจ็บแสบ มันแล่นพล่านเสียจนน้ำตาไหลภายใต้ผ้าปิดตานี้
ทำไมกัน ใครกันถึงได้กล้าจับคนกลางวันแสก ๆ บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะ!
"เธอมันสมควรตาย "
มือหยาบกร้านของชายคนหนึ่งบีบคางมนเต็มแรง จนร่างบางใต้มือหนารู้สึกเจ็บร้าวไปถึงกระดูก ฟังจากน้ำเสียงฉันไม่เคยรู้จักเขาเลย
เสียงสบถหยาบกลบทุกอย่าง ความหวาดผวาถึงกับหยุดน้ำตาทันที
"เธอต้องชดใช้! กลัวอย่างนั้นเหรอ? "
"อย่ากลัว ฉันยังไม่ฆ่าเธอหรอก"
"มันง่ายเกินไป เธอต้องทรมานเหมือนน้องของฉัน"
"ตายทั้งเป็นถึงจะเหมาะกับผู้หญิงแบบเธอ"
"จับตัวเธอไปให้น้าบัวอาบน้ำแล้วส่งขึ้นเตียงของฉัน คืนนี้ความเป็นผัวฉันจะมอบให้เธอเอง"
แววตาเหี้ยมจ้องหญิงสาวตรงหน้า
"ผู้หญิงที่มันร่าน ประเภทชอบหลอกคนไปทั่ว"
เสียงเข้มกร้าว
"ฉันจะนอนกับเธอ แต่ฉันจะไม่รักเธอ "
"ให้มันสาสมกับที่น้องฉันเคยได้รับ"
เสียงทุ้มต่ำเข้มสั่งลูกน้องเฉียบขาด ฉันได้ยินชัดเต็มสองหู ราวกับทุกอย่างช้าลงมีเพียงฉันที่เคลื่อนไหวคำพูดพวกนั้นมันเจ็บเสียยิ่งกว่าโดนฟาดด้วยเข็มขัด และเจ็บยิ่งกว่ามือหยาบช้า ของผู้ชายชั่วคนนั้น ที่บีบหน้าเสียอีก
'เขาพูดอะไรฉันไม่เข้าใจสักนิด'
ฉันใช้ร่างกายทุกส่วนประท้วงเรียกร้องความสนใจ ต้องการจะพูดอธิบาย แต่ชายตรงหน้าไม่สน ร่างบางที่ดิ้นเร้า ๆ"อือ...อือ..."
"นี่มันเรื่องอะไรกัน"
น้ำตาของฉันที่ร่วงหล่นบัดนี้ กลับหลั่งไหลราวกับฝนตกพายุกระหน่ำตาก็มองไม่เห็นว่าใครกันที่ทำแบบนี้ ปากที่จะส่งเสียงร้องขอความปรานียังไร้สิทธิ์ แล้วคืนนี้ชีวิตของฉันจะอยู่รอด จากเงื้อมมือคนเลวนั้นได้อย่างไร
เสียงฝีเท้าหนักแน่น เดินสวบสาบเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยน้ำหวานด้วย" เสียงประท้วงขอความช่วยเหลือดังขึ้นภายในใจ
ผู้ชายสองคนน่าจะเป็นลูกน้อง ดึงฉันให้ลุกขึ้นก่อนใช้น้ำเสียงเข้มสั่ง
"เดินเร็ว ๆ "
ฉันในขณะนี้ ทำได้เพียงฟังคำสั่ง ลุกขึ้นยืนด้วยหัวใจอ่อนล้ากับขาที่ไร้เรี่ยวแรง
รถแล่นออกไป....
ความกลัว ความไม่เข้าใจ สับสนประเดประดังในหัว น้ำตาที่หลั่งไหลปานสายธาร ความสงสัยที่มี แต่ไร้คำตอบ ไร้อำนาจต่อรอง มันเจ็บเสียจนฉัน....ไม่อยากมีลมหายใจต่อไป
ร้องไห้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง รถก็ยังไม่ถึงจุดหมาย ฉันจึงผล็อยหลับเพราะเหนื่อยล้า
"คุณ คุณ ลุกได้แล้ว"
เสียงเข้มดังปลุกฉันให้ตื่น มือที่โดนตรึงด้วยเชือกก่อนหน้านั้น บัดนี้ถูกแก้มัด ผ้าบางปิดตาและเทปปิดปากก็หายไป ไร้การเกาะกุมถูกปล่อยเป็นอิสระ
ขาเรียวก้าวลงจากรถ มองไปยังบริเวณรอบ ๆ กาย รายล้อมไปด้วยต้นส้ม
ที่นี่คือที่ไหนภาพเบื้องหน้าตวัดไปมารวดเร็วเสียจนเวียนหัว...แล้วทุกอย่างก็มืดดับลง...
'นี่มันคุกชัด ๆ'
"คุณ ครับคุณ เธอเป็นลมไปแล้ว"
แสงตะวันลูบไล้ยอดไม้ เสียงนกกระจอกบินมาจับขอบระเบียง ฉันตื่นขึ้นท่ามกลางอ้อมกอดของพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ ที่กอดแน่นราวกลับกลัวหาย'มันหมายความว่าอย่างไรปากบอกแสนเกลียด แต่กอดแน่นขนาดนี้'สายตาคู่งามลอบมองใบหน้าอันหล่อเหล่าที่ยามหลับดูหน้าเข้าหา ภาพรอนกล้ามเนื้อตึงแน่นที่เคยสัมผัส เพียงนึกก็ใจเต้นโครมคราม ตื่น!ยายน้ำหวาน เขาไม่มีทางชอบฉัน"เธอมองให้ฉันละลายเลยเหรอ"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เอ่ยกับคนในอ้อมแขน ทั้งที่ตาไม่ยอมลืม และแขนกอดแน่นกว่าเดิม'เขารู้ได้ไง ว่าฉันมอง'"ปล่อยนะคะ""อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก เงินที่น้าหยกจ่ายเธอไป ฉันซื้อผู้หญิงได้ตั้งเยอะ มีผู้หญิงหลายคนต่อแถวอยากเป็นของฉัน ใช้นามสกุลฉัน เธอควรภูมิใจ น้ำหวาน"น้ำเสียงราบเรียบไม่ใช่คำขอแต่มันคือคำสั่งว่าฉันต้องตามใจเขา จากแขนที่โอบกอดกลายเป็นกระชากเต็มแรง เขาไม่สนว่าคนถูกลากจะเจ็บหรือไม่ เพียงเขาโกรธทุกอย่างต้องย่อยยับเป็นธุลี"เสียอารมณ์!"แขนเรียวถูกสะบัดตามแรงเหวี่ยง ก่อนพ่อเลี้ยงจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์"ก็ดี ไปให้พ้น ๆ "ฉันเอ่ยพึมพำพลางพับที่นอนแล้วจึงเดินไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนทำอาหารเช้าต้มจืดหมูสับตำลึง ไข่เจียว
ท่ามกลางความเงียบสงัด ถนนอันมืดสลัวมีเพียงแสงไฟสีส้มตลอดสองข้างทางสาดส่องพอให้มองเห็น เหนือขึ้นไปท้องฟ้า ดวงดาวระยิบพรางพราวสวยกว่าคืนไหน ๆ เหงื่อไหลอาบแก้มเนียน ร่างบางนั่งพิงเสาด้วยความอ่อนแรง มือกุมท้องแน่นสายตาเลื่อนลอยเฝ้ารอรถสักคันที่จะพาไปให้พ้นค่ำคืนนี้กระทั่งจู่ ๆ โลกทั้งใบเหมือนหยุดหมุนฉันถูกยกขึ้นจากพื้นด้วยวงแขนแข็งแรงของเขา"ปล่อย ฉันนะคะ"เสียงแผ่วเบาสั่นพร่าดิ้นรนสุดแรงที่เหลืออยู่ ไม่อยากให้เขาแตะต้อง ไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเขาอีกแต่พ่อเลี้ยงอธิษฐ์กลับเอ่ยสั่งด้วยสีหน้าราบเรียบ"อยู่นิ่ง ๆ "ความเจ็บในท้องกับความดื้อในใจตีกันจนแทบร้องไห้"เผด็จการ"เสียงบนแผ่วเบาแต่ดังพอให้คนตัวโตตอบกับทันควัน"เพิ่งรู้เหรอ!"สายตานิ่งขรึม พูดราบเรียบ'นั่นสิ เพิ่งรู้เหรอว่าเขาเป็นคนแบบนี้'เขาพาเดินไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน มีเพียงอากาศไหลผ่านกาย ไร้เสียงพูดคุยต่อจากนั้นไม่นานรถก็ขับแล่นออกไปตามถนนสายหลัก จอดหน้าร้านขายยา เพียงรถหยุดหมุน ฉันกำลังพยุงกายหยาบลงไป"อยู่เฉย ๆ "เสียงเข้มสั่งพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไปยังในร้านแทนชายสูงโปร่งออกจากร้านมาพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ ท่าทางหล่อไม่เบาของเขา
คืนนี้เป็นคืนที่สองของการมีสามี พ่อเลี้ยงยังคงทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถ เขาไม่เอ่ยปากว่าให้นั่งรอกลับบ้านพร้อมกัน หรือสั่งให้กลับก่อน ฉันจึงตัดสินใจเอาเอง วิ่งข้ามถนนกลับมายังบ้านอาคารพาณิชย์ เพราะอาการปวดท้องน้อย การเกิดเป็นลูกผู้หญิงแสนจะลำบาก นอกจากจะเป็นประจำเดือนแล้ว ยังปวดท้องอีกหลังอาบน้ำเสร็จ เหงื่อยังซึมเต็มกรอบหน้า ฉันนอนคุดคู้ กุมท้องใต้ผ้าห่ม พยายามข่มตา แต่ยิ่งปวดก็ยิ่งหลับไม่ลงเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากชั้นล่างดังเข้ามาใกล้ก่อนจะผ่านเลยขึ้นไปชั้นที่สาม เสียงเปิดปิดประตูก่อนที่เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องไม่นานทุกอย่างเงียบลง'ปวดท้องจัง หรือจะขอให้พ่อเลี้ยงช่วยดีนะ'ห้องชั้นสาม….พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เอนตัวลงนอนเหมือนเช่นเคยอย่างทุกวัน แต่กลับหลับไม่ลง” เป็นไรวะ “เขาสบถหยาบในใจทั้งที่เมื่อคืนวานไม่ได้นอน และวันนี้ทำงานอยากหนักร่างกายอ่อนเพลีย แต่กลับนอนไม่หลับเขาลุกขึ้นนั่งหลังพิงหัวเตียง กดเปิดโคมไฟตรงข้างเตียงนอน หยิบหนังสือแต่งรถมาเปิดอ่าน แต่ภาพในหัวกลับผุด ร่างเปลือยเปล่าใต้แขนแกร่งกลิ่นคาโมมายล์เมื่อคืนยังติดจมูก เสียงหวานเรียกชื่อเขายังดังก้อง… แทบจะเดินลงไปหาทันที"ไม่! ฉันไม
รถแล่นมาจอดที่บ้าน อาคารพาณิชย์ ฝั่งตรงข้ามอู่ซ่อมรถ ที่นี่เปรียบเสมือนที่ซุกหัวนอนใหม่ของฉัน"เอ่อ งอนกับลูกพี่เหรอครับ" โอยักษ์โพล่งถามออกมาเพราะทนอาการคันปากอยากรู้ไม่ไหว"เปล่า" ฉันรีบปฏิเสธ ทันทีแม้ในใจลึก ๆ รู้ดีว่าเขาเคร่งขรึมเพราะเรื่องอะไร"แต่เหมือนลูกพี่จะตึง ๆ ครับ"โอยักษ์ยังไม่หายข้องใจ แต่ถูกโกสนห้ามเสียก่อน"เลิกสงสัยได้แล้ว!"สองเพื่อนเกลอหยอกล้อกันไปมา ใบหน้างามก็พลอยยิ้มตาม"ฉันจะทำอาหารพวกเธอช่วยเป็นลูกมือหน่อยนะคะ""ได้ครับ/ครับผม"ทั้งคู่ตอบพร้อมกันสมกับเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันโอยักษ์พลังช้างสมชื่อโคกพริกกระเทียมทำน้ำจิ้มซีฟูดดังสะท้อนทั้งบ้านส่วนโกสนเจ้าละเอียด เป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบ ส่วนฉันมีหน้าที่ปรุงอย่างเดียวไม่นานอาหารก็เสร็จ ต้มยำทะเล กุ้งย่าง กุ้งทอดกระเทียมสำหรับเด็ก ๆ ถูกยกขึ้นรถ โดยที่ลูกน้องพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไล่ให้ฉันไปนั่งรอในรถไม่ยอมให้ช่วยยก"ตอนนี้ท้องผมร้องแล้วครับแม่เลี้ยง"โอยักษ์เอ่ยพร้อมมือลูบท้อง รถเคลื่อนตัวออกไป ไม่ถึงห้านาทีก็ถึงอู่ซ่อมรถ โอยักษ์และโกสนถือหม้อแกงเข้าไปยังโรงอาหารทุกคนเริ่มทานข้าวกันแล้ว แม่ครัวคนทำอาหารคือแม่เลี้ยงของน้ำเ
รถแล่นมาจอดช่องจอดภายในอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ที่มีบริการครบครัน พ่อเลี้ยงถือถุงเดินนำเข้าไปภายในร้านโดยไม่รอเช่นเคย ฉันที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดทาง เดินตามลงไปมีชายหนุ่มรูปร่างสูงวิ่งออกจากร้านกล่าวทักทายพร้อมกับช่วยถือของในมือพ่อเลี้ยงอธิษฐ์"สวัสดีครับลูกพี่"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่ตอบเพียงยื่นถุงให้ ชายหนุ่ม เขามองดูถุงนมผงในมือยิ้มจนเห็นฟันทุกซี่ด้วยความดีใจกระโดดกอดพ่อเลี้ยงอธิษฐ์หอมแก้มฟอดใหญ่"ขอบคุณครับลูกพี่""อืม ขืนแกยังไม่เลิกทำท่าทางอุบาทว์ ฉันจะคิดเงินแก"ชายหนุ่มรีบผละตัวออกทันทีจัดแจงเสื้อผ้า พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เองก็เช็ดรอยปากที่ลูกน้องฝากไว้ เป็นภาพที่หาดูได้ยาก ทำให้ฉันที่ตลอดทั้งวันยิ้มแทบไม่ออกกลับยิ้มได้ง่ายดายชายหนุ่มหันมาเจอฉันที่ยืนอยู่ ถึงกับค้างกลางอากาศก่อนจะตั้งสติแล้วเอ่ยถาม"คุณเป็นเมียลูกพี่ใช่ไหมครับ"ฉันยังไม่ตอบเขากลับวิ่งหน้าตั้งแหกปากตะโกนเข้าไปบอกคนในอู่"ลูกพี่มากับเมีย วู้ ทุกคน"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่สบตาฉันเดินนำเข้าไปยังสำนักงาน'อะไรของเขา ตั้งแต่ฉันบอกว่าเป็นประจำเดือน เขาก็เคร่งขรึมทันที'ระหว่างทางที่เดิน ไปยังห้องทำงานพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ ต้องผ่านแผนกต่าง ๆ ทุกแ
หลังจากเลือกซื้อของเสร็จ ฉันเดินขึ้นมานั่งรอพ่อเลี้ยงบนรถอย่างเงียบ ๆ ทั้งที่วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนอบอ้าวแม้แต่น้อย แต่ความรู้สึกเหมือนมีบางอากาศกดทับจนหายใจติดขัด"เป็นอะไร"พ่อเลี้ยงจ้องหน้านิ่งพลางเอ่ยถาม ก่อนหน้ายังดี ๆ"เปล่าค่ะ"ปากอิ่มพูดน้ำเสียงราบเรียบ เอาแต่จ้องมือถือ ไม่หันมามองเขา"เธอหึงฉันกับชบา"พ่อเลี้ยงเอ่ยด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ฉันไม่ตอบเพียงแค่นึกในใจ'ถ้าจะไปหาคนรักเก่า ปลุกฉันตื่นมาทำไมก่อน'"หิวข้าวยัง!""เมื่อไหร่จะถึงบ้านคะ"พ่อเลี้ยงถามอย่างใจเย็น ฉันที่ไม่อยากตอบ จึงตอบคำถามด้วยคำถาม แต่พ่อเลี้ยงยังคงอธิบายความสัมพันธ์กับสาวร้านขายผัก ราวกับใส่ใจว่าฉันจะเสียใจที่เห็นสาวมายุ่งกับเขา"ฉันกับชบาไม่ได้เป็นอะไรกัน"'อกเกยแขนขนาดนั้น บอกไม่มีอะไร'"ฉันซื้อชาไทยมาให้ หวานน้อยแบบที่เธอชอบ"ชานมถูกยัดใส่มือฉัน พร้อมกับสายตาบังคับให้กิน ความเย็นของน้ำแข็งในแก้วกับของที่ชอบ ค่อย ๆ ทำให้ห้วใจที่โดนอากาศกดทับดีขึ้นฉันกดซื้อเสื้อผ้าของร้านที่ชอบในไลฟ์สด แก้วในมือยื่นให้คนข้าง ๆ ถืออย่างลืมตัว"ขอชิมหน่อยนะ"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่ชอบทานของหวานเลย แล้วยิ่งเป็นของที่วัยหนุ่มสาวชื่นชอ