“หืม…”
ไอน์ที่ได้ลองจับสัมผัสดูแล้ว ทำไมอาวุธที่พกไว้ถึงนุ่มนิ่มล่ะ เพราะสงสัย มือเรียวจึงเผลอบีบขยำไปมาโดยไม่รู้ตัว
“เฮ้ยย!!”
เซนที่อยู่ ๆ ก็โดนจับส่วนที่อ่อนไหวก็ถึงขั้นหน้าขึ้นสี พยายามขัดขืนถอยหนีแต่ก็เพราะแผ่นหลังที่อยู่ติดกับประตูจึงไม่มีทางที่จะขยับได้ไปมากกว่านี้แล้ว ซ้ำยังจะผลักออกก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บ การขัดขืนและพยายามห้ามของตัวเองเลยไม่ค่อยได้ผล ซ้ำยังยิ่งดิ้นก็เหมือนว่าสัมผัสจากมือนั้นจะยิ่งหนักขึ้นอีก แต่ที่น่าตกใจจนทำให้เสียงทุ้มต่ำร้องอุทานออกมา ก็เพราะว่าอยู่ ๆ อีกฝ่ายก็ขยับตัวลงไปแล้วเปิดกางเกงของเขาออก
“โอ้วววววว… ตระ บอง ยักษ์”
ดวงตาคู่สวยจดจ้องไปเบื้องหน้า ตกใจกับความใหญ่โตที่เพิ่งโผล่ออกมาจากกางเกงของร่างแกร่ง ทั้งความหนาและความยาว ให้ความรู้สึกเหมือน กระบองยักษ์ ไม่มีผิด เพราะยังคงมึนเมาอยู่จึงทำให้ไอน์ไม่มีสติ พอคิดอะไรก็พูดออกมาตามที่คิดทั้งอย่างนั้น
“อึก ดะ เดี๋ยว!!”
อยู่ ๆ มือเรียวก็เข้ามากอบกุมความเป็นชายของเขา เซนที่ตกใจก็ได้แต่รีบร้องห้ามเสียงหลง เพราะตอนนี้อีกฝ่ายไม่เพียงจับเฉย ๆ แต่มือเรียวกลับขยำบีบกำความเป็นชายของเขาเหมือนกับเป็นที่บริหารมือ แต่ยิ่งถูกกระตุ้นความอ่อนไหวที่มีมาอยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกชัดเจนขึ้น ทำให้ความเป็นชายของตนแข็งขึงและร้อนขึ้นอย่างยากจะอดทน
“อุ่นจัง อืมม..”
เพราะมือที่สัมผัสกำอยู่ที่แก่นกายใหญ่โตของร่างหนาสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนที่เพิ่มขึ้น ไอน์จึงเอ่ยพึมพำออกมา ทั้งยังก้มหน้าไปมองใกล้ ๆ แล้วจับแก่นกายใหญ่โตนั้นมาแนบที่ข้างแก้มอย่างต้องการให้ความอุ่นร้อนนี้อยู่ใกล้ ๆ
“อึก มะ ไม่ อึก ทะ ทำ อะ ไร แฮ่กก..”
เซนที่เหมือนโดนจู่โจมจุดอ่อนไหวหนักขึ้นก็เริ่มที่จะทนไม่ไหว พยายามดิ้นหนีเพื่อที่จะออกจากสถานการณ์นี้ให้ได้ก่อนที่ความอดทนที่เก็บกดไว้จะปะทุออกมา แต่แล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยู่ ๆ จากที่โดนจับแก่นกายของเขาไปถูข้างแก้มเนียนนิ่ม เซนก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วแต่นี่ อีกฝ่ายกลับแลบลิ้นร้อนเลียไปทั่วแก่นกายของเขาเหมือนเลียไอติมแท่งโปรดเสียอย่างนั้น คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนที่กรามแกร่งจะขบกัดไว้เพื่ออดทน แล้วพยายามเอ่ยถามออกไป
“อืม อื่มม..”
“อะ อึก แฮ่กก.. อึก”
เพราะโดนจู่โจมจุดอ่อนไหวทั้งเลียทั้งดูด เซนจึงยากที่จะขัดขืน เรี่ยวแรงที่เคยมีกลับมลายหายไป ความรู้สึกวาบวามและเสียวซ่านกำลังชัดเจนขึ้น ความอดทนที่เขาพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ตอนนี้กลับไร้ผล เมื่อโดนเล่นงานทั้งสัมผัสของมือที่ขยับรูดขึ้นลง และสัมผัสอุ่นร้อนของลิ้นที่เปียกแฉะ ไหนจะโพรงปากนุ่มลื่นที่พยายามดูดกลืนส่วนหัวของความใหญ่โตเข้าไปนั้น ทำให้สติที่ยังคงชัดเจนอยู่ก่อนหน้านั้นของเซนเริ่มที่จะเลือนรางลงเรื่อย ๆ
“อะ อ่าา อึก แฮ่กก อ่า”
ทั้งสัมผัส ทั้งลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก่นกายของเซนทำให้ความเสียวซ่านยิ่งเพิ่มขึ้นจนเสียงทุ้มต่ำต้องครางระบายออกมา พร้อมทั้งเสียงหอบหายใจที่หนักขึ้น เมื่อความรู้สึกพุ่งสูงขึ้น จนอุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นไปตามความต้องการ
“อืมม.. อะอ่อย อว่าอี้อิดแอะ” (อร่อยกว่าที่คิดแฮะ)
“อะ อึก อ่า ซี้ดด..”
เพราะถูกทั้งความรู้สึกจากสัมผัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อนและเสียงที่อีกฝ่ายพูดขณะอมของเขาอยู่เต็มปาก ทำให้เซนไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปร่างหนาเกร็งกระตุกก่อนจะปลดปล่อยออกมาอย่างหลงลืมตัว
“อึก ๆ แค่ก ก…”
“เฮ้ยยยย!!! ขะ ขอ โทษ”
พอเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยคราบน้ำรักที่เขาปลดปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนไปหมด หนำซ้ำยังกลืนกินน้ำรักของเขาลงไป แล้วอ้าปากโชว์หลักฐานให้ดูอีก ทำให้เซนต้องร้องอุทานออกมาอย่างตกใจกับภาพที่เห็น
แต่ปฏิกิริยาของร่างกายกลับตื่นตัวอย่างรวดเร็ว เซนจับร่างอีกฝ่ายให้ยืนขึ้น แล้วรีบเช็ดทำความสะอาด และจับไปนอนที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องแล้ววิ่งไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้พร้อมเสร็จสรรพ แล้วรีบวิ่งเข้าห้องปิดประตูพร้อมตะโกนขอโทษออกไปอย่างรวดเร็ว
แม้เหตุการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไอน์มึนงง แต่พอได้นอนก็รู้สึกว่าร่างทั้งร่างของตนเองเริ่มหนักขึ้นจนผล็อยหลับไป
“อุ๊บ!!”
เซนที่เข้ามาในห้องนอนหลังจากที่ปิดประตูแล้วร่างสูงก็ทรุดตัวนั่งลงพิงประตูก่อนจะใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างกุมปิดปากตัวเองไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงก่ำ เมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสหรือความรู้สึกที่โดนจู่โจมยังคงชัดเจน ยากที่จะคิดว่าเป็นเรื่องโกหก แต่ที่เหนือไปกว่านั้น คือภาพที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นช่างน่าหลงใหลเมื่อเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรักของเขา เซนไม่อยากจะเชื่อ ว่ายามที่โพรงปากอุ่นร้อนที่ชื้นแฉะพยายามดูดกลืนตัวตนของเขาเข้าไป จะน่ามองเมื่ออีกฝ่ายอ้าให้เห็นข้างในหลังจากที่กลืนกินน้ำรักเขาเข้าไป
ความคิดแวบแรกที่แทรกเข้ามา คือ ตัวเขานั้นอยากจะยื่นมือเข้าไปสอดใส่นิ้วสำราจโพรงปากนั้นเสียเหลือเกิน อยากลองกลืนกินและลองลิ้มรสดูสักครั้งว่าหวานและนุ่มแค่ไหน และก็เพราะตกใจกับความคิดของตัวเองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เซนรีบจับตัวอีกฝ่ายออกแล้วจัดการอะไร ๆ ให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
เซนไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตนไม่รีบจับอีกฝ่ายออกไป เหตุการณ์ต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อ แม้จะไม่กล้าจินตนาการต่อ แต่ตอนนี้แก่นกายที่ไม่ได้สงบลงหลังจากที่ปลดปล่อยไปแล้วเมื่อครู่ก็เริ่มกระตุกปวดหนึบขึ้นมาเรื่อย ๆ ย้ำเตือนให้เซนรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง และความต้องการที่ตนมีต่ออีกฝ่ายนั้นมากเสียจนตนเองนั้นรู้สึกแปลกไป
“โธ่ เว้ยย..”
เซนสบถออกมา แม้จะพยายามข่มตาหลับเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ทั้งภาพเหตุการณ์ที่ฉายซ้ำไปมาและความคิดแปลก ๆ มากมายที่วนเวียนไปมาอยู่ในหัวตลอดทั้งคืนทำให้ตัวเขานั้นรู้สึกสับสนไปหมด แล้วไหนจะตัวต้นเหตุที่อยู่ข้างนอกห้องนั้นอีก พอคิดไปคิดมาท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปแล้ว แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามา ทำให้เซนตัดสินใจลุกออกจากเตียงแล้วออกไปดื่มน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองสักที
“อะ อ๊ากกก!!”
“……”
และเพราะเสียงร้องอุทานของใครบางคนที่เซนคิดว่าคงกลับไปแล้ว ทำให้น้ำที่กำลังดื่มลงไปพุ่งออกมาจนเสื้อเปียกไปหมด หมดคำจะพูดจริง ๆ
“อะ เอ่ออ.. ผะ ผม ขอโทษ ครับบบบ.. ปึง ปัง!!”
“…. แล้ว!!??”
เซนที่ยังคงยืนตัวเปียกอยู่อย่างนั้นอุทานออกมาเบา ๆ อย่างงุนงง นอกจากอีกฝ่ายที่เห็นเขาแล้วก็ขอโทษก่อนออกไปแล้ว ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
สรุปเรื่องราวที่ตัวเขานั้นขบคิดมาทั้งคืนคืออะไรกันแน่ นอกจากเจ้าตัวจะไม่ได้เอ่ยถาม และตัวเขาเองก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะเอ่ยพูดอธิบายอะไรเสียด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็หายลับไปอีกครั้ง ใช่ อีกแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเดจาวูยังไงชอบกล สุดท้ายเซนก็ปล่อยให้ความงุนงงนั้นผ่านไปอีกครั้งอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ทั้งอย่างนั้น
……………………………………………………
😵💫🫨🫨😱😱🫣
“อึก อื่ออ”“อรุณสวัสดิ์”เซนที่นอนมองใบหน้าหล่อเหลายามหลับ กำลังขยับแพรขนตายาวเปิดขึ้น ก็เอ่ยทักทายเสียงเบาราวกระซิบ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาแล้วมอบจูมพิตบนหน้าผากเนียน ยิ้มต้อนรับวันใหม่อย่างอารมณ์ดี“อึก อ่าา อะ เอว ผม”ไอน์ที่ตื่นเต็มตาเพราะถูกรอยยิ้มทรงเสน่ห์จู่โจมก็รีบสะดุ้งตัวขึ้น แต่ก็ต้องเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ต้องรีบทิ้งตัวลงไปที่เตียงนุ่มอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้“หืม ปวดเอวเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วบีบนวดให้ด้วยสีหน้าเป็นกังวล“คุณเซน ผมขอถามอีกคำถาม นี่เป็นครั้งแรกของคุณแน่นะ”ไอน์ที่หวนคิดถึงเรื่องที่ตนและเขาทำกันไปจนเกือบฟ้าสาง ถ้าตนไม่ผล็อยหลับไปก่อน เห็นทีว่าคนหน้าไม่อายคนนี้ก็คงจะไม่ยอมหยุดเป็นแน่ จนเขานั้นเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วจริง ๆ ว่า เรื่องที่อีกฝ่ายทำกับตนนั้นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ใช่ไหม“หืมม แน่นอนสิ ทำไมเหรอ?”“…ช่างมันเถอะครับ คุณไปอาบน้ำก่อนเลยเดี๋ยวผมค่อยไปทีหลัง”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่เซนตอบกลับมาอย่างซื่อตรง ไอน์ที่เป็นคนถามก็รู้สึกเหลือจะเชื่อที่ตนตั้งแง่ถามออกไป เลยปล่อยร่างให้นอนจมลงไปที่เตียงนอนอีกครั้งแล้วโ
“เจลน่ะ”เซนที่เห็นท่าทางของไอน์แล้วก็จำต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เพื่อข่มความปวดหนึบตรงแก่นกายของตัวเองไว้ แล้วโฉบใบหน้าเข้าไปขบเม้มที่ติงหูสีแดงระเรื่ออย่างตั้งใจ ก่อนจะกระซิบบอกเสียงแหบพร่า“…. ละ แล้ว ไม่รีบบอกล่ะครับ”ไอน์ที่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและเขินอายอยู่แล้ว ก็พูดโพล่งขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก ไม่คิดว่าที่ตัวเองทำไปจะไร้ประโยชน์ แถมยังต้องมาทำอะไรน่าอายแบบที่ไม่เคยทำต่อหน้าอีกฝ่ายอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว“ก็นายไม่ได้ถาม”เซนยังคงตีหน้ามึนตอบออกไปทั้งอย่างนั้น“อะ อยู่ไหนล่ะครับ รีบเอามาสิครับ ไอ้เจลที่ว่าน่ะ”ไอน์ที่เหมือนถูกล้อ ก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้าด้วยความเขินอายและเสียหน้าเป็นที่สุด เลยตะโกนถามออกไปทั้งอย่างนั้น ให้ตายสิ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการจะได้กินอะไรที่อยากกินมันจะยากเย็นขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นมาหน่อย ๆ หรือจะไม่ทงไม่ทำมันแล้วดีกว่าหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย ดูจากไอ้กระบองยักษ์นั่น มันใช่ขนาดที่จะเข้ามาในร่างกายของคนได้จริง ๆ หรือไง ต่อให้คลายดีแค่ไหนก็คงไม่พ้นต้องเลือกตกยางออกอยู่ดีไม่ใช่เหรอแต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องน่าอายมจนถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ปล่อยเ
“เด็กดี เงียบก่อนนะ เอาอีกไหม”แม้จะยังไม่พอใจ แต่เซนก็ยอมถอดถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เสียงทุ้มติดแหบเอ่ยถามออกไปเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ พร้อมทั้งไล่จูบซับคราบน้ำตาบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน“อื่มม”ไอน์ที่เผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยน พยักหน้าตอบอย่างหลงลืมตัว จนริมฝีปากอ่อนนุ่มถูกความเร้าร้อนเข้าครอบงำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง“พอใจ หรือยัง”“อึก! อึก”เพราะถูกคนตัวโตแกล้งมอบจูบที่แสนเรียกร้องเอาแต่ใจ พอเผลอไผล ก็กลับผละออก จนไอน์สะอึกเสียอย่างนั้น“ต่อไป ห้ามร้องเพราะคนอื่นอีกนะ ร้องกับฉันแค่คนเดียว”พอเห็นใบหน้าหล่อเหลาเริ่มขมวดคิ้วพร้อมทั้งสะอึก เซนจึงหยุดแกล้งก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้เช็ดคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้อย่างเบามือ แล้วเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น“ทำไม ครับ”ไอน์ซบใบหน้าลงตรงฝ่ามืออุ่น ก่อนจะเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย“ฉันอยากได้สิทธิ์ที่ทำให้นายร้องไห้เพราะฉันคนเดียว”ดวงตาคู่คมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่ยังคงหลงเหลือประกายของคราบน้ำตา ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง“……”“ได้ไหม ตอบมาสิ”ไอน์ที่ถูกจ้อง หลงลืมตัวไปชั่วขณะ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างหวั่นไหว หากตีค
“หยุด ไม่ต้องเรียก หัดหยุดแล้วหัดฟังที่คนอื่นเขาจะพูดบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็จะมาพูด ๆ ในสิ่งที่ตัวเองจะพูดอยู่ฝ่ายเดียว มีปากไว้พูดเป็นคนเดียวหรือไง ฮะ แล้วที่มายืนพูด ๆ อยู่หน้าห้องคนอื่นแบบนี้มันได้เหรอ นอกจากจะไม่มีสมองแล้วยังไม่มีมารยาทอีก ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกน่ะ”ไม่ว่าจะทักท้วงอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดพูด ไอน์ที่หมดความอดทนเลยพูดตัดบทอย่างหัวเสีย“อะ ไอน์ อย่าบอกนะว่า ไอน์ลืมเราไปแล้ว ไม่จริง เรารู้ว่าไอน์รักเรามากแค่ไหน และเราก็รู้แล้วว่าเราเองก็รักไอน์มากแค่ไหนเหมือนกัน เราขอโทษนะไอน์ เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ”ถึงแม้จะชะงักไปเมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดขึ้นมา แต่ปกป้องก็ยังคงเชื่อว่าเป็นเพราะอารมณ์โกรธ และตอนนี้ตนก็มาถึงที่นี่แล้ว ไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่นอน“เหอะ นี่นาย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ!!”ไอน์ฟังปกป้องอดีตแฟนเก่าพล่าม จนหัวเราะออกมาเสียงต่ำ ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทั้งตัวเขาและปกป้องจะเข้าใจกันได้ไปในทางที่ดีขึ้น อย่าว่าแต่ตกลงเลย แค่พูดกันดี ๆ ยังเข้าใจคนละความหมาย จนตอนนี้ไอน์แทบจะเหลืออดด้วยความหงุดหงิดอยู่แล้ว“ทำไม อย่าบอกนะ ว่าเพรา
“หึ ก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ”เซนหยิบกระดาษแผ่นเล็กเปิดออกแล้วอ่านตามข้อความ “ตั้งใจทำงานนะครับ น้องชายสุดหล่อมาให้กำลังใจแล้ว” ก่อนจะยกยิ้มแล้วพึมพำออกมาเสียงเบา“ฮะ พี่พูดว่าอะไรนะครับ”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพูดของเจ้านายไม่ชัด“ไม่มีอะไร”เซนตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย ก่อนจะรีบเก็บกระดาษแผ่นเล็กใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว“หืมม…”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง เห็นท่าทีมีพิรุธของเจ้านายหนุ่มเลยเลิกคิ้วทำเสียงอย่างสงสัย“เสร็จแล้วก็ไปทำงาน”เซนแสร้งทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วตอบกลับพนักงานหนุ่มรุ่นน้องเหมือนอย่างปกติ“ครับ คร้าบบ…”แต่พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง รู้จักเซนมาหลายปีจึงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแต่ก็แสร้งลากเสียงตอบรับ อย่างทะเล้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปเมื่อเห็นสายตาดุของรุ่นพี่ผู้เป็นนาย“คุณเซน”ไอน์ที่ยืนพิงอยู่ข้างร้านเอ่ยเรียกอีกฝ่ายทันทีที่ร่างสูงออกมาจากร้าน“หืม.. ทำไมยังไม่กลับอีก”สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยถามอย่างสงสัย“ก็รอกลับพร้อมคุณเซนไงครับ”ไอน์ที่เดาไว้อยู่แล้วเลยตอบกลับไปอย่างหย
“…..”“… ใคร! โทรมาแล้วทำไมไม่พูด จะกวนประสาทกันหรือไง?”“… อะ เอ่ออ ไอน์ เดี๋ยวก่อน นี่ปกป้องเอง”“ฮะ!! ว่าไงนะ!?”“ไอน์ ปกป้องขอโทษ เราเลิกกับแฟ เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วนะ จริง ๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ปกป้องไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ พอดีเพื่อน ๆ เชียร์ให้คู่กันและแซวเล่นเฉย ๆ เราไม่ได้คิดอะไรเลยจริง ๆ นะ คนที่เรารักที่สุดก็คือไอน์ ไอน์รู้ใช่ไหม เรากำลังจะไปห…”“เหอะ!! พล่ามเสร็จหรือยัง? แล้วไม่ต้องโทรมาอีกนะ”“อะ ไอ…”“เหอะ!! ไอ้เวรนี่ ตัวขัดขวางอารมณ์แท้ ๆ”ไอน์ กดวางสาย ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย แต่ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านั้น ชื่อที่ทำให้ไอน์ต้องมองบนก็โชว์ขึ้นมา ทำให้ไอน์กดรับทันที“สวัสดีน้องชายสุดหล่อ เป็นไงได้ข่าวว่าโดนเท ได้ไปเรียนญี่ปุ่นคนเดียวหรือไง อะไรกันพี่สาวคนนี้ไม่ได้ไปหาแค่แป๊บเดียว เกิดเรื่องเวรอะไรขึ้นกับนายล่ะนั้น”“ให้มัน น้อย ๆ หน่อย แล้วอีกอย่างฉันก็อายุมากกว่าเธอตั้งสามปี”“เอาน่า ๆ หยวนหยวนกันไป”“มายงมาหยวนอะไร เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีสัมมาคารวะซะบ้าง”“โห… บ่นเหมือนคุณปู่เลย แล้วฉันมีข่าวเด็ดจะฟังไหม น้องสาวคนนี้ไปหาสืบมาให้ อย่างยากลำบากเลยนะคะ”“ข่าวอะไรของเธอ ถ้