Share

ไอศกรีมเย็น ๆ

last update Last Updated: 2025-05-11 09:27:03

“..ทำยังไงดีล่ะ อะ อ๊ากก… ”

“ หรือว่ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่สิ ..มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้นี่หน่า”

“อะ เอาไงดีล่ะ หรือว่าดรอปเรียนไปเลยดีไหม ”

“หรือโทรหาคุณแม่ดี ไม่สิ ต้องแก้ปัญหาก่อน ใจเย็นนะไอน์ ใจเย็น ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ คิด”

“อะ เอาวะ สะกดจิตตัวเองว่ามันไม่ใช่ มันไม่เป็นความจริง แค่ความฝัน แค่ความฝัน หลับไปก่อนเดี่ยวตื่นมาก็ลืม”

ไอน์ที่กลับมาถึงห้องก็เดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องโดยที่ยังไม่เปิดไฟหรือสนใจอะไรรอบข้าง เสียงทุ้มพูดพึมพำกับตัวเอง พร้อมทั้งกำมือแน่นอย่างวิตกกังวล ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่ฉายซ้ำ ๆ ในความทรงจำจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่พอคิดไปคิดมา ไอน์ก็เลือกที่จะสะกิดจิตตัวเองโดยให้คิดว่านั่นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น พอคิดข้อสรุปได้แล้ว จึงเดินสาวเท้าเข้าไปทิ้งตัวนอนทั้งอย่างนั้นทันที

“ สวัสดีครับทุกคน”

“ สวัสดีครับ/ค่ะ รุ่นพี่”

“สวัสดีไอน์ ว่าไงปรับตัวได้เร็วเหลือเกินนะ พอดีเลยวันนี้เราจะไปกินเลี้ยงกัน นายจะไปด้วยหรือเปล่าล่ะ”

“โอ้ โอเค”

“งั้นเรียนเสร็จเจอกันตอนเย็นประตูหลังมหาลัยนะ”

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา ไอน์ก็ไปเรียนตามปกติ แม้ภาพความทรงจำฉายขึ้นมาบ้าง แต่ตัวเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ แล้วก็ทักทายและพูดคุยกับผู้คนอย่างร่าเริง ทั้งยังตอบตกลงตามนัดของเพื่อนใหม่ที่จะไปกินเลี้ยงกันอย่างเสร็จสรรพ

“เป็นไงครับ เริ่มคุ้นชินหรือยังครับรุ่นพี่”

“อะ อ่อ ครับ”

“แหม ๆ รุ่นพี่นี่อัธยาศัยดีจังเลยนะคะ มาอยู่ได้ไม่นาน สาขาอื่น ๆ ก็พากันพูดถึงรุ่นพี่กันเต็มไปหมด”

“นั่นสิ ฉันก็ได้ยินมาจากเพื่อน ๆ สาขาอื่น ๆ เหมือนกัน เป็นไงพ่อคนดังสุดหล่อ”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

แม้จะถูกเพื่อนและบรรดารุ่นน้องรุมล้อม ไอน์ก็ยังคงตอบกลับอย่างมีมารยาทด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“อื่ม จริง ๆ รุ่นพี่พูดเป็นกันเองกับพวกเราก็ได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจก็ได้ ฮ่า ๆ ”

“ใช่ ๆ จริงด้วย”

จนบรรดารุ่นน้องที่สังเกตได้พากันพูดออกมา นับถือความมีมารยาทและถ่อมตนของรุ่นพี่หนุ่มอย่างจริงใจ

“อ่อ อื่ม ไม่เป็นไร ครับ พอดีไม่ค่อยถนัดน่ะครับ”

“โอ้โห รุ่นพี่ต้องเป็นคุณชายจริง ๆ ใช่ไหมคะเนี่ย”

“ไม่หรอกครับ แค่ติดปากน่ะครับ”

“โอ้ววว…”

“อื่ม จะว่ายังไงดีล่ะ น่าจะเป็นนิสัยที่ติดมาตั้งแต่เด็กน่ะครับ”

เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาอย่างสงสัยไอน์จึงตัดสินใจอธิบายขยายความให้ทุกคนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

ไอน์หวนนึกถึงตอนที่ตัวเองยังเด็ก เหมือนจะมีเรื่องที่เคยเกิดขึ้นอยู่จนทำให้ตัวเขาติดนิสัยแบบนี้อยู่เหมือนกัน เรื่องอะไรนะ อ่อ..

ตอนนั้นที่เป็นครั้งแรกของการรวมญาติ เขาจึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูล ซึ่งมีญาติลูกพี่ลูกน้องที่อายุพอ ๆ กันอยู่ด้วย ทั้งสองเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ผู้หญิงคนแรกอายุเท่ากันกับเขา แต่เธอให้เหตุผลว่าตัวเองเกิดก่อนหนึ่งวันเขาต้องเรียกเธอว่าพี่ ส่วนอีกคนอายุน้อยกว่าเขาสามปี เธอจึงกลายเป็นน้องคนสุดท้อง

การเจอกันครั้งนั้นทำให้ทั้งสามคนสนิทกันมากขึ้น เพราะได้มีโอกาสมาเจอกันหลายครั้ง บางครั้งทั้งสองคนก็มานอนที่บ้านเขาทำให้ทั้งสามคนยิ่งเหมือนพี่น้องกันเข้าไปใหญ่ แต่พอตอนที่เขาอายุได้สิบสองปี กลับเกิดเรื่องที่น่าเศร้าขึ้น เพราะครอบครัวของคณลุงคุณป้าที่เป็นพ่อแม่ของทั้งสองคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ เลยทำให้ทั้งสองคนต้องไปอยู่กับคุณปู่ ซึ่งเขานั้นก็พยายามไปหาอยู่บ่อย ๆ

และตอนนั้นเองที่น้องสาวคนเล็กเริ่มที่จะป่วยหนักขึ้น ทางคุณปู่เลยต้องพาไปอยู่ที่ต่างจังหวัดตามคำแนะนำของหมออย่างไม่สามารถเลี่ยงได้

และก่อนจะไปทั้งสามคนก็ไปร้านขนมหวานด้วยกันเพื่อเป็นการเลี้ยงส่งพวกเธอ และจำได้ว่าทั้งสองคนเศร้าใจกันมาก จนไม่ยอมกินอะไรกันเลย ไอน์ที่เห็นทั้งคู่เศร้าซึมก็คิดถึงคำที่คุณแม่เคยบอกไว้ได้ว่า “ไอน์ จำไว้นะลูก ลูกคือเทวดาตัวน้อยของแม่ ลูกต้องรู้จักพูดให้ไพเราะ ทำตัวให้มีมารยาท แล้วก็ยิ้มเยอะๆ แสดงอารมณ์ความรู้สึกกับผู้อื่นอย่างจริงใจ แล้วความน่ารักของลูกจะช่วยปลอบโยนคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ”

“ครับ แต่ถ้าผมโตขึ้นอีกล่ะครับ ผมก็จะเป็นเทวดาตัวน้อยไม่ได้แล้วสิครับคุณแม่”

“อื่มม.. ถ้าลูกโตขึ้นแล้วยังพูดเพราะรักษามารยาทเหมือนเดิม ลูกก็จะกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อไงล่ะจ๊ะ”

“เอาล่ะครับ พี่สาวน้องสาวสุดที่รักของผม ถ้าทั้งสองยังเศร้าอยู่ ผมที่เป็นเทวดาตัวน้อย ก็จะไม่ได้โตขึ้นไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อนะครับ”

เมื่อไอน์คิดได้ดังนั้นจึงพูดขึ้นกับทั้งสองคนที่กำลังเศร้าซึมทันที

“…….”

“……”

“ อะ เอ๋ นายว่าไงนะ?”

“พี่ไอน์บอกว่าเป็นเทวดาตัวน้อยที่จะกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อแหละ”

“ใช่ ถูกต้องครับสาวน้อยของพี่ ”

เมื่อได้ยินดังนั้นไอน์ก็ฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างมาเท้าคางไว้ เพื่ออวดเสน่ห์ของหน้าตาที่หล่อเหลาอย่างมั่นใจ

“ ฮ่าา ๆ ๆ ฮ่าาา…”

“… อุ๊บ ฮ่า ๆ ๆ ฮ่าาา… ว่าไงนะ เทวดาตัวน้อยที่จะกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อ ฮ่า ๆ ๆ ฮ่าา..”

เมื่อทั้งสองสาวได้ยินดังนั้น ก็หันมองหน้ากันอย่างเข้าใจความหมายที่หนุ่มน้อยต้องการจะสื่อ ก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้น อะ อะไรนะ เธออยากรู้จริง ๆ ว่าใครกันที่ปลูกฝังความคิดนี้ให้น้องชายคนนี้ และไอ้ความมั่นใจที่น่าหมั่นไส้นั้นอีก คือ อะไรรรร… แม้จะอยากพูดออกไปแต่เธอก็ไม่สามารถหยุดหัวเราะแล้วพูดได้เลย

ไอน์ที่ไม่ได้รู้ถึงความคิดของสองสาวน้อย ก็ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างอย่างรู้สึกภูมิอกภูมิใจที่ตัวเขานั้นสามารถทำให้ทั้งคู่หัวเราะอย่างร่าเริงขึ้นมาได้ และนั้นก็เป็นเหตุผลที่ไอน์เลือกที่จะเชื่อและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดจนติดเป็นนิสัยนั่นเอง

“เฮ้ออ.. มึนหัวแบบนี้ ไอศกรีมเย็น ๆ ดีที่สุด”

เพราะความคิดที่นึกถึงตอนเด็กผลุดขึ้นมาทำให้ไอน์รู้สึกอารมณ์ดีมากจึงเผลอดื่มหนักไปหน่อยจนตอนนี้ทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกันหมดแล้ว แต่ไอน์ที่ยังคงรู้สึกมึน ๆ หัวอยู่ก็กำลังเดินไปซื้อไอศกรีม

“ ดะ เดี๋ยวครับ ลูกพี่ อะ อย่า โอ๊ยย..”

“ หืมม.. เสียงอะไรน่ะ”

ไอน์ที่เดินกินไอศกรีมมาตามทางได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ มาจากซอยด้านหน้า จึงเดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย

“อึก อ อย่าา..”

“อุ๊บ….”

แต่ภาพที่เห็นคือชายร่างสูงถือมีดแล้ว ชายอีกคนเนื้อตัวเต็มไปด้วยสีแดงเพราะเสื้อสีขาวเลยทำให้เห็นชัดแม้จะไม่ค่อยมีแสงสว่างส่องเข้ามามากนัก แต่ทันทีที่ไอน์คิดได้ ภาพเบื้องหน้าก็เลือนรางและดับวูบไป

“ ฮะ เฮ้ยยยย”

……………………………………………

โอ้ยยยย… เอ็นดูวววว… พ่อเทวดาตัวน้อยย 😅🤣

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   คบตั้งแต่ให้สิทธิ์แล้วล่ะ

    “อึก อื่ออ”“อรุณสวัสดิ์”เซนที่นอนมองใบหน้าหล่อเหลายามหลับ กำลังขยับแพรขนตายาวเปิดขึ้น ก็เอ่ยทักทายเสียงเบาราวกระซิบ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาแล้วมอบจูมพิตบนหน้าผากเนียน ยิ้มต้อนรับวันใหม่อย่างอารมณ์ดี“อึก อ่าา อะ เอว ผม”ไอน์ที่ตื่นเต็มตาเพราะถูกรอยยิ้มทรงเสน่ห์จู่โจมก็รีบสะดุ้งตัวขึ้น แต่ก็ต้องเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ต้องรีบทิ้งตัวลงไปที่เตียงนุ่มอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้“หืม ปวดเอวเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วบีบนวดให้ด้วยสีหน้าเป็นกังวล“คุณเซน ผมขอถามอีกคำถาม นี่เป็นครั้งแรกของคุณแน่นะ”ไอน์ที่หวนคิดถึงเรื่องที่ตนและเขาทำกันไปจนเกือบฟ้าสาง ถ้าตนไม่ผล็อยหลับไปก่อน เห็นทีว่าคนหน้าไม่อายคนนี้ก็คงจะไม่ยอมหยุดเป็นแน่ จนเขานั้นเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วจริง ๆ ว่า เรื่องที่อีกฝ่ายทำกับตนนั้นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ใช่ไหม“หืมม แน่นอนสิ ทำไมเหรอ?”“…ช่างมันเถอะครับ คุณไปอาบน้ำก่อนเลยเดี๋ยวผมค่อยไปทีหลัง”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่เซนตอบกลับมาอย่างซื่อตรง ไอน์ที่เป็นคนถามก็รู้สึกเหลือจะเชื่อที่ตนตั้งแง่ถามออกไป เลยปล่อยร่างให้นอนจมลงไปที่เตียงนอนอีกครั้งแล้วโ

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   ไม่รีบบอกล่ะ

    “เจลน่ะ”เซนที่เห็นท่าทางของไอน์แล้วก็จำต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เพื่อข่มความปวดหนึบตรงแก่นกายของตัวเองไว้ แล้วโฉบใบหน้าเข้าไปขบเม้มที่ติงหูสีแดงระเรื่ออย่างตั้งใจ ก่อนจะกระซิบบอกเสียงแหบพร่า“…. ละ แล้ว ไม่รีบบอกล่ะครับ”ไอน์ที่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและเขินอายอยู่แล้ว ก็พูดโพล่งขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก ไม่คิดว่าที่ตัวเองทำไปจะไร้ประโยชน์ แถมยังต้องมาทำอะไรน่าอายแบบที่ไม่เคยทำต่อหน้าอีกฝ่ายอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว“ก็นายไม่ได้ถาม”เซนยังคงตีหน้ามึนตอบออกไปทั้งอย่างนั้น“อะ อยู่ไหนล่ะครับ รีบเอามาสิครับ ไอ้เจลที่ว่าน่ะ”ไอน์ที่เหมือนถูกล้อ ก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้าด้วยความเขินอายและเสียหน้าเป็นที่สุด เลยตะโกนถามออกไปทั้งอย่างนั้น ให้ตายสิ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการจะได้กินอะไรที่อยากกินมันจะยากเย็นขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นมาหน่อย ๆ หรือจะไม่ทงไม่ทำมันแล้วดีกว่าหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย ดูจากไอ้กระบองยักษ์นั่น มันใช่ขนาดที่จะเข้ามาในร่างกายของคนได้จริง ๆ หรือไง ต่อให้คลายดีแค่ไหนก็คงไม่พ้นต้องเลือกตกยางออกอยู่ดีไม่ใช่เหรอแต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องน่าอายมจนถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ปล่อยเ

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   จำไว้ล่ะ

    “เด็กดี เงียบก่อนนะ เอาอีกไหม”แม้จะยังไม่พอใจ แต่เซนก็ยอมถอดถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เสียงทุ้มติดแหบเอ่ยถามออกไปเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ พร้อมทั้งไล่จูบซับคราบน้ำตาบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน“อื่มม”ไอน์ที่เผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยน พยักหน้าตอบอย่างหลงลืมตัว จนริมฝีปากอ่อนนุ่มถูกความเร้าร้อนเข้าครอบงำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง“พอใจ หรือยัง”“อึก! อึก”เพราะถูกคนตัวโตแกล้งมอบจูบที่แสนเรียกร้องเอาแต่ใจ พอเผลอไผล ก็กลับผละออก จนไอน์สะอึกเสียอย่างนั้น“ต่อไป ห้ามร้องเพราะคนอื่นอีกนะ ร้องกับฉันแค่คนเดียว”พอเห็นใบหน้าหล่อเหลาเริ่มขมวดคิ้วพร้อมทั้งสะอึก เซนจึงหยุดแกล้งก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้เช็ดคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้อย่างเบามือ แล้วเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น“ทำไม ครับ”ไอน์ซบใบหน้าลงตรงฝ่ามืออุ่น ก่อนจะเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย“ฉันอยากได้สิทธิ์ที่ทำให้นายร้องไห้เพราะฉันคนเดียว”ดวงตาคู่คมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่ยังคงหลงเหลือประกายของคราบน้ำตา ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง“……”“ได้ไหม ตอบมาสิ”ไอน์ที่ถูกจ้อง หลงลืมตัวไปชั่วขณะ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างหวั่นไหว หากตีค

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   เอาอีกไหม

    “หยุด ไม่ต้องเรียก หัดหยุดแล้วหัดฟังที่คนอื่นเขาจะพูดบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็จะมาพูด ๆ ในสิ่งที่ตัวเองจะพูดอยู่ฝ่ายเดียว มีปากไว้พูดเป็นคนเดียวหรือไง ฮะ แล้วที่มายืนพูด ๆ อยู่หน้าห้องคนอื่นแบบนี้มันได้เหรอ นอกจากจะไม่มีสมองแล้วยังไม่มีมารยาทอีก ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกน่ะ”ไม่ว่าจะทักท้วงอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดพูด ไอน์ที่หมดความอดทนเลยพูดตัดบทอย่างหัวเสีย“อะ ไอน์ อย่าบอกนะว่า ไอน์ลืมเราไปแล้ว ไม่จริง เรารู้ว่าไอน์รักเรามากแค่ไหน และเราก็รู้แล้วว่าเราเองก็รักไอน์มากแค่ไหนเหมือนกัน เราขอโทษนะไอน์ เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ”ถึงแม้จะชะงักไปเมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดขึ้นมา แต่ปกป้องก็ยังคงเชื่อว่าเป็นเพราะอารมณ์โกรธ และตอนนี้ตนก็มาถึงที่นี่แล้ว ไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่นอน“เหอะ นี่นาย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ!!”ไอน์ฟังปกป้องอดีตแฟนเก่าพล่าม จนหัวเราะออกมาเสียงต่ำ ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทั้งตัวเขาและปกป้องจะเข้าใจกันได้ไปในทางที่ดีขึ้น อย่าว่าแต่ตกลงเลย แค่พูดกันดี ๆ ยังเข้าใจคนละความหมาย จนตอนนี้ไอน์แทบจะเหลืออดด้วยความหงุดหงิดอยู่แล้ว“ทำไม อย่าบอกนะ ว่าเพรา

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   บอกแล้วใช่ไหม

    “หึ ก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ”เซนหยิบกระดาษแผ่นเล็กเปิดออกแล้วอ่านตามข้อความ “ตั้งใจทำงานนะครับ น้องชายสุดหล่อมาให้กำลังใจแล้ว” ก่อนจะยกยิ้มแล้วพึมพำออกมาเสียงเบา“ฮะ พี่พูดว่าอะไรนะครับ”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพูดของเจ้านายไม่ชัด“ไม่มีอะไร”เซนตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย ก่อนจะรีบเก็บกระดาษแผ่นเล็กใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว“หืมม…”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง เห็นท่าทีมีพิรุธของเจ้านายหนุ่มเลยเลิกคิ้วทำเสียงอย่างสงสัย“เสร็จแล้วก็ไปทำงาน”เซนแสร้งทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วตอบกลับพนักงานหนุ่มรุ่นน้องเหมือนอย่างปกติ“ครับ คร้าบบ…”แต่พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง รู้จักเซนมาหลายปีจึงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแต่ก็แสร้งลากเสียงตอบรับ อย่างทะเล้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปเมื่อเห็นสายตาดุของรุ่นพี่ผู้เป็นนาย“คุณเซน”ไอน์ที่ยืนพิงอยู่ข้างร้านเอ่ยเรียกอีกฝ่ายทันทีที่ร่างสูงออกมาจากร้าน“หืม.. ทำไมยังไม่กลับอีก”สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยถามอย่างสงสัย“ก็รอกลับพร้อมคุณเซนไงครับ”ไอน์ที่เดาไว้อยู่แล้วเลยตอบกลับไปอย่างหย

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   ก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ

    “…..”“… ใคร! โทรมาแล้วทำไมไม่พูด จะกวนประสาทกันหรือไง?”“… อะ เอ่ออ ไอน์ เดี๋ยวก่อน นี่ปกป้องเอง”“ฮะ!! ว่าไงนะ!?”“ไอน์ ปกป้องขอโทษ เราเลิกกับแฟ เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วนะ จริง ๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ปกป้องไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ พอดีเพื่อน ๆ เชียร์ให้คู่กันและแซวเล่นเฉย ๆ เราไม่ได้คิดอะไรเลยจริง ๆ นะ คนที่เรารักที่สุดก็คือไอน์ ไอน์รู้ใช่ไหม เรากำลังจะไปห…”“เหอะ!! พล่ามเสร็จหรือยัง? แล้วไม่ต้องโทรมาอีกนะ”“อะ ไอ…”“เหอะ!! ไอ้เวรนี่ ตัวขัดขวางอารมณ์แท้ ๆ”ไอน์ กดวางสาย ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย แต่ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านั้น ชื่อที่ทำให้ไอน์ต้องมองบนก็โชว์ขึ้นมา ทำให้ไอน์กดรับทันที“สวัสดีน้องชายสุดหล่อ เป็นไงได้ข่าวว่าโดนเท ได้ไปเรียนญี่ปุ่นคนเดียวหรือไง อะไรกันพี่สาวคนนี้ไม่ได้ไปหาแค่แป๊บเดียว เกิดเรื่องเวรอะไรขึ้นกับนายล่ะนั้น”“ให้มัน น้อย ๆ หน่อย แล้วอีกอย่างฉันก็อายุมากกว่าเธอตั้งสามปี”“เอาน่า ๆ หยวนหยวนกันไป”“มายงมาหยวนอะไร เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีสัมมาคารวะซะบ้าง”“โห… บ่นเหมือนคุณปู่เลย แล้วฉันมีข่าวเด็ดจะฟังไหม น้องสาวคนนี้ไปหาสืบมาให้ อย่างยากลำบากเลยนะคะ”“ข่าวอะไรของเธอ ถ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status