LOGINควันธูปและกลิ่นดอกไม้ในงานศพยังคงอบอวลติดอยู่ทั่วบริเวณบ้าน แต่ในห้องทำงานของพ่อที่เคยเป็นที่ทำงานอันแสนศักดิ์สิทธิ์ของชายผู้ทรงอำนาจ กลับมีบรรยากาศที่เงียบสงัดและความรู้สึกหนักอึ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คาราเมลในชุดสีดำยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานตัวเดิมของคนที่คิดถึงจับใจ สายตาเหม่อลอยจับจ้องไปยังภาพถ่ายพ่อกับเธอในวันปริญญา รอยยิ้มความภูมิใจของคนพ่อฉายอยู่ในนั้น ราวกับพยายามจะหวนคืนช่วงเวลาที่เคยมีความสุขให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เธอนั่งอยู่ที่นี่มานานหลายชั่วโมงหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจศพที่เรียกน้ำตาจนแทบขาดใจ
โดยมีนายทนายศักดิ์ชัยทนายความประจำตระกูลวางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ตรงหน้าเธอ บนโต๊ะยังมีญาติผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คนที่มาร่วมเป็นพยานในวันสำคัญนี้ คาราเมลไม่ได้รับรู้อะไรเลย ความเสียใจยังคงกัดกินหัวใจจนไม่อาจคิดเรื่องอื่นได้ เธอเหมือนกับร่างไร้วิญญาณที่ถูกควบคุมให้มานั่งอยู่ที่นี่
"คุณหนูครับ คุณคาราเมลครับ" ทนายเอ่ยเรียกชื่อเธอเบาๆ
"ผมขออนุญาตอ่านพินัยกรรมตามที่คุณท่านสั่งไว้นะครับ" คาราเมลพยักหน้ารับอย่างเลื่อนลอย จนทนายเริ่มอ่านเนื้อหาของพินัยกรรมด้วยเสียงทุ้มนุ่ม เนื้อหาในตอนต้นไม่ได้แตกต่างจากที่เธอคาดไว้ ทรัพย์สินทั้งหมดถูกยกให้กับเธอ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวที่เขารักและเลี้ยงดูมาอย่างดี
ทว่า...
ในบรรทัดสุดท้ายก่อนที่เนื้อความจะจบลง ทนายกลับเว้นช่วงหายใจไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทุกคนในห้องด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
"แต่มีหมายเหตุพิเศษเพิ่มเติมครับ" ทันใดนั้นเองประตูห้องทำงานที่ปิดสนิทก็ถูกผลักเปิดออกช้า ๆ และมีชายร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในห้องท่ามกลางสายตาของทุกคน
เขาคือเลออนในชุดสูทสีดำสนิทเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างทนาย ดวงตาคมกริบกวาดมองทุกคนในห้องอย่างไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ก่อนจะจ้องมองมาที่คาราเมลเพียงคนเดียว
หญิงสาวชะงักไปทันที หัวใจที่เคยเต้นช้า ๆ กลับกระตุกขึ้นมาอย่างแรง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้คือใคร และทำไมถึงได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาแบบนี้อีกครั้ง ทำไมเขาถึงได้มีบทบาทกับชีวิตเธอขนาดนี้ ความสงสัยที่ถูกเก็บไว้ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาพลันปะทุขึ้นมาในใจ
"หมายเหตุนี้คืออะไร และผู้ชายคนนี้...เขาคือใครคะ?" คาราเมลถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ทนายยังคงอึกอักไม่กล้าตอบ เขาหันไปมองหน้าเลออนด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
"คนที่จะเข้ามาดูแลชีวิตและทรัพย์สินของเธอ"
คำพูดของเลออนทำให้ทุกคนในห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ญาติผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องต่างก็หดตัวลงอย่างหวาดกลัว เลออนหันไปมองทนายพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
"อ่านต่อ" ทนายศักดิ์ชัยสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะรีบอ่านพินัยกรรมต่อทันที
"ตามหมายเหตุนี้...คุณท่านได้แต่งตั้งให้คุณเลออนเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด และจะมีผลในทันทีครับ โดยมีเงื่อนไขว่า...ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกบริหารโดยคุณเลออน จนกว่าคุณคาราเมลจะอายุครบ 25 ปี หรือจนกว่าคุณเลออนจะเห็นว่าคุณหนูมีความพร้อมที่จะดูแลกิจการได้ด้วยตัวเอง หากคุณหนูไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้...ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกบริจาคให้แก่มูลนิธิการกุศล"
คำพูดของทนายทำให้เลือดในกายของคาราเมลเหมือนสูบฉีดขึ้นทันที ร่างกายของเธอเย็นเฉียบ แต่ในใจกลับร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจที่ชายปริศนาทำดีกับครอบครัวทั้งหมดก็เพราะต้องการสมบัติของเธอไปครอบครอง
"ไม่จริง หมายความว่ายังไงคะ!?" คาราเมลลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ตวาดเสียงดังไปทั่วห้อง
"เมลไม่เข้าใจ เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงได้มีสิทธิ์เหนือสมบัติของพ่อเมล!" เธอหันไปเผชิญหน้ากับเลออนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขณะที่เขายังคงยืนนิ่ง ๆ ไม่ไหวติง เหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ไม่สะทกสะท้านต่ออารมณ์ของเธอเลย
"ฉันไม่ยอม คุณคิดว่าที่ผ่านมาคุณทำตัวเหมือนคนดีแล้วฉันจะยอมให้คุณเข้ามาฮุบสมบัติของพ่อไปได้เหรอ!?" คาราเมลพูดพร้อมชี้หน้าเขาอย่างเหลืออด ในขณะที่เลออนยังคงนิ่งเฉย เพียงแต่ก้าวเท้าเข้ามาหาเธออีกหนึ่งก้าว ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอด้วยความว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำและหนักแน่นจนน่าขนลุก
"แล้วเธอรู้ไหม...ว่าพ่อของเธอตายเพราะอะไร?" คำถามนั้นทำให้คาราเมลชะงักทันที เธออ้าปากค้างและพยายามจะตอบ แต่ก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากได้เลย เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ เธอไม่ได้ใส่ใจชีวิตของพ่อมากพอที่จะรู้ว่าพ่อมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง การกระทำและการใช้ชีวิตของเธอในช่วงที่ผ่านมาถูกสะท้อนกลับมาด้วยคำถามนั้นอย่างเจ็บปวด
"..."
"แค่นี้เธอยังตอบไม่ได้" เลออนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
"เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอต้องต่อสู้กับอะไรในชีวิต แล้วเธอจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะดูแลสิ่งที่พ่อสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงได้? เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะสนใจมันเลย" คำพูดที่เฉียบขาดของเลออนเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของคาราเมล มันคือความจริงที่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยสักนิด ร่างกายของเธอชาวาบและสะอึกไปในทันที ความโกรธเกลียดที่เคยมีหายไปในพริบตา เหลือไว้เพียงความอับอายและเจ็บปวดที่มาจากความจริงที่ว่า...เธอไม่เคยเป็นลูกสาวที่ดีพอสำหรับพ่อของเธอเลย
คำพูดของเลออนยังคงก้องอยู่ในหูของคาราเมล ดังย้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นจนมันบาดลึกเข้าไปในใจของเธอ
เลออนไม่ได้ให้เวลาเธอได้โศกเศร้าหรือคิดทบทวนนานนัก เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอก่อนจะวางสมุดปกสีน้ำตาลเข้มลงบนโต๊ะข้างพินัยกรรม
"จากนี้ไปชีวิตของเธอจะถูกดูแลโดยฉันทั้งหมด" น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและไร้ความประนีประนอม
คาราเมลเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
"คุณไม่มีสิทธิ์ ฉันจะไปฟ้องศาล! คุณไม่สามารถทำแบบนี้กับฉันได้!" ความบกพร่องของเธอไม่ได้แปลว่าเขาจะมีสิทธิ์มีอำนาจ อย่างไรชีวิตก็ยังเป็นของเธอ เรื่องอะไรเธอจะไปยอม
เลออนเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน ก่อนจะก้าวไปหยิบบางอย่างที่วางอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง เป็นเอกสารฉบับหนึ่งที่คาราเมลไม่คุ้นตา และส่งมันให้ทนายศักดิ์ชัยที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
"ทนายศักดิ์ชัย...ช่วยบอกเธอหน่อยว่าการทำแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร" ทนายศักดิ์ชัยรับเอกสารจากมือของเขาแล้วรีบเปิดอ่าน
"คือ...คุณท่านได้มอบหมายอำนาจทางกฎหมายทั้งหมดให้คุณเลออนดูแลตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้วครับ ยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่การตัดสินใจในทรัพย์สินบางส่วน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันทีหากคุณท่านเป็นอะไรไป" คำอธิบายของทนายทำให้คาราเมลอ้าปากค้างอีกครั้ง พ่อของเธอไว้ใจผู้ชายคนนี้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
"คุณเป็นใครกันแน่!?" เลออนเดินเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
"ฉันคือคนที่พ่อเธอไว้วางใจที่สุด และฉันก็คือผู้ปกครองที่จะเข้ามาดูแลชีวิตของเธอต่อจากนี้"
หกปีผ่านไปปั๊ง ปั๊ง !เสียงปืนดังสนั่นสองนัดติด ๆ กันก่อนจะตามมาด้วยเสียงปรบมือของใครหลายคน"ทั้งสองคนเก่งมากครับ ถือว่าพัฒนาจากสัปดาห์ที่แล้วได้ดีเลยทีเดียว" พี่ลีซอผู้ฝึกสอนการยิงปืนให้เราสองคนแม่ลูกออกปากชม"เก่งมากครับ" ตามมาด้วยพ่อของลูกฉันที่เดินลิ่วเข้ามาภายในบริเวณฝึกซ้อม พร้อมกับใครอีกคนที่ได้ทีก็รีบวิ่งไปกอดครูผู้สอนของฉันทันที"มาได้ยังไงคะ" ฉันถามคนตัวโตที่ตอนแรกก็รอฉันที่บ้าน เพราะยังมีอีกคนต้องดูแลแต่ไป ๆ มา ๆ ก็มาเจอกันที่นี่ยกครอบครัวเสียอย่างนั้น"ลีโอคิดถึงพ่อแท้ ๆ" ลีโอหรือลูกชายคนเล็กวัยห้าขวบที่เรากำลังพูดถึง และพ่อแท้ ๆ ของเขาคนที่พี่เลออนกำลังประชดประชันคือพี่ลีซอมือขวาของเขาที่ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน ทำไมคนนี้กลับกลายเป็นเขาที่ได้เป็นพ่อทูนหัวอีกคน"ฮ่า ๆ" ฉันหัวเราะชอบใจท่ามกลางสีหน้าบูดบึ้งของสามี ก่อนจะมีเสียงใครบางคนที่ดังทะลุขึ้นมาพร้อมกับโอบกอดพี่เลออนแนบแน่น"ป๊าขา""อย่างน้อยก็ลูกสาวรักล่ะวะ" พี่เลออนยิ้มภาคภูมิใจในตัวเอง นาน ๆ ทีจะเห็นลูกสาวขี้อ้อน แต่ทำไมฉันจะดูไม่ออกว่าไอ้อาการเหล่านี้จะทำต่อเมื่อต้องการขออะไรบางอย่างเท่านั้น"ว่าไงคะ""พรุ่งนี้ที่โร
"เหนื่อยไหม" พี่เลออนรีบยื่นน้ำให้ฉันที่เพิ่งเรียนศิลปะการต่อสู้เสร็จหมาด ๆ ตอนแรกก็กะว่าจะเรียนเป็นเพื่อนลูกแต่เรียนไปเรียนมาก็ชอบถึงขนาดเรียกให้ครูสอนจริงจัง เผื่ออนาคตจะสามารถดูแลตัวเองได้ เป็นนายหญิงของมาเฟียย่อมมีศัตรูเป็นธรรมดา จึงอยากเป็นภาระคนในตระกูลให้น้อยที่สุด หรือบางทีฉันอาจจะปกป้องผู้นำมาเฟียอย่างที่เคยลั่นไว้ด้วยก็ได้"สนุกดีค่ะ" ฉันฉีกยิ้มรีบรับน้ำมาดื่ม ก่อนจะมองตามสายตาของพี่เลออนที่กำลังจดจ้องลูกสาวตัวดีที่เรียนเสร็จก็ตรงดิ่งไปอ้อนพี่เซเรนที่ยืนรอคุณหนูของเขาติดขอบสนาม"เซเรนออกมาห่าง ๆ หน่อย" เสียงเข้มรีบตะโกนบอกสองคนที่เหมือนจะเป็นพ่อลูกมากกว่า"ครับนาย" จนพี่เซเรนได้ยินคำสั่งก็รีบถอยห่างจากลียาทันที"ปะป๊า!" คนไม่พอใจคือลูกสาวของฉันที่ทำหน้าดุใส่พ่ออีกคน จากนั้นก็ขยับไปกอดคอพ่อที่แท้จริงราวกับคำสั่งนั้นเป็นเพียงเสียงที่ผ่านหู"ลียามาหาป๊ามา""ไม่ไป" ลียาตอบทันควัน ทำเอาพ่อของลูกฉันถึงกับคิ้วขมวดทันที"ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ เขาผูกพันกันมาตั้งแต่ในท้องนะคะ พี่เซเรนน่ะพ่อทูลหัวของเขาเลย" ฉันลูบแขนอีกคนให้ใจเย็นลง สำหรับลียาพี่เซเรนไม่ได้เป็นเพียงแค่บอดีการ์ดทั่ว ๆ ไป แต
ภายในคฤหาสน์ตระกูลเก่าแก่ที่ถูกประดับไปด้วยโคมไฟเหนือโถงทอดเงายาวลงบนพื้นหินอ่อน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมจนแม้แต่เสียงรองเท้าก้าวเดินก็สะท้อนก้องออกไป สมาชิกระดับสูงของตระกูล Black lion นั่งเรียงเป็นแถวยาว ทุกสายตาของทุกคนหนักแน่น และแฝงไปด้วยแฝงความสงสัยจ้องมายังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มผู้เป็นผู้นำของพวกเขาเลออนสวมสูทสีดำเข้ม ชายเสื้อกลัดกระดุมรูปสิงโตคำรามสวมมงกุฎเพชร ซึ่งแตกต่างจากคนอื่น ๆ ด้วยสัญลักษณ์ของผู้ยิ่งใหญ่ ยืนอย่างสง่าผ่าเผยภายใต้แสงโคมสะท้อน โดยมือใหญ่กุมมือของคนรักไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปไหนได้"วันนี้…ผมยืนอยู่ตรงนี้เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่าคาราเมลผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่แค่คนรักของผม แต่จากนี้ไป เธอคือนายหญิงเพียงคนเดียวของ Black Lion ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเธอ…ก็เหมือนกับแตะต้องผมเหมือนกัน"เสียงเงียบกริบราวกับทั้งห้องหยุดหายใจพร้อม ๆ กัน ก่อนที่เลออนจะหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมา เปิดเผยแหวนสลักสัญลักษณ์สิงโตดำที่เป็นตราของวงศ์ตระกูลสืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สวมมันลงบนนิ้วนางของคาราเมลด้วยความรักที่มั่นคงคาราเมลลอบกลืนน้ำลายพร้อมกับหัวใจท
เย็นของวันที่ดูจะเป็นวันแห่งความสุขที่สุดอีกวันของคาราเมลและเลออนกำลังเริ่มขึ้น หลอดไฟนับพันที่ถูกตกแต่งบนต้นไม้รวมไปถึงเสาโค้งที่ล้อมรอบงานมงคล ทำให้เกาะส่วนตัวกลางทะเลที่มีตระกูล Black Lion เป็นเจ้าของกลายเป็นสรวงสวรรค์ที่ปกคลุมไปด้วยความรักอันหวานชื่นงานวิวาห์ที่รักษาความเป็นส่วนตัวครั้งนี้เชิญเฉพาะแขกเหรื่อคนสนิทของทั้งสองฝ่าย ภายในงานจึงมีแขกที่สามารถเข้าร่วมได้ไม่เกิน20 คน อาจจะดูเหมือนเป็นพิธีการที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเรียบง่ายแต่หากจะบอกอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเนื่องจากงานที่จัดกลางเกาะห่างไกลจากผืนดินการจัดการจึงค่อนข้างมีรายละเอียดมากกว่านั่นก็รวมไปถึงคนที่พิถีพิถันและให้ความสำคัญกับงานในครั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่การลงทุนซื้อเกาะส่วนตัวเพื่อการนี้ค็อกเทลในแก้วคริสตัลนำเข้าจากปารีส ไปจนไปถึงวงดนตรีจากวงออเคสตราชื่อดังในอิตาลีแน่นอนว่าทุกดีเทลต้องผ่านการคอนเฟิร์มจากเลออนที่เป็นตัวต้นงาน คนที่รู้ดีที่สุดว่าเมียสุดรักของเขาชอบแบบไหนต้องการอะไรมากที่สุดถึงจะทำให้ภาพรวมของงานออกมาได้ถูกใจเธอที่สุด"ได้เวลาเปลี่ยนชุดแล้วครับนาย"ลีซอบอกเจ้านายที่ยืนค
ยามเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังทอแสงอ่อน ๆ สาดลงมาบนผิวน้ำของสระว่ายน้ำในงานปาร์ตี้ที่คล้ายจะเป็นสถานที่พลอดรักมากกว่า คู่รักหนุ่มสาวที่เพิ่งกลับมาคืนดีกำลังลอยตัวอยู่กลางสระอย่างใกล้ชิด ความเย็นของน้ำไม่ได้ช่วยให้ความร้อนในกายของทั้งคู่ลดลง หรือแม้แต่คนในงานเองก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแสดงความรักระหว่างเลออนและคาราเมล"คิดยังไงถึงบอกไอ้ไคเซอร์ไปแบบนั้น" เสียงแหบพร่าของเขาเอ่ยถามขณะที่รวบร่างเล็กเข้ามากอดแนบแน่น คาราเมลยกยิ้มหวานขึ้น ก่อนจะใช้แขนเรียวคล้องคอและจดจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาแห่งความรักใคร่"เมลไม่อยากให้ระหว่างเราเกิดการเข้าใจผิดกันอีก เมลไม่อยากอยู่ห่างพี่สักวินาทีเดียว" เธอตอบด้วยน้ำเสียงหวานยั่วยวน ลากปลายนิ้วเบา ๆ ไปตามกรอบหน้าคมคายของเขา มั่นใจว่าหลังจากนี้จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์คล้ายนี้อีก"พี่ชอบที่เมลพูดตรง ๆ แบบนี้ มันยิ่งทำให้พี่...หลงเมลมากกว่าเดิม" ความปรารถนาที่สื่อผ่านดวงตาฉ่ำหวานทำให้เลออนแทบคลั่ง เขากดจูบลงบนหน้าผากเนียนอย่างหลงใหล ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาที่ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ"เมลก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว..." คาราเมลยิ้มเย้ายวนยิ่งขึ้น เธอจงใจใช้ปลายเล็บสะกิด
"คุณพ่อคุณแม่ท่านน่ารักมากเลยนะคะ ขนาดแต่งงานกันนานแล้วก็ยังหมั่นเติมความหวานอยู่ตลอด" คาราเมลปรายมองคู่รักที่สวีทหวานแหววอยู่ในร้านเพชรประจำของเอเลน่า พากันช่วยเลือกเครื่องประดับร่างแทบจะหลอมเป็นคนเดียวกัน เป็นภาพน่ารักที่ทำเอาเธออดยิ้มตามไม่ได้"อิจฉาทำไม เมลก็มีพี่ที่รักเมลไม่ต่างจากที่พ่อรักแม่" คนเห็นจนชินรีบแย่งขึ้นมา สายตาของเธอจึงเปลี่ยนเบนมองเขาแทน"ไหนลองพูดใหม่สิคะ" คาราเมลเท้าคางมองใบหน้าหล่อเหลายิ้ม ๆ"พี่รักเมล""บ้า! เมลเขินนะ" ก่อนจะตีแขนเขาเบา ๆ อายแทบตัวม้วนกับสายตาและคำบอกรักที่หวานเกินบรรยายเลออนบีบจมูกเชิดรั้น ไม่ว่าทำอะไรเขาก็รู้สึกมันเขี้ยวเธออยู่ตลอดเวลาจริง ๆครอบครัวสุขสันต์พากันช็อปปิ้งตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่ก็จะนำทัพด้วยเอเลน่าและคาราเมลที่เลือกซื้อของอย่างสนุกสนาน ส่วนชายหนุ่มสองคนแน่นอนว่ามีหน้าที่แค่จ่ายเงิน ถือของ และเอาใจคนรักก็พลันมีความสุขตามทั้งวันที่เหมือนกับวันพักผ่อนสำหรับครอบครัวไม่ได้ทำให้คาราเมลรู้สึกเป็นคนนอกเลยสักนิด เอเลน่าและไลออซปฏิบัติราวกับเธอเป็นลูกในไส้ ทั้งยังรักและเอ็นดูยิ่งกว่าเลออนที่เป็นลูกจริง ๆ"วันนี้สนุกมากเลยหนูเมล แต่พ่อแอบบ







