Share

บทที่ 507

Author: จูน
คืนนี้อวี่เหวินห่าวไม่สามารถเข้าไปในห้องนอนได้และก็ไม่กล้าอยู่ห่าง ๆ ดังนั้นจึงหอบผ้าห่มไปนอนอยู่ข้างระเบียงทางเดินนอนตรงนั้น

ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด หลังจากเรื่องนี้สืบสวนกระจ่างชัดแล้ว เขาต้องฆ่าคนแน่

นอนบนพื้นจนเจ็บหลังปวดเอวไปหมด ในตอนเที่ยงคืน อวี่เหวินห่าวเดินย่องเข้าไปในห้อง หยวนชิงหลิงยังไม่หลับ ในความมืดเห็นร่างเงาตะคุ้มๆเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง นางเองก็ไม่ส่งเสียงอะไร รอให้เขามาถึงเตียงปีนขึ้นแล้วยกขาถีบออกไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถีบไปโดนตรงไหน เห็นแค่อวี่เหวินห่าวกอดตัวเองกระโดดออกไปที่ไหนสักที เจ็บแต่ก็ไม่ส่งเสียงออกมา

เขาทำได้เพียงยอมรับความยากลำบากนี้ แล้วออกไปข้างนอกนอนบนพื้นต่อ

หยวนชิงหลิงมองเขาออกไป ในใจนางยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ

นางเชื่อว่าเจ้าห้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้า คิดว่าตอนที่เขายังมีสติสัมปชันยะครบถ้วน คงไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างฉู่หมิงหยาง เจ้าห้ารังเกียจฉู่หมิงหยางยังกับอะไรดี

แต่ฉู่หมิงหยางทำไมถึงได้ทำแบบนี้? เข้าไปลักหยกขโมยบุปผา แอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ? คนที่ทำเรื่องนี้ต้องมีเป้าหมาย?

วันรุ่งขึ้นย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 508

    อวี่เหวินห่าวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ กุมหัวคิดสักพัก ก็เงบหน้าที่ยังคงงุนงง หลังจากนั้นก็ยื่นมาไปจับมือหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงสะบัดออก เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าโวยวายสิ จับมือของเจ้า ข้าถึงจะสงบใจได้ ถึงสามารถค่อย ๆ นึกขึ้นมาได้”หยวนชิงหลิงจึงให้เขาจับมือตามใจชอบผ่านไปได้สักพัก นางเอ่ยถามว่า “นึกออกหรือยัง?”อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างเศร้า ๆ ว่า “กอดด้วยจะยิ่งดีขึ้นนิดนึง”“ท่าน...” หยวนชิงหลิงโกรธขึ้นมา “ท่านจริงจังกว่านี้อีกหน่อยได้ไหม?”อวี่เหวินห่าวสายตาดูสับสน “ข้าจริงจังที่สุดแล้ว แต่สมองมันเหมือนมีก้อนสำลี ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี”“ท่านลองนึกดู ในมือของมหาเสนาดีฉู่ เสื้อผ้า รัดเกล้า หรืออย่างอื่น...” หยวนชิงหลิงเตือนสติ“เสื้อผ้า...เสื้อผ้า” อวี่เหวินห่าวเงยหน้าขึ้น “ลายนกกระเรียน ใช่แล้ว เสื้อผ้านั้น ลายนกกระเรียนนั้นขยับได้ ในปากส่งเสียงกึก ๆ ๆ"หยวนชิงหลิงเข้าใจแล้ว และพูดกับซูยี่ว่า “ไปนำเหล้ามาขวดและอุ้มไก่เข้ามาด้วย”ซูยี่หันออกไป สักพักก็เอาเหล้ามาให้หยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงบอกอวี่เหวินห่าวว่า “สักหนึ่งลมหายใจ ดื่มสักครึ่งขวด เอาให้พอเมา ๆ สักครึ่งก็ได้แล้ว”อว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 509

    มือของฉู่หมิงหยางค่อย ๆ เลื่อนลงไปจากหน้าท้องของเขาอย่างช้า ๆ และปลดเข็มขัดเขาออกแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เคารพตัวเอง? ถ้าเคารพตัวเอง แล้วข้าต้องเป็นพระชายารองให้อ๋องจี้ ท่านยอมให้เป็นเช่นนั้นหรือ?”นางกดลงมาประทับริมฝีปากลงบนแก้มของเขา และค่อย ๆ เลื่อนมาที่ข้างใบหู “พี่ห่าว ข้าเป็นของท่าน ท่านรู้ไหม?”ลมหายใจของเขาค่อย ๆ เร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็กระชากผมของฉู่หมิงหยางและลืมตาขึ้นทันที เขาตะคอกเสียงดังว่า “ไสหัวไป!”ในแววตาฉู่หมิงหยางแอบซ่อนความดื้อรั้น นางเปลี่ยนสีหน้า “ท่านชอบข้า ยังจะต่อต้านทำไม?”เสียงดังน่ารำคาญหนวกหูดังไม่หยุด เปลือกตาเขาก็ลืมไม่ขึ้น แต่ว่าความรู้สึกถึงอันตรายในหัวนั้นทำให้เกิดแสงสว่างวาบมา ตัวเองที่รู้สึกได้ถึงความอันตรายนั้นถึงรู้สึกตัวขึ้นมา บังคับให้ตัวเขาเองพยายามลืมตาขึ้นมาจ้องฉู่หมิงหยางเอาเป็นเอาตาย ไม่อนุญาตให้นางแตะต้องได้อีกมหาเสนาบดีฉู่ที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาดึงตัวฉู่หมิงหยางและส่ายหน้า “ไม่ได้การ เขาต่อต้านเป็นอย่างมาก ไปกันเถอะ”ฉู่หมิงหยางมองเขาและไม่ยอม แต่คนข้าง ๆ ดึงตัวนางตลอด นางพูดด้วยความคับแค้นใจ “ข้าไม่ปล่อยมือ”มห

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 510

    เจ้าห้าไม่ได้ตรงไปที่จวนฉู่ แต่ไปที่สำนักงานผู้ตรวจการ หาเจ้าหน้าที่ที่ประตู และเจ้าหน้าที่ตอนรับอีกสองสามคนให้มาเป็นพยาน และไปหาอ๋องรุ่ยชินและเซียวเหยากงด้วย ให้พวกเขามาเป็นพยาน ใครกันแน่ที่ทำเกินไปมหาเสนาบดีฉู่วันนี้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมท้องพระโรงยามเช้า แต่วันนี้ก็อารมณ์ไม่ค่อยดีมากด้วยเมื่อคืนวานฉู่หมิงหยางคุกเข่าอยู่ข้างนอกทั้งคืน บอกว่าจะยกเลิกการแต่งงานกับอ๋องจี้ เพราะว่านางกับอวี่เหวินห่าวได้มีสัมพันธ์ร่วมกัน และได้หยิบหลักฐานยืนยันออกมาเขาย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว ความคิดของหลานสาวมีรึที่เขาจะมองไม่ออก จึงไม่สนใจนาง สั่งให้นางคุกเข่าอยู่ข้างนอก คุกเข่าให้ตายไปซะวันนี้ตอนเช้า ฮูหยินฉู่ที่เป็นห่วงกังวลเหลือเกิน จึงสั่งให้คนไปเชิญให้ฉู่หมิงชุ่ยกลับมาเกลี้ยกล่อมฉู่หมิงหยาง ดังนั้นเมื่อฉู่หมิงชุ่ยกลับมาถึงบ้านตัวเอง ได้ยินว่าให้ตายยังไงฉู่หมิงหมายก็จะแต่งกับอวี่เหวินห่าวให้ได้ นางก็ตกใจมากนางมาถึงสวนของท่านปู่ด้านนอก ฉู่หมิงหยางคุกเข่าโอนเอนเกือบจะล้มไม่ล้ม หมดแล้วซึ้งความสดใสอบอุ่นแต่เดิม ราวกับดอกลิลี่ยามเช้าที่ถูกทำให้บอบช้ำด้วยความเย็น ไม่มีความสดชื่นมีชีวิตชีวาเหลือเลย

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 511

    ตอนนี้กลับมอบให้ฉู่หมิงหยาง เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่แรก เขาโกหกไม่ได้จริงใจกับนางความเกลียดชังผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของนาง นางกระชากป้ายหยกออกมาจากมือฉู่หมิงหยางและปามันลงกับพื้น ป้ายหยกแตกออกเป็นสามเสี่ยง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าไปมีความสัมพันธ์กัน”ฉู่หมิงหยางโกรธมากเสียจนกระโดดขึ้นมาคว้าแส้ฟาดลงไปบนหน้าของฉู่หมิงชุ่ยเข้าเต็ม ๆรอยแส้พาดผ่านอยู่บนใบหน้าฝั่งซ้ายของฉู่หมิงชุ่ย เป็นรอยราวกับมีตะขาบปีนอยู่ เจ็บเสียจนฉู่หมิงชุ่ยเกือบเป็นลมหมดสติไปมีคนก้าวมาข้างหน้าเพื่อหยุดยั้งเหตุการณ์ต่อจากนั้น ฉู่หมิงชุ่ยโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม น้ำตาไหลคลอเบ้า นางคุกเข่าลงกับพื้นและพูดเสียงดังว่า “ท่านปู่ หลานขอให้ท่านให้ความยุติธรรมด้วย”เจ้าหน้าที่ต้อนรับรีบวิ่งเข้ามาเคาะประตู “นายท่าน อ๋องฉู่ อ๋องรุ่ยชิน และเซียวเหยากง อยู่ด้านนอกบอกว่าอยากพบท่านขอรับ”มหาเสนาบดีฉู่เอามือไพล่หลังเดินออกไป สีหน้าดำมืด กวาดตามองฉู่หมิงชุ่ยและฉู่หมิงหยางและกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “พาพวกนางสองคนลงไป มีเรื่องอะไรอีก?”ฉู่หมิงหยางคุกเข่าลงและพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ท่านปู่ ไม่ใช่อ๋องฉู่ หลานไม่แต่ง”ฉู่หมิงชุ่ยฟ้อง

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 512

    อวี่เหวินห่าวคว้าแส้ด้วยมือข้างหนึ่งและเหวี่ยงพันรอบคอนาง และมือที่ว่างอยู่อีกข้างปลดเข็มขัดของซูยี่ออกผูกกับแส้แล้วโยนขึ้นไป เขาดึงเข็มขัดนั้นขึ้น และแขวนคอของฉู่หมิงหยางบนขื่อคานข้างบน ทุกอย่างเสร็จสิ้นชั่วพริบตา “ไม่ต้องไปผูกคอตายหน้าประตูจวนอ๋องฉู่หรอก เจ้าก็จงตายที่นี่ซะ”ซูยี่รีบกอดเอวตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าที่หลวมหลุดออกมาเหตุการณ์นี้ทำให้คนใช้ในตระกูลฉู่ และทหารองค์รักษ์รีบพุ่งเข้ามาช่วย อวี่เหวินห่าวตะคอกอย่างแค้นเคืองว่า “ใครกล้าก้าวออกมา ข้าจะซัดมัน”ใบหน้าของฉู่หมิงหยางแดงกล่ำ สองตาแทบจะถลนออกมาแล้ว ขาทั้งคู่ดิ้นอยู่กลางอากาศ ยิ่งนางดิ้นก็ยิ่งถูกรัดแน่นลำคอของนางส่งเสียงค่อกแค่กออกมามองขอความช่วยเหลือจากคนข้างล่าง สาวใช้ของนางหมานเอ๋อร์รีบลุกขึ้นและพูดว่า “ท่านอ๋องรังแกผู้หญิงอ่อนแอ ชั่วช้ายิ่งนัก!”อวี่เหวินห่าวมองส่วนสูงของสาวใช้คนนี้ น่าจะเป็นนางที่ปลอมเป็นมหาเสนาบดีฉู่ และใช้เล่ห์กลอะไรไม่รู้ใส่เขา ในตอนนั้นเองความโกรธที่สะสมมาตลอดก็ปะทุออก เขายกขาเตะกลางท้องนางออกไปจนตัวคนลอยออกไปแต่หลังจากที่นางถูกแตะลอยออกไป สองขานางก็ถีบกำแพง พุ่งตัวออกไปราวกับลูกศรที

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 513

    หมานเอ่อร์ตกใจ ฉู่หมิงหยางเองก็ตกใจเช่นกันอวี่เหวินห่าวมองลงไปดูฉู่หมิงหยางและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คิดว่าสะกดจิตข้า จนคิดว่าข้าจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ได้เลยสินะ? สาวใช้ของเจ้าเชี่ยวชาญเรื่องสะกดจิตปลอมตัว วันนั้นก็นางนี่เองที่ปลอมตัวเป็นมหาเสนาบดีฉู่พาเจ้ามาข้าที่สำนักผู้ตรวจการ ตั้งแต่ตอนที่พวกเจ้าเข้าประตูมาก็เริ่มสะกดจิตข้า คำพูดของเจ้าทุกคำข้าล้วนจำมันได้ทั้งหมด”มหาเสนาบดีฉู่ถึงกับหน้าซีด เขาเตะหมานเอ๋อร์และพูดอย่างแค้นเคืองว่า “เจ้ากล้าดียังไงปลอมตัวเป็นข้า? เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วสินะ!”หมานเอ๋อร์กระอักเลือดออกมาและพูดอย่างยากลำบากว่า “นายท่าน เขาโกหก สิ่งยืนยันนั้น คุณหนูรองสิ่งยืนยันนั่นล่ะ? รีบนำสิ่งยืนยันไปให้นายท่านดูเร็วเข้า”ฉู่หมิงหยางพูดอย่างร้อนรนว่า “ป้ายหยกนั้นแตกแล้วอยู่ที่สวนด้านนอก ท่านปู่ท่านสั่งให้คนดู เอามาประกอบกันเป็นชิ้น ไม่สนว่าจะเป็นยังไง วันนั้นเขากอดข้าจริง ๆ ข้าได้ทำลายชื่อเสียงของข้าไปแล้ว ไม่ใช่เขาข้าไม่แต่ง ขอท่านปู่ตัดสินด้วย”อวี่เหวินห่าวพูดอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าตัวเองคืออะไร? ไม่ใช่ข้าเจ้าไม่แต่ง ข้าอยากแต่งกับเจ้ารึ? ไม่มีกระจกห

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 514

    สิ้นคำพูดเหล่านั้น มหาเสนาบดีฉู่ก็ได้ฟาดไม้ลงไป ได้ยินแค่เสียงไม้ที่กระทบลงกับเนื้อ ฉู่หมิงหยางกรีดร้องออกมา กุมหัวหมอบคลานอยู่กับพื้นแล้วกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงและไม่ส่งเสียงอะไรออกมาอีกฉู่หมิงชุ่ยที่รีบเข้ามา เห็นฉากนั้นนางก็รีบเข้าไป แต่ก็ค่อย ๆ หยุดฝีเท้าลง มองไม้ที่ฟาดลงไปบนหลังบนขาของฉู่หมิงหยาง ก้นบึ้งของหัวใจมีความรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกในที่สุดฉู่หมิงหยางก็ร้องออกมา แต่ล่ะไม้ที่ฟาดลงไป มหาเสนาบดีฉู่ออกแรงฟาดลงไปอย่างแรง ตีจนเนื้อเปิดตัวแตก หมานเอ๋อร์รีบวิ่งเข้าไปอยากจะแย่งไม้พลองของมหาเสนาบดีฉู่ อวี่เหวินห่าวปาแก้วออกไปกระแทกหน้าผากของหมานเอ๋อร์ ทันใดนั้นเลือดสด ๆ ไหลรินออกมา หมานเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น มองอวี่เหวินห่าวอย่างซ่อนความความขุ่นเคือง เลือดไหลหยดลงกับพื้น ให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “อ๋องฉู่ ท่านคิดบัญชีกับผู้หญิง ท่านไม่ใช่ลูกผู้ชายจริง ๆ””บ่าวตระกูลฉู่ บังอาจเกินไปแล้ว เจ้าหาว่าข้าไม่มีความคิดเป็นของตัวเองหรือ” อ๋องรุ่ยชินกล่าวอย่างเย็นชาไม้พลองก็ฟาดลงบนตัวของหมานเอ๋อร์ด้วย หมานเอ๋อร์กัดฟันและกล่าวว่า “นายท่านตี ตีบ่าวให้ตายเถอะเจ้าค่ะ ได้โปรดปล่

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 515

    “ข้าอยากถามท่านสักคำ ถ้าท่านตอบรับข้าตั้งแต่แรก คงไม่เป็นอย่างตอนนี้ใช่ไหม?” ขอบตาของฉู่หมิงชุ่ยแดงระเรื่อ นางเอ่ยถามออกมาโดยไม่สนในซูยี่ที่ยืนอยู่ซูยี่ตาเบิกกว้างหูผึ่งอวี่เหวินห่าวถลึงตามองซูยี่ ซูยี่ยังอยู่ที่นี่ เขาเองไม่สะดวกจะพูดจริง ๆ “พระชายาฉี” อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ข้าเชื่อว่า เรื่องราวผ่านไปแล้วก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว มันคงจะดีกว่าที่จะเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้”ในแววตาของฉู่หมิงชุ่ยปรากฏความสิ้นหวังออกมา “อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพราะหยวนชิงหลิง ท่านไม่เคยปฏิบัติดีกับข้าเท่านางมาก่อน”อวี่เหวินห่าวกล่าวว่า “ข้าขอบคุณนางที่นางไม่ยอมแพ้และยอมมีบุตรธิดาให้แก่ข้า ถ้าข้าปฏิบัติต่อนางไม่ดี ข้าคงตายไม่ดี เจ้าเจ็ดเขาดีกับเจ้าเหลือเกิน หวังว่าพระชายาฉีจะรักและถนอมวาสนานี้”“เขาแต่งชายารอง!” ฉู่หมิงชุ่ยพูดอย่างเย็นชาอวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างเฉยชา “เรื่องพระชายารองเจ้าเป็นคนจัดการไม่ใช่หรือ? ได้ยินว่าเจ้าให้เขาแต่งพระชายารอง ถึงกับไปหาพระนางฮองเฮาเพื่อขอเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ในเมื่อเจ้าเป็นคนร้องขอ นั่นต้องยินดีและเต็มใจ ก็ควรต้องรู้สึกดีสิ”นางก้าวไปข้างหน้า มองเขาอ

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status