LOGINชรันและพิชามญช์ออกไปแล้ว ไม่นานธีทัตก็เข้ามาและเห็นว่ารถส่วนตัวของพ่อไม่อยู่ เขาเอากระเป๋าสะพายและเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ที่นั่งด้านหลังออกมา
คุณป้าแม่บ้านได้เดินออกมาดูเพราะได้ยินเสียงประตูบ้านและเสียงรถยนต์ที่เข้ามา “สวัสดีค่ะคุณธี เมื่อกี้คุณพ่อกับคุณผู้หญิงพึ่งออกไปเอง ได้ยินว่าไปเที่ยวข้างนอกคงดึกกว่าจะกลับค่ะ ช่วยถือมั้ยคะ?” “ไม่เป็นไรครับ เอ่อ น้องพู่อยู่คนเดียวแบบนี้บ่อยหรือเปล่า? บ้านหลังใหญ่ เด็กอยู่คนเดียวก็คงกลัว” “ไม่หรอกค่ะ ปกติพวกท่านก็ไม่ไปไหนดึกๆนะคะ แล้วนี่คุณธีจะค้างที่นี่ใช่มั้ยคะ? ป้าจะพาไปที่ห้องนะ” “อ้อ ผมไปเองครับ คุณป้าพักผ่อนเถอะ พอดีพรุ่งนี้ผมมีธุระใกล้ที่นี่เลยมานอนค้างจะได้ไม่ต้องตื่นเร็วเพราะรถติด” ธีทัตเดินอ้อมไปดูหน้าต่างด้านข้างที่เป็นห้องของพรรณนาราก็เห็นว่ายังเปิดไฟอยู่ เขารีบเดินขึ้นไปชั้นสอง โยนกระเป๋าไว้บนเตียง แขวนเสื้อในตู้แล้วไปเคาะประตูห้องของเธอ “น้องพู่..หลับหรือยังครับ?” เธอตกใจกับเสียงเคาะประตูจนกลายเป็นความหลอน แต่พอได้ยินเสียงคนที่เธอแอบรักก็ใจเต้นตูมตาม ประตูที่เปิดแง้มพอแค่เห็นครึ่งหน้าของเธอ ทำให้เขาลืมตัวใช้มือจับที่ขอบประตูเพื่ออยากเห็นเธอมากกว่านี้ แต่พรรณนารารีบใช้สองมือดันประตูเอาไว้จนไม่เห็นหน้ากัน “พี่ธีมาที่นี่ทำไมตอนนี้คะ? ไม่มีใครอยู่หรอก” ความรู้สึกของธีทัตที่ส่งมาถึงเธอนั้นมีความในใจมากมาย มีทั้งกังวล คิดถึง หลงรัก ห่วงใย “เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?..พู่..บอกพี่สิ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนทำให้เธอน้ำตาคลอขึ้นมาดื้อๆ เธอเห็นแค่นิ้วมือของเขาที่จับขอบประตูอยู่ จึงสัมผัสนิ้วมือเขาเบาๆ “มันผ่านไปแล้ว หนูไม่อยากพูดถึง อยากลืม..เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย เขาตัดสินใจดันประตูเข้ามา พอเห็นหน้าเธอที่เศร้าและน่าสงสาร มันทำให้เขาทนไม่ได้และกอดเธอแน่นแนบกับแผ่นอกกว้าง “บอกพี่ เขาทำอะไร? พี่ไม่อยากรื้อฟื้นแต่พี่ต้องรู้ว่ามันเกิดอะไร?” “รู้ไปพี่ก็ช่วยอะไรหนูไม่ได้หรอก” น้ำตาที่ไหลออกมา เธอสะอื้นในอ้อมอกเขาเงียบๆ “พี่ก็ไม่ได้เป็นคนดีมาจากไหน ขอโทษที่น่าจะมาค้างที่นี่เร็วกว่านี้” พรรณนาราพยายามดันตัวเขา แต่ธีทัตไม่ยอมกลับกอดแน่นมากกว่าเดิม เขาซุกหน้าลงที่ผมตรงใบหูของเธอ “ไปที่ห้องพี่นะ คุยกันหน่อย” เธอยอมตามเขาที่จูงมือไปยังห้องนอนที่ชรันทำไว้ให้ แต่ไม่เคยได้ใช้มาก่อนเพราะโดนกันท่าไม่ให้มาค้างที่นี่ พรรณนารานั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนเตียง โดยที่ธีทัตเริ่มถาม “ไม่ต้องอาย หนูต้องบอกพี่ แล้วพี่จะคิดหาทาง” “หาทาง? ยังไงล่ะ?” “พี่จะเรียนจบแล้วเหลือแค่ไม่ถึงเดือน ถ้าเริ่มงานก็จะมีเงินเดือน อาจเช่าหอให้ใกล้โรงเรียนดีไหม? ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย” เธอหันมาสบตาเขาเศร้าๆ “ถ้าหนูไม่เชื่อฟังเขา แม่จะลำบาก แม่กำลังจะท้องลูกของเขาด้วย เขากับแม่ไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้ ถ้าหนูหนีไปหรือไม่ตามใจเขา เขาจะฟ้องหย่า ให้แม่เอาลูกออก ไม่ให้เงินแม่” ธีทัตขมวดคิ้วทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน “นี่มัน…บ้าไปแล้ว ถ้าแม่หนูไม่ผิดก็ฟ้องหย่าไม่ได้ ยิ่งบังคับให้ภรรยาเอาเด็กออก ยิ่งผิดกฎหมาย แถมถ้ามีชู้แล้วภรรยาฟ้องกลับโดยมีหลักฐาน พ่อพี่ต่างหากที่ต้องเสียเงิน” “แล้วถ้าแม่..ใช้หนูเพื่อแลกกับทุกอย่างที่พูดไปล่ะ?” เขาสงสารเธอมากจนอยากพาหนีไปจากที่นี่ พอดึงเธอเข้ามาเพื่อกอด เธอกอดเขากลับมา “ที่พูดขอให้รอ..พี่พูดจริงนะ พี่ไม่สนใจว่าพู่จะเจออะไรมา พี่ไม่แคร์ เพราะพี่ก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องมาจากไหน” “หนูไม่ได้ถูกทำขนาดนั้น หนูยังบริสุทธิ์อยู่ แต่..สิ่งที่เขาทำมันเกินจะรับไหว หนูขยะแขยง รังเกียจที่สุด” ธีทัตใจเต้นแรงและตื่นเต้น ใคร่รู้ในสิ่งที่พ่อของเขาทำกับเธอ จนเกิดอารมณ์เสียเอง ซึ่งพรรณนาราเริ่มรับรู้ได้จากลมหายใจร้อนๆ หัวใจที่เต้นแรง เขาหายใจเร็วขึ้น เหมือนที่ชรันเป็นแบบนั้นในตอนที่ล่วงเกินเธอ “เขาปล่อยมันบนตัวหนู กลิ่นมันแย่มาก หนู..กลัวสุดๆ เขา..จับหน้าอก ถอดกางเกง..” “พ่อพี่..ทำแบบนี้กับพู่กี่ครั้งแล้วน่ะ” “สองครั้ง..ครั้งแรกเขาล้วงเข้าไปในกางเกงจับตรงนั้น แล้วให้หนูจับของเขา เมื่อวาน..เขาทำมากกว่าเดิม” พรรณนาราเอาสองมือปิดหน้าเพราะความอับอายเมื่อต้องนึกถึง ธีทัตใจเต้นแรงจนสะเทือน “พู่..เอ่อ พี่ไปอาบน้ำแป๊บนึงนะ รอนี่ก่อน พี่ขอไปตั้งสตินิดหน่อย อาบน้ำคงช่วยได้” แต่พอเขาจะผละไป เธอดึงมือเขาไว้แล้วเข้าไปนั่งคร่อมบนตักเขา จูบรสหวานนั้น..ทำเขาเคลิ้มจนตาปรือ น้องสาวของเธอทับแก่นกายที่แข็งตัวอยู่ในกางเกง ยิ่งทำให้อารมณ์ของธีทัตกำลังจะอยู่เหนือเหตุผลและสติเข้าทุกทีแล้ว สายตาเขาอ้อนเธอโดยไม่พูดเพราะไม่กล้าพอ กอดจูบกันอยู่แบบนั้น พรรณนาราไม่รู้ตัวว่าเคมีในร่างกายเธอแสดงความต้องการออกมาเอง ชั้นในเธอเปียกทะลุจนเปื้อนเป้ากางเกงของธีทัตที่นั่งบดบี้กันอยู่ “พู่..พี่จะไปอาบน้ำก่อนได้มั้ย?…” “หนูไม่รู้ว่าจากนี้จะพลาดท่าให้เขาอีกมั้ย แต่ครั้งแรก..อยากให้เป็นพี่” ธีทัตไม่พูดอะไรนอกจากยื่นหน้าไปจูบเธอแล้วพลิกกลับให้พรรณนารานอนบนเตียงแทน ระหว่างจูบกันเขาพยายามปลดเข็มขัดและซิปถึงรู้ว่าเป้ากางเกงเปียก และพอเขาถอดกางเกงและบ็อกเซอร์ออกก็พบว่าตัวเขาก็เปียกเหมือนกัน เธอแอบเห็นแก่นกายของเขาวับๆแวมๆเพราะธีทัตยังไม่ถอดเสื้อ จึงปลดกระดุมให้ในขณะที่เขาขึ้นคร่อมและจูบกันต่อ มือของเขาสัมผัสกางเกงชั้นในที่เปียกเยิ้มพร้อมกับดึงมันออกจากขาที่เรียวสวย “พี่จะทำยังไงดี..หนูแน่ใจใช่มั้ย?” “ถ้าพี่ไม่แน่ใจ เราเลิกทำตอนนี้ก็ได้” “ไม่..พี่..ไม่อยากให้หนูเป็นของคนอื่น” เขาเลิกชุดนอนแบบกระโปรงขึ้นจนถึงเอว มือล้วงเข้าไปขยำหน้าอกที่เต็มไม้เต็มมือซ่อนรูปในเสื้อชั้นใน ธีทัตดอมดมไปตามหน้าอก หน้าท้อง พอจะซุกหน้าลงที่หว่างขาของเธอ พรรณนารารีบหุบขาสองข้างจนชนกับแก้มเขา มือข้างหนึ่งปิดป้องน้องสาวเอาไว้ อีกมือหนึ่งดันศีรษะของธีทัตจนเขาต้องเงยหน้ากระซิบบอก “ไม่ต้องกลัวนะ..พี่อยากทำให้” ความนุ่มนิ่มจากลิ้นของชายหนุ่มที่ละเลงไปทั่วอย่างอ่อนโยน มีเสียงจากจูบและสัมผัสของเขาที่ทำกับน้องสาวของเธออย่างทะนุถนอม ทำให้สาวน้อยพึ่งรู้สึกถึงความต้องการเป็นครั้งแรก สองมือเธอจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น แอ่นตัวจนหน้าอกหน้าใจกระเพื่อมขึ้นลง หายใจหอบและครางเบาๆ ธีทัตจ้องมองเต็มสองตาถึงความสวยงามนี้ เขาใช้นิ้วสัมผัสไปตามร่องด้านในที่ลื่นไปด้วยเมือกใสๆ จนเธอแอบสะดุ้ง ทีนี้เขาลองใช้นิ้วใส่เข้าไปนิดหน่อย “เจ็บมั้ย?..” “อื้อ..” ทีนี้เขาลองใส่เข้าไปช้าๆจนเกือบจะสุดนิ้ว ข้างในนั้นบีบรัดนิ้วเขาจนรู้สึกได้ “อื้อ..” เขาขึ้นมานอนทาบตัวเธอโดยที่มือก็ยังคาอยู่แล้วค่อยๆขยับเข้าออกเริ่มจากช้าๆและเร็วขึ้นปานกลาง ทั้งสองสบตาและเริ่มต้นจูบอย่างลึกซึ้ง ธีทัตเอานิ้วออก ขยับตัวเข้าไปและเริ่มใช้แก่นกายถูในร่องสีชมพูที่ลื่นและนุ่มนิ่ม ช่องทางนั้นเล็กแต่ก็พร้อมรับตามธรรมชาติที่สร้างให้มนุษย์ทั้งชายและหญิงได้ดำรงเผ่าพันธุ์ ความชุ่มชื้นจากเคมีของคนทั้งคู่ที่หลั่งออกมาขณะร่วมรักช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนั้นให้น้อยลงบ้างไม่มากก็น้อย ชายหนุ่มวัยกลัดมันที่กำลังสาวเอวเข้าออก หญิงสาวที่กอดลำตัวเขาแนบแน่นจนหน้าอกเบียดอกกว้างของเขาอย่างเร่าร้อน “อาา..พู่..อา..อาาา” “อ้ะ.. พี่ธี..” เขาขย่มเร็วขึ้น ถี่ขึ้น พรรณนาราเจ็บแต่เธอปิดปากสนิท มีเสียงเล็ดลอดจากในลำคอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้ำรักจากเขาที่หลั่งจนล้นออกมาในขณะที่ยังขยับเข้าออกอีกสามสี่ครั้งจนเสร็จ “กลับไปอยู่บ้านพ่อนะ พี่คงทนไม่ได้ถ้าหนูอยู่ที่นี่..ใกล้พ่อของพี่” “แต่หนูทำให้แม่เดือดร้อนไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าแม่เองก็เป็นใจให้เขาเหมือนกัน” “ว่าแต่..เจ็บมั้ย? พี่ทำแรงไปหรือเปล่า?” “ก็..เจ็บค่ะ แสบๆตึงๆ งั้นหนูจะกลับห้องไปล้างตัวก่อนนะ” เธอยันตัวลุกนั่งด้วยสีหน้าว่าเจ็บ พยายามดึงชุดนอนให้ลงมาปิดส่วนสงวน ธีทัตรีบใส่กางเกงแบบลวกๆ แล้วอุ้มเธอที่กอดคอซบที่ไหล่ของชายที่เธอรักใคร่ เพื่อไปส่งที่ห้อง “พี่พาไปดีกว่านะ หนูยังระบมอยู่” ………………………………….🔥❤️ฟ้าเดินตรงมาหาที่ประตูรั้ว ชรันมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะให้ทันทีเชิงประชดประชัน“มาอยู่ที่นี่เองเหรอ ดูดีขึ้นเป็นกองเลยนะ หนูพู่เอาเธอมาชุบเลี้ยงอย่างดีเพื่อให้มาใส่ร้ายฉันล่ะสิ อย่าลืมว่าฉันเลี้ยงดูเธอมากี่ปีแล้วล่ะฟ้า? ตอนนี้กลับปีกกล้าขาแข็ง”“เลี้ยงดูหรือล่อลวงให้รัก? เอาเงินฟาดหัวเพื่อให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างฟ้าไปไหนไม่รอด ถ้าฟ้ายังงมงายกับคุณอยู่ก็คงไม่พ้นเป็นแม่บ้านสนองตัณหาคุณตลอดไป น้องพู่ทำให้ฟ้าได้เรียนหนังสือต่อ นู่น..บนนั้น..ห้องนอนที่ฟ้าไม่เคยคิดว่าจะได้มีแบบคนอื่นมาตลอดชีวิต มีคนคอยดูแลให้คุณค่า ฟ้าจะปกป้องน้องพู่ทุกอย่างที่คนอย่างฟ้าพอจะทำได้”“อยากเป็นเมียพ่อหนูพู่ล่ะสิ หาที่เกาะใหม่ได้แล้วสินะ”“เพราะคุณไปทำลูกสาวเขานี่”“พิชาต่างหากที่ยกหนูพู่ให้เป็นเมียฉันอีกคน”“ไม่มีแม่คนไหนทำแบบนั้นกับลูกตัวเองหรอก กลับไปเถอะค่ะ ทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายดีที่สุด”ฟ้าหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที ส่วนชรันที่กำหมัดแน่นได้ตรงกลับบ้านแล้วนั่งดื่มอย่างบ้าคลั่งธีทัตทำงานอย่างขยันขันแข็ง ไปรับพรรณนาราแล้วถึงห้องก็ยังนั่งทำงานต่อ นอนหลับดึกๆดื่นๆจนเธอเป็นห่วง “
ชรันกลับถึงบ้านก็ไม่เป็นอันกินอันนอนหลังจากโดนลูกเลี้ยงสาวถอนหงอกเสียอย่างไม่เป็นท่า เขาเจ็บใจที่ถูกหลอกว่านอนกับเธอมาตลอด เสียเงินไปเยอะแยะมากมาย ซื้อรถซื้อของให้นับไม่ถ้วน จริงสิ..ฉันโดนแอบถ่ายในบ้านหลังนี้ แสดงว่ามีกล้องซุกซ่อนอยู่หลายจุดแน่นอน…เขาตรงไปที่ห้องนอนแม่บ้านที่เคยเป็นห้องของฟ้า ก่อนจะยกให้เด็กสาวคราวลูกได้อยู่เพื่อปรนเปรอสวาทให้ เมื่อรื้อค้นอย่างถี่ถ้วนก็พบกล้องที่ซ่อนไว้ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นเมื่อไปที่ห้องทำงานก็พบเช่นกันโดยวางซ่อนไว้ในช่องหลืบของโซฟาที่ใช้นั่งเล่นในห้อง ชรันเขวี้ยงมันลงบนพื้นอย่างโมโหสุดขีด เขาแน่ใจว่าเป็นพิชามญช์ที่ทำทั้งหมดและเริ่มประสาทกินกับความคิดที่ว่าในบ้านนี้มีอีกกี่จุดที่มีกล้องคอยบันทึกทุกอย่างในเวลาที่เขาชะล่าใจว่าเธอไม่อยู่บ้านเลยทำอะไรก็ได้ ในตอนนี้สิ่งที่เขาจะต้องจัดการคือควบคุมสติและปรึกษาทนายเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตของชีวิตฉันไม่พร้อมจะสูญเสียชีวิตในตอนที่อายุขนาดนี้เด็ดขาด..ส่วนเธอ..พิชามญช์ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก.. ณัฐวีย์ที่รับรู้ว่าชรันติดต่อมาหาว่าที่ภรรยาของเขา นั่นทำให้เขาย้ายเธอและลูกชายให้ไปอยู่ที่คอนโดของพรรณนาราท
Pacific Gateways Co., Ltdในตอนสายของวัน พนักงานของบริษัทต้องแปลกใจ เมื่อมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาขอพบชรัน จากนั้นได้กรูกันเข้าไปในห้องทำงานของเขาและเชิญให้ไปสถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งแน่นอนว่าชรันฉลาดพอที่จะไม่ให้ปากคำอะไรที่จะมัดตัวเขาได้นอกจากขอให้การในชั้นศาลเท่านั้นและต้องการใช้ทนายให้พูดแทน เขายื่นประกันและถูกปล่อยตัวให้กลับบ้าน ความคั่งแค้นในใจ พยายามคิดหาแต่ว่าทำไมผู้หญิงสามคนถึงรวมหัวกันแจ้งความเขา แล้วเด็กสาวที่เลี้ยงไว้อยู่ๆก็หายไปติดต่อไม่ได้กลับไปโผล่อยู่กับฟ้าและพรรณนาราได้ยังไง คลิปต่างๆที่จะมัดตัวเขาของทั้งสามคนมาจากไหน? จากใคร? ได้มายังไง? ชรันคิดได้แค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ พิชามญช์มีสายโทรเข้าปลายสายที่รู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องสงสัยเธอจนได้ พิชามญช์แค่รับสายแล้วทำน้ำเสียงปรกติเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร“พิชา..วันนี้ตำรวจมากันที่บริษัทผม มีทนายความมายื่นแจ้งความให้ผู้หญิงสามคน ลูกสาวคุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วย มีอะไรจะพูดมั้ย? อย่าลืมว่าคุณยกพู่กันให้ผมเอาเอง”“ฉันเลี้ยงแต่ลูกอยู่ในห้องตั้งแต่คืนที่จับได้ว่าคุณเอากับอดีตภรรยาคุณธี ใครจะจัดการอะไรเรื่องแบบนี้
แบมซื้ออาหารและน้ำเข้ามาให้ชรันที่บ้าน เธอย่างกรายเข้าไปในตัวบ้านที่เงียบจนวังเวง เขาที่นั่งรออยู่แล้วได้รีบเดินมาต้อนรับ “แม่บ้านไม่มีสักคนเหรอคะ?” “เหลือป้าแม่บ้านกับคนขับรถ พอดีสั่งไว้ว่าไม่ต้องทำอาหารเผื่อเพราะตอนแรกคิดว่าจะไปนั่งดื่มข้างนอก แต่รู้สึกเพลียเลยไม่ออกไปน่ะ” ชรันทำมือว่าให้ตามเขาไปที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเตรียมจานช้ามช้อนส้อมแก้วน้ำไว้แล้ว “หนูแบมนั่งคุยกับอาสักพักสิ จะถามเรื่องพิชาหน่อย” “เอ่อ..ค่ะ แต่หนูไม่กินนะคะ พอดีทานมาแล้ว” เขารินน้ำผลไม้ให้เธอแล้วไปนั่งฝั่งตรงข้าม เริ่มต้นถามว่าไปเจอพิชามญช์ที่ไหน ต่อด้วยคุยกันเรื่องคดี เรื่องลูกชายทั้งสองคน ไม่นานนักแบมเริ่มมีอาการง่วงซึมแต่ก็ยังรู้สึกตัวบ้าง เขารีบเข้าไปโอบเธอให้ลุกขึ้นแล้วประคองเดินไปนั่งพักที่โซฟาห้องรับแขก “คุณอา..ทำไม?..” แบมพูดถามได้แค่นั้นเท่าที่สติยังพอมีเหลือก่อนจะเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ชรันจึงปล่อยเธอไว้ก่อนจะเดินไปปิดประตูบ้านล็อกเอาไว้ ปิดไฟและปิดผ้าม่านจนหมด เหลือเพียงความมืดสลัวในบ้านที่กว้างขวางนี้เท่านั้น แบมที่สะลึมสะลือเพราะชรันไม่ได้ใช้ยากับเธอมากนัก ก็เพราะเขายังอยากให้เ
ธีทัตลงจากรถอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของพรรณนาราแล้วดึงแขนเธอให้ออกมาแล้วเปิดประตูด้านหลังดันตัวเธอเข้าไป“พี่ธี..ไม่เอานะ พาหนูกลับบ้าน”“ใจดีให้ก็ดื้อ ปั่นหัวพี่สนุกไหมพู่กัน..”เขาเข้ามานั่งข้างๆจับแขนเธอที่ดันแผ่นอกบังคับให้นอนลงไปที่เบาะหลัง เริ่มต้นซุกไซร้ไปที่กลางลำตัวเธอแล้วเลิกกระโปรงสั้นขึ้นจนเห็นแพนตี้ลูกไม้แนบเนื้อตัวจิ๋ว“พูด..พี่เป็นใครสำหรับพู่”เขาจับคอเธอแม้จะไม่ได้บีบแน่นแต่ก็ทำให้เธอตื่นเต้นหายใจหอบจนตัวโยน ส่วนอีกมือเริ่มซุกซนใช้นิ้วแหวกชั้นในเข้าไปลูบคลึงส่วนสงวนจนเจ้าตัวสั่นสะท้าน“ถ้าหนูไม่พูดล่ะ”“ยั่วให้พี่โมโหเหรอ?”“เปล่า หนูชอบเวลาพี่หึง”“เพราะรักถึงหวง แล้วถ้าชอบให้หึงก็ยอมรับมาว่าเป็นเมียพี่..”“ขนาดนี้แล้วทำไมต้องพูดคะ คำพูดสำคัญกว่าการกระทำรึไง?”“พี่ไม่นอนกับใครถ้าไม่รัก”เขาปลดเข็มขัดและรูดซิปลงด้วยมือเดียว ก่อนจะจับแท่งลำนั้นสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักที่รัดติ้ว โดยที่เธอยังใส่แพนตี้อยู่“อึก..อื้อออ”“ร่างกายหนูบอกว่ารักพี่นะ..สุดๆ..”แรงขมิบเป็นจังหวะถี่ๆส่งสัญญาณแทนคำพูดของหญิงสาวแต่นั่นมันยังไม่พอสำหรับเขา“อาา..แรงอีก..”สองขาที่เกร็งและรัดเอวแน่น ธีทัต
ฟ้าได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามารอที่บ้านภัทราวุธตั้งแต่บ่าย เธอตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับน้องสาวที่รักและเอ็นดู โดยจะได้มีห้องส่วนตัวติดกับห้องของพรรณนารา ส่วนธีทัตได้รับการไหว้วานจากณัฐวีย์ให้ไปรับลูกสาวที่มหาวิทยาลัยแทนคนขับรถเพราะยุ่งกันอยู่ “ช่วงนี้พี่จะได้อยู่กับพู่ทุกวันตอนเย็นเลยล่ะ เพราะคุณพ่อหนูคงต้องเฝ้าภรรยานานเลย” “แล้วแต่เถอะค่ะ” “เอ้า ไม่ดีใจเหรอ?” “แม่ถีบหัวทุกคนให้พ้นทางได้แล้ว หนูคงไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก” “พู่..อย่าพูดแบบนั้นสิ ไม่น่ารักเลย” “หนูเป็นแบบนี้ พี่จะไม่รักก็ได้นะ” พรรณนารากล่าวแบบหยิ่งๆ แต่ธีทัตกลับมองว่านี่คือความดื้อดึงที่เขาชอบ “พ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว คิดในแง่ดีหน่อยสิ” “ตั้งแต่หนูเกิดมา แม่กับหนูก็แข่งกันแย่งความรักจากพ่อมาตลอด แม่ไม่เคยอยากได้ลูกสาว ทำไมไม่ให้หมอเลือกเพศตั้งแต่แรกก็จบ” “ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เปลี่ยนเรื่องเนอะ พี่พาหนูไปกินอะไรอร่อยๆข้างนอกดีกว่าไหม?” เธอส่ายหน้าแล้วว่าจะกินที่บ้าน “หนูนัดกับเพื่อนจะไปเที่ยวกันคืนนี้ แบบ..ชิลๆตามประสาเพื่อนฝูง เดี๋ยวเพื่อนมารับตอนสามทุ่ม” ธีทัตตาเขียวขึ้นมาทันทีตามปร







